Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 719

Cover Renegade Immortal 1

719. การดูดซับของลูกปัดและสมบัติของกรีด

ร่างเปลือยเปล่าฉีกเปิดช่องว่างขึ้นจากข้างในรังไหมและเดินออกมาอย่างช้าๆ สายฟ้าจำนวนมากรั่วไหลออกมาจากช่องว่างนั้น สายฟ้านี้ไม่ได้ออกมาจากรังไหมแต่ออกมาจากร่างกาย

เขาคือหวังหลิน!

หวังหลินสูดหายใจลึกมองลงไปบนร่างตัวเองและเผยใบหน้าประหลาดใจ

เขาใช้เวลาหกสิบปีดูดซับสายฟ้าและพลังชีวิตจำนวนมากเพื่อสร้างร่างกายนี้ สร้างนี้จึงบรรจุพลังอำนาจของสายฟ้าและสร้างการเชื่อมต่อกับสายฟ้าในวิญญาณดั้งเดิมของเขา

เพียงแค่คิด วิญญาณดั้งเดิมหวังหลินก็ออกมาจากร่างกาย หลังจากมองไปรอบๆเล็กน้อยเขาก็กลับเข้าสู่ร่างตนเอง

เสียงหัวเราะดังยาวออกมาจากปากหวังหลิน เสียงนี้ราวกับสายฟ้าคำรามกึกก้อง!

เสียงสายฟ้าดังกึกก้องไปทั่วทั้งดาว ราวกับเป็นเสียงร้องท้าทายสวรรค์

“ข้าได้รับชีวิตใหม่ ข้าไม่ควรเสียมันไปอย่างไร้ค่า!” หวังหลินสะบัดแขน กระเป๋าโผล่ออกมาจากวิญญาณดั้งเดิม จากนั้นชุดคลุมสีขาวก็สวมทับบนร่างกาย

หวังหลินร่อนลงบนพื้นและนั่งสมาธิลง สายตาตกลงไปบนภูเขาที่หน้าตาดูเหมือนมังกรหมอบ…

สายตาหวังหลินส่องประกายและตบกระเป๋า ธงวิญญาณพันล้านดวงปรากฏในฝ่ามือ เขาสะบัดมันและวิญญาณนับไม่ถ้วนลอยออกมา หากสายฟ้ารอบดวงดาวยังคงอยู่ วิญญาณพวกนี้คงไม่สามารถทนอยู่ที่นี่ได้เลย

วิญญาณจำนวนมากรวบรวมเข้าด้วยกันจนก่อเกิดเป็นวิญญาณหลักสามดวงและลาดตระเวณทั่วพื้นที่

หลังจัดตั้งการป้องกันแล้ว หวังหลินกระจายสัมผัสวิญญาณออกมาและตรวจสอบพื้นที่อย่างละเอียด เมื่อมั่นใจแล้วว่าปลอดภัยหวังหลินสูดหายใจลึก ประทับแขนขวาลงระหว่างคิ้ว พลันเกิดระลอกคลื่นบนหน้าผากและลูกปัดผลึกค่อยๆก่อเกิดขึ้นมา

ดวงตาหวังหลินเรืองแสงดัจเปลวไฟพร้อมกับฝ่ามือสร้างผนึกและชี้ไปที่ลูกปัด ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าลอยออกมาร่อนลงบนกระดูกของอสรพิษพิฆาตจันทร์ที่ดูเหมือนภูเขา

เมื่อเทียบกับภูเขาลูกนี้แล้ว ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้านับว่าเล็กน้อยไปเลย

สีหน้าหวังหลินเคร่งเครียดอย่างมาก ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าชิ้นนี้เป็นสมบัติหมายเลขหนึ่งของเขาและมันมาจากดาราจักรทุกชั้นฟ้า สัมผัสวิญญาณแพร่กระจายออกมาและหากมีสัญญาณปัญหาเกิดขึ้นหวังหลินพร้อมจะใช้มาตรการที่จำเป็นทันที

นี่คือเหตุผลว่าทำไมเขาต้องรอจนกระทั่งสร้างร่างกายขึ้นมาก่อนจะนำลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าออกมา เมื่อไม่มีร่างกาย หวังหลินไม่อาจใช้พลังได้เต็มที่ หากเขานำลูกปัดออกมาตรงๆ มันคงอันตรายเกินไปและโง่เง่าอย่างยิ่ง

ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเรืองแสงสีทอง กระดูกอสรพิษสั่นเทาเล็กน้อย โลหิตข้างในเปลี่ยนกลายเป็นเส้นด้ายสีทองพร้อมกับถูกลูกปัดดูดซับอย่างช้าๆ

