Skip to content

A World Worth Protecting 275

บทที่ 275 ต้นหอมหมื่นลี้บนดวงจันทร์

ผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นประจำฐานที่มั่นนี้ ส่วนมากออกไปตามล่าเอาชีวิต    หวังเป่าเล่อกันจนหมด เพราะฉะนั้นจึงเหลือเพียงไม่กี่คนประจำการอยู่เบื้องหลัง รวมทั้งผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นชั้นปลายทั้งสองคนเมื่อครู่ด้วย

ขณะนี้จากจำนวนคนทั้งหมดที่หวังเป่าเล่อสังหารไป มีแต่ผู้ฝึกตนที่เป็นพันธุ์กล้าของสหพันธรัฐเช่นเดียวกันกับเขา เหลือรอดมาได้เพียงคนเดียวเท่านั้น

บรรดาผู้ฝึกตนระดับลมหายใจเที่ยงแท้รอบข้างเห็นหวังเป่าเล่อปรากฏตัวขึ้นในสายตา ทุกคนเห็นหวังเป่าเล่อฆ่าผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นอย่างง่ายดายราวกับ       ผักปลา จนความหวาดกลัวเข้าครอบงำจิตใจไปสนิทแล้ว จึงไม่มีใครที่คิดจะออกมา  ขัดขืนด้วยซ้ำ พวกเขาเข้าใจแจ่มแจ้งว่าต่อหน้าคนที่ทรงพลังเช่นหวังเป่าเล่อ ขัดขืนไป     ก็เปล่าประโยชน์ รังแต่จะถูกฆ่าตายเสียเปล่าๆ

ในส่วนของหวังเป่าเล่อ การเข่นฆ่าที่ผ่านมาช่วยสลายความขุ่นมัวในจิตใจไปได้มาก เศษเสี้ยวของความแค้นเดียวที่หลงเหลืออยู่และยังจัดการไม่ได้คือโจวเฟยแห่งตระกูลนภาห้าสมัย

ความเกลียดชังที่หวังเป่าเล่อมีต่อโจวเฟยเป็นรองแค่เพียงหญิงชราขั้นกำเนิดแก่นในเท่านั้น ขณะนี้เมื่อเขายืนอยู่ด้านนอกของสนามเพลาะ มองจ้องเข้าไปในนั้นสลับกับผู้คนรอบตัวเขาที่กลัวจนลนลานอยู่ไม่สุข นัยน์ตาของชายหนุ่มก็พลันส่องประกายขึ้นมาวาบหนึ่ง ก่อนจะหันกลับไปมองยังพันธุ์กล้าของสหพันธรัฐผู้นั้น

“เจ้าชื่ออะไรนะ…หลินกุ้ยซีใช่ไหม เล่ามาบัดนี้ว่าสำนักรุ่งสางจักรพิภพมาที่นี่  เพื่ออะไร และวางแผนทำอะไรกันอยู่ ขอเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างพวกเจ้ากับ   ตระกูลนภาห้าสมัยด้วย

“ข้าไม่อยากฆ่าเจ้า เพราะฉะนั้นบอกข้ามาตามตรงดีกว่า แล้วก็บอกตำแหน่งของฐานที่มั่นของตระกูลนภาห้าสมัยมาด้วย!” หวังเป่าเล่อไม่อ้อมค้อม เขาบอกสิ่งที่เขาต้องการอย่างตรงไปตรงมา

ผู้ฝึกตนระดับลมหายใจเที่ยงแท้ทุกคนได้แต่หลุบศีรษะลงต่ำ ผู้ฝึกตนพันธุ์กล้าของสหพันธรัฐหัวเราะแห้งๆ ก่อนปริปากบอกทุกสิ่งที่เขารู้แก่หวังเป่าเล่อ

สุดท้ายคนฉลาดก็คือคนที่รู้จักปรับตัวให้เข้ากับสถานการณ์ พันธุ์กล้าของสหพันธรัฐแห่งสำนักรุ่งสางจักรพิภพเล่าความลับของสำนักให้หวังเป่าเล่อฟังอย่างหมดเปลือก แถมยังลงรายละเอียดลึกเสียด้วย…

คำตอบที่ได้รับมานั้น ทำให้หวังเป่าเล่อเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างสำนักรุ่งสางจักรพิภพกับตระกูลนภาห้าสมัยและความต้องการของพวกเขาอย่างแจ่มแจ้ง

แถมเขายังเข้าใจถึงลำดับเหตุการณ์และความเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้นในเขตจันทราเวทต่อไปอีกด้วย

