Skip to content

เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า 373

№ 373 เบาะแส!

ได้ยินคำพูดเขาทุกคนก็คิดว่าเหล่าไป๋อาจจะรู้อะไรบ้าง ฉีคังหนึ่งในองครักษ์จึงบอกทันทีว่า “คงอยู่ตรงภูเขาจำลอง ข้าน้อยจะลองเข้าไปดูขอรับ” สิ้นเสียงก็หันตัวปรี่ออกไป

“ท่านผู้นำตระกูล สุขภาพท่าน…”

ฟั่นหลินเอ่ยถาม เขารู้เรื่องการแพทย์ ยามนี้เห็นอาการและสภาพจิตใจเขาไม่มีตรงไหนไม่ดีเลยสักนิด งั้นข่าวที่ปล่อยออกไปช่วงนี้คืออะไรกัน? คุณหนูใหญ่คิดจะทำอะไรกันแน่?

“สุขภาพข้าไม่ร้ายแรงนัก เพียงแต่ใช้โอกาสส่งมอบอำนาจไปก็เท่านั้น พวกเจ้ารู้เรื่องแล้วก็ดี อย่าให้ข่าวรั่วไหล” เฟิ่งเซียวสั่งการเสียงเข้ม ให้สัญญาณกวนสีหลิ่นประคองลงจากเตียงมานั่งลงข้างโต๊ะนอกห้อง

พวกเขามองหน้ากัน ก่อนจะตามไปด้วยความสงสัยที่เก็บซ่อนอยู่ในใจ มิน่าตลอดมาคุณหนูใหญ่ถึงไม่ให้ใครเข้าไปในห้องนี้ ที่แท้ผู้นำตระกูลก็ไม่ได้หมดสติไม่ฟื้น ข่าวนี้ปกปิดพวกเขาได้อย่างแนบเนียนหากวันนี้ไม่ตามเข้ามาเพราะกังวลใจเกรงว่าคงยังไม่รู้ว่าสุขภาพผู้นำตระกูลไม่ได้ร้ายแรงอะไร

“เรื่องที่ท่านผู้เฒ่าโดนจับตัวไปก่อนที่เสี่ยวจิ่วจะกลับมาให้ปิดข่าวไว้ แม้แต่ข่าวลือก็แพร่งพรายออกไปไม่ได้” หลังถอนหายใจโล่งอกเฟิ่งเซียวก็สั่งการเสียงเข้ม พลางบอกว่า “นอกจากนี้ ช่วงนี้หากมีคนมาเยี่ยมเยือนก็ปิดประตูไว้ตลอดไม่ขอพบใคร”

“ขอรับ!”

พวกเขาขานรับเสียงเคร่งขรึมและรู้ถึงความร้ายแรงของปัญหา ยามนี้บอกคนนอกว่าเฟิ่งเซียวหมดสติยังไม่ฟื้น หากปล่อยให้ข่าวที่ผู้เฒ่าโดนจับตัวรั่วไหลออกไปนั่นจะกลายเป็นคราวเคราะห์ซ้ำกรรมซัดสำหรับจวนตระกูลเฟิ่งอย่างไม่ต้องสงสัย ตอนนี้ที่กลุ่มอำนาจพวกนั้นและราชสำนักไม่กล้าทำอะไรจวนตระกูลเฟิ่งก็เพราะยำเกรงในพลังของผู้เฒ่ากับองครักษ์ประจำตระกูล หากพวกเขารู้ว่าผู้เฒ่าถูกจับตัวไปไร้ร่องรอยผลที่ตามมาคงเลวร้ายกว่าที่คิด!

ไม่นานนักฉีคังก็กลับมา บอกว่า “เหล่าไป๋หลับสนิทอยู่ตรงภูเขาจำลองขอรับ ข้าน้อยตรวจดูแล้วบนพื้นมีพวกผงแป้งอยู่ เบื้องต้นเดาว่าเมื่อคืนที่คนคนนั้นจับตัวท่านผู้เฒ่าไปเหล่าไป๋คงไปพบเข้าแต่ดันติดกับดัก นอกจากนี้ข้าน้อยยังพบว่าใต้ท้องเหล่าไป๋มีสิ่งนี้อยู่ขอรับ”

เขาหยิบของที่พบตอนขยับร่างเหล่าไป๋มาวางไว้บนโต๊ะ “ท่านผู้นำตระกูลดูสิขอรับ ของสิ่งนี้เป็นของท่านผู้เฒ่าใช่หรือไม่?”

นั่นคือแผ่นหยกขนาดเท่าเล็บนิ้วที่เนื้อดียิ่งนัก ภายในสีเขียวเข้มมีความชุ่มชื้น แม้เป็นเพียงชิ้นเล็กๆ แต่จากความโปร่งแสงที่มากพอนั้นจึงมองออกได้ว่าแผ่นหยกขนาดเท่าเล็บนิ้วชิ้นนี้ต้องไม่ใช่หยกธรรมดาๆ

“นี่ไม่ใช่ของท่านผู้เฒ่า”

หลังจากมองเฟิ่งเซียวก็ส่ายหน้า ครุ่นคิดว่า “หยกชนิดนี้เงางามที่สุดในแคว้นแสงสุริยันเรา คนที่จับตัวท่านผู้เฒ่าไปคงทำตกไว้โดยไม่ระวัง แต่อาศัยแค่แผ่นหยกชิ้นเล็กเท่าเล็บนิ้วเช่นนี้จะตรวจสอบก็เกรงว่าคงทำไม่ได้”

“มีเบาะแสยังดีกว่าไม่มี อย่างน้อยๆ พวกเราก็รู้ได้ว่าท่านผู้เฒ่าถูกจับตัวไปคงจะไม่มีอันตรายถึงชีวิต”

กวนสีหลิ่นเอ่ยปากพูดแล้วหยิบแผ่นหยกชิ้นนั้นขึ้น บอกว่า “แผ่นหยกชิ้นนี้ข้าจะนำไปตลาดมืดให้พวกเขาตรวจสอบเสียหน่อย อาจจะรู้ว่าหยกชนิดนี้ขุดพบได้ที่ไหนบ้าง หากมีเบาะแสเราจะได้ไล่สำรวจหาร่องรอยท่านปู่”

“อืม แผ่นหยกชิ้นนี้เจ้านำไปตลาดมืดแต่นี่เป็นเพียงเบาะแสเดียวของเรา ระวังอย่าทำหล่นหายล่ะ” เฟิ่งเซียวพยักหน้าบอกไป นึกถึงที่กวนสีหลิ่นบอกว่าผู้เฒ่าคงไม่มีอันตรายถึงชีวิตก็สบายใจขึ้นเล็กน้อย

จริงอยู่ ดูจากกำลังอีกฝ่ายที่สามารถแอบเข้าจวนมาอย่างเงียบเชียบไร้เสียงหากจะเอาชีวิตพวกเขาก็ง่ายดายดังพลิกฝ่ามือ แต่เขาแค่จับตัวผู้เฒ่าไปกลับไม่ได้ฆ่าใคร สถานการณ์อาจจะไม่ได้แย่ถึงเพียงนั้นอย่างที่พวกเขาจินตนาการไว้

………………………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!