Skip to content

King of Gods 1062

King Of Gods

บทที่ 1062 การลอบสังหารของจ้าวเฟิง

“จ้าวเฟิง ในเมื่อเจ้าจริงใจถึงเพียงนี้ เช่นนั้นก็พูดกันง่าย”

ครึ่งเซียนคุนอวิ๋นเก็บกลิ่นอายพลัง ใบหน้าอบอุ่นขึ้นมาเล็กน้อย

แท้จริงแล้ว เขาและจ้าวเฟิงก็ไม่ได้มีความแค้นฝังลึกอะไร อีกทั้งจ้าวเฟิงในยามนี้เหมือนจะสามารถช่วยเขาจัดการปัญหาการทะลวงขั้นเทพได้

คุนอวิ๋นจะโง่ฆ่าจ้าวเฟิงไปทำไมกัน?

ก้าวข้ามภพที่แล้ว พิสูจน์เอาตำแหน่งเทพมาให้ได้ เป็นความปรารถนาที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของคุนอวิ๋นในวันนี้

ตำแหน่งเทพ คือขอบเขตพลังที่ผู้แข็งแกร่งชั้นยอดทั้งหมดในดินแดนทวีปต่างใฝ่หา เพื่อตำแหน่งเทพแล้ว พวกเขายอมทำทุกสิ่ง!

ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน ผู้แข็งแกร่งเทวาเร้นลับไม่รู้เท่าไหร่ถูกหยุดไว้ใต้ตำแหน่งเทพ แม้แต่ประตูของตำแหน่งเทพก็ไม่อาจสัมผัสได้ และมีครึ่งเทพอีกไม่รู้เท่าไหร่หยุดอยู่ที่เดิมนานหลายหมื่นปี จนแล้วจนรอดก็ไม่อาจทะลวงขอบเขตได้

ว่ากันว่า ผู้แข็งแกร่งตำแหน่งเทพของดินแดนทวีปคนล่าสุด ก็ก่อนหน้านี้หลายแสนปีแล้ว

และทันทีที่ทะลวงตำแหน่งเทพได้ อายุขัยก็จะทบหลายสิบเท่า ที่สำคัญที่สุดคือสามารถเข้าไปในดินแดนเทพรกร้าง ใจกลางของทุกสรรพสิ่งในมิติพรหมกาล

ว่ากันว่า ที่นั่นสามารถพบเจอทุกสิ่งในตำนานเทพ มีเผ่าพันธุ์เทพยักษ์ที่กายสูงนับพันนับหมื่นจั้ง นกทองบรรพกาลที่คอยมอบแสงสว่างและความร้อนให้กับทั่วทั้งมิติพรหมกาล หรือเผ่าพันธุ์ต้องห้ามต่างๆ อย่างเผ่าพันธุ์ความลับสวรรค์และเผ่าพันธุ์แม่มดโบราณที่สาบสูญไปนานแล้ว ยังมีแม้กระทั่งแปดเนตรเทพเจ้าที่เป็นหนึ่งเดียวในโลก…

ฟู่! ในเมืองข้างล่าง ผู้แข็งแกร่งนับไม่ถ้วนต่างตกตะลึง

ขนาดเป็นถึงครึ่งเซียนคุนอวิ๋น เผชิญหน้ากับจ้าวเฟิงที่เป็นศัตรู แต่ท่าทีกลับเปลี่ยนไปเป็นมิตรในชั่วพริบตา

ในแหวนเก็บของนั่นมีของอะไรอยู่กันแน่ ถึงสามารถดึงดูดครึ่งเทพเซียนในอดีตได้

แม้กระทั่งองค์ชายเก้า หนานกงเซิ่ง เซียนเกาหวง และคนอื่นๆ ยังสงสัยเป็นอย่างยิ่ง อยากถามจ้าวเฟิงใจจะขาด

“เป็นอย่างนี้ไปได้ยังไง?” องค์ชายสิบสามสีหน้าตื่นตะลึง

คุนอวิ๋นกลับยอมให้แบบนี้?

