Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 535

ตอนที่ 535

เจตจำนงแห่งวิญญาณที่แท้จริง

ปรมาจารย์ฮูเหยียนมองลงไปยังภาพ ซึ่งก่อตัวขึ้นมาจากฝุ่นผงของแผ่นหยก และดวงตามันเริ่มสาดประกายเจิดจ้า มีบางอย่างเกี่ยวกับคนผู้นี้ที่มันรู้สึกคุ้นเคย มันศึกษาใบหน้านั้นอยู่ชั่วขณะ ครั้นแล้วสีหน้าของมันทันใดนั้นก็เริ่มบึ้งตึงและเย็นชา

“ก็คือมัน…เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าจินอู (อีกาทองคำ) มันมีวิญาณอสูรสองชิ้น ซึ่งข้าไล่ตามไป แต่ก็ถูกขัดขวางโดยหญิงสาวแปลกๆ นางทำให้ข้าไม่มีทางเลือก ได้แต่ปล่อยให้มันหลบหนีจากไป”

มันครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่ดวงตาทันใดนั้นก็สาดประกาย มันสะกดข่มความโศกเศร้าในจิตใจไว้ ฉับพลันนั้นมันก็เกิดความรู้สึกแปลกๆ

“ก่อนที่ชิ่งเอ๋อร์จะตายไป ไม่ได้เปิดใช้งานของวิเศษช่วยชีวิตที่ข้าให้ไป นี่เป็นสิ่งแรกที่แปลกประหลาด”

“ยิ่งไปกว่านั้นก็เห็นได้ชัดว่ามันได้ตายไปเมื่อวันก่อน แต่มีบางสิ่งจงใจขัดขวางไม่ให้ข้าตรวจจับการตายของมันได้จนกระทั่งถึงตอนนี้”

“ภาพนี้เด่นชัดมาก ราวกับว่าคนผู้นี้จงใจให้ชิ่งเอ๋อร์จดจำใบหน้ามันไว้” หลังจากครุ่นคิดอยู่ชั่วขณะ ปรมาจารย์ฮูเหยียนก็เริ่มขยับมือขวาร่ายเวท หลังจากเวลานานผ่านไป มันก็แหงนหน้ามองขึ้นและจากนั้นก็หายตัวไป

ไม่นานนักก่อนที่มันจะปรากฏตัวขึ้นอีกครั้ง ในตำแหน่งที่เมิ่งฮ่าวได้กำจัดอู๋เหล่าและคนอื่นๆ มันมองไปรอบๆ ด้วยความระมัดระวังนานชั่วครู่ ก่อนที่ดวงตาจะเริ่มสาดประกายด้วยรังสีสังหาร

“อู๋ไขวตายที่นี่ เช่นเดียวกับคนอื่นๆ…เห็นได้ชัดว่า พวกมันถูกสังหารโดยผู้ฝึกตนที่อยู่ในขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่วิญญาณแรกก่อตั้ง พลังต่อสู้ของมันไม่ธรรมดาจริงๆ”

“แต่ชิ่งเอ๋อร์ถูกสังหารในที่แห่งอื่น” ปรมาจารย์ฮูเหยียนมีชีวิตอยู่มานาน และเจ้าเล่ห์ราวกับสุนัขจิ้งจอก ถ้ามันไม่ชาญฉลาดอย่างน่าเหลือเชื่อ ก็คงไม่สามารถประสบความสำเร็จ มีชื่อเสียงเป็นปรมาจารย์ของชนเผ่าได้อย่างแน่นอน จากร่องรอยเหล่านี้ ทำให้มันสามารถรวบรวมชิ้นส่วนของสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างแท้จริงได้ในทันที

มันรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า ผู้ฝึกตนขั้นวงจรอันยิ่งใหญ่วิญญาณแรกก่อตั้ง เพียงแค่สังหารกลุ่มคนอื่นๆ ในบริเวณนี้ หลังจากนั้นก็ปล่อยให้ฮูเหยียนชิ่งจากไป

“มาดูรูปร่างหน้าตาของคนที่สังหารอู๋ไขวและคนอื่นๆ กัน และทุกสิ่งทุกอย่างก็จะชัดเจนเอง” ปรมาจารย์ฮูเหยียนโบกสะบัดชายแขนเสื้อ ทำให้อากาศกระจายออกเป็นระลอกคลื่น ไม่นานต่อมา อีกจอภาพก็ได้ปรากฏขึ้น ซึ่งมองเห็นเป็นภาพของเมิ่งฮ่าวกำลังสังหารