บทที่ 1063 ราชาเซียนมาเยือน
“แมวขโมยน้อย ต่อไปทั้งหมดก็ฝากเจ้าด้วย!”
เสียงของจ้าวเฟิงดังขึ้นที่ชั้นวิญญาณของแมวขโมยน้อย
เหมียว เหมียว!
แมวขโมยน้อยกวัดแกว่งกริชจักรพรรดิเงาสังหารในมือ แปรเปลี่ยนเป็นเส้นสีเงินหม่น กะพริบแล้วหายไป
ฉัวะ ฉัวะ!
คมมีดเงาทมิฬที่เย็นเยียบ ทะลุผ่านระหว่างสมาชิกกองกำลังทหารอย่างเร็วรี่
ผู้แข็งแกร่งที่ไม่ถึงขั้นเซียน เมื่ออยู่ต่อหน้าเเมวขโมยน้อยแล้วแทบจะสิ้นลมในการโจมตีเดียว
ฉึก ฉัวะ!
กริชอัศจรรย์ที่เย็นเยียบดุจเงา แทงทะลุหัวใจองค์ชายสิบสาม
องค์ชายสิบสามสิ้นชีพไปอย่างสงบเช่นนี้
“ทำลายศพลบร่องรอย!”
เสียงของจ้าวเฟิงดังขึ้นอีกครั้ง จากนั้น ดวงตาสีทองอำพันกลางท้องฟ้าก็ค่อยๆ เลือนหาย
หลังจากที่จัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว แมวขโมยน้อยก็อำพรางกายหายวับไป
……
ในตำหนักลับ จ้าวเฟิงลืมตาทั้งสองข้างขึ้น
“ในที่สุดก็ตายเสียที!” จ้าวเฟิงถอนหายใจยาว
หากพวกเซียนเฮยเถี่ยกับองค์ชายสิบสามรู้ว่าจ้าวเฟิงยังอยู่ที่ฐานที่มั่นในเมือง ไม่รู้ว่าจะตกใจกันเพียงใด แต่ว่าพวกเขาไม่มีทางรู้ไปตลอดกาล
“น่าจะไม่มีทางถูกเจอ!”
ก่อนจะลงมือ จ้าวเฟิงมองทุกอย่างครบถ้วนแล้วผ่านเนตรสวรรค์
ในตอนนั้น ทั่วทั้งหลายหมื่นลี้ไม่มีกองกำลังทหารอื่น อีกทั้งในกองกำลังขององค์ชายสิบก็ไม่มีใครส่งข่าวออกไป
แต่ว่าเหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือคนยังมีคน ไม่แน่ว่าบางทีผู้แข่งแกร่งตำแหน่งเทพอาจเจอร่องรอย หรือนักทำนายเช่นปราชญ์ลิ่วอูอาจทำนายอะไรออกมาได้
ทว่าในช่วงเวลาอันสั้น ไม่มีใครรู้ว่าจ้าวเฟิงสังหารองค์ชายสิบสาม
ดังนั้นจ้าวเฟิงต้องถือโอกาสนี้ยกระดับพลัง
ยังมีอีกด้านหนึ่ง ถึงแม้คุนอวิ๋นจะตกปากช่วยจ้าวเฟิง นั่นก็เป็นเพราะเขาในตอนนั้นไม่แน่ใจว่าจะสังหารจ้าวเฟิงได้
หากจ้าวเฟิงมอบทรัพยากรให้กับคุนอวิ๋นไม่ขาดสาย พลังของตนไม่ยกระดับ เขาเชื่อว่าหลังจากที่คุนอวิ๋นฟื้นฟูพลังขั้นสุดยอดแล้ว สุดท้ายจะต้องลงมือกับตน
ดังนั้นถ้าคิดอยากจะปกป้องตนเอง มีชีวิตรอดต่อไป จ้าวเฟิงจะต้องยิ่งขยันฝึกฝนยกระดับพลัง
พรึ่บ! จ้าวเฟิงมายังมนตราอากาศทันที ทรัพยากรล้ำค่าบรรพกาลบางชนิดปรากฏขึ้นในมือ ในนั้นมีหินแร่และวัตถุดิบยาธาตุดินมากมาย ทั้งหมดล้วนเป็นสินสงครามหลังจากที่เอาชนะเผ่าพันธุ์วัวคลั่งพสุธาทลายได้แล้ว
