Skip to content

King of Gods 426

King Of Gods

บทที่ 426 : เนตรมารทมิฬ

หุบเขาลึกลับ ในป่า

สิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ท่าทียิ่งใหญ่สง่างาม ลอยอยู่ท่ามกลางกลิ่นอายแข็งแกร่งหลากหลาย เผยให้เห็นสีสันที่แตกต่าง ดูโดดเด่นออกมา

ในยามนี้

จำนวนอัจฉริยะของสามสำนักได้มีมากกว่าหนึ่งร้อยคน ยืนเรียงกันดูทรงพลังอย่างยากที่จะเทียบเคียง

“มนุษย์ ดูเหมือนว่าเงื่อนไขของเจ้าอีกครึ่งหนึ่งจะยากที่จะทำให้สำเร็จได้ หายนะครั้งนี้ข้าคงยากที่จะหลบเลี่ยงไปได้อีก”

น้ำเสียงเก่าแก่ของหอคอยพฤกษาปีศาจเต็มไปด้วยความหดหู่ ดังก้องไปมาในใบหูของจ้าวเฟิง

หากอยู่ในสถานการณ์ปกติ แม้ว่าจะมีผู้ฝึกตนขั้นนายเหนือแท้มากกว่านี้สองเท่า หอคอยพฤกษาปีศาจก็ไม่ใส่ใจ

ทว่ามันได้ถูกพลังที่น่าพรั่นพรึงของ ‘พลังเซียน’ เปิดช่องว่างขึ้นแล้ว

ในบริเวณช่องว่างนั้นไร้ซึ่งการป้องกัน เผยให้เห็นส่วนลำต้นและรอยแตกบนเนื้อไม้ที่ยังฟื้นฟูไม่สมบูรณ์อย่างชัดเจน

หรืออีกนัยหนึ่ง

อัจฉริยะจากสามสำนักสามารถเข้าถึงตัวของปีศาจต้นไม้และเริ่มโจมตีได้โดยตรง

แม้ว่าพลังป้องกันของลำต้นจะแข็งแกร่งที่สุดในทุกส่วนของมัน ทว่ามันก็ไม่อาจทนทานการรุมโจมตีของคนจำนวนมากได้

ในบริเวณที่เป็นช่องว่างนี้ หอคอยพฤกษาปีศาจทำได้เพียงตั้งรับการป้องกัน ไม่อาจตอบโต้ได้ แม้ว่าจะเป็นผู้ฝึกตนในขอบเขตแก่นก่อกำเนิดก็ไม่อาจต้านทาน

บริเวณที่จ้าวเฟิงยืนอยู่เต็มไปด้วยใบไม้มากมาย เด็กหนุ่มเอ่ยขึ้นอย่างไร้อารมณ์”เทียบกับที่คาดการณ์ไว้ยังแย่กว่ามากจริงๆ”

เมื่อเทียบกับสิ่งที่เอ่ยออกมา จ้าวเฟิงกลับดูเยือกเย็นกว่า

“มนุษย์ เจ้าหมายความว่าอันใด? ข้าต้องทำอันใด?”

บางทีอาจเป็นเพราะท่าทีสงบเยือกเย็นของจ้าวเฟิงทำให้หอคอยพฤกษาปีศาจดูมีความหวังขึ้น

แม้ว่าตัวมันจะแข็งแกร่งกว่า ทว่ามันกลับสามารถทำได้เพียงตั้งรับการโจมตี ไม่อาจเคลื่อนไหวจู่โจมได้

จากนั้น

แสงแห่งความหวังเพียงหนึ่งเดียวจึงตกลงที่ร่างของจ้าวเฟิง

“พวกเขาโจมตีแล้ว”

จ้าวเฟิงไม่ได้ต้องการอธิบายให้มากความ

เด็กหนุ่มเปิดดวงตาเทพเจ้า สังเกตสถานการณ์ของสิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้

