Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 824

№ 824 พักห้องเดียวกับเจ้า

“อืม” เขาพยักหน้าพร้อมมองเฟิ่งจิ่ว บนใบหน้าเล็กที่ละเอียดลออปรากฏสีแดงเรื่อน่าสงสัย ดวงตาฉายประกาย ก่อนจะยื่นมือออกมาหาเธอ

เฟิ่งจิ่วเห็นเช่นนี้ก็ยิ้มๆ ก้มตัวลงอุ้มเขาขึ้นมา “ให้เจ้าขี่บนม้าขาวตัวนี้เป็นอย่างไร?” ใครจะรู้ เพิ่งสิ้นเสียงเด็กน้อยที่เธอกอดไว้ในอ้อมแขนกลับโอบคอเธอไว้แน่น

“ไม่ขี่ม้า”

“ก็ได้ ข้าอุ้มเจ้าเดินไปได้สินะ?” เธอคิดว่าเด็กน้อยอายุสามสี่ขวบกลัวม้าขาวตัวใหญ่ที่ท่าทางประหลาดเช่นเหล่าไป๋

เด็กน้อยซบลงบนไหล่ของเธอ สองแขนกอดคอเธอไว้แน่น ภายในดวงตาเป็นประกายคู่นั้นฉายแววแปลกๆ รอยยิ้มคลี่ออกตรงมุมปากโดยที่ไม่มีใครสังเกต

เฟิ่งจิ่วให้เหล่าไป๋กลับไปก่อน ส่วนตนเองโยนขนนกบินออกไป และพาเด็กน้อยไปดูที่ห้องครัวเสียหน่อยว่ามีอะไรกินบ้าง หลังหยิบอาหารมาบางส่วนก็กลับอาศรม มานั่งบริเวณโต๊ะหินใต้ต้นไม้

“เอาละ นั่งลงเถอะ! กินอะไรไปก่อน จากนั้นค่อยมาคุยกับข้าดีๆ” เธออุ้มเด็กน้อยมานั่งบนโต๊ะหิน แล้วหยิบอาหารที่นำมาจากห้องครัวออกจากในห้วงมิติ วางลงบนโต๊ะ จากนั้นนั่งลงมองเด็กน้อยคนนั้น

เด็กน้อยมองเธอ ไม่พูดอะไรแต่กินอาหารก่อน

เฟิ่งจิ่วนั่งเท้าคางมองอยู่ตรงนั้น ยิ่งมองยิ่งรู้สึกว่าลักษณะท่าทางเช่นนั้นถอดแบบมาจากเซวียนหยวนโม่เจ๋อจริงๆ แต่ถ้าบอกว่าเป็นลูกนอกสมรส เธอคิดว่าเป็นไปไม่ได้เท่าไร

ถึงอย่างไรคนสะอาดบริสุทธิ์อย่างท่านอา ตอนเจอกันครั้งแรกโดนเธอจูบโดยไม่ระวังยังเป็นลมไปเลย ที่บอกว่ามีลูกโตถึงเพียงนี้แล้วเธอก็แค่พูดไปเรื่อยเปื่อยเท่านั้น

แต่ถ้าเป็นน้องชาย? เหอะๆ เธอไม่ค่อยเชื่อนัก หากเป็นน้องชายจริง เดาว่าฮุยหลางคงไม่จากไปราวกับวิ่งหนี ชัดเจนว่าเขากลัวเธอซักถามอะไรไม่หยุดหย่อน

“นี่ รูปหล่อตัวน้อย บอกพี่สาวหน่อย เจ้ามีความสัมพันธ์เช่นไรกับท่านอา? บอกพี่สาวซิ แล้วพี่สาวจะพาเจ้าไปซื้อลูกกวาด เป็นอย่างไร?” เฟิ่งจิ่วราวกับหมาป่าตัวโตลักพาตัวแกะน้อย ลองเกลี้ยกล่อมดูว่าเด็กน้อยจะพูดความจริงหรือไม่

ใครจะรู้ เด็กน้อยคนนั้นนิ่งสงบขนาดหนังตายังไม่ขยับ กินอาหารด้วยท่าทางสง่างาม แม้แต่ท่านั่งยังเหยียดตรงสุดๆ ทำให้เธอมองเสียจนอึ้งงัน

แอบคิดว่าสมกับเป็นคนจากแปดจักรวรรดิใหญ่จริงๆ แม้แต่เด็กน้อยอายุสามสี่ขวบยังดูภูมิฐานแล้ว อากัปกิริยาสง่างามเสียจนแม้แต่เธอก็ยังเทียบไม่ติด

ผ่านไปเนิ่นนาน เขาที่กินอาหารหมดวางตะเกียบลง หลังจากเช็ดๆ มุมปากก็มองเฟิ่งจิ่ว “น้ำ”

ได้ยินเช่นนี้ เฟิ่งจิ่วจึงเข้าอาศรมไปรินน้ำออกมาให้เขา เห็นเขาดื่มน้ำเสร็จก็นั่งตัวตรงมองเธอราวกับเด็กที่โตเกินวัย เธอถึงกับไม่รู้จะพูดอะไรดี

ทันใดนั้นก็รู้สึกว่ามีเด็กน้อยเช่นนี้เพิ่มมาข้างกาย เธอจะยุ่งวุ่นมากขึ้น

ครั้นเห็นสายตาเขาหยุดมองอาศรมของเธอ จึงกล่าวว่า “ข้าพาเจ้าเข้าไปดูที่พักข้าหน่อยดีไหม?”

“อืม”

เขาขานรับ ไถลตัวจากม้านั่งแล้วตามเธอเข้าอาศรมไปด้วยกัน จากนั้นมองๆ ภายในอาศรม สุดท้ายก็มายังห้องที่เฟิ่งจิ่วพัก ถึงเห็นว่าพื้นที่ภายในกว้างมาก

“ที่นี่มีข้าแค่คนเดียว เอาเช่นนี้แล้วกัน! เดี๋ยวข้าจะเก็บกวาด แล้วยกห้องหินห้องหนึ่งให้เจ้า”

“ไม่ต้อง ข้าพักห้องเดียวกับเจ้าได้”

น้ำเสียงไร้เดียงสาเอ่ย พร้อมเกร็งๆ ใบหน้าเล็กงดงาม เพียงแต่ใบหูเขากลับแดงก่ำอย่างน่าสงสัย ดวงตาก็ไม่กล้ามองไปทางเฟิ่งจิ่ว แต่จ้องมองห้องปรุงยาแทน

“พักห้องเดียวกับข้า?” เฟิ่งจิ่วตกใจ ชำเลืองมองเด็กน้อยคนนั้นด้วยสีหน้าแปลกๆ

………………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version