วัตถุดิบยาและหินแร่ในห้วงฝันบรรพกาล มีประโยชน์ต่อจ้าวเฟิงในการฝึกฝนวายุอัสนีธาตุดินเป็นอย่างมาก ด้วยทรัพยากรล้ำค่าที่จ้าวเฟิงใช้ไปในช่วงนี้ เขาสามารถฝึกวายุอัสนีธาตุดินจนถึงระดับต่ำได้ตั้งนานแล้ว
แต่จ้าวเฟิงกลับยั้บยั้งเอาไว้มาโดยตลอด และเพิ่มความแข็งแกร่งให้พลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับที่ก่อเกิดจากวายุอัสนีธาตุดินไม่หยุด ถึงแม้จะอยากยกระดับพลัง แต่จะใจร้อนไปไม่ได้
ไม่นานเท่าใดนัก แมวขโมยน้อยก็มุดกลับมาในมนตราอากาศ
เมี้ยว เมี้ยว!
แมวขโมยน้อยรายงานสถานการณ์ต่อจ้าวเฟิง อีกทั้งเรียกร้องค่าตอบแทน
“พลังของเจ้าเหมือนว่าจะพัฒนาไปไม่น้อยเลย!”
จ้าวเฟิงเอ่ยขึ้น
ในช่วงระยะนี้ ทรัพยากรที่แมวน้อยใช้ไปก็มากมายนัก ในขณะเดียวกัน จ้าวเฟิงก็เห็นการแปรสภาพของมันกับตา
แมวขโมยน้อยไม่มีข้อติดขัดใดๆ พลังที่แท้จริงค่อยๆ เพิ่มขึ้นตามทรัพยากรที่กินเข้าไป พัฒนาขึ้นช้าๆ เพราะว่าเพิ่งจะยึดฐานที่มั่นของฝ่ายศัตรูมาได้แห่งหนึ่ง ดังนั้นจึงไม่มีการเคลื่อนไหวชั่วคราว
ดังนั้นจ้าวเฟิงและแมวขโมยน้อยจึงอยู่ในมนตราอากาศตลอด ใช้ทรัพยากรบรรพกาลล้ำค่าที่เยี่ยมยอด ฝึกฝนยกระดับพลังอย่างต่อเนื่อง
ส่วนความสามารถลอกเลียนแบบของลูกทรงกลมสีทองลึกลับ ก็ทำให้จ้าวเฟิงได้รับทรัพยากรบางชนิดไม่ขาดสาย เพียงแต่ทรัพยากรที่เหมือนกัน กินมากเกินไปสรรพคุณยาก็จะลดลง
สิบวันหลังจากนั้น ข่าวการตายขององค์ชายสิบสามที่สนามรบก็แพร่สะพัดออกไป
ในตำหนักรบมณฑลหลาน เซียนขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูงและสมาชิกราชวงศ์หลายคนมาถึงแนวหน้าของสนามรบเพื่อดำเนินการตรวจสอบด้วยตนเอง
จากคำให้การของสมาชิกในเขตสนามรบขององค์ชายสิบสาม หลังจากไปยังเขตสนามรบที่องค์ชายเก้าอยู่ องค์ชายสิบสามก็ไม่ได้กลับมาอีกเลย
อีกทั้งก่อนที่กองกำลังทหารขององค์ชายสิบสามจะเกิดเรื่อง ยังรวมตัวอยู่กับกองกำลังขององค์ชายเก้า สมาชิกขององค์ชายเก้าจึงกลายเป็นเป้าหมายการสอบสวนที่สำคัญ
แต่ในกองกำลังทหารขององค์ชายเก้ามีสมาชิกระดับสูงของตำหนักไท่หวง นั่นคือเซียนเกาหวง
เหตุการณ์ที่กองกำลังทหารขององค์ชายสิบสามถูกสังหารทั้งหมด จึงไม่มีทางเป็นฝีมือของฝ่ายองค์ชายเก้า
นอกจากนั้น บุญคุณความแค้นระหว่างจ้าวเฟิงและองค์ชายสิบสาม เมื่อตรวจสอบก็รู้ได้ว่า หากจ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งสองคนร่วมมือกัน ก็มีโอกาสสังหารกองกำลังทหารขององค์ชายสิบสามได้
“ในวันนั้นหนานกงเซิ่งและจ้าวเฟิงไม่ได้ออกไปไหน!”