ด้วยดวงตาเทพเจ้า จ้าวเฟิงรับรู้ถึงความแข็งแกร่งพลังฝึกตน วิชาที่ใช้ และอาการบาดเจ็บได้อย่างชัดเจน เพียงแค่กวาดตาก็มองออกทั้งหมด

“อัจฉริยะขั้นนายเหนือแท้สิบคน อยู่ในขั้นนายเหนือแท้ระดับสูงสามคน ขั้นนายเหนือแท้ระดับต่ำสี่คน ขั้นนายเหนือแท้ระดับแรกเริ่มสามคน”

จ้าวเฟิงเอ่ยพึมพำ

ความจริงแล้ว

ในสิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือขั้นแท้ ผู้ฝึกตนนายเหนือแท้ระดับสูงที่จ้าวเฟิงหวาดกลัวมีเพียงแค่เย่หยานหยูและจงหว่านเอ๋อร์

เมื่อเทียบกับผู้ฝึกตนขั้นนายเหนือแท้ระดับสูงทั่วไป เย่หยานหยูและจงหว่านเอ๋อร์แข็งแกร่งกว่ามาก กระทั่งสามารถเทียบเคียงได้กับรองจ้าวลัทธิโลหะเลือด

ในการต่อสู้หนึ่งต่อหนึ่ง ไม่ว่าจะเผชิญหน้ากับผู้ใดจ้าวเฟิงก็ไม่อาจต่อกรได้

แน่นอนว่า

สถานการณ์ในปัจจุบันไม่ใช่แบบหนึ่งต่อหนึ่ง

จากภาพรวม จ้าวเฟิงกำลังจะเจอกับการโดนรุม

เริ่ม!

ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ

สิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้นำอัจฉริยะในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงนับร้อยเข้าใกล้บริเวณช่องว่างอย่างทรงพลังยิ่งใหญ่

การป้องกันบริเวณช่องว่างนั้นได้ถูกพลังเซียนทำลายจนหมดสิ้น เผยให้เห็นลำต้นที่ยังไม่ฟื้นฟูดีของหอคอยพฤกษาปีศาจ

“โจมตี!”

สิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้เริ่มโจมตีด้วยวิชาระยะไกลอย่างพร้อมเพรียงกัน วิชาหลากหลายปรากฏขึ้นหนาตา เข้าจู่โจมลำต้นของต้นไม้ปีศาจ

ในระดับของขั้นนายเหนือแท้ แม้ว่าจะไม่ได้เข้าใกล้ อยู่ห่างจากเป้าหมายนับร้อยจ้างก็ยังมีวิชาที่สามารถโจมตีได้

ฟึ่บ ตูม ครืนนนนน

ลำต้นของหอคอยพฤกษาปีศาจรับการโจมตีรุนแรงเหล่านั้นเข้าไปตรงๆ จนสั่นไหว กิ่งไม้ใบไม้รอบๆ สั่นสะท้านไม่หยุด หลังจากสิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ อัจฉริยะในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงจำนวนมากก็สาดการโจมตีจำนวนมากออกไป พลังของมันเพียงพอที่จะทำลายประตูของสำนักเล็กๆ ได้ในเวลาสั้นๆ

ไม่มีกลยุทธ์ ไม่มีแผนการ มีเพียงแค่ ‘กลยุทธ์คนมากเข้าว่า’ ที่หยาบกระด้างและเรียบง่าย

โชคดีที่พลังป้องกันกายภาพของหอคอยพฤกษาปีศาจแข็งแกร่งอย่างมาก แม้ว่าจะมียอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้สิบคนและผู้ฝึกตนในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงจำนวนมากสาดการโจมตีเข้ามาก็ยังสามารถต้านทานได้พักหนึ่ง

“มนุษย์ รีบหาวิธีเร็วเข้า ข้าสามารถรับการโจมตีนี้ได้ไม่ถึงหนึ่งชั่วยามก็คงไม่รอดแล้ว”

น้ำเสียงของหอคอยพฤกษาปีศาจเต็มไปด้วยความเร่งร้อน

“คนพวกนี้ เมื่อใดกันที่ข้าไม่มีตัวตนอยู่?”

จ้าวเฟิงที่ยืนอยู่ท่ามกลางพุ่มไม้หนายังคงมีท่าทีเยือกเย็นกับการโจมตีรุนแรงของสามยอดสำนัก

ไม่ช้า

เด็กหนุ่มก็เริ่มเข้าใจถึงเจตนาของสามยอดสำนัก

ตราบเท่าที่สามารถฆ่าหอคอยพฤกษาปีศาจได้ จ้าวเฟิงย่อมหมดสิ้นซึ่งที่หลบภัยและสภาพพื้นที่ได้เปรียบ ยามนั้นก็ง่ายแล้วมิใช่หรือ?

ดังนั้นแล้ว

สิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้จึงไม่ให้ความสนใจกับการกำจัดจ้าวเฟิง

“เริ่ม”

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงพลันเปิดออก

นัยน์ตาซ้ายลึกล้ำสีฟ้าหม่นราวกับนรกอันเย็นเยียบไร้ก้นบึ้ง ขยายออกอย่างไร้ที่สิ้นสุด

ฟุ่บ!

ยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงบางคนของสามสำนักพลันสูญเสียสตินึกคิดไป

“ฆ่า!”

“ส่งแก่นแท้จิตวิญญาณพฤกษามา!”

“…ศิษย์พี่! ท่าน… ท่านโจมตีข้าทำไม?”

ฝูงชนพลันตกอยู่ในความสับสนวุ่นวายทันที

ยอดฝีมือในขอบเขตจิตวิญญาณที่แท้จริงบางคนจิตใจพลันพร่าเลือน อารมณ์ความรู้สึกหลุดออกจากการควบคุม เข้าจู่โจมศิษย์จากสำนักเดียวกัน

ฉัวะ ฉัวะ ฉัวะ

โลหิตสาดกระจาย ศิษย์ของสามสำนักหลายคนตายด้วยการลอบโจมตีของศิษย์สำนักเดียวกันอย่างคาดไม่ถึง

เนตรหัวใจวิญญาณ!

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงกวาดมองฝูงชนอย่างรวดเร็ว

ในเวลาสั้นๆ อัจฉริยะสี่ห้าคนจากสามสำนักก็ถูก ‘เนตรหัวใจวิญญาณ’ ของจ้าวเฟิงควบคุม เริ่มโจมตีคนของตนเอง

“ทุกคนระวังด้วย!”

ความสับสนวุ่นวายปรากฏขึ้นในสามสำนัก ทุกคนล้วนรู้สึกไม่ปลอดภัย

อาจเรียกได้ว่าไม่มีผู้ใดที่มีพลังต่ำกว่าขั้นนายเหนือแท้ที่สามารถต่อต้านเนตรหัวใจวิญญาณของจ้าวเฟิงได้ หนึ่งการเหลือบมองสามารถควบคุมความรู้สึกนึกคิด

เมื่อเผชิญหน้ากับศิษย์จากสำนักเดียวกันที่สามารถ ‘ทรยศ’ ได้ตลอดเวลา ไม่ว่าจะเป็นศิษย์คนใดก็ไม่มีอารมณ์ไปโจมตีหอคอยพฤกษาปีศาจ

“เนตรคุกลวงตา!”

