บทที่ 282 ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีตื่นขึ้นแล้ว
อาวุธเทพดวงดาราแดงพร้อมลำแสงสีเลือดแล่นมาจากพื้นโลกด้วยความเร็วสูง ผ่านท้องฟ้าซึ่งเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ ตรงเข้ามายังวงแหวนปราณของ เขตจันทราเวท ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จนปะทะเข้ากับวงแหวนปราณที่ชนชั้นสูง ของสหพันธรัฐทำลายไปหลายส่วนแล้ว บังเกิดเสียงดังกระหึ่มทั่วท้องฟ้าแผ่กระจายทุกทิศทาง!
หากมองมาแต่ไกล จะเห็นดวงจันทร์ลอยอยู่ท่ามกลางหมู่ดาวบนท้องฟ้า ขณะที่อาวุธเทพดวงดาราแดงปะทะเข้ามานั้น ลำแสงสีแดงของมันก็ปกคลุมไปทั่วทั้ง ดวงจันทร์ ราวกับว่าท้องฟ้าและผืนดินนั้นกำลังแตกกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย นับล้านชิ้น
ชิ้นส่วนจำนวนนับไม่ถ้วนแตกระเบิดกระจัดกระจายไปทั่วอยู่ครู่หนึ่ง ขณะนั้นเอง วงแหวนปราณบนดวงจันทร์ที่กำลังสั่นสะท้านอยู่นี้ก็ถูกทำลายลงสิ้นในทันใด!
ไม่เพียงเท่านั้น หลังจากวงแหวนปราณแห่งเขตจันทราเวทแตกสลาย เหล่าชนชั้นสูงจากขุมอำนาจทั้งหลายต่างก็ชะงักงันครู่หนึ่ง ก่อนจะดาหน้ากันเข้าไปภายใน กระนั้นอาวุธเทพดวงดาราแดงก็ยังพุ่งผ่านวงแหวนปราณเข้าไป ทอดตัวยาวเป็นสายรุ้ง ก่อนจะพุ่งเข้าไปยังพื้นที่หวงห้ามในบริเวณด้านมืดมิดแห่งเขตเวทจันทราต่อ!
มันดูคล้ายดาวตกสีเลือดที่ทำเอาทุกคนต่างตกตะลึง!
ผู้นำสหพันธรัฐและเหล่าชนชั้นสูงจากขุมอำนาจต่างๆ รีบรุดหน้าไปรวมตัวกันที่นั่น แต่แทนที่จะรีบเข้าช่วยเหลือเหล่าลูกศิษย์ของตน ทุกคนกลับมุ่งหน้าไปยังด้านมืดของดวงจันทร์
เมื่อวงแหวนปราณถูกทำลายลง โถงถ้ำภายในเขตหวงห้ามดวงจันทร์ก็สั่นไหวอย่างรุนแรง บุรุษชุดดำพลันหวาดกลัวกระวนกระวายจนดวงตาแดงก่ำ เขาสัมผัสได้ว่าวงแหวนปราณพังทลายลงแล้ว และกองกำลังมือสังหารก็กำลังรุดใกล้เข้ามา อย่างรวดเร็ว เขารู้ดีว่าเหล่าชนชั้นสูงขั้นกำเนิดแก่นในทั้งหลายจากขุมอำนาจต่างๆ กำลังเข้ามาใกล้ตนเองในทุกขณะ
สิ่งที่เกิดขึ้นนี้ผิดจากแผนที่เขาวางเอาไว้อย่างสิ้นเชิง!
