บทที่ 1061 บรรพกาลดั้งเดิม
“ไม่เจอกันนานเลย คุนอวิ๋นน้อย!”
จ้าวเฟิงปรากฏที่ท้องฟ้าเหนือเมืองทันที พลางมองไปยังชายหนุ่มผมสั้นใบหน้าหล่อเหลาเบื้องหน้า
หลังจากที่คุนอวิ๋นทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับ แน่นอนว่าผลจากน้ำอมฤตและหญ้าอมตะถูกขจัดไปแล้ว จึงไม่ใช่ร่างของเด็กอีกต่อไป
“จ้าวเฟิง เจ้ารนหาที่ตาย!”
คุนอวิ๋นขมวดคิ้ว
จ้าวเฟิงยังกล้าเรียกเขาว่า ‘คุนอวิ๋นน้อย’ ในภพที่แล้วเขาเป็นถึงครึ่งเทพเซียนผู้สูงส่ง ต่อให้ตอนนี้ ขอบเขตพลังของเขาจะเป็นเทวาเร้นลับชั้นสูงก็ตาม แต่ทว่า ขอบเขตพลังของจ้าวเฟิงกลับทำให้คุนอวิ๋นตื่นตกใจ
ไม่นึกเลยว่าจ้าวเฟิงเปลี่ยนร่างถือกำเนิดใหม่ ไม่เท่าไหร่ก็ทะลวงขอบเขตเทวาเร้นลับได้แล้ว แต่ความแตกต่างของเทวาเร้นลับชั้นแรกเริ่มและเทวาเร้นลับชั้นสูงไม่ใช่แค่มากธรรมดา
ส่วนคุนอวิ๋นในฐานะที่เป็นเทวาเร้นลับชั้นสูง กลับสามารถใช้พลังเทพได้ส่วนหนึ่งแล้ว ในมรดกความจำของเขาก็มีกลวิธีและเคล็ดวิชามากมาย ต่อให้เผชิญหน้าเซียนเขาก็มีพลังต่อสู้
ฟุ่บ ฟุ่บ!
ร่างขององค์ชายเก้า จ้าวหยูเฟย และหนานกงเซิ่งมาปรากฏอยู่ใกล้ๆ
“หนานกงเซิ่ง? คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าก็มาที่นี่ด้วย!”
คุนอวิ๋นตกใจเล็กน้อย
หนานกงเซิ่งออกจากดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจินอู่ก่อนหน้าเขาครึ่งปี ในยามนี้กลับมาอยู่กับจ้าวเฟิงเสียแล้ว
“คุนอวิ๋น!”
องค์ชายเก้ากับเซียนเฮยเถี่ยส่งเสียงตกใจทันใด
เพียงแค่เอ่ยถึงชื่อนี้ ทุกคนล้วนนึกถึง ‘ครึ่งเซียนคุนอวิ๋น’ ที่เคยมีชื่อเสียงเลื่องลือไปทั่วแผ่นดินใหญ่ผู้นั้น
ส่วน ‘คุนอวิ๋น’ ที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้มาถึงสนามรบเมื่อหลายเดือนก่อนหน้า จากนั้นก็ลงไปอยู่ในสนามรบ สังหารพวกต่างเผ่าพันธุ์อย่างบ้าคลั่งเพื่อแลกผลงานการรบ
ด้วยเหตุที่พลังการต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งมาก กระทั่งดึงดูดให้ราชาเซียนของต่างเผ่าพันธุ์ลงมือได้ ทั้งสองประมือกัน คุนอวิ๋นถูกโจมตีจนล่าถอย
“ครึ่งเซียนคุนอวิ๋น?”
แววตาของตวนมู่ชิงตกตะลึง มองไปยังร่างสีทองบนท้องฟ้า ความคิดสับสนเล็กน้อย
“จ้าวเฟิงเกี่ยวข้องกับคุนอวิ๋นได้อย่างไรกัน?”
ในใจขององค์ชายเก้างุนงงสงสัย อีกทั้งดูไปแล้วคุนอวิ๋นเหมือนกับจะมาหาเรื่องจ้าวเฟิงด้วย
“ฮี่ๆ ช่างเป็นคนที่อยู่ที่ไหนก็ล่วงเกินผู้อื่นได้ทุกที่จริงๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจ้าวเฟิงจะล่วงเกินคุนอวิ๋นเข้า!”