การโจมตีของจ้าวเฟิงไม่หยุดเพียงเท่านั้น ดวงตาเทพเจ้ากวาดมองอีกรอบ

ตุบ ตุบ

ศิษย์จากสามสำนักสองสามคนร่วงลงจากกลางอากาศไปยังพื้นดิน

ฟุ่บ

รากบางส่วนพุ่งออกราวกับตั้งเวลาไว้ อัจฉริยะทั้งสามจากสามสำนักถูกมัดมือเท้า ลากลงไปในพื้นดิน กลายเป็นปุ๋ยไป

ความวุ่นวายในสามสำนักยิ่งรุนแรงขึ้นกว่าเก่า

“ชื่อกุ้ย ความเชี่ยวชาญของเจ้า..”

นัยน์ตางดงามของเย่หยานหยูส่องประกายวูบ มองไปยังชื่อกุ้ยจากตำหนักผาดำ

ในบรรดาสิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ที่อยู่ ณ ที่แห่งนั้น ชื่อกุ้ยเป็นผู้ที่เชี่ยวชาญในวิชาดวงตามากที่สุด

“มอบเขาให้ข้า!”

ชื่อกุ้ยส่งเสียงคำรามต่ำออกมา บริเวณรอบกายของชายหนุ่มจมูกดำพลันมีผู้คนบางตา ม่านหมอกปรากฏขึ้นจากความว่างเปล่า

ความจริงแล้ว

ยามที่จ้าวเฟิงใช้วิชาดวงตาเมื่อครู่ ชื่อกุ้ยเองก็เฝ้าสังเกตอยู่

“สายเลือดดวงตาของเด็กนี่เป็นด้านจิตใจเสียส่วนใหญ่ ก่อนที่ข้าจะสามารถจัดการเขาได้ ผู้ใดที่ไม่มีเครื่องรางป้องกันตนเองให้ถอยออกไปให้ไกลให้มากที่สุด อย่าเข้าร่วมการต่อสู้ ผู้ที่มีพลังฝึกตนต่ำกว่าขั้นผู้วิเศษแท้ระดับสูงเองก็ไม่ควรเข้าร่วม”

ชื่อกุ้ยเอ่ย

สิ้นเสียง สิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ก็เริ่มทำตาม

จากคำพูดของชื่อกุ้ย คนอย่างน้อยสองในสามต้องถอยออกไปยังบริเวณอื่นก่อนชั่วคราว

อัจฉริยะที่เข้าร่วมการต่อสู้มีพลังฝึกตนอยู่ในขั้นผู้วิเศษแท้ระดับสุดยอดเป็นอย่างน้อย หรือไม่ก็มีเครื่องรางป้องกันตัว

“หืม?”

จ้าวเฟิงที่กำลังเตรียมตัวจะโจมตีต่อไปพลันรับรู้ได้ถึงสายตามุ่งร้ายพร้อมกับกลิ่นอายชั่วร้ายเข้มข้นที่แทรกซึมเข้าไปในดวงวิญญาณของตนเองอย่างกะทันหัน

เนตรมารทมิฬ!

เปลวเพลิงอ่อนจางในดวงตาของชื่อกุ้ยบิดเบี้ยวอย่างแปลกประหลาด ใจกลางปรากฏ ‘จุดว่างเปล่า’ ขึ้นอย่างลึกลับ

ห่างออกไป ท่ามกลางพุ่มไม้หนาทึบ คนทั้งสองจ้องตากัน

เนตรมารทมิฬและเนตรจิตวิญญาณเทพเจ้าเผชิญหน้ากันตรงๆ เป็นครั้งแรก

“คนนอก… ข้าขอคำชี้แนะจากสายเลือดดวงตาเจ้าหน่อยเถอะ”

ชื่อกุ้ยเลียริมฝีปาก ดวงตาปรากฏจิตต่อสู้เข้มข้นเกินกว่าปกติ

ก่อนหน้าสายเลือดดวงตาของตนเองจะเคยปะทะกับอีกฝ่ายกลางอากาศและพ่ายแพ้มาก่อน ในใจปรากฏความหงุดหงิดไม่ยอมรับ ต้องการที่จะต่อสู้กันจริงๆ อีกครั้ง..