เซียนเกาหวงเอ่ยขึ้น เขาไม่ได้เข้าข้างจ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่ง เพียงแต่บอกความจริงเท่านั้น
“แต่ว่าวันนั้นผู้อาวุโสคุนอวิ๋นมาที่นี่!”
ในกองกำลัง จักรพรรดิชั้นยอดผู้หนึ่งพูดขึ้นเสียงเบา
“คุนอวิ๋น!” หลายคนจากตำหนักรบมณฑลหลานกล่าวพึมพำ
หากเป็นครึ่งเซียนคุนอวิ๋นในอดีตก็มีความสามารถนี้จริงๆ สังหารเทวาเร้นลับชั้นต้น และสังหารผู้แข็งแกร่งทั่วไปได้ในพริบตา
ทว่าเหตุใดครึ่งเซียนคุนอวิ๋นจึงต้องสังหารกองกำลังทหารขององค์ชายสิบสามเล่า?
เซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงจากตำหนักรบมณฑลหลานและสมาชิกเชื้อพระวงศ์ไปจากเมืองขององค์ชายเก้าด้วยความสงสัยเช่นนั้น จากนั้นสืบสวนเรื่องนี้ต่อไป เช่นเดียวกัน เหตุการณ์ที่กองกำลังขององค์ชายสิบสามถูกสังหารสิ้น ก็ไม่อาจตัดออกไปได้ว่าเป็นการกระทำของต่างเผ่าพันธุ์
หลังจากที่คนของตำหนักรบมณฑลหลานจากไปแล้ว จ้าวเฟิงกลับมายังในตำหนักของตนทันที แล้วปิดด่านฝึกฝนต่อ
คนพวกนี้ตรวจสอบมาไม่ถึงตนก็เป็นเรื่องที่ดี สำหรับคุนอวิ๋น จ้าวเฟิงขี้เกียจจะสนใจ เชื่อว่าก็คงไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับเขาเช่นกัน
“คิดไม่ถึงเลยว่าน้องสิบสามจะถูกสังหาร!”
ในใจขององค์ชายเก้าตกใจสงสัย
สำหรับเขาแล้ว นี่นับว่าเป็นข่าวดี ในขณะเดียวกันเขาก็อยากจะรู้ เป็นผู้ใดกันที่รู้ร่องรอยความเคลื่อนไหวขององค์ชายสิบสาม อีกทั้งทำให้ทั้งกองกำลังทหารถูกสังหารสิ้น โดยที่แม้กระทั่งข่าวก็ยังไม่ทันถูกส่งออกไป
ที่สนามรบ ข่าวกองกำลังทหารขององค์ชายสิบสามถูกล้างบางแพร่สะพัดไปในชั่วพริบตา ในราชวงศ์แห่งดินแดนทวีปก็เกิดคลื่นความโกลาหล
ต้องรู้ว่า สมาชิกในกองกำลังขององค์ชายสิบสามล้วนเป็นผู้นำระดับสูงหรืออัจฉริยะชั้นยอดของขั้วอำนาจใหญ่ทั้งหลาย และยิ่งไปกว่านั้น เซียนเฮยเถี่ยยังเป็นถึงผู้อาวุโสของวังเก้านิรย