ตั้งแต่เข้ามาในนี้ เป้าหมายของเขามีเพียงหนึ่งเดียว นั่นคือผลไม้ลูกนี้เท่านั้น แต่เขาก็รู้ดีว่ากว่าจะได้ครอบครองมันไม่ใช่เรื่องง่าย แค่หาทางเล็ดลอดเข้ามาใน ดวงจันทร์ได้ก็นับว่ายากแล้ว
ทั้งนี้เพราะเขาไม่อาจทำลายวงแหวนปราณแห่งเขตจันทราเวทได้ ต่อให้ต้นแม่ของเขาจะอยู่บนดวงจันทร์ก็ตาม แต่มันเป็นไปไม่ได้เลยที่จะควบคุมวงแหวนปราณแห่งเขตจันทราเวทได้ เว้นเสียแต่ว่าจะมีใครสักคนร่วมมือกับเขา ดังนั้นเขาจึงต้องพึ่งพาคนอื่นตลอดทั้งกระบวนการ จึงจะครอบครองผลต้นหอมหมื่นลี้ได้สำเร็จ
บุรุษชุดดำจึงเริ่มวางแผนการอันสุ่มเสี่ยง โดยรวมหัวกับเหล่าขุมอำนาจต่างๆ แม้จะถูกพวกนั้นใช้เป็นเครื่องมือ แต่เขาเองก็ได้ผลประโยชน์จากอีกฝ่ายเช่นกัน ฉะนั้นระหว่างที่ขุมอำนาจทั้งหลายกำลังเขม่นกันเองอยู่ เขาก็จะฉวยโอกาสดูดกลืนพลังชีวิตมหาศาลของผลไม้ และบรรลุเป็นผู้ฝึกตนขั้นจุติวิญญาณได้สำเร็จ!
หากเขาบรรลุขั้นจุติวิญญาณสำเร็จแล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอะไรอีกต่อไป จากนั้นเขาจะเข้าไปปลุกราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีให้ตื่นขึ้นมาสร้างความโกลาหลบนดวงจันทร์ แล้วตัวเองค่อยหลบหนีออกมา หรือซ่อนตัวแล้วหาจังหวะอันเหมาะสมเพื่อซุ่มโจมตี ถ้ามีพลังปราณขั้นจุติวิญญาณแล้ว จะลอบทำร้ายผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในก็ไม่ใช่เรื่องยากอะไร บุรุษชุดดำยังมั่นใจอีกด้วยว่า ต่อให้ต้วนมู่ฉือจะมีอาวุธเทพไว้ในครอบครอง แต่เขาก็จะหาทางต้อนผู้นำสหพันธรัฐให้จนมุมและสังหารอีกฝ่ายได้ในที่สุด!
สถานการณ์เช่นนี้ต้องใช้การวางแผนอย่างละเอียดและต้องเสียสละอย่างมากเพื่อจะทำมันให้ออกมาสมบูรณ์แบบ เพราะต้วนมู่ฉือนั้นเป็นคนเล่ห์เหลี่ยมแพรวพราวอย่างมาก ทำให้ยากต่อการหลอกล่อ ดังนั้นเดิมทีเขาจึงตั้งใจให้ความร่วมมือกับ ฝ่ายสหพันธรัฐ ด้วยการช่วยสังหารพวกตระกูลนภาห้าสมัยและสำนักรุ่งสางจักรพิภพ เพื่อพิสูจน์ตัวต่อต้วนมู่ฉือเสียก่อน
สุดท้ายแผนการอันท้าทายก็มอบโอกาสนั้นให้กับเขา แต่ประมุขสำนักรุ่งสางจักรพิภพกลับขัดขวางแผนการของเขาลงเสียก่อน เขาจึงตั้งใจจะทิ้งสหพันธรัฐและเข้าร่วมกับสำนักรุ่งสางจักรพิภพแทน
อย่างไรก็ตาม ทุกอย่างกลับตาลปัตรอีกครั้ง เมื่อหวังเป่าเล่อผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นก็ปรากฏตัวขึ้น ถึงแม้ต้นไม้ยักษ์จะเบื่อขี้หน้าชายผู้นี้เต็มทน แต่เพื่อจะบรรลุขั้น จุติวิญญาณให้ได้ มันจึงจำเป็นต้องอาศัยความร่วมมือจากชายหนุ่ม หลังจากทำข้อตกลงกันเสร็จสิ้น ทั้งคู่จึงเริ่มขั้นตอนการดูดกลืนทันที
ในฐานะที่บุรุษชุดดำอยู่ในขั้นกำเนิดแก่นในระดับสมบูรณ์แบบ ตอนแรก เขาจึงคิดว่าจะดูดกลืนผลไม้จนบรรลุสู่ขั้นจุติวิญญาณได้สำเร็จในเวลาไม่นาน ก่อนที่ ต้วนมู่ฉือจะทันรู้ตัวว่ามีบางอย่างผิดปกติและพยายามจะเข้ามาห้ามเขา
ทว่าสุดท้ายแล้วเขาก็ตระหนักว่าหวังเป่าเล่อดูดกลืนพลังชีวิตของผลไม้ได้เร็วกว่าตนเองอย่างน่าโมโห อันที่จริงแล้ว ความเร็วที่แตกต่างกันนั้นไม่สำคัญเลย แต่เนื่องจากพลังชีวิตของผลไม้ลูกนั้นมีจำกัด ยิ่งชายร่างอ้วนคนนี้ดูดกลืนได้เร็วและมากเท่าใด ก็ยิ่งเหลือพลังงานให้เขาดูดกลืนน้อยลง ซึ่งส่งผลกระทบต่อการบรรลุระดับการฝึกตนของเขาอย่างยิ่ง!