ต่อให้ของในแหวนเก็บของนั่นยั่วยวนใจเหลือคณนา คุนอวิ๋นก็สามารถฮุบเอาไป จากนั้นสังหารจ้าวเฟิง แล้วเอาสมบัติทั้งหมดจากจ้าวเฟิงมาได้

เหตุใดคุนอวิ๋นจึงไม่ทำเช่นนี้? ตกลงในแหวนเก็บของนั่นมีอะไรอยู่กันแน่?

เห็นจ้าวเฟิงและคุนอวิ๋นมีท่าทีราวกับจะจับมือกัน ใจขององค์ชายสิบสามพลันหนักอึ้ง

“หยูเฟย พวกเราต้องไปจากที่นี่แล้ว!”

องค์ชายสิบสามเอ่ยขึ้นทันที

“ข้าจะอยู่ที่นี่!” จ้าวหยูเฟยไม่แม้แต่จะมององค์ชายสิบสาม พูดออกมาตรงๆ

“เจ้า…”

องค์ชายสิบสามโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยง อยากจะพูดอะไรแต่กลับหยุดเอาไว้

ในวันนี้ เห็นได้อย่างชัดเจนว่าจ้าวหยูเฟยและตวนมู่ชิงยืนอยู่ฝั่งองค์ชายเก้า อีกทั้งคุนอวิ๋นยังมีท่าทีจะร่วมมือกับจ้าวเฟิง หากเขาระเบิดอารมณ์ที่นี่ จะไม่เป็นการหาเรื่องให้ตัวเองรึ

“พวกเราไป!”

องค์ชายสิบสามปรายตามองจ้าวเฟิงอย่างเคืองแค้น ก่อนนำสมาชิกในกองกำลังจากไปทันที

จากนั้นคุนอวิ๋นก็ลอยลงมา เข้าไปในเมืองแห่งนี้

สมาชิกทั้งหมดมองจ้าวเฟิงและคุนอวิ๋นเข้าไปในตำหนักหลังหนึ่ง ประหลาดใจอย่างเป็นที่สุด

“สัตว์อสูรตัวนั้นที่เจ้าให้กับข้าเมื่อครู่ คือเผ่าพันธุ์บรรพกาลวัวคลั่งพสุธาทลาย?”

คุนอวิ๋นถามอย่างสงสัย

ในแหวนเก็บของตัวนั้นแฝงไว้ด้วยกลิ่นอายบรรพกาล ปราณ เลือด และแก่นสำคัญที่เข้มข้นเป็นอย่างมาก ระดับความเข้มข้นของเลือดยิ่งสูงจนเกินคาด เหมือนวัวคลั่งพสุธาทลายจากยุคบรรพากาล

แต่นี่จะเป็นไปได้อย่างไร? ปัจจุบันในดินแดนทวีป ต่อให้เป็นมิติจากบรรพกาลก็ไม่มีทางมีสิ่งมีชีวิตยุคบรรพกาลหลงเหลืออยู่

นอกเสียจากเป็นดินแดนเทพรกร้าง!

จ้าวเฟิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองคุนอวิ๋นอย่างเงียบๆ

“เจ้ายังมีเลือดเนื้อของสัตว์อสูรประเภทนี้อยู่อีกเท่าไหร่?”

คุนอวิ๋นมองเห็นท่าทีอย่างนั้นของจ้าวเฟิง ก็รู้ว่าเขาไม่มีทางพูดออกมา คุนอวิ๋นไม่ได้สนใจปัญหานั้นมากเท่าไหร่ ดังนั้นจึงถามคำถามต่อไป

“เลือดเนื้อชนิดนี้ได้มายากนัก เชื่อว่าเจ้าก็ดูออก!”