ขั้วอำนาจเบื้องหลังองค์ชายสิบสามก็ยิ่งใหญ่ที่สุดในบรรดาองค์ชายทั้งหลาย
จักรพรรดิศักดิ์สิทธิ์และฮองเฮาองค์ปัจจุบัน หลังจากที่ได้รู้ข่าวนี้แล้วก็ยิ่งเเค้นเคืองเป็นอย่างยิ่ง ส่งผู้แข็งแกร่งเชื้อพระวงศ์ทั้งหลายมุ่งหน้าไปยังเเนวหน้าเพื่อสืบสวนเรื่องนี้…
ดังนั้น กำลังรบที่แข็งแกร่งจึงมายังสนามรบไม่ขาดสาย
ส่วนต่างเผ่าพันธุ์สัมผัสได้ว่าสนามรบฝั่งมนุษย์จู่ๆ ก็เพิ่มกำลังทหาร ถึงเรียกรวมตัวผู้แข็งแกร่งมายังสนามรบเพิ่มมากขึ้นเช่นกัน สงครามยิ่งดุเดือดกว่าเดิม
นอกจากนั้น ผู้นำระดับสูงของตำหนักรบมณฑลหลานก็มาหาคุนอวิ๋น แต่ไม่ได้ข้อสรุปอะไร
ส่วนคุนอวิ๋น เพราะเลือดเนื้อจากวัวคลั่งพสุธาทลายที่จ้าวเฟิงมอบให้ พลังจึงได้รับการยกระดับขึ้น เขาเข้าไปในเขตสงคราม สังหารต่างเผ่าพันธุ์จำนวนมากมาย ทำให้ฝั่งต่างเผ่าพันธุ์โกรธแค้นเป็นอย่างมาก
ในที่สุด กำลังรบขั้นราชาเซียนก็ปรากฏตัวที่สนามรบอีกครั้ง!
……
ฐานที่มั่นขององค์ชายเก้า
ยามนี้ กองกำลังทหารมนุษย์เบื้องหลังมารวมกันอยู่ที่นี่เกือบหมดแล้ว
“บุกไปข้างหน้าต่อ!”
องค์ชายเก้าบัญชาทันใด
และหลังจากนั้น ทุกคนเริ่มลงสู่เขตสนามรบทุกที่ จ้าวเฟิงและจ้าวหยูเฟยกองหนึ่ง ไม่ได้นำสมาชิกคนใดเลย ตวนมู่ชิงเข้าร่วมกับกองกำลังย่อยขององค์ชายเก้า คอยคุ้มครององค์ชาย ส่วนหนานกงเซิ่งเคลื่อนไหวเพียงลำพัง
ต่างเผ่าพันธุ์ในฐานที่มันเบื้องหน้าเตรียมการป้องกันไว้นานแล้ว ส่งเซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงมาผู้หนึ่ง เซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงผู้นี้มาเจอกับหนานกงเซิ่งพอดี ภายใต้การประมือของทั้งสอง เซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงของต่างเผ่าพันธุ์หนีไปอย่างน่าอเนจอนาถ!