มีต้นไม้ยักษ์โบราณต้นหนึ่งฝังอยู่ลึกลงไปใต้พื้นผิวดวงจันทร์ ต้นไม้ต้นนี้ถือกำเนิดขึ้นมาตั้งแต่สมัยบรรพกาล ไม่มีใครรู้ว่ามันกำเนิดขึ้นมาได้อย่างไร ต้นไม้นี้ดูเหมือนว่าจะตั้งตระหง่านอยู่ตั้งแต่วันที่ดวงจันทร์กำเนิดขึ้นมาเลยด้วยซ้ำ

ต้นไม้โบราณได้ผ่านกาลเวลาและผ่านร้อนผ่านหนาวมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นช่วงเวลาที่ปราณวิญญาณยังไม่เข้มข้น หรือกระทั่งช่วงที่ต้นไม้ต้องฝ่าฟันสภาพภูมิอากาศอันไม่เป็นใจของดวงจันทร์ แต่สุดท้ายมันก็ยังเอาชีวิตรอดมาได้ รากของต้นไม้นี้หยั่งลึกและแผ่ไพศาล ครอบคลุมอาณาเขตบนดวงจันทร์เป็นบริเวณกว้างโดยรวมตัวเข้ากับศิลาและดินโคลน ทำให้ยากที่จะรู้สึกถึงการมีตัวตนอยู่ของมัน

สัญญาณการมีอยู่ของต้นไม้นี้เพิ่งจะปรากฏเมื่อไม่กี่ปีก่อน ถึงอย่างนั้นมันก็อยู่บนดวงจันทร์มานานเกินไป เป็นธรรมดาที่มันจะมีอายุขัยจำกัด เพราะฉะนั้น เมื่อต้นไม้เข้าใกล้ความตายและรู้สึกได้ว่าไม่อาจจะรักษาชีวิตตนเองได้อีกต่อไป มันจึงได้ปล่อยเมล็ดพันธุ์ไปบนโลกด้วยหวังจะได้งอกงามขึ้นอีกครั้ง

หากทำสำเร็จ ก็เท่ากับว่ามันได้ค้นพบวิธีที่จะมีชีวิตอันเป็นอมตะแล้ว

ชีวิตอันเป็นอมตะหรือ…หวังเป่าเล่อฟังไปพลาง ก็มีความคิดมากมายผุดขึ้นในใจเขา ในยุคนี้สมัยนี้มีสุภาษิตเกี่ยวกับชีวิตอมตะมากมาย หากย้อนเวลากลับไป ก่อนหน้าการมาถึงของกระบี่สำริดเขียวโบราณ ใครสักคนได้กล่าวไว้ว่ามนุษย์ในยุคแรกต้องสืบพันธุ์เพื่อดำรงเผ่าพันธุ์เอาไว้ เพื่อจะได้มีชีวิตอันเป็นอมตะในที่สุด

คำว่า ‘ชีวิตอันเป็นอมตะ’ สะท้อนอยู่ในใจหวังเป่าเล่อ เขาไม่เคยสนใจเรื่องชีวิตอันเป็นอมตะมาก่อน เพราะสำหรับเขาแล้ว สิ่งที่สำคัญกว่าคือการไล่ตามความฝัน

ขณะที่หวังเป่าเล่อนิ่งคิดอยู่นั้น พันธุ์กล้าของสหพันธรัฐจากสำนักรุ่งสางจักรพิภพคนเดิมก็เล่าต่อไป

ต้นไม้ยักษ์แทบจะรวมเป็นหนึ่งเดียวกับดวงจันทร์ และยังคงเจริญเติบโตต่อไปจนใกล้จะถึงขีดจำกัด มันปล่อยเมล็ดพันธุ์ลงมาบนโลกอีก แต่น่าเสียดายที่ตอนนั้นบนโลกยังไม่มีปราณวิญญาณ รวมถึงสภาพแวดล้อมก็ไม่เป็นใจต่อการเจริญเติบโต ทำให้เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นเหี่ยวเฉาตายไป หรือไม่ก็ยังคงหลับใหลอยู่ หากไม่มีเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝันเกิดขึ้น เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก็คงจะต้องเผชิญกับชะตากรรมเช่นเดียวกับต้นแม่บนดวงจันทร์ คือจะต้องตายไปอย่างช้าๆ

นั่นคือ…ก่อนกระบี่สำริดเขียวโบราณจะปรากฏขึ้น!