จ้าวเฟิงเริ่มพูดหลอกล่อ

แต่เดิมจ้าวเฟิงคิดว่าอย่างน้อยๆ ก็ต้องเสนอทรัพยากรให้มากมาย ถึงจะสามารถประสานไมตรีกับคุนอวิ๋นได้

แต่ดูเหมือนเขาจะประเมินราคาของวัวคลั่งพสุธาทลายต่ำไป ในเมื่อเป็นเช่นนี้ก็ต้องคิดวางแผนให้รอบคอบ

“บอกมาเถอะ เจ้ามีข้อเรียกร้องอะไร?”

คุนอวิ๋นสีหน้าคร่ำเคร่ง เขารู้ว่าจ้าวเฟิงตั้งใจพูดแบบนี้

ทว่าเขาตรวจสอบเลือดเนื้อวัวคลั่งพสุธาทลาย สามารถประเมินพลังของวัวคลั่งตัวนี้ ไม่ใช่จะต่อกรได้ง่ายๆ เลย

“วังเก้านิรย!”

จ้าวเฟิงพูดออกมาทันใด

“นี่มันเป็นไปไม่ได้ ต่อให้เป็นข้าในยามที่รุ่งเรืองที่สุด คิดอยากจะต่อกรกับวังเก้านิรยก็ไม่อาจทำได้!”

คุนอวิ๋นรีบปฏิเสธ

ยามอยู่ในสนามรบ เขาก็เคยได้ยินถึงความขัดแย้งของจ้าวเฟิงกับวังเก้านิรย

ตามที่เขารู้มา วังเก้านิรยเคยเป็นสำนักศักดิ์สิทธิ์สี่ดาว ในยามนี้ตกลงมาเป็นสามดาว แต่ในสำนักมีครึ่งเทพรักษาการณ์อยู่

กว่าคุนอวิ๋นจะมีโอกาสฟื้นคืนชีพได้ก็ยากยิ่ง หากตอนนี้เป็นศัตรูกับวังเก้านิรย จะไม่เป็นการผลักตัวเองเข้าสู่กองไฟหรอกรึ

คุนอวิ๋นก็นึกนับถือ จ้าวเฟิงช่างหาเรื่องได้ดีจริงๆ ในตอนนั้นขัดแย้งกับจักรพรรดิแห่งความตายยังนับว่าดี ยามนี้ล่วงเกินวังเก้านิรยที่มีครึ่งเทพรักษาการณ์เสียอีก

“ก็ไม่ได้ให้เจ้าไปทำลายวังเก้านิรย เจ้าเพียงช่วยข้าในช่วงเวลาสำคัญเท่านั้น ข้าจะมอบทรัพยากรที่มีค่าเท่ากันให้ตามคุณูปการของเจ้า!”

จ้าวเฟิงพูดความคิดของตนออกไป

เช่นนี้แล้วก็ไม่ต้องกลัวคุนอวิ๋นจะซ่อนแผนการอะไร เพื่อให้ได้เลือดเนื้อวัวคลั่งพสุธาทลายมากขึ้นอีก คุนอวิ๋นจะต้องช่วยจ้าวเฟิงอย่างสุดกำลังแน่

ก่อนหน้านี้ทั้งสองคนเคยทำงานร่วมกัน ต่างฝ่ายต่างเข้าใจกันในระดับหนึ่ง

“ตกลงตามนั้น!” คุนอวิ๋นหยุดคิดชั่วขณะ ก่อนตอบตกลง

ภายใต้สถานการณ์ที่ไม่ได้ไปยั่วโทสะครึ่งเทพของวังเก้านิรย ช่วยจ้าวเฟิง ได้รับทรัพยากร นี่ไม่ใช่ปัญหาเลยสักนิด

แค่เพียงครึ่งเทพของวังเก้านิรยลงมือ คุนอวิ๋นไม่ต้องช่วยจ้าวเฟิงก็ได้แล้ว

“เก็บนี่ไว้ ในยามที่พบกับปัญหาก็บรรจุพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับลงไป!”

