209. วิธีที่ไม่ต้องทำลายระดับฝึกฝน
มีเพียงหลังจาลบกฎเกณฑ์ดอกบัวในร่างอย่างสมบูรณ์ หวังหลินจึงจะสามารถทำตามแผนเดิมได้ เมื่อหวังหลินเดินออกจากถ้ำ เขาสูดหายใจลึกและดวงตาเต็มไปด้วยแสงเยือกเย็น ร่างจมในผืนดินและจากไปโดยใช้วิชาหลบหนีปฐพีทันที
ไม่กี่วันผ่านไป หวังหลินกลับเข้ามาในถ้ำใต้ดินที่เขาสร้างขึ้นครั้งก่อน ที่นี่เขานั่งสมาธิลงและนำธงกฎเกณฑ์ออกมา ขณะที่ธงกฎเกณฑ์ปรากฎ ตลอดทั้งถ้ำได้ปกคลุมไปด้วยกฎเกณฑ์หลายพัน
หวังหลินสูดหายใจลึกและค่อยๆหลับตา เขาชี้นำพลังปราณที่วุ่นวายในร่างให้เคลื่อนไหวตามเส้นทางในร่างกาย วันเวลาผ่านไป เขาเคลื่อนพลังปราณผ่านร่างกายอย่างช้าๆและผ่านแกนพลังเพื่อซ่อมแซมส่วนที่เสียหาย
แกนพลังค่อยๆฟื้นฟูและระดับฝึกตนจึงกลับมาสู่ขั้นแกนลมปราณระดับปลายสูงสุดอีกครั้ง
ในเวลาเดียวกันหวังหลินรีบตัดพลังปราณออกจากเส้นทางของเขา จากนั้นรวบรวมพลังปราณในร่างกายเพื่อกระแทกโจมตีกฎเกณฑ์ดอกบัว
ตอนที่เขาพยายามบรรลุขั้นวิญญาณแรกกำเนิดและขอบเขตจวี่ได้โจมตีแกนพลัง แรงระเบิดที่เกิดขึ้นในร่างกายทำให้กฎเกณฑ์ดอกบัวคลายออก
ครั้งนี้หวังหลินจงใจโจมตีกฎเกณฑ์ดอกบัวซึ่งมันอ่อนแออย่างมาก
สามวันถัดมา หวังหลินปิดดวงตาลงตลอดเวลาได้ลืมตาขึ้นทันที เขาขยับนิ้วและกดจุดหลายจุดบนหน้าอก ทุกครั้งที่นิ้วสัมผัสกับหน้าอกจะมีระลอกพลังปราณเกิดขึ้นบนนิ้วมือ
ขณะที่ฝ่ามือเริ่มเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว จุดแสงเริ่มปรากฎบนหน้าอกหวังหลิน จุดแสงนี้ออกมาจากภายในร่างกาย
ไม่นานนักจุดทั้งหมดได้เพิ่มขึ้นและสร้างเป็นรูปดอกบัว หวังหลินคำราม วางฝ่ามือทั้งสองข้างบนหน้าอกและผลักมันออกมา
จุดแสงพวกนี้เคลื่อนออกจากร่างกายอย่างช้าๆ ลำแสงพัวพันเป็นรูปร่างดอกบัวสีขาวและดูราวกับค่อยๆออกมาจากร่าง
เมื่อลำแสงลอยออกจากร่างได้สามนิ้ว มันยังมีเสี้ยวลำแสงที่ออกมาจากดอกบัวไปเชื่อมต่อกับร่างกาย
เม็ดเหงื่อก้อนโตปรากฎบนหน้าผากหวังหลิน ตลอดทั้งร่างชุ่มไปด้วยเหงื่อแต่การดึงกฎเกณฑ์ดอกบัวออกมาถือว่าทำได้สำเร็จ หวังหลินกัดฟันแน่นและดันฝ่ามือออกทันที
ทันใดนั้นการเชื่อมต่อจากดอกบัวกับหวังหลินได้ถูกผลักมาเบื้องหน้า