บัดนี้ โอกาสนั้นได้มาถึงในที่สุด

เนตรมารทมิฬ vs เนตรจิตวิญญาณเทพเจ้า!

การปะทะกันตรงๆ ของสายเลือดดวงตา!

ครืนนนน

จุดว่างเปล่าใน ‘เนตรมารทมิฬ’ ของชื่อกุ้ยพลันสั่นสะท้าน

จากนั้น

อากาศพลันเต็มไปด้วยหมอกวิญญาณ กลายเป็นราวกับสะพานเชื่อมจากชื่อกุ้ยตรงไปยังจ้าวเฟิง

ศิษย์จากสามสำนัก ณ ที่แห่งนั้นไม่อาจมองเห็นร่างของจ้าวเฟิงและชื่อกุ้ยได้อย่างชัดเจน

‘สะพานหมอกวิญญาณ’ ที่ปรากฏขึ้นกลางอากาศสร้างแรงกดดันไปยังร่างของจ้าวเฟิงตรงๆ

จ้าวเฟิงพลันรู้สึกถึงปราณวิญญาณที่ให้ความรู้สึกหดหู่ชั่วร้ายจากสะพานหมอกวิญญาณที่กดทับลงมายังร่างของตนเอง

หากเป็นยอดฝีมือทั่วไป อาจถูกปราณวิญญาณที่น่าพรั่นพรึงนั้นทำลายดวงวิญญาณไป ทำให้เหลือเพียงร่างเปล่าๆ ไร้ซึ่งสตินึกคิด

ฟึ่บ ฉัวะ

สะพานหมอกวิญญาณพลันปรากฏกรงเล็บปีศาจกว้างยาวหลายฟุตพุ่งตรงไปยังจ้าวเฟิง

กรงเล็บยักษ์นี้ขนาดใหญ่กว่าบ้านทั้งหลังเสียอีก

จ้าวเฟิงถูกสะพานหมอกวิญญาณจากเนตรมารทมิฬจับจ้อง ทำให้ยากที่จะหลบเลี่ยงการโจมตีได้

“ควรค่าแล้วที่เป็นสำนักระดับสองดาว สามารถค้นพบวิชาดวงตาในระดับนี้ได้”

จ้าวเฟิงเปิดดวงตาเทพเจ้าสำรวจวิชาดวงตาของชื่อกุ้ย

ด้วยเนตรมารทมิฬ การใช้พลังวิญญาณของชื่อกุ้ยได้เข้าสู่จุดสูงสุด วิธีการโจมตีน่ามหัศจรรย์ เหนือกว่าความคาดหมาย

“สลาย!”

บ่อน้ำเย็นเยียบสีฟ้าหม่นในมิติในดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงพลันเคลื่อนไหว ‘พลังเนตร’ ของดวงตาเทพเจ้าป้องกันการโจมตีของสะพานหมอกวิญญาณ

ดวงตาเทพเจ้าใช้พลังเนตรซึ่งเป็นหนึ่งในพลังแปลกประหลาดและแข็งแกร่งระเบิดพลังความหนาวเหน็บที่กัดกินไปถึงกระดูกออกมา

ทันใดนั้น กรงเล็บปีศาจกลางอากาศนั้นก็พลันสั่นสะท้านด้วยพลังเนตรจากดวงตาเทพเจ้าอย่างเห็นได้ชัด แทบจะพ่ายแพ้สลายหายไป

สะพานหมอกวิญญาณสั่นสะท้านเล็กๆ เผยความไม่มั่นคงออกมา

“ไป!”