คุนอวิ๋นโยนป้ายสี่เหลี่ยมโบราณมาหนึ่งป้าย

อย่างไรคุนอวิ๋นก็ไม่อาจอยู่ข้างกายจ้าวเฟิงและคอยเป็นผู้คุ้มกันให้ได้ตลอดเวลา

ตอนนี้คุนอวิ๋นวาดหวังเอาไว้ ให้จ้าวเฟิงไปที่ไหนก็เจอเรื่องยุ่งยากที่นั่น

จากนั้น คุนอวิ๋นก็จากที่นี่ไปอย่างรีบร้อน

“ปราณกับแก่นสำคัญของเลือดเนื้อพวกนี้กับพลังสายเลือด สามารถทำให้สายเลือดในกายของข้าตื่นขึ้นอีกขั้น ทั้งยังมีกลิ่นอายบรรพกาลดั้งเดิม…”

หลังจากคุนอวิ๋นจากไปแล้ว พวกจ้าวหยูเฟย หนานกงเซิ่ง และตวนมู่ชิงมาหาจ้าวเฟิงเพื่อถามถึงเรื่องนี้

เรื่องที่ตกลงแล้วจ้าวเฟิงให้อะไรคุนอวิ๋นไป ทุกคนล้วนถามอย่างไม่ได้นัดหมาย จ้าวเฟิงเพียงแค่บอกว่าเป็นทรัพยากรจำพวกเดียวกับโอสถเลือดบริสุทธิ์และยาชำระเลือดบริสุทธิ์

แน่นอน วัวคลั่งพสุธาทลายหนึ่งตัวสามารถหลอมยาแบบนี้ออกมาได้มากน้อยเท่าไหร่ จ้าวเฟิงก็ไม่รู้เช่นกัน

ต่อจากนั้น จ้าวเฟิงก็เข้าสู่สภาวะปิดด่าน ไม่พบผู้อื่น

“พี่เฟิง สู้เขา!”

จ้าวหยูเฟยพูดก่อนจาก

นางก็รู้ดี จ้าวเฟิงในยามนี้เผชิญหน้ากับศัตรูเช่นไร

นอกจากนั้น ตัวจ้าวหยูเฟยเองก็เช่นกัน หากนางแข็งแก่งมากเพียงพอ ก็จะไม่มีอะไรมาพันธนาการนางได้ ราชวงศ์ก็ไม่อาจทำได้ ดังนั้นนางต้องฝึกฝนอย่างหนัก และยกระดับพลังขึ้น

ในตำหนักลับ ตาซ้ายของจ้าวเฟิงกวาดมอง เมื่อไม่พบสิ่งผิดปกติใดๆ ถึงหลับตาลง

ฟู่! ไม่นาน จ้าวเฟิงก็สัมผัสตำแหน่งขององค์ชายสิบสามได้

ก่อนหน้าที่คุนอวิ๋นจะมา จ้าวเฟิงลงดวงตาเทพจับเป้าหมายเอาไว้บนร่างขององค์ชายสิบสามแล้ว

……

บนยอดเขาที่ทอดตัวเป็นแนวยาว องค์ชายสิบสามมีสีหน้าเคร่งเครียด กลับมายังฐานที่มั่นของตนพร้อมกับสมาชิกกองกำลัง

“ตอนนี้หยูเฟยไม่อยู่ ข้าจะแจ้งไปยังตำหนักรบมณฑลหลาน ขอให้ส่งกำลังรบเซียนมาเพิ่ม!”

องค์ชายสิบสามพูดอย่างขุ่นเคือง

“เซียนเฮยเถี่ย วังเก้านิรยคงจะไม่เกรงกลัวคุนอวิ๋นที่ขอบเขตพลังเป็นเพียงแค่เทวาเร้นลับชั้นสูงกระมัง!”

องค์ชายสิบสามส่งกระแสจิตงถาม

“เรื่องนี้ข้าจะแจ้งไปยังผู้นำระดับสูงก่อน!”