ดวงตาหวังหลินสว่างขึ้น เขาตบกระเป๋าอย่างรวดเร็วและอสูรตัวเล็กลอยออกมา มันชนเข้ากับกฎเกณฑ์ดอกบัว
หลังจากนั้นไม่นานกฎเกณฑ์ดอกบัวกลายเป็นเหมือนกับปิศาจบ้าคลั่งและล้อมรอบอสูรตัวเล็กอย่างรวดเร็ว เพียงกระพริบไม่กี่ครั้ง กฎเกณฑ์จมเข้าไปในอสูรตัวเล็กอย่างรวดเร็วและหายไป
จนเมื่อหวังหลินหายใจออก แสงเย็นมีเต็มแววตาและเขาวางแขนบนหัวอสูรตัวเล็ก มันระเบิดเสียงดังสนั่นและบินออกไปนอกถ้ำอย่างรวดเร็ว
กฎเกณฑ์รอบถ้ำเปิดขึ้นด้วยข้อความจากอสูรในขณะที่มันเข้าใกล้ แม้กระทั่งดินในผืนดินก็เปิดออกภายใต้การควบคุมของหวังหลิน
อสูรจากไปโดยไม่มีปัญหาใดและเหาะเหินออกไปห่างเมื่อมันอยู่เหนือพื้น
หวังหลินเยาะเย้ย เขาไม่รู้เรื่องชายชราคนนั้นแต่คิดว่ามันไม่เป็นเรื่องดีแน่ ตอนนี้กฎเกณฑ์ดอกบัวได้ยกออกไปและวางไปบนอสูรตัวนั้น หากชายชราต้องการค้นหาเขาก็จะพบกับอสูรตัวน้อยตนนั้น
แต่หวังหลินรู้ได้ว่านี่เป็นเพียงกลหลอกเด็กง่ายๆที่ทำให้ซื้อเวลาเขาได้เล็กน้อยเท่านั้น ไม่สามารถหลอกชายชราไว้ได้นาน แต่สิ่งที่หวังหลินต้องการที่สุดก็คือเวลา
เขาสูดหายใจลึกจากนั้นเคลื่อนร่างออกจากถ้ำอย่างรวดเร็ว ขณะที่ออกไปเขาเก็บธงวิญญาณกลับไปด้วย
หวังหลินรู้ได้ว่าเขาไม่สามารถพักอยู่ในทะเลปิศาจได้นานนักไม่เช่นนั้นจะเกิดปัญหามาก หากทุกสิ่งเป็นไปตามแผน เมื่อเขาบรรลุขั้นวิญญาณแรกกำเนิดนอกจากเซียนขั้นตัดวิญญาณไม่กี่คน จะไม่มีใครต่อต้านเขาได้
เพียงแค่มีปัญหากับการบรรลุขั้นวิญญาณแรกกำเนิด ดังนั้นแผนของเขาจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเล็กน้อย
หลังจากหวังหลินออกจากถ้ำ ความเร็วได้เพิ่มถึงขีดสุดและร่างกายเคลื่อนไหวราวกับอุกกาบาตไปสู่พื้นที่ห่างไกล
เช้าวันต่อมา หวังหลินกลับมาที่ถ้ำเซียนโบราณที่ที่เขาได้รับวิญญาณเซียนพร้อมกับฉิวซื่อผิง หลังมาถึงเขาตรวจสอบพื้นที่ด้วยสัมผัสวิญญาณ หลังแน่ใจว่าไม่มีใครรอบๆจึงตบกระเป๋าและกระบี่พิษลอยออกมา ด้วยการชี้นิ้วหนึ่งจุด กระบี่สร้างเป็นน้ำวนและพุ่งเข้าหาเศษหิน
ไม่นานนักอุโมงค์หนึ่งถูกกระบี่สร้างขึ้น หลังมองเข้าไปหวังหลินคิดขึ้น “ลาก่อน ทะเลปิศาจ!”