องค์ชายสิบสามรู้สึกดีขึ้นทันใด
เซียนเฮยเถ่ยก็ดีใจเช่นกัน รอดูอะไรสนุกๆ
“คุนอวิ๋น อย่างน้อยเจ้าก็ฟื้นคืนชีพได้เพราะข้า เจ้าจะตอบแทนบุญคุณด้วยความแค้นได้อย่างไรกัน?”
สีหน้าจ้าวเฟิงไม่เปลี่ยนแปลง พูดออกมาตรงๆ
“อะไรนะ? ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นถูกจ้าวเฟิงฟื้นคืนชีพให้?”
เบื้องล่าง องค์ชายทั้งสอง เซียนเฮยเถี่ย ตวนมู่ชิง อีกทั้งสมาชิกมากมายต่างสูดลมหายใจ ตกใจเป็นอย่างยิ่ง
คุนอวิ๋นปรากฏขึ้นอีกครั้งที่แผ่นดินใหญ่ ผู้นำระดับสูงของขั้วอำนาจสามดาวหรือกระทั่งสี่ดาวทั้งหลายล้วนสั่นสะท้าน แต่กลับคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะเป็นผู้ฟื้นคืนชีพให้ครึ่งเซียนคุนอวิ๋น นี่เป็นเรื่องที่น่าตกใจอะไรเช่นนี้
“เป็นเจ้าที่ฟื้นคืนชีพข้าจริงๆ แต่ว่า…”
คิ้วของคุนอวิ๋นขมวดเข้าหากัน
หากพูดว่าทำไมเขาจึงมองจ้าวเฟิงเป็นศัตรูเช่นนี้ แน่นอนว่าเพราะจ้าวเฟิงอาศัยช่วงเวลาที่เขาอ่อนแอจับเขาเป็นทาสรับใช้
หลังจากที่จ้าวเฟิงจับเขาเป็นทาสก็ถูกขูดรีดใช้ประโยชน์มาโดยตลอด ได้รับกะโหลกครึ่งเซียนกับเลือดครึ่งเทพ ทั้งยังให้เขาเป็นสมุนคอยต่อสู้กับบุคคลอันตรายเช่นจักรพรรดิแห่งความตายอีก
เป็นถึงครึ่งเทพเซียน ถูกมดปลวกผู้หนึ่งผูกมัดพันธนาการ จะยอมได้อย่างไร
“อีกทั้งในฐานะที่ข้าเป็นนายของเจ้า ก็มอบทรัพยากรนับไม่ถ้วนให้กับเจ้าด้วย!”
จ้าวเฟิงเสริมคำพูดที่คุนอวิ๋นไม่ได้พูดออกมาให้สมบูรณ์
“เจ้า…”
ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ แรงกดดันกายศักดิ์สิทธิ์อันน่าหวาดกลัวแผ่กระจาย ทั่วทั้งฟ้าดินถูกกดดันจนแทบจะแข็งตัว
ไม่ผิดจากคาด เจ้านายในอดีตของเขา ไม่ว่าจะเมื่อใดก็ล้วนทำให้เขาขายหน้าเช่นนี้ได้จริงๆ กลับพูดถึงความน่าอัปยศของเขาในตอนนั้นต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้
สมาชิกกองกำลังทหารทั้งสองกองในเมืองด้านล่าง แต่ละคนนิ่งงันเป็นตอไม้ เหม่อลอยไร้สติ
ให้ครึ่งเทพเซียนในอดีตเป็นทาส ลำพังเพียงแค่คิดก็รู้สึกว่าเหลือเชื่อแล้ว
“จ้าวเฟิงเคยเป็นนายของคุนอวิ๋น?”
จ้าวหยูเฟยและตวนมู่ชิงก็ตกใจเช่นกัน
คิดไม่ถึงเลยว่าโอกาสของจ้าวเฟิงในอุทยานครึ่งเซียนจะมากมายถึงเพียงนี้ ไม่เพียงแต่ฟื้นคืนชีพครึ่งเซียนคุนอวิ๋นเท่านั้น ยังจับเขาเป็นทาสอีก
เช่นนั้น ทุกคนก็เข้าใจแล้วว่าทำไมคุนอวิ๋นจึงมองจ้าวเฟิงเป็นศัตรูถึงเพียงนี้
ครึ่ก ครืน!