เซียนเฮยเถี่ยไม่รับการยุยงจากองค์ชายสิบสาม

ในเมื่อคุนอวิ๋นเคยเป็นครึ่งเทพเซียน ถึงแม้ตอนนี้จะเป็นเพียงแค่เทวาเร้นลับชั้นสูง แต่พลังที่แท้จริงลึกล้ำเกินจะหยั่งถึง

ยามนี้คุนอวิ๋นเหมือนจะถูกจ้าวเฟิงใช้ผลประโยชน์อะไรสักอย่างล่อใจ ทั้งสองร่วมมือกันชั่วคราว ผลประโยชน์ที่สามารถดึงดูดใจคุนอวิ๋นได้ วังเก้านิรยไม่มีทางเมินเฉยไปเช่นนี้แน่นอน

“ใครกัน?”

เซียนเฮยเถี่ยสัมผัสได้ถึงคลื่นจิตวิญญาณอันเลือนราง รีบเงยหน้าขึ้นทันใด

ฝีเท้าของเซียนเฮยเถี่ยพลันหยุดลง ใบหน้าเคร่งเครียด

เห็นเพียงเหนือกองกำลังทหารขององค์ชายสิบสาม ไม่รู้ว่าเมื่อใดที่มีเนตรสวรรค์สีทองอ่อนข้างหนึ่งปรากฏขึ้นบนท้องฟ้า บนนั้นโอบล้อมด้วยวายุอัสนีหลากสี เย็นชาไร้เมตตา มองลงมาจากข้างบนราวขนานกับฟ้าดิน

สมาชิกทั้งหลายของกองกำลังทหารตกใจจนหน้าซีด ภายใต้ความหวาดหวั่นอย่างไร้สาเหตุ พวกเขาจับจ้องไปยังเบื้องบนอย่างเงียบงัน

“ดวงตาข้างนี้ นี่คือดวงตาสีทองของจ้าวเฟิง!”

องค์ชายสิบสามร้องออกมาทันใด

“หึ จ้าวเฟิง เจ้าคิดจะทำอะไร?”

องค์ชายสิบสามยืดอกขึ้น ตะโกนเสียงดัง

องค์ชายสิบสามคิดว่าจ้าวเฟิงแอบติดตามมาโดยตลอด ตอนนี้ไม่แน่ว่าอาจจะซ่อนอยู่ที่ไหนสักแห่ง แล้วใช้วิชาดวงตาที่ไม่รู้ชื่อนี่ข่มขู่เขา

“เขตแดนคุกมายา!”

เสียงลึกลับเย็นเยือกดังขึ้นในชั้นจิตวิญญาณ

วู้ม ฟิ้ว!

ในดวงตาสีทองอำพันใหญ่ยักษ์ แปรเปลี่ยนเป็นโลกเขาวงกตสีม่วงทองนับไม่ถ้วน แผ่กระจายแรงดึงดูดถึงแก่ชีวิตกลุ่มหนึ่งออกมา

“องค์ชายสิบสาม ระวัง!” เซียนเฮยเถี่ยร้องเตือนทันใด

องค์ชายสิบสามหวาดกลัว เขาคิดไม่ถึงว่าจ้าวเฟิงจะบังอาจถึงเพียงนี้ กล้าลงมือกับเขา ในมือขององค์ชายสิบสามมีหยกประดับมังกรทองชิ้นหนึ่งปรากฏขึ้นทันที

แต่ยังไม่ทันรอให้เขากระตุ้นพลังของหยกประดับชิ้นนี้ ตาทั้งสองข้างของเขาก็ถูกเนตรสวรรค์สีทองอ่อนบนทองฟ้าดึงดูด วิญญาณถูกกักขังไว้ในมิติมายาอีกแห่ง ตัดขาดจากกายอย่างสิ้นเชิง