กระบวนการเป็นไปอย่างเชื่องช้ายิ่งและหวังหลินไม่รู้เหตุผล เทียบกับตอนดูดซับธาตุวารีแล้ว ยิ่งลูกปัดนี้ใกล้จะสมบูรณ์เมื่อไหร่ก็ยิ่งดูดซับได้ช้ามากเท่านั้น

สัมผัสวิญญาณของหวังหลินตรวจตราทั่วบริเวณตลอดเวลา เขาถึงกับส่งวิญญาณดวงที่สี่ออกไปซ่อนตัวดาวเคราะห์ใกล้ๆ

หวังหลินใช้วิญญาณดวงที่สี่เป็นสื่อกลางเพื่อกระจายสัมผัสวิญญาณของเขาให้ออกไปไกลมากขึ้น

การดูดซับของลูกปัดถือได้ว่าช้ามาก อีกทั้งกระดูกอสรพิษนี้ก็ยังใหญ่เกินไป หลังผ่านไปไม่กี่วัน หวังหลินแบ่งสัมผัสวิญญาณของตัวเองออกมาหนึ่งส่วนและนำสมบัติสองสามชิ้นออกมาด้วย

สมบัติทั้งหมดนี้เป็นของกรีด ซึ่งหวังหลินเก็บเกี่ยวมาเมื่อหกสิบปีก่อน

สมบัติแรกคือภูเขายักษ์ แม้ว่ามันจะได้รับความเสียหายแต่ปราณสวรรค์ที่ออกมาจากมันนับว่ามหาศาลยิ่ง สิ่งที่ดีกว่าก็คือสัมผัสวิญญาณของกรีดซึ่งประทับไว้ได้หายไปแล้ว

ซึ่งเป็นหนึ่งในเหตุผลที่ยั่วยวนหวังหลินให้ขโมยมา

การที่สัมผัสวิญญาณของกรีดหายไปไม่ได้หมายว่าเขาตายไปแล้ว แต่มันเพราะถูกกระดูกอสรพิษดูดซึมไปร้อยปี

หวังหลินวางภูเขาบนมือขวาและนึกถึงตอนที่กรีดแยกวิญญาณภูเขาออกมา ดวงตาหวังหลินสงบนิ่งลูบภูเขาอย่างช้าๆ

หวังหลินรู้สึกประทับใจในการแยกวิญญาณของสิ่งต่างๆเช่นดวงดาว ภูเขาและแม่น้ำ มันเป็นสิ่งที่มีเพียงเซียนระดับสองเท่านั้นที่สามารถทำได้ แต่หวังหลินรับรู้ประสบการณ์เป็นการส่วนตัวตอนที่เจ้าเศษมารควบคุมร่างกายเขา

ขณะที่มือลูบภูเขาอยู่นั้น หวังหลินพลันหยุดชะงัก ดวงตาเผยประกายแสงประหลาดใจ ยกมือขึ้นช้าๆจากนั้นกลิ่นอายโบราณพร้อมกับพลังปราณสวรรค์มหาศาลก็พุ่งออกมาจากก้อนหิน หมอกทรงกลมมายาเกิดขึ้นมาระหว่างมือและภูเขา

หวังหลินยกแขนขวาช้าๆ การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างเบาๆ สายตาเป็นประกายสายฟ้าจ้องมองหมอกทรงกลมเล็กๆในมือ

ทรงกลมนี้ปลดปล่อยกลิ่นอายทรงพลัง สิ่งที่ทำให้หวังหลินตกใจที่สุดก็คือพลังปราณสวรรค์นั้นอยู่ภายในลูกบอลอย่างสมบูรณ์แบบราวกับว่าเป็นเทพที่กำลังใช้วิชานี้

“แม้ว่าวิญญาณของภูเขาลูกนี้จะอ่อนแอกว่าตอนที่กรีดใช้งาน มันก็ยังทรงพลังยิ่ง! ทว่าวิญญาณภูเขาไม่เสถียรเกินไป หากข้าไม่ระมัดระวัง ไม่เพียงแต่มันไม่ทำร้ายศัตรู มันอาจจะทำร้ายข้าแทน” แววตาหวังหลินส่องประกาย

เขารู้เหตุผลว่าทำไมภูเขาถึงไม่สมบูรณ์ซึ่งก็เนื่องมาจากวิญญาณของมันได้รับความเสียหาย

ทั้งยังไม่มีอุปสรรคตอนที่เขาพยายามแยกวิญญาณภูเขาออกมาด้วย หากหวังหลินสามารถแยกมันออกมาเพียงแค่คิด นี่คงทำให้หวังหลินตกใจจริงๆ ดวงตาเขาเปล่งประกายพร้อมกับฝ่ามือขวาประทับลงบนภูเขาอย่างช้าๆ วิญญาณของมันกลับเข้าไปที่เดิม

จากนั้นฝ่ามือขวาหวังหลินประทับลงบนพื้นดิน เพียงแค่คิดเขาก็ยกมือขึ้นและทั้งโลกดูเหมือนสั่นสะท้าน ทว่านี่เป็นเพียงแค่ความรู้สึกจากสัมผัสวิญญาณเท่านั้น ความเป็นจริงพื้นดินไม่ได้ขยับเลยสักนิ้ว!