กายของคุนอวิ๋นส่องประกายแสงสีทองทันใด อักขระสีทองที่ลึกลับเกินหยั่งถึงแต่ละสายลอยวนรอบด้าน แผ่กระจายพลังแก่นแท้ที่น่าหวาดกลัวออกมา
“คุนอวิ๋น เจ้าแน่ใจรึว่าจะฆ่าข้า?”
ในยามที่คุนอวิ๋นจะลงมือ จ้าวเฟิงก็ถามขึ้น
“อย่าได้คิดจะทำร้ายพี่เฟิง!”
จ้าวหยูเฟยรีบมายังข้างกายจ้าวเฟิง ผิวขาวทั่วทั้งร่างมีประกายแสงสีม่วงวาววับราวผลึกแก้วลอยเอ่อ พลังอำนาจแห่งสายเลือดที่แข็งแกร่งแผ่กระจายทันใด
ชั่วพริบตา ไอสวรรค์ทั่วฟ้าดินม้วนตัวขึ้นราวกับลมพายุคลั่งก็ไม่ปาน
ผู้แข็งแกร่งมากมาย ณ ที่นั้น สายเลือดและปราณที่แท้จริงสั่นสะท้านอย่างน่าประหลาด
“หยูเฟย เจ้ากลับมานะ!”
องค์ชายสิบสามพลันตะโกน
เห็นคุนอวิ๋นมีความแค้นกับจ้าวเฟิง ไม่ต้องบอกเลยว่าองค์ชายสิบสามดีใจมากเพียงใด
ทว่าในขณะที่ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นเตรียมจะลงมือ จ้าวหยูเฟยกลับวิ่งออกไป
อีกด้านหนึ่ง องค์ชายเก้าก็ไม่รู้จะทำเช่นไรดี อันดับแรกเขาช่วยอะไรจ้าวเฟิงไม่ได้ ต่อมาก็คือล่วงเกินผู้ที่อาจกลายเป็นครึ่งเทพ ต่อให้เป็นเชื้อพระวงศ์ก็ไม่อาจช่วยเขาได้
เซียนเกาหวงก็นิ่งงัน ไม่กล้าลงมือ
ครึ่งเทพเซียน นั่นเป็นถึงผู้แข็งแกร่งที่สุดบนจุดสุดยอดของดินแดนทวีป ต่อให้เป็นตำหนักไท่หวงก็ไม่ยอมให้เขาล่วงเกิน
ถึงแม้ว่าคุนอวิ๋นในยามนี้จะเป็นเพียงแค่เทวาเร้นลับชั้นสูง แต่ในเมื่อเป็นครึ่งเทพเซียนฟื้นคืนชีพ เกรงว่าไม่นานก็สามารถฟื้นพลังขั้นสุดยอดได้แล้ว
“สายเลือดชนิดนี้…”
สายตาของคุนอวิ๋นมองประเมินจ้าวหยูเฟย อดตื่นตะลึงไม่ได้
พลังสายเลือดในกายของจ้าวหยูเฟย ต่อให้เป็นเขาก็ได้รับผลกระทบในระดับหนึ่ง
หากเดาไม่ผิด นี่คือสายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณที่อยู่อันดับสิบเก้าในรายชื่อหมื่นเผ่าพันธุ์โบราณ
สายตาของคุนอวิ๋นอดมองไปยังจ้าวเฟิงไม่ได้ รู้สึกริษยาเล็กน้อย เพื่อจ้าวเฟิงแล้ว สตรีที่มีสายเลือดสูงส่งเพียงนี้กลับก้าวออกมาอย่างกล้าหาญในเวลาคับขัน
“ฆ่าเจ้าแล้วจะทำไม?”
ในใจของคุนอวิ๋นมีอารมณ์แค้นแน่นอก พร้อมด้วยความไร้เทียมทาน กดอัดแก่นแท้พลังทั่วฟ้าแล้วพุ่งโจมตีมายังจ้าวเฟิง
“ฮ่าๆ คุนอวิ๋น อย่ารีบร้อนไป ระหว่างเจ้าและข้าไม่ได้มีแค้นอะไรใหญ่หลวง ฆ่าข้าแล้วมีประโยชน์อะไร?”
จ้าวเฟิงหัวเราะลั่น โคจรพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับทันใด
วู้ม ครืน ครืน!
ในเสี้ยวขณะนั้น ทั่วร่างของจ้าวเฟิงส่องประกายวาววับ บนนั้นปรากฏลายอัสนีสีเหลืองหม่นที่ส่องแสงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นชั้นหนึ่ง
“ขอบเขตแก่นแท้อัสนี!”
ขณะเดียวกัน ในกายของจ้าวเฟิง พลังแก่นแท้อัสนีที่แข็งแกร่งเป็นที่สุดแผ่ซ่านเข้าปกคลุมทั่วฟ้าดิน
คุนอวิ๋นที่บุกเข้ามาในขอบเขตของจ้าวเฟิงรู้สึกถึงความกดดันและผลกระทบในระดับหนึ่งทันที
จากนั้น จ้าวเฟิงโคจรพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับของวายุอัสนีธาตุดินสุดกำลัง และทำการป้องกัน
อีกด้านหนึ่ง จ้าวหยูเฟยซัดฝ่ามือหนึ่งออกไป เห็นเพียงเงาวาววับสีม่วงเต็มไปทั่วผืนฟ้า แผ่กระจายคลื่นไอสวรรค์ที่น่ากลัว โจมตีไปยังคุนอวิ๋น
“หึ!”
คุนอวิ๋นแค่นเสียงเย็น อักขระสีทองแปลกประหลาดบนผิวกายของเขา พลันเปล่งแสงอัสนีหลายเส้นสาย กระแทกการโจมตีจากจ้าวหยูเฟยจนแหลกไปในทันที
ถึงสายเลือดเผ่าพันธุ์วิญญาณจะน่ากลัว แต่ขอบเขตพลังและกลวิธีของคุนอวิ๋นสูงกว่านัก
ครืน บึ้ม!
ร่างกายที่แข็งแกร่งของคุนอวิ๋นโจมตีไปยังการป้องกันที่วายุอัสนีธาตุดินรวมขึ้นบนผิวกายจ้าวเฟิง
แก่นแท้พลังที่น่าหวาดกลัวเป็นที่สุดสองกลุ่มปะทะเข้าด้วยกัน ทั่วทั้งฟ้าดินพลันสั่นสะเทือน ปรากฏเป็นรอยบิดเบี้ยว
“พลังน่ากลัวอะไรเช่นนี้!”
สมาชิกที่อยู่เบื้องล่างรู้สึกว่าร่างกายและสายเลือดสั่นสะท้าน ได้รับแรงกดดันอันมหาศาล
ครืน! หลังจากที่ถูกคุนอวิ๋นโจมตีจนถอยไปหลายร้อยก้าว จ้าวเฟิงลุกขึ้นยืน
“เจ้าฝึกฝน ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ รึ?”
สีหน้าของคุนอวิ๋นตื่นตระหนก
ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นก็ฝึกฝนร่างกาย ยามนี้เขาฝึกตนอีกครั้งก็ยังเลือกสายฝึกฝนกาย อีกทั้งความสำเร็จล้ำหน้าไปกว่าภพที่แล้ว แต่ตอนนี้ จ้าวเฟิงอาศัยพลังแก่นแท้ก็สามารถต้านทานการโจมตีร่างกายของเขาได้
คุนอวิ๋นคิดได้ทันใด ในตอนนั้นที่อยู่ในเมืองความลับสวรรค์ เคล็ดวิชาที่จ้าวเฟิงผสานหลังจากนั้นคือ ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ แต่สิ่งที่ทำให้คุนอวิ๋นคาดไม่ถึงก็คือ ในเวลาไม่ถึงสิบปี จ้าวเฟิงคล้ายฝึก ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ มาถึงขั้นที่หกแล้ว
นี่มันจะเป็นไปได้อย่างไร?
‘กายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทอง’ ของครึ่งเซียนคุนอวิ๋นก็เพิ่งจะฝึกฝนถึงขั้นที่หกเท่านั้น!