คนทั้งหลายบุกตรงไปข้างหน้า เรียกได้ว่าไร้เทียมทานยิ่งนัก เวลาเพียงไม่กี่เดือนก็ยึดครองฐานที่มั่นได้อีกครั้ง
ยึดครองฐานที่มั่นได้สองแห่งติดต่อกัน ผลงานการรบของจ้าวเฟิงและหนานกงเซิ่งผงาดขึ้นในชั่วพริบตา คะแนนของหนานกงเซิ่งกระโดดขึ้นไปอยู่หนึ่งพันอันดับแรกในรายชื่อผลงานการรบมณฑลหลาน ส่วนจ้าวเฟิงกลับมาอยู่ในอันดับสามอีกครั้ง
ในมนตราอากาศ จ้าวเฟิงโคจร ‘หมื่นห้วงคิดเซียน’ แบ่งหนึ่งใจใช้หลากหลาย
จากการฝึกฝนหลายเดือน ภายใต้กองทรัพยากรห้วงฝันบรรพกาลจำนวนมาก วายุอัสนีธาตุดินขั้นที่เก้าใน ‘วิชาวายุอัสนีห้าธาตุ’ ก็ฝึกฝนจนถึงขอบเขตพลังระดับต่ำ
กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่หกก็พัฒนาไปอย่างมาก ห่างจากระดับต่ำเพียงแค่ก้าวเดียวเท่านั้น เพียงแต่ถูกจ้าวเฟิงยับยั้งมาโดยตลอด
ด้านพลังวิญญาณพัฒนาไปค่อนข้างช้า ถึงอย่างไรในห้วงฝันบรรพกาลก็มีวัตถุดิบล้ำค่าที่เกี่ยวกับชั้นวิญญาณมีน้อยมาก
จ้าวเฟิงใช้ลูกทรงกลมสีทองลึกลับลอกเลียนแบบ ‘หญ้ารวมจิตหลอมวิญญาณ’ วัตถุดิบล้ำค่าบรรพกาลชนิดนี้มาตลอด แต่ต่อให้เป็นวัตถุดิบยาที่ล้ำค่าสักเพียงใด กินซ้ำๆ สรรพคุณยาก็จะลดลงมาก
“หากพลังวิญญาณของข้าถึงเทวาเร้นลับชั้นสูง บางทีอาจลองลอกเลียนแบบศรสังหารเทพชั้นรองได้!”
จ้าวเฟิงเอ่ยคาดเดา
แน่นอนว่าจ้าวเฟิงก็ไม่แน่ใจ ต่อให้สามารถลอกเลียนแบบได้ การเผาผลาญพลังก็สามารถทำให้จ้าวเฟิงอ่อนแอในชั่วพริบตา
สรุปแล้ว จ้าวเฟิงมีเป้าหมายชั่วคราวก็คือยกระดับพลังจนถึงขั้นลอกเลียนแบบศรสังหารเทพชั้นรองได้ ศรสังหารเทพชั้นรองสามารถสร้างบาดแผลถึงแก่ชีวิตที่น่ากลัวนักให้กับเซียนเทวาเร้นลับชั้นสูงได้ สำหรับราชาเซียนก็มีผลสยบในระดับหนึ่ง
และในยามนี้ ศรสังหารเทพชั้นรองในมือของจ้าวเฟิงเหลือเพียงดอกสุดท้ายแล้ว ดังนั้นจึงไม่อาจใช้ได้
หากใช้ศรสังหารเทพชั้นรองดอกนี้ไปแล้ว เช่นนั้นในวันหน้าจ้าวเฟิงจะลอกเลียนแบบอย่างไร!
ทันใดนั้น จ้าวเฟิงถูกรบกวนจากโลกภายนอก จึงออกจากมนตราอากาศ
ชั่วพริบตา พลังเสวียนอ้าวกฎเกณฑ์ที่น่ากลัวกดอัดมารอบกาย
“พลังชนิดนี้ หรือว่าจะเป็นราชาเซียน?”
ใจจ้าวเฟิงตื่นตระหนก รีบทะยานออกมาทันใด
เห็นเพียงบนท้องฟ้า เซียนเผ่าพันธุ์มนุษย์ปลาผู้หนึ่งของต่างเผ่าพันธุ์สู้รบอยู่กับหนานกงเซิ่ง จ้าวหยูเฟย และเซียนเกาหวง
ที่นี่คือฐานที่มั่นซึ่งองค์ชายเก้าเพิ่งยึดครอง กองกำลังทหารอื่นในเขตสงครามนี้ก็มุ่งมารวมกันที่นี่ นอกจากเซียนหลายคนในกองกำลังทหารขององค์ชายเก้าแล้ว ยังมีเซียนอีกสามคนอยู่ที่นี่ด้วย
แต่เซียนทั่วไปไม่มีทางเข้าไปในสนามรบที่มีราชาเซียนได้
“คิดไม่ถึงเลยว่าจะดึงดูดราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์มาได้เร็วเช่นนี้!”