ขณะที่กลิ่นอายโบราณปรากฏขึ้นมามันก็หายไปในทันที ราวกับเป็นเพียงแค่โยนถังน้ำลงไปในบ่อและดึงถังขึ้นมาพร้อมกับน้ำเต็มถัง อย่างไรก็ตามระหว่างทางขึ้น ก้นถังได้พังทลายไปและน้ำทั้งหมดกลับลงสู่บ่อ

คนที่ดึงถังน้ำรู้สึกถึงแรงตามธรรมชาติ หากระมัดระวังน้อยไปกว่านี้อีกสักนิดคงโดนทำร้ายเสียเอง

หวังหลินรู้สึกเช่นนี้ตอนที่ล้มเหลวในการแยกวิญญาณดาวเคราะห์ ตอนที่กลิ่นอายโบราณหายไป เขารู้สึกว่ามีพลังแข็งแกร่งเข้าปะทะกับร่าง เสียงปุบปับดังออกมาจากร่างกายและใบหน้าเปลี่ยนเป็นสีขาว ใช้เวลาสักพักกว่าจะฟื้นฟูขึ้นมาได้

เมื่อมองภูเขาเบื้องหน้า หวังหลินสูดหายใจลึก สิ่งที่ทำให้ภูเขาลูกนี้มีคุณค่าก็คือมันทำให้เขาได้รับประสบการณ์วิชาแยกวิญญาณที่มีเพียงเซียนระดับสองเท่านั้นที่สามารถใช้ได้

“ของชิ้นนี้มีประโยชน์ต่อข้าอย่างมาก ข้าไม่รู้ว่ากรีดไปเจอมันและหลอมมันได้อย่างไร!” แม้ว่ากรีดจะเป็นศัตรูของหวังหลิน หลังจากเห็นวิชานี้แล้วเขากลับชื่นชมกรีด

“มังกรสายฟ้าโบราณ ภูเขาเทพ เตาหลอมเทพโบราณ ม่านพลังขุนเขาและสายน้ำ และมงกุฎประหลาด ทั้งยังมีสมบัติไม่รู้จักอีกในกระเป๋าของกรีด เขาเป็นคนที่สวรรค์อวยพรจริงๆ!” หวังหลินถอนหายใจ สมบัติสักชิ้นในนี้ต่างก็ทำให้คนข้างนอกบ้าคลั่ง ทว่าสิ่งที่ทำให้หวังหลินประหลาดใจก็คือไม่มีใครขโมยสมบัติพวกนั้นมาจากกรีด

เขางงงันเรื่องนี้อย่างสิ้นเชิงจริงๆ

หวังหลินมองภูเขาเทพ ดวงตาแฝงประกายความตื่นเต้น

“การซ่อมแซมมันยังเป็นไปได้อยู่แต่ยังจำเป็นต้องใช้พลังดั้งเดิม…” หวังหลินเก็บกลับไปจากนั้นนำของชิ้นอื่นออกมา

มันคือม่านพลังขุนเขาและสายน้ำ!

หวังหลินไม่เคยได้ยินภาพวาดขุนเขาและสายน้ำมาก่อน ทว่าบางคนในโลกแห่งเซียนต่างรู้จักภาพวาดขุนเขาและสายน้ำเป็นอย่างดี

ท่ามกลางสมบัติเทพระดับสูงสิบชิ้นของดินแดนสวรรค์ ภาพวาดขุนเขาและแม่น้ำติดดันอับห้า!

มีข่าวลือว่าภาพวาดขุนเขาและแม่น้ำมิอาจคาดเดาได้ อย่างไรสิ่งที่ทำให้มันทรงพลังไม่ใช่วิชาขุนเขาและแม่น้ำบนผิวหน้าแต่เป็นน้ำหมึกที่ใช้วาด!