เขาหันหน้าและเข้าไปในอุโมงค์
ภายในนั้นเขาพบห้องที่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายโบราณ หวังหลินไม่ได้เข้าไปในห้องแต่หันตัวและสะบัดแขนทำให้อุโมงค์ล่มสลายพร้อมกับผนึกทางเข้า
หลังจากนั้นไม่นานจึงขยับแขนสร้างกฎเกณฑ์ปกคลุมถ้ำอย่างสมบูรณ์ หลังจากนั้นเดินเข้าสู่ห้องหิน
ห้องหินได้พังทลายเล็กน้อยแต่ขณะที่หวังหลินและฉิวซื่อผิงกำลังหลบหนี เขาได้ให้ความสนใจพิเศษกับห้องนี้และลอบวางกฎเกณฑ์หนึ่งเพื่อปกป้องมัน
ดังนั้นแม้ว่าห้องนี้จะพังทลายเล็กน้อย มันไม่ได้ทำให้ค่ายกลเคลื่อนย้ายได้รับความเสียหาย หลังนำก้อนหินออกจากห้องอย่างระมัดระวัง หวังหลินเรียนรู้ค่ายกลเคลื่อนย้ายอย่างละเอียดจากนั้นนำหินวิญญาณที่กำลังเรืองแสงออกมา หินวิญญาณนี้เป็นผลึกใสและดูราวกับมีก้อนเมฆลอยู่ภายใน
ก้อนหินนี้เป็นหินวิญญาณคุณภาพสูงที่หายากมากและเป็นสิ่งจำเป็นเพื่อให้เปิดค่ายกลเคลื่อนย้าย
หลังจากลังเลไปชั่วครู่ ดวงตาหวังหลินเผยความมั่นใจ เขาวางหินวิญญาณระดับสูงเข้าไปในหนึ่งรูในค่ายกลเคลื่อนย้ายและมองมันด้วยดวงตาเป็นประกาย
หินวิญญาณระดับสูงเริ่มส่องแสงและก้อนเมฆข้างในเริ่มเคลื่อนไหว หลังจากนั้นไม่นานเส้นสีม่วงเริ่มกระจายออกจากหินวิญญาณและครอบคลุมทั้งค่ายกลเคลื่อนย้าย จากนั้นเสียงฟ้าฝ่าเริ่มเปล่งออกมาจากค่ายกล
หลังจากนั้นไม่นานวงกลมแสงปรากฎจากค่ายกลและขึ้นไปบนอากาศ มีวงกลมมากกว่าสิบวงที่ลอยขึ้นไปหาวงกลมแรกและซ้อนทับกันทีละชั้น ทันใดนั้นวงกลมเริ่มหมุนอย่างรวดเร็ว หวังหลินซึ่งอยู่ในวงกลมเริ่มเบลอจากนั้นหายวับไป
หลังจากหวังหลินหายไป แสงวงกลมหยุดลงและกลับเข้าสู่ค่ายกลเคลื่อนย้ายและกลับไปสู่ที่ที่มันอยู่
ในภูเขาอันห่างไกลไร้ที่สิ้นสุด ห่างจากทะเลปิศาจไปหลายล้านลี้ ลำแสงสูงสิบฟุตตกลงมาจากท้องฟ้าและส่งเป็นคลื่นกระแทกรอบด้าน
ภายในภูเขาเป็นหุบเขาลึกและในหุบเขาเป็นหมู่บ้านขนาดเล็กที่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายที่ดูเก่าแก่
เมฆฝุ่นกวนปกคลุมหมู่บ้าน หลังฝุ่นสงบ เงาร่างหนึ่งเดินออกมาจากค่ายกลเคลื่อนย้าย
คนผู้นี้มีเส้นผมสีขาวและปกคลุมไปด้วยฝุ่นทั้งตัว มันคือหวังหลิน