นั่นคือ…ก่อนเศษกระบี่จะร่วงหล่นสู่พื้นโลก!

นั่นคือ…ก่อนปราณวิญญาณจะอุบัติขึ้น!

มนุษย์และสัตว์เดรัจฉานทั้งหลายได้รับผลกระทบจากปราณวิญญาณรุนแรงเป็นอย่างยิ่ง เช่นเดียวกันกับต้นไม้และพืชพรรณทั้งหลาย ในบรรดาต้นไม้เหล่านั้น ผู้ที่ได้รับผลกระทบมากที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากเมล็ดพันธุ์ที่ต้นไม้ยักษ์บน      ดวงจันทร์ปล่อยลงมายังโลกมนุษย์เมื่อหลายปีก่อน

เมื่อได้รับสารอาหารจากปราณวิญญาณ เมล็ดพันธุ์เหล่านั้นก็กลายพันธุ์อย่าง    น่าสะพรึงกลัว หลังจากแก่งแย่งอาหารและกลืนกินกันเองแล้ว ก็เหลือเมล็ดพันธุ์เพียงสามเม็ดเท่านั้นที่รอดจนเติบโตเป็นต้นไม้ยักษ์มาได้จนทุกวันนี้ แต่ละต้นต่างก็มีพลังการฝึกตนอยู่ในขั้นกำเนิดแก่นในทั้งสิ้น ทั้งสามต่างระแวดระวังและเกลียดขี้หน้ากันยิ่งกว่าอะไรดี

สามต้นหรือ! รูม่านตาของหวังเป่าเล่อหรี่ลง เขาไม่แน่ใจนักว่าต้นไม้ยักษ์ที่สิงร่างของหวงซานเป็นต้นเดียวกันกับเหตุการณ์ที่แอ่งแผ่นดินเค่อหลุนหรือไม่ หากไม่ใช่ แสดงว่าเขาได้เห็นต้นไม้ยักษ์ถึงสองในสามต้นแล้วด้วยตาของตนเอง!

“ข้าฟังเรื่องทั้งหมดนี้มาจากเหล่าผู้อาวุโสที่ประตูบรรพชนอีกที นอกจากจะ     ฝึกตนจนเติบใหญ่แล้ว อีกวิธีหนึ่งที่ต้นไม้ยักษ์เหล่านี้จะงอกงามได้ก็คือต้องกลืนกินกันเอง เพราะฉะนั้นพวกมันจึงเกลียดกันและกันเป็นอย่างมาก น่าเสียดายที่ต้นไม้    ทั้งสามมีความสามารถพอกัน แต่ต้องคอยระวังตัวเป็นอย่างมาก ด้วยเหตุนี้ก็เลยยัง   ไม่มีต้นใดถูกจับกินไปเสียก่อน

“แต่เพื่อที่จะรุดหน้าในระดับการฝึกตน จนไปจับต้นอื่นมากินให้ได้ พวกมันจึงตัดสินใจยอมผสานร่างตัวเองเข้ากับกายเนื้อของมนุษย์ เพื่อเดินทางเข้ามายัง         เขตจันทราเวท เป้าหมายของพวกมันก็คือ…หาต้นแม่ให้พบ!” พันธุ์กล้าของสหพันธรัฐจากสำนักรุ่งสางจักรพิภพลดเสียงลงเมื่อพูดถึงเหตุผลสำคัญที่ทำให้ต้นไม้ยักษ์ทั้งสามมาอยู่บนดวงจันทร์ได้

ต้นไม้ยักษ์ต้นแม่ที่อยู่ลึกลงไปในพื้นผิวดวงจันทร์นั้นดำรงอยู่มานานและใกล้ตายเต็มทน แม้กระบี่สำริดโบราณจะพุ่งลงมาปักดวงอาทิตย์ จนก่อให้เกิดปราณวิญญาณ ก็ไม่อาจช่วยฟื้นฟูพลังชีวิตของมันให้กลับคืนมาได้ ทว่าก่อนที่ความตายจะมาเยือน ต้นแม่ก็จะออกผลไม้ออกมาลูกหนึ่งก่อน!

ผลไม้ลูกนั้นคือเป้าหมายของลูกๆ ต้นไม้ยักษ์ทั้งสาม หากกลืนกินผลไม้ลูกนั้นแล้ว จะช่วยให้พวกมันบรรลุการฝึกตนขั้นจุติวิญญาณได้เลยทีเดียว!