การโคจรเนตรสวรรค์สำแดงวิชาสายเลือดดวงตา สามารถเพิ่มพลังของวิชาดวงตา ด้วยขั้นของจ้าวเฟิงในตอนนี้ จะใช้เขตแดนคุกมายาควบคุมองค์ชายสิบสามนั้นง่ายแสนง่าย

แน่นอน เขตแดนคุกมายาของจ้าวเฟิงคือวิชาดวงตาที่มีเป้าหมายเป็นกลุ่ม คนทั้งหมดในที่นี้ล้วนได้รับผลกระทบจากวิชา ส่วนองค์ชายสิบสามคือเป้าหมายหลักของจ้าวเฟิง

“จ้าวเฟิง ทำร้ายองค์ชายแห่งราชวงศ์ ครั้งนี้เจ้าตายแน่!”

ในฐานะที่เป็นสมาชิกวังเก้านิรย เซียนเฮยเถี่ยกำลังกลุ้มใจที่ไม่มีวิธีสร้างปัญหาให้จ้าวเฟิง

แต่ยามนี้จ้าวเฟิงเป็นฝ่ายเริ่มลงมือกับองค์ชายเชื้อพระวงศ์ ราชสำนักไม่มีทางปล่อยจ้าวเฟิงไปแน่ ตำหนักไท่หวงก็จะไม่หยุดยั้งวังเก้านิรย กระทั่งจะเป็นฝ่ายสังหารจ้าวเฟิงเสียเอง

เซียนเฮยเถี่ยต้านทานวิชาสายเลือดดวงตาของจ้าวเฟิงอย่างสุดกำลัง ขณะเดียวกัน มือของเขาก็ปรากฏป้ายส่งข่าว

จ้าวเฟิงสำแดงวิชาสายเลือดดวงตากับผู้แข็งแกร่งสามสี่สิบคนพร้อมกัน ดังนั้นเซียนเฮยเถี่ยจึงยังมีพลังต้านทานอยู่บ้าง

แต่ในเสี้ยวขณะต่อมา แสงเลือนรางเย็นเยือกชวนขนลุกสายหนึ่งทะลุผ่านหน้าอกของเขาไป

“เป็นไปได้อย่างไร…”

แสงวนพลังศักดิ์สิทธิ์ในกายเซียนเฮยเถี่ยได้รับบาดเจ็บสาหัส เจ็บปวดไปทั่วสรรพางค์กาย แสงศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับไม่อาจขับเคลื่อนได้ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการใช้ป้ายส่งข่าวเลย

เมี้ยว เมี้ยว!

แมวขโมยน้อยปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศ จากนั้นกะพริบวูบวาบแล้วหายไป

“เพลิงวายุอัสนีเนตรเทพเจ้า!”

เนตรสวรรค์สีทองอ่อนบนท้องฟ้าเล็งที่เซียนเฮยเที่ยไว้แม่น ก่อนจะปลดปล่อยวิชาดวงตาโจมตีที่แข็งแกร่ง

ครืน บึ้ม!

ชั่วพริบตา ทั่วทั้งกายศักดิ์สิทธิ์ของเซียนเฮยเถี่ยมีเพลิงเนตรวิญญาณสีม่วงลุกไหม้ขึ้น ตราอัสนีเทวะในนั้น พลุ่งพล่านอย่างบ้าคลั่ง สังหารทุกสรรพสิ่ง

ฟิ้ว ฟิ้ว!

ในยามนี้เอง แมวขโมยน้อยสร้างบาดแผลถึงแก่ชีวิตนับไม่ถ้วนไปที่จุดตายบนร่างกายเซียนเฮยเถี่ย

สุดท้ายเซียนเฮยเถี่ยก็ตายลงภายใต้การร่วมมือกันของจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อย วิญญาณสูญสลาย

ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ในกองกำลังยังอยู่ในการควบคุมโดย ‘เขตแดนคุกมายา’ ของจ้าวเฟิง แต่ละคนดวงตาเหม่อลอย ยืนนิ่งอยู่กับที่

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!