เมื่อบุรุษชุดดำเห็นเช่นนั้น ดวงตาจึงเริ่มแดงก่ำด้วยความกังวลใจ เขาเข้าใกล้ การเป็นผู้ฝึกตนขั้นจุติวิญญาณแล้วก็จริง ทว่าขั้นตอนนั้นกลับใช้เวลานานกว่าที่คิด ทางออกเดียวของเขาคือต้องเข้าไปสิงร่างหวังเป่าเล่อแทน!
บุรุษชุดดำคิดว่าชายหนุ่มต้องใช้เวลาพอสมควรกว่าจะปลุกราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีได้ จึงไม่มีทางที่ราชาแห่งเผ่าพันธุ์อมตะราตรีจะตื่นขึ้นมาได้ปุบปับ ก่อนหน้านี้เขาไม่อยากจะเสี่ยง ทว่าตอนนี้กลับไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากลงมือทำเท่านั้น!
ดังนั้นเขาจึงทิ้งทุกอย่างและทุ่มร่างเข้าใส่หวังเป่าเล่อด้วยความมุ่งมั่น ทว่าขณะนั้นเอง เม็ดบัวเม็ดที่ห้าก็ผุดขึ้นในร่างกายของชายร่างอ้วนเสียก่อน และผลไม้ลูกนั้นก็ แห้งเหี่ยวจนถึงขีดสุดเสียแล้ว!
“ไม่จริง!” ภาพตรงหน้าทำให้บุรุษชุดดำที่กำลังพุ่งเข้าไปจู่โจมอีกฝ่าย ทั้งตกใจและโกรธแค้นอย่างมาก!
มันจะย้อนกลับมาทำร้ายข้าหรือไม่นะ เหตุใดจริงดูดกลืนพลังได้เร็วถึงเพียงนี้! หวังเป่าเล่อก็รู้สึกประหลาดใจตัวเองเช่นกัน ในความเป็นจริงแล้ว หลังจากเม็ดบัวเม็ดที่ห้าปรากฏขึ้น ความเร็วของมันไม่ได้เพิ่มขึ้นเพียงแค่ห้าเท่าจากตอนเริ่มต้นเท่านั้น แต่มันกลับเร็วขึ้นกว่านั้นอีกหลายเท่านัก!
อัตราการดูดซึมและการกลืนกินนั้นมาถึงขีดจำกัด เมื่อหวังเป่าเล่อเห็นว่า ตอนนี้ต้นไม้ยักษ์กำลังโกรธจัด จึงล่าถอยออกทันที พร้อมอาศัยจังหวะนี้บดขยี้ ประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายในมือ ทั้งแรงกดดันที่เขาทุ่มลงไปและอิทธิฤทธิ์ของ หมอกเวทเคลื่อนย้าย ทำให้ดอกบัวสีเขียวในกายของชายหนุ่มนั้นสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
ตื่นเถิด ตื่นเถิด ตื่นเถิด!