ถึงกระนั้น หากจะกระตุ้นให้ต้นแม่ออกผลอย่างสมบูรณ์ได้ก็จำเป็นต้องใช้สารอาหารจำนวนหนึ่ง สารอาหารเหล่านั้นจะได้มาจากบรรดาผู้ฝึกตนที่อยู่ใน       เขตจันทราเวท แต่ว่าอีกแหล่งสารอาหารหนึ่งที่สำคัญและจะขาดไปไม่ได้ ก็คือ       ตัวต้นไม้ยักษ์ทั้งสามต้นนั่นเอง

ความตายของต้นไม้ยักษ์หนึ่งต้นจะช่วยกระตุ้นให้ต้นแม่ออกผลมาเร็วขึ้น แต่หากต้นไม้ยักษ์ตายลงสองในสามต้น ต้นแม่ก็จะออกผลไม้เต็มลูกทันที!

ต้นไม้ยักษ์ทั้งสามไม่ได้ปิดบังวัตถุประสงค์นี้จากกลุ่มคนที่พวกมันร่วมมือด้วย ต้นไม้ยักษ์ต้นหนึ่งร่วมมือกับตระกูลนภาห้าสมัย อีกต้นหนึ่งร่วมมือกับสำนักรุ่งสางจักรพิภพ หลังจากที่ทั้งสองกลุ่มตกลงเป็นพันธมิตรกันได้ ต่างกลุ่มต่างก็ให้การสนับสนุนต้นไม้ยักษ์ที่ตนเองร่วมมือด้วย และเริ่มต่อสู้กันในเขตจันทราเวทแห่งนี้!

ต้นไม้ยักษ์ที่แฝงตัวมาปะปนอยู่กับศิษย์จากสี่ยอดสำนักศึกษาเต๋าอย่างหวงซานนับเป็นต้นที่สาม มันถูกสังหารไปแล้วด้วยการร่วมมือระหว่างพันธมิตรทั้งสองกลุ่ม คือตระกูลนภาห้าสมัย สำนักรุ่งสางจักรพิภพ และต้นไม้ยักษ์ที่ทั้งสองกลุ่มให้ความร่วมมือ!

ตอนนี้จึงเหลือต้นไม้ยักษ์อีกเพียงสองในสามต้นเท่านั้น!

จากนั้นตระกูลนภาห้าสมัยและสำนักรุ่งสางจักรพิภพก็พากันจัดตั้งฐานที่มั่นขึ้นมาเป็นจำนวนมาก เพื่อขุดหาต้นแม่ของต้นไม้ใหญ่ที่ตนร่วมมือด้วยให้พบ

ฐานที่มั่นแห่งนี้กำลังดำเนินการขุดค้นหาอยู่ แต่ก็พอจะบอกได้แล้วว่าเส้นทางที่ขุดลงไปไม่ได้นำไปสู่ลำต้นหลักของต้นแม่ เมื่อรู้เช่นนั้น หญิงชราและบรรดาผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในคนอื่น จึงได้ทิ้งที่นี่ไปประจำการยังฐานที่มั่นใหม่แทน

เมื่อเล่ามาถึงช่วงสุดท้าย พันธุ์กล้าของสหพันธรัฐจากสำนักรุ่งสางจักรพิภพคนนั้น     ก็ลดเสียงลงอีกครั้ง

“จากข้อมูลที่ข้าได้ฟังมา ฐานที่มั่นแห่งที่สามของสำนักเราจะนำไปสู่ลำต้นหลักได้ การขุดค้นที่นั่นใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ข้าก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ว่าเหตุใดจึงยังมีคนประจำการอยู่ในฐานที่มั่นอีกสองแห่งที่เหลือ แถมยังมีคำสั่งให้ส่งกำลังเสริมไป   อีกด้วย” เมื่อเขาพูดจบประโยค ก็ส่งตำแหน่งของฐานที่มั่นอีกสองแห่งของสำนัก รวมถึงฐานที่มั่นของตระกูลนภาห้าสมัยที่พวกเขาค้นพบให้กับหวังเป่าเล่อ ท่าทางไม่ได้เป็นเดือดเป็นร้อนเท่าใดนัก