ชื่อกุ้ยสัมผัสถุงหนังที่เอว ภายในเต็มไปด้วยวิญญาณอาฆาตจำนวนมาก บ้างก็อยู่ในรูปลักษณ์มนุษย์ บ้างก็เป็นสัตว์อสูร กลิ่นอายของชายหนุ่มพลันทรงพลังขึ้นทันที

วิญญาณอาฆาตเหล่านั้นกลายเป็นส่วนเสริมความแข็งแกร่งให้ ‘สะพานหมอกวิญญาณ’ สะพานพลันมั่นคงขึ้น ดูราวกับจะกลายเป็นของจริงขึ้นมา

วิญญาณอาฆาตส่วนหนึ่งส่งเสียงกรีดร้องโหยหวนออกมา กลับกลายเป็นเปลวเพลิงวิญญาณภายใต้พลังของสะพานหมอกวิญญาณ พร้อมกับที่มันกดทับกัดกินร่างของจ้าวเฟิงอย่างต่อเนื่อง

“ใช้ความช่วยเหลือจากสิ่งของเพื่อเสริมพลังดวงตาของตนเอง”

จ้าวเฟิงมีวิสัยทัศน์กว้างไกลขึ้น

แต่เดิม

ก่อนหน้าที่ชื่อกุ้ยจะเข้าต่อสู้กับจ้าวเฟิง เขาก็ได้ยื่นเงื่อนไขมาจำนวนมาก ตำหนักผาดำที่อยู่ฝ่ายเดียวกันได้มอบทรัพยากรจำนวนมากให้กับเขา

บัดนี้ การปะทะสายเลือดดวงตากับจ้าวเฟิงตรงๆ ชื่อกุ้ยนับว่าเตรียมตัวมาพร้อมรบ

ครืนนนน

จากการหลอมรวมวิญญาณอาฆาตเกือบร้อยดวงเข้าไป พลังโจมตีของเนตรมารทมิฬของชื่อกุ้ยก็แข็งแกร่งขึ้น

“วิชาจำนวนมากของเนตรมารทมิฬของศิษย์พี่ชื่อกุ้ยนับว่าเริ่มหลอมรวมเข้าหากันแล้ว”

“แม้จะเป็นเย่หยานหยู เมื่อสตรีผู้นั้นมาเผชิญหน้ากับเนตรมารทมิฬตรงๆ ก็ยังต้องพ่ายแพ้”

อัจฉริยะจากตำหนักผาดำแย้มยิ้มแปลกประหลาด เผยท่าทีชั่วร้ายออกมา

สิบยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ที่เหลืออีกเก้าคนพึงพอใจกับสถานการณ์ในยามนี้อย่างมาก

“ดูจากสถานการณ์ แม้ชื่อกุ้ยจะไม่สามารถเอาชนะเด็กนั่นได้ก็ยังสามารถกดดันมันได้อยู่ ดังนั้นเราคงจู่โจมได้อย่างสบายใจ”

อัจฉริยะขั้นนายเหนือแท้หลายคนผงกศีรษะอย่างพร้อมเพรียงกัน

นัยน์ตางดงามของเย่หยานหยูส่องประกายวาบ”ชื่อกุ้ยไม่ทำให้เราผิดหวังจริงๆ แต่เพื่อความปลอดภัย เราควรจะส่งผู้ฝึกตนขั้นนายเหนือแท้สองคนไปช่วยสนับสนุนชื่อกุ้ย บางทีอาจสามารถฆ่าคนผู้นั้นได้ในคราเดียว”

ด้วยเหตุใดไม่ทราบ นางจึงไม่รู้สึกสบายใจกับสถานการณ์ระหว่างชื่อกุ้ยและจ้าวเฟิงเลยแม้แต่น้อย

บางทีอาจเป็นเพราะแผนการลึกลับซับซ้อนมากมายที่จ้าวเฟิงใช้กับนางก่อนหน้าได้สร้างเงาดำมืดในจิตใจของนางขึ้น

ฟุ่บ ฟุ่บ

ในเก้ายอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้ ยอดฝีมือขั้นนายเหนือแท้สองคนแยกตัวออกไปสนับสนุนชื่อกุ้ย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!