Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 709

№ 709 อาจารย์หลูหมดสติ

เช้าตรู่วันต่อมา

“เสี่ยวจิ่ว? เสี่ยวจิ่ว?”

หลังจากได้ยินข่าว กวนสีหลิ่นเข้ามาหาแต่เช้า ยังมีเยี่ยจิงร่วมทางมากับเขาด้วย ทั้งสองบังเอิญพบกันระหว่างทาง

เหล่าไป๋สาวก้าวเดินเข้ามาอย่างสง่างาม คลอเคลียอยู่ข้างกายเยี่ยจิง บอกกับทั้งสองว่า “เมื่อคืนนายท่านนอนดึกมาก วันนี้ไม่ถึงเที่ยงวันคงไม่ตื่น ภายในห้องนางยังกันเสียงไว้ด้วย พวกเจ้าตะโกนอย่างไรนางก็ไม่ได้ยินหรอก”

“พวกเราได้ยินว่าโอวหยางซิวมาท้าประลองกับเฟิ่งจิ่ว? เมื่อวานพวกเจ้าเจอเขาที่ไหน?” กวนสีหลิ่นถามพลางขมวดคิ้วเล็กน้อย

“ระหว่างทางกลับมา นายท่านบอกว่าหากพวกเจ้ามาก็ให้กลับไปไม่ต้องเป็นห่วง นางไม่คิดจะรับคำท้าแต่ไหนแต่ไรแล้ว” เหล่าไป๋สูดหายใจเข้าลึกๆ และดมกลิ่นหอมบนร่างเยี่ยจิง

อืม กลิ่นหอมของหญิงสาว

“โอวหยางซิวเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานขั้นกลาง วรยุทธ์ของเขาในหมู่คนรุ่นเดียวกันถือว่ายอดเยี่ยม นักเรียนหลายคนของสำนักศึกษามีเพียงเนี่ยเถิงที่ข่มเขาได้ หากเฟิ่งจิ่วสู้กับเขา เกรงว่า…” เยี่ยจิงค่อนข้างกังวลใจ คิดว่าเรื่องนี้น่าจะเกิดขึ้นเพราะนาง ในใจจึงไม่สงบสักเท่าไร

กวนสีหลิ่นกลับไม่กังวลว่าเฟิ่งจิ่วจะไม่ใช่คู่มือของโอวหยางซิว เพราะพลังนางเป็นอย่างไรเขาชัดเจนยิ่ง ไม่ต้องพูดถึงนักเรียนของสำนักศึกษานี้ แม้แต่อาจารย์ยังเกรงว่าบางคนจะไม่ใช่คู่ต่อสู้นาง และเพียงคิดว่านางอยู่ที่นี่หากถูกคนอื่นท้าประลองบ่อยครั้งก็ไม่ใช่เรื่องดี การฝึกบำเพ็ญต้องมีอุปสรรคแน่

ถ้าใครๆ ต่างมาท้าประลองก็ได้ประลองกับนาง ไหนเลยนางจะมีเวลามากมายเพียงนั้นไปฝึกบำเพ็ญและไปทำเรื่องของตนเองเล่า?

“พวกเจ้ากลับไปเถอะ! ที่นี่นายท่านไม่เป็นอะไร ไม่ต้องเป็นห่วง” เหล่าไป๋พูดแล้วยังสูดหายใจเข้าลึกๆ ด้วยสีหน้าเคลิบเคลิ้ม

เยี่ยจิงเห็นก็กลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่บ้าง “เหล่าไป๋ เจ้าอย่าหื่นกามเพียงนี้จะได้ไหม?” ยืนสูดกลิ่นข้างกายนางไม่หยุดหย่อน กลิ่นหอมเพียงนั้นเชียวหรือ?

“ไม่ได้หรอก ข้าชื่นชอบสาวงาม โดยเฉพาะสาวงามที่รูปงามใจงาม เยี่ยจิงคนงาม ข้าอยากบอกเจ้ามานานแล้ว เจ้าหอมมากจริงๆ! มีกลิ่นหอมหญิงสาวเต็มไปหมด ไม่ได้ๆ ขาข้าอ่อนแล้ว”

เหล่าไป๋มีสีหน้าเคลิบเคลิ้ม เอ่ยพลางนอนหมอบลงไป แล้วทำท่าทางว่าแข้งขาอ่อนแรง ท่าทางต่ำทรามและสีหน้าบ้ากามนั้นกลับยิ่งเหมือนมนุษย์เป็นที่สุด ทำให้คนอยากจะเกลียดก็เกลียดไม่ลง

กวนสีหลิ่นเห็นก็ถลึงตามองเหล่าไป๋ แสนจะหมดคำพูดเช่นกัน “เหล่าไป๋ นิสัยหื่นกามนี้เจ้าไปเรียนมาจากไหนกันแน่? เสี่ยวจิ่วก็ไม่ได้บ้ากาม! หรือว่าเป็นเจ้านายคนก่อน?”

“นายคนก่อนของข้าโง่ แต่ก็เป็นคนดี มิเช่นนั้นคงไม่ส่งข้าให้เสี่ยวจิ๋วจิ่วหรอก” ปากม้าของมันขยับพูดอย่างคล่องแคล่ว ครั้นเอ่ยว่า ‘เสี่ยวจิ๋วจิ่ว’ ออกมา ดวงตาพลันเปล่งประกาย “อ้า! จากนี้ไปข้าจะเรียกนายท่านว่าเสี่ยวจิ๋วจิ่ว เสี่ยวจิ๋วจิ่ว ไพเราะจริงๆ”

สองคนเห็นดังนั้นต่างส่ายหน้าอย่างจนปัญญาและหมดซึ่งคำพูด ก่อนจะยิ้มมองหน้ากัน

ทว่าภายในสำนักพลังวิญญาณ ยามนี้กลับยุ่งวุ่นวาย ขณะที่อาจารย์แซ่หลูคนนั้นกำลังสอนบทเรียนแก่นักเรียนสำนักพลังวิญญาณ เขาหมดสติล้มลงกับพื้นหลังระเบิดอารมณ์ด่าว่านักเรียนที่เรียนไม่ดีซ้ำยังใจลอย

ยามนักเรียนพวกนั้นส่งอาจารย์ไปห้องแนะแนวด้วยความแตกตื่น อาจารย์หลูคนนั้นร่างกายแข็งทื่อไม่ได้สติโดยสิ้นเชิง หลังจากได้รับข่าว พวกนักปรุงยาจากสำนักยาและหมอของสำนักศึกษาต่างรีบมายังห้องแนะแนว ในห้องจึงแน่นขนัดไปด้วยผู้คน

เจ้าสำนักกับรองเจ้าสำนักก็มายังห้องแนะแนวหลังจากได้ยินข่าว เห็นคนล้อมกันเต็มห้อง รองเจ้าสำนักเอ่ยถามว่า “เกิดอะไรขึ้น? ทำไมอาจารย์หลูอยู่ดีๆ ถึงหมดสติไป?”

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version