“นี่คือข้อมูลทั้งหมดที่ข้ามี ศิษย์พี่หวัง ข้าไม่ได้ปกปิดสิ่งใดเอาไว้แม้แต่น้อย!      ข้าไม่ได้ต้องการอะไรเลย หากท่านคิดว่าข้อมูลของข้าไร้ประโยชน์ และจะสังหาร     ข้าเสีย ข้าก็ไม่เสียใจ แต่ข้าขอให้ท่านไว้ชีวิตเหล่าศิษย์ระดับลมหายใจเที่ยงแท้เหล่านี้ด้วยเถิด พวกเขาไม่ได้ลบหลู่ท่านแต่อย่างใดเลย!” ว่าแล้วพันธุ์กล้าของสหพันธรัฐจากสำนักรุ่งสางจักรพิภพก็กวาดตามองบรรดาศิษย์ระดับลมหายใจเที่ยงแท้คนอื่นๆ        ที่ยืนนิ่งอยู่รอบตัวเขาด้วยสายตาเศร้าสร้อย ไม่แน่ใจนักว่าเขามีแผนการใดซ่อนไว้หรือไม่ แต่เท่าที่ดูอย่างผิวเผินแล้ว ก็เห็นว่าเขาเพียงแค่ทรยศต่อสำนัก เพื่อจะรักษาชีวิตของสหายร่วมสำนักเท่านั้น

เมื่อจ้องมองไปยังพันธุ์กล้าของสหพันธรัฐตรงหน้าเขา หวังเป่าเล่อก็เข้าใจเจตนาดีของอีกฝ่าย ไม่ได้คิดจะสังหารเขาแต่อย่างใด อย่างไรเสียพันธุ์กล้าคนนี้ก็ร่วมมือ        อย่างเต็มที่ แม้ว่าหวังเป่าเล่อจะยังไม่รู้ว่าพิกัดที่เขาให้มาจะจริงแท้สักเพียงใด         แต่ตำแหน่งฐานที่มั่นของตระกูลนภาห้าสมัยก็ตรงกับที่เขาได้เห็นมาก่อนหน้านี้

หลังจากชั่งน้ำหนักดูแล้ว หวังเป่าเล่อก็สรุปว่าข้อมูลนั้นมีความแม่นยำอยู่บ้าง เขาพยักหน้าเล็กน้อยก่อนจะหันหลังกลับ และออกตัววิ่งไปยังตำแหน่งที่ระบุไว้บนแผ่นหยกทันที

เมื่อเห็นหวังเป่าเล่อจากไปแล้ว สานุศิษย์จากสำนักรุ่งสางจักรพิภพก็ถอนหายใจกันใหญ่โตด้วยความโล่งอก พวกเขารู้สึกราวกับเพิ่งฟื้นกลับมาจากความตาย และพากันขอบคุณพันธุ์กล้าของสหพันธรัฐผู้นั้นด้วยความซาบซึ้ง

หลินกุ้ยซี พันธุ์กล้าของสหพันธรัฐผู้ที่หวังเป่าเล่อเพิ่งสอบปากคำ ก็ถอนหายใจออกมาได้เช่นเดียวกัน เมื่อมองเห็นหวังเป่าเล่อค่อยๆ เคลื่อนที่ห่างออกไป ความรู้สึกมากมายก็ท่วมท้นขึ้นในใจเขา ความทรงจำสมัยเข้าร่วมแผนพันธุ์กล้าหนึ่งร้อยต้นที่เมืองหลวงของสหพันธรัฐผุดขึ้นมาในความคิด

“หมอนั่นเติบโตขึ้นแตกต่างจากพวกเราทุกคนยิ่งนัก…” หลินกุ้ยซีพึมพำกับตัวเอง ชายหนุ่มละสายตามามองไปยังบรรดาสหายร่วมสำนัก ที่กำลังขอบคุณเขาอย่างจริงใจแทน เขารู้สึกภูมิใจขึ้นมาด้วยคิดว่าตนรับมือกับสถานการณ์ได้เป็นอย่างดีทีเดียว

ขณะเดียวกัน หวังเป่าเล่อก็กำลังพุ่งตัดผ่านด้านมืดของเขตจันทราเวทไป      ความเกรี้ยวกราดในสายตาของชายหนุ่มรุนแรงขึ้น เขาไม่เกรงกลัวที่จะตกหลุมพรางใดๆ เพราะอย่างไรเขาก็สามารถใช้ประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายแก้สถานการณ์ได้เสมอ และหากประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายใช้ไม่ได้ผลเมื่อใด…

ข้าก็แค่ใช้ปลุกราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีให้ตื่นขึ้นเท่านั้นเอง! แววอาฆาตเคลือบอยู่บนดวงตาของหวังเป่าเล่อขณะที่เขาเริ่มเร่งความเร็วขึ้นอีกครั้ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!