หวังหลินไอออกมาหลายครั้ง เขาสร้างผนึกในฝ่ามือและสร้างสายลมขึ้นเพื่อให้มองเห็นพื้นที่ให้ชัดเจน
ฝุ่นผงบนร่างกายถูกพัดพาออกไปเช่นกัน
หวังหลินเงยศีรษะขึ้นและมองรอบๆ แสงแดดสดใสตกลงมาจากท้องฟ้าสู่ดวงตาหวังหลินทำให้เขากระพริบตาหลายครั้ง
ขณะที่หวังหลินรู้สถาพรอบด้าน เขารู้ตัวว่าไม่ได้อยู่ในทะเลปิศาจอีกแล้ว ภูเขาที่ปกคลุมด้วยสีเขียวและมีอสูรที่เขาไม่รู้จักกำลังลอยเหนือท้องฟ้า
หวังหลินตาหยี นานแล้วที่เขาไม่ได้เจอแสงแดดจ้าแบบนี้ ทะเลปิศาจไม่มีแสงแดดตลอดทั้งปีและแม้กระทั่งในเดือนก่อน ท้องฟ้าเกือบทั้งหมดปกคลุมไปด้วยเมฆดำที่ปล่อยฝนสีดำลงมา
เขาสูดหายใจลึกจากนั้นหันหน้าเข้าหาค่ายกลเคลื่อนย้ายและนำกระบี่พิษออกมา หวังหลินตัดเศษค่ายกลเคลื่อนย้ายเป็นหลายส่วนและวางมันใส่กระเป๋า จึงค่อยรู้สึกผ่อนคลาย
ตอนนี้แม้ตาเฒ่าบ้าพบร่องรอยหวังหลิน เขาจะไม่สามารถใช้ค่ายกลเคลื่อนย้ายเพื่อไล่ล่าเขาได้และตอนนี้กฎเกณฑ์โบราณก็ถูกลบไปแล้ว รับประกันความปลอดภัยของหวังหลิน
หวังหลินกระโดขึ้นไปในอากาศ เขารับรู้ได้ว่าพลังปราณในสถานที่แห่งนี้หนาแน่นมากและกระทั่งสูงขึ้นเมื่อลอยขึ้นไปบนอากาศ
หวังหลินลอยในอากาศและสรางกฎเกณฑ์หนึ่งวางในหุบเขาลึกเพื่อทำเครื่องหมายไว้จากนั้นจากไปโดยไม่หันกลับมามอง
ขณะที่หวังหลินเหาะเหิน เขาส่งสัมผัสวิญญาณออกมาเพื่อตรวจสอบพื้นที่และค่อยๆเพิ่มระยะการค้นหาอย่างช้าๆ เขาไม่รู้ว่าสถานที่แห่งนี้คือที่ไหนและสิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือการหาตำแหน่งของตัวเอง
หากยอมรับเงื่อนไขได้ หวังหลินจะเริ่มตามแผนเพื่อทะลวงระดับสู่ขั้นวิญญาณแรกกำเนิด
แผนนี้ใช้เวลามาก เขาต้องเตรียมการหลายอย่างเพื่อให้มั่นใจว่าแผนนี้จะบรรลุผลโดยไม่มีปัญหา
ทำลายระดับฝึกตนนั่นหมายถึงเขาต้องเริ่มทั้งหมดอีกครั้งซึ่งเป็นสิ่งที่เขาปฏิเสธ การไม่ทำลายระดับฝึกฝนของตัวเองหมายถึงเขาจะติดอยู่ขั้นแกนลมปราณระดับปลายไปตลอดและไม่สามารถแก้แค้นได้
การไม่ทำลายระดับฝึกฝนและทะลวงผ่านขั้นวิญญาณแรกกำเนิดคือเป้าหมายของเขา ด้วยสองเป้าหมายในใจนั้นมีเพียงวิธีเดียวที่เหลืออยู่ซึ่งอาจจะเกือบใช้การไม่ได้