จ้าวเฟิงรู้สึกถึงความหนักหน่วง ราชาเซียนผู้นี้คือราชาเซียนเสี้ยวเทียน (คำรามฟ้า) ของตำหนักรบต่างเผ่าพันธุ์
อาจเป็นเพราะก่อนหน้านี้ เซียนหมื่นปรากฏการณ์และเซียนท่าเทียนถูกทุกคนโจมตีจนพ่ายแพ้ หลังจากนั้นเซียนต่างเผ่าพันธุ์อีกผู้หนึ่งก็ถูกหนานกงเซิ่งเอาชนะได้เพียงลำพังอีก ต่างเผ่าพันธุ์ถึงเริ่มให้ความสำคัญกับเขตสงครามที่องค์ชายเก้าอยู่
ครืน บึ้ม!
จากการโจมตีกฎเกณฑ์พลังที่มาพร้อมด้วยความน่าหวาดกลัว เซียนเกาหวง หนานกงเซิ่ง และจ้าวหยูเฟยพ่ายแพ้ลง
“ถอยทัพ ถอยทัพทันที!” เซียนเกาหวงรีบพูดทันใด
ระหว่างเซียนและราชาเซียนมีระยะห่างราวฟ้ากับเหว
ไม่เหมือนกับระหว่างเทวาเร้นลับชั้นต้นและเทวาเร้นลับชั้นสูง
หนานกงเซิ่งสามารถเอาชนะเซียนเทวาเร้นลับได้เพียงลำพัง แต่ในยามนี้สามคนร่วมมือกัน กลับห่างชั้นจนไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของราชาเซียนเสี้ยวเทียนได้เลย
“ทั้งหมดถอยออกไป!”
องค์ชายเก้ารีบบัญชา เพียงความคิดเดียวของราชาเซียนเสี้ยวเทียน ก็สามารถสังหารผู้แข็งแกร่งขั้นเซียนลงได้ พวกเขาอยู่ที่นี่ล้วนไม่มีประโยชน์อะไร ก็เป็นการไปตายเท่านั้น
ฟู่ ครืน ครืน!
จ้าวเฟิงโคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ สำแดงวิชาปีกอัสนีโบยบินบินออกไปทันที
“พวกเจ้าถอยไปก่อน พวกข้าจะต้านทานมันเอาไว้ชั่วขณะ!”
จ้าวเฟิงพูด
เซียนเกาหวงและจ้าวหยูเฟยก็รีบพยักหน้าเช่นกัน ในด้านความเร็ว ทุกคนย่อมสู้ราชาเซียนเสี้ยวเทียนไม่ได้ หากถอยหนีไปเป็นกลุ่ม ทุกคนจะต้องเผชิญหน้ากับการไล่สังหารของราชาเซียน
ดังนั้นต้องมีคนอยู่ที่นี่ ตรึงกำลังราชาเซียนเสี้ยวเทียนเอาไว้
“ต้องโทษที่พวกเจ้ากำเริบเสิบสานมากเกินไป เบื้องบนจึงส่งข้ามากำจัดกำลังรบเซียนของเขตสงครามที่นี่!”
ราชาเซียนอดหัวเราะเยาะไม่ได้
แท้ที่จริงแล้ว ตำหนักรบของพวกเผ่าพันธุ์ครึ่งมนุษย์เบื้องหลังมองเขตสงครามที่องค์ชายเก้าอยู่และคุนอวิ๋นอยู่ในระดับเดียวกัน
สาเหตุไม่ใช่เพียงแค่เขตสงครามขององค์ชายเก้ามีกำลังรบเซียนที่พลังแข็งแกร่งจำนวนมากปรากฏขึ้น สาเหตุที่สำคัญที่สุดในนั้นก็คือ กำลังรบเซียนฝ่ายมนุษย์ที่แข็งแกร่งเหล่านี้มีสายเลือดวิญญาณ และยิ่งมีผู้สืบทอดมรดกพลังเทพปีศาจ
สังหารจ้าวหยูเฟยและหนานกงเซิ่ง คือภารกิจลับของราชาเซียนเสี้ยวเทียนที่เบื้องบนมอบให้!