อีกทั้งจากขอบเขตแก่นแท้อัสนีที่จ้าวเฟิงสำแดงมาเมื่อครู่ เขาก็สามารถคาดเดาได้ว่าเคล็ดวิชาหลังจากที่จ้าวเฟิงฝึกฝนใหม่จะต้องเป็น ‘วิชาวายุอัสนีห้าธาตุ’ อย่างแน่นอน
“คุนอวิ๋น เจ้าโตขึ้นแล้ว แต่กลับโง่เขลาลง ฆ่าข้าแล้วจะได้ประโยชน์อะไร? หรือเจ้าไม่อยากรู้ถึงเหตุผลที่ข้าฝึกฝน ‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ ได้รวดเร็วเช่นนี้?”
จ้าวเฟิงยิ้มเจ้าเล่ห์
‘กายสายฟ้าปฐพีทอง’ สูงส่งกว่า ‘กายศักดิ์สิทธิ์ปฐพีทอง’ อยู่ระดับหนึ่ง อีกทั้งความเร็วในการพัฒนาของจ้าวเฟิงกลับสามารถตามคุนอวิ๋นได้ทัน
จ้าวหยูเฟยเห็นคุนอวิ๋นไม่ได้ลงมืออีก นางก็หยุดมือทันใดเช่นกัน
ในเมื่อต่อให้นางลงมือสุดกำลัง ก็เหมือนจะทำได้แค่ขัดขวางคุนอวิ๋นเล็กน้อยเท่านั้น อีกทั้งดูจ้าวเฟิงไม่ค่อยกังวลเท่าใด จ้าวหยูเฟยจึงวางใจลงได้
“เลือดเนื้อชนิดนั้น เจ้ายังมีขั้นที่สูงกว่าอีกรึ?”
จิตใจของคุนอวิ๋นสั่นไหว
ตอนติดตามจ้าวเฟิง เขาเคยได้เลือดเนื้อมากมายที่มีเลือด ปราณ และแก่นสารสำคัญแข็งแกร่งจากจ้าวเฟิง ในนั้นยังแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายดั้งเดิมของฟ้าดิน
เลือดเนื้อพวกนี้มีประโยชน์อย่างมากในการฟื้นฟูพลังของเขาในตอนนั้น
แต่เลือดเนื้อระดับนั้นไม่มีประโยชน์อะไรกับคุณสมบัติสายเลือดของคุนอวิ๋นในวันนี้ นอกเสียจากจ้าวเฟิงจะมีเลือดเนื้อที่ระดับสูงกว่า
คุนอวิ๋นไม่อาจคิดได้ว่าจ้าวเฟิงมีทรัพยากรที่มากมายเช่นนี้ได้อย่างไร แต่ก็มีเพียงจ้าวเฟิงเท่านั้นที่อาจมีอยู่
“ข้าจะมอบประโยชน์บางอย่างแก่เจ้าก่อน เพื่อแสดงถึงไมตรีของข้า!”
จ้าวเฟิงยิ้มพูดขึ้น จากนั้นก็ยื่นแหวนเก็บของวงหนึ่งออกไป
คุนอวิ๋นเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง รับแหวนเก็บของของจ้าวเฟิงมา ภายใต้การคงสภาพกายสายฟ้าปฐพีทองไว้ ประสาทสัมผัสจิตวิญญาณไหลเข้าไปในนั้น
“นี่มัน?”
ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นใจสั่นสะท้าน สายตาพลันจ้องไปยังจ้าวเฟิงไม่อยากจะเชื่อ
“ข้างในคืออะไรกันแน่?”
“ได้ยินผู้อาวุโสคุนอวิ๋นพูดว่าเป็นเลือดเนื้ออะไรสักอย่าง…”
ด้านในเมือง คนส่วนมากอยากรู้ว่าตกลงแล้วในแหวนเก็บของมีอะไรอยู่ จึงทำให้ครึ่งเทพเซียนในอดีตตื่นตะลึงได้ถึงเพียงนี้
“ในนี้น่าจะเป็นของล้ำค่า!”