เมื่อลูกประคำแตกกระจาย หมอกก็เข้ามาปกคลุมตัวเขาเอาไว้ บุรุษชุดดำรีบพุ่งเข้ามาหาเขาอย่างรวดเร็วพลางคำรามด้วยน้ำเสียงโกรธแค้น ยังไม่ทันที่หวังเป่าเล่อจะถูกเคลื่อนย้ายตัวไป ต้นไม้ยักษ์ในร่างของบุรุษชุดดำก็อ้าปากสูดเอาหมอกรอบตัว หวังเป่าเล่อเข้าปากไปได้เสียก่อน
ต้นไม้ยักษ์ตัวสั่นเทิ้ม เงื้อมมือเขามาคว้าตัวหวังเป่าเล่อไว้!
บุรุษชุดดำแผ่มวลพลังกดดันอันน่าทึ่งออกมา แม้จะยังไม่ประชิดตัวอีกฝ่าย แต่ก็ทำเอาชายหนุ่มถึงกับกลั้นหายใจจนตัวตื้อชา ราวกับว่าหายนะกำลังจะเริ่มต้น หวังเป่าเล่อไม่มีเวลามามัวหวาดกลัว ชายหนุ่มรีบใช้เรียกพลังปราณมารวมตัวไว้ และปลดปล่อยพลังกายออกมาเต็มที่ อีกทั้งยังหยิบสมบัติเวททั้งหมดของตนมาใช้ มือก็ควงอาวุธเวทเอาไว้ป้องกันตัวเอง!
บุรุษชุดดำแผ่มวลพลังรุนแรงเหลือเชื่อออกมาจากมือของตน จนเกิดเสียงดังสนั่นขึ้น พลังนั้นก่อตัวเป็นพายุหมุนทำลายล้างทุกสิ่งที่พัดผ่าน เมื่อมันปะทะเข้ากับร่างของหวังเป่าเล่อ สมบัติเวททั้งหมดที่ชายหนุ่มใช้ป้องกันตัวกลับพังพินาศ ทำเอาร่างกายของเขาสั่นสะท้านอย่างรุนแรงจนกระอักเลือด แม้แต่อาวุธเทพยังไม่อาจต้านทาน พลังนี้ไหว ขณะเกิดเสียงดังก้องกังวานอยู่นั้น ต้นไม้ยักษ์ก็จับตัวหวังเป่าเล่อไว้ได้
แววตาของชายหนุ่มทอประกายเดือดดาล เขาจ้องมองพลางคำรามร้องเสียงดัง ขณะที่เรียกเอาฝักกระบี่ในกายออกมาใช้ป้องกันตัว!
เจ้ายุงสีดำและยุงสีม่วง หากเจ้าทั้งสองยังไม่ยอมออกมา เราจะตายกันหมด! หวังเป่าเล่อส่งเสียงร้อง ขณะที่ต้นไม้ยักษ์พุ่งมาหาเขาอย่างรวดเร็ว และกำลังจะเข้ามาถึงฝักกระบี่ ทันใดนั้นฝักกระบี่กลับส่องประกายวาบวับขึ้นมาเสียก่อน แล้วยุงสีม่วงก็บินออกมาเป็นครั้งแรก
มันดูไม่มีความสุขและไม่ค่อยพอใจนัก ก่อนจะพุ่งใส่ต้นไม้ยักษ์ราวกับโดนบังคับ
เมื่อทั้งสองปะทะกัน บุรุษชุดดำก็ร้องโหยหวนด้วยความเจ็บปวดพลางถอยล่าไป ฉับพลันมือขวาของเขาก็เปลี่ยนเป็นสีม่วงคล้ำจนแผ่กระจายไปทั่วร่างอย่างรวดเร็ว ทุกส่วนที่มันคืบคลานไปนั้นเริ่มเน่าเละ
หวังเป่าเล่อตกใจ ก่อนจะเห็นว่ายุงสีม่วงบินกลับมาเข้าฝักกระบี่อย่างเกียจคร้านอีกครั้ง เขาไม่คิดอะไรมากขณะเก็บฝักกระบี่ของตน ชายหนุ่มเกรงว่าจะถูกต้นไม้ยักษ์จัดการอีก
จึงตัดสินใจหยิบประคำหมอกเวทเคลื่อนย้ายทั้งหมดของตนออกมาบดขยี้ปลดปล่อยหมอกควัน ทำให้ร่างกายของเขาพร่ามัวก่อนถูกเคลื่อนย้ายออกไป พร้อมกันนั้นเขาก็ชกหน้าท้องของตนเองเพื่อกระตุ้นดอกบัวสีเขียว เขาปลดปล่อย พลังปราณของตนออกมา แล้วกระตุ้นดอกบัวสีเขียวอีกครั้งจนมันสั่นอย่างรุนแรง
“หวังเป่าเล่อ!” ต้นไม้ยักษ์กรีดร้องอย่างโมโหเมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังจะหลบหนี เขาพยายามยับยั้งไม่ให้พิษจากยุงนั้นแพร่กระจาย ขณะที่พุ่งตัวเข้าไปดูดกลืน หมอกนั่นเพื่อขัดขวางไม่ให้หวังเป่าเล่อหนีไปได้อีกราวกับคนบ้าคลั่ง
กระนั้นหวังเป่าเล่อก็ยังคงกระตุ้นดอกบัวสีเขียวอย่างต่อเนื่อง จนบังเกิดเสียงคำรามก้องดังมาจากใต้พสุธาลึกลงไปข้างล่างนี้!