แม้ว่าน้ำหมึกนี้จะดูเหมือนสีดำ แต่มันเป็นดำแดงที่ถูกวาดขึ้นด้วยโลหิต โลหิตนี้คือพลังที่แท้จริงบนรูปวาดขุนเขาและแม่น้ำ

ข่าวลือว่ากันว่าโลหิตที่ใช้วาดขุนเขาและแม่น้ำคือโลหิตของเต๋าแห่งสวรรค์ ถึงกระนั้นเต๋าสวรรค์ไม่มีร่างกาย ดังนั้นจะมีโลหิตได้อย่างไร? นี่ช่างเป็นเรื่องลึกลับชั่วนิรันดร์

ดังนั้นของชิ้นนี้จึงมีอีกชื่อว่าภาพวาดเต๋าสวรรค์!

ที่กรีดได้มาไม่ใช่ภาพวาดขุนเขาและสายน้ำของจริงแต่เป็นสำเนาคัดลอก

ส่วนวิชาใดที่สามารถประทับวาดภาพขุนเขาและแม่น้ำลงบนม่านพลังนี้ได้ กรีดได้คั้นสมองและค้นหาบันทึกโบราณไว้หลายอย่างแต่ก็ยังไม่อาจหาได้ว่ามันคือวิชาใด

สายตาหวังหลินตกลงบนม่านพลัง ม่านพลังนี้ดูเรียบง่ายมาก ไม่มีสิ่งใดมากมาย มันคล้ายคลึงกับการเห็นบ้านหลังใหญ่หลายหลังของคนที่ไม่ได้ร่ำรวยอะไรนัก

ภาพวาดขุนเขาและแม่น้ำดูเหมือนจะพร่าเลือนเล็กน้อย แต่หากมองเป็นเวลานานก็ดูจะชัดเจนขึ้น

อย่างไรเสีย ตอนนี้มีรอยแตกร้าวหนึ่งพาดผ่านจากทางซ้ายราวกับแบ่งขุนเขาและแม่น้ำออกจากกัน ดูเหมือนมันไม่เสมอกัน

สัมผัสวิญญาณที่ประทับบนสมบัติชิ้นนี้ได้แตกสลายไปนานแล้วภายใต้พลังดัชนีเทพโบราณ หวังหลินโบกแขนขวาและประทับสัมผัสวิญญาณของตัวเองเอาไว้ เขาขบคิดเล็กน้อยจากนั้นอ้าปากและสูดม่านพลังเข้าไปในวิญญาณดั้งเดิม

หวังหลินเริ่มปรับแต่งของชิ้นนี้ด้วยสายฟ้าจากวิญญาณดั้งเดิม

สมบัติวิเศษชิ้นสุดท้ายคือมงกุฎ หวังหลินเห็นกับตาตัวเองว่าภายใต้พลังอำนาจของดัชนีเทพโบราณ ไม่มีรอยร้าวใดเกิดขึ้นบนมงกุฎเลย!

หวังหลินถือไว้ในมือซ้าย ตรวจสอบด้วยสัมผัสวิญญาณและไม่พบอะไรผิดปกติ มันเป็นเพียงแค่มงกุฎของกษัตริย์ธรรมดา ไม่มีอะไรพิเศษไปกว่านั้น

ทว่าลูกปัดทั้งห้าที่อยู่บนมงกุฎได้จับความสนใจหวัวหลิน หวังหลินสามารถบอกได้ทันทีว่าลูกปัดทั้งห้านี้บรรจุพลังของทั้งห้าธาตุเอาไว้!

ธาตุทั้งห้าคล้ายกับวิญญาณธาตุของผีเสื้อสีชาด เพียงแค่มีวิญญาณเพิ่มมาด้วย ขณะที่หวังหลินจ้องมองมงกุฎ พลันขบคิดเล็กน้อยก่อนจะวางไว้บนศีรษะเหมือนที่กรีดทำ

ณ ขณะนั้นพลังลึกลับปรากฏขึ้นมาจากศีรษะหวังหลินทันที มันเคลื่อนผ่านร่างกายหวังหลิน แล้วกลับไปที่มงกุฎและไม่เกิดอะไรขึ้น

แววตาหวังหลินเผยสีสันประหลาดใจ เขาถอดมงกุฎออกมาและตรวจสอบมันอย่างละเอียดครั้ง

“พลังนั้นไม่ได้รุนแรงมาก ตอนที่มันเคลื่อนผ่านร่างกาย ข้ารู้สึกว่ามันกำลังมองหาอะไรบางอย่าง เมื่อมันไม่สามารถหาสิ่งที่มันต้องการ สุดท้ายก็กลับเข้าไปในมงกุฎ…มันกำลังมองหาอะไร?”

“ลูกปัดเบญจธาตุ…กำลังค้นหา…” หวังหลินตกตลึง ดวงตากระพริบและเอ่ยขึ้น “ร่างเทียมห้าธาตุ…ผีเสื้อสีชาด…”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!