สายตาขององค์ชายสิบสามฉายแววละโมบ จ้องเขม็งมาที่แหวนเก็บของนั่น
จะชิงเอาของสิ่งนี้ไปจากมือครึ่งเซียนคุนอวิ๋น เห็นได้ชัดว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ตัวของจ้าวเฟิงจะต้องมีของล้ำค่าเช่นนี้อีกแน่นอน มิฉะนั้น จ้าวเฟิงจะสามารถมอบของล้ำค่าที่ทำให้ครึ่งเทพเซียนยังต้องตกตะลึงได้อย่างไร
“เซียนเฮยเถี่ย เชื่อว่าพวกเจ้าวังเก้านิรยคงจะสนใจของในแหวนเก็บของอย่างมากกระมัง…”
องค์ชายสิบสามเริ่มสื่อสารกับเซียนเฮยเถี่ย
จ้าวเฟิงยิ้มอย่างมั่นใจ ในแหวนเก็บของ เขาเก็บเลือดเนื้อของ ‘วัวคลั่งพสุธาทลาย’ ไว้หนึ่งตัว
เลือดของวัวคลั่งพสุธาทลายแข็งแกร่งกว่าเสืออัคคีปีกทอง อีกทั้งพลังทั้งหมดของวัวคลั่งพสุธาทลายสูงเป็นอย่างมาก ปราณ แก่นสำคัญ และสายเลือดที่แฝงอยู่ในร่างกายมีชีวิตชีวาเกินปกติ
เลือดเนื้อของวัวคลั่งพสุธาทลายแฝงไว้ด้วยพลังธาตุดิน ดังนั้นยามที่จ้าวเฟิงบุกโจมตีเผ่าพันธุ์วัวคลั่งพสุธาทลายจึงดุเดือดเป็นอย่างมาก ไม่สนใจว่าจะบาดเจ็บหรือชีวิต
เขาเชื่อว่าครึ่งเซียนคุนอวิ๋นไม่มีทางปฏิเสธทรัพยากรเช่นนี้
ต่อให้ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นคิดว่าน้อย เขาก็สามารถนำทรัพยากรบรรพกาลอื่นๆ ออกมาให้ได้
ขอเพียงพูดคุยกันได้ ก็ตกลงกันง่าย จ้าวเฟิงไม่อยากจะเผชิญหน้ากับวังเก้านิรยและคุนอวิ๋นศัตรูผู้ยิ่งใหญ่ทั้งสอง
แต่ทว่าสีหน้าที่ตื่นตะลึงเช่นนี้ของครึ่งเซียนคุนอวิ๋น ทำให้จ้าวเฟิงตกใจเล็กน้อย
หรือว่าเลือดเนื้อของวัวคลั่งพสุธาทลายยังมีประโยชน์อื่นที่เขาไม่รู้?
‘นี่เป็นเผ่าพันธุ์บรรพกาล สายเลือดเข้มข้นเช่นนี้ ปราณ แก่นสำคัญ และสายเลือดที่แข็งแกร่ง มีประโยชน์ในการฟื้นฟูพลังสายเลือดของข้า ที่สำคัญก็คือในตัวของวัวคลั่งพสุธาทลายแผ่กระจายกลิ่นอายบรรพกาลดั้งเดิมออกมา…’
สีหน้าของคุนอวิ๋นหนักอึ้งเป็นอย่างมาก ความทรงจำในภพก่อนตื่นขึ้นแล้ว เขาย่อมรู้ว่าสิ่งสำคัญที่สุดในการ ‘พิสูจน์ตำแหน่งเทพ’ คืออะไร
เขาที่ใช้เลือดคืนชีวิตก็กำลังกลัดกลุ้มว่าจะได้รับไอบรรพกาลดั้งเดิมเช่นไร!
คิดไม่ถึงเลยว่าในเลือดเนื้อเผ่าพันธุ์บรรพกาลที่จ้าวเฟิงให้มา จะมีกลิ่นอายบรรพกาลดั้งเดิมแฝงอยู่!
“จ้าวเฟิง ในเมื่อเจ้าจริงใจ เช่นนั้นก็พูดกันง่าย!”
ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นเก็บกลิ่นอายพลัง ใบหน้าอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย
แท้จริงแล้ว เขาและจ้าวเฟิงก็ไม่ได้มีความแค้นฝังลึกอะไร อีกทั้งจ้าวเฟิงในยามนี้เหมือนจะสามารถช่วยเขาจัดการปัญหาการทะลวงขั้นเทพได้