โฮก!
เสียงกังวานสะท้านไปทุกแห่งหน จนดวงจันทร์ทั้งดวงสั่นสะเทือน และแล้วพื้นดินเหนือถ้ำก็ปะทุจนระเบิดออก!
หมอกสีดำสนิทพวยพุ่งสูงขึ้นสู่ท้องฟ้า ผนังถ้ำแยกออกจากกัน ขณะที่ลำต้นของต้นหอมหมื่นลี้และผลไม้อันแห้งเหี่ยวของมันนั้นเน่าเปื่อยลง และหายไปท่าม กลางอากาศที่เบาบางนี้ทันที…จังหวะเดียวกันนั้นเอง ฝ่ามือขนาดใหญ่ยักษ์ขนาดประมาณครึ่งถ้ำก็ผุดขึ้นมาจากผืนดิน มันยึดจับหน้าดินไว้ กระเสือกกระสนจะยกร่างของตนออกมาจากใต้พื้นดิน!
โซ่ตรวนส่งเสียงกระทบกันดังสนั่นทุกทิศทาง ราวกับเป็นสิ่งมีชีวิตชั้นสูงที่ถูกจองจำไว้ได้ฟื้นคืนชีพขึ้นอีกครั้ง!
คลื่นพลังอันยากจะบรรยาย และความคลุ้มคลั่งชนิดที่สังหารคนได้ปะทุสูงขึ้นสู่ท้องนภา ทำให้ดวงจันทร์สั่นไหวอย่างรุนแรง สะเทือนไปถึงท้องฟ้าอันเต็มไปด้วยดวงดาวพร่างพราย!
พลังของมันช่างน่าทึ่งยิ่งนัก บุรุษชุดดำผู้ได้รับผลกระทบมากที่สุดเผยสีหน้าตื่นกลัวออกมา เขาไม่สนใจจะไล่จับหวังเป่าเล่ออีกต่อไป แต่กลับทะยานร่างเอาศีรษะ โหม่งเพดานเสียงดังลั่น พุ่งตัวผ่านชั้นหินแล้วทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าทันที แม้จะยัง ขุ่นเคืองใจไม่หาย แต่ก็ไม่มีทางเลือก นอกจากจะต้องหาทางหนีตายอย่างคนบ้าเสียก่อน!
หวังเป่าเล่อชะงักแน่นิ่งไป หมอกเวทเคลื่อนย้ายกำลังปกคลุมร่างกายของเขาอยู่ ขณะที่อุ้งมือขนาดยักษ์ยึดจับแผ่นดินเอาไว้ได้ ร่างใหญ่โตร่างหนึ่งกำลังยันตัวปีนป่ายขึ้นมาจากร่องดินลึกด้านล่าง ตอนนั้นเองที่หมอกเวทเคลื่อนย้ายเริ่มทำงาน ส่งร่างหวังเป่าเล่อให้หายวับไปจากตรงนั้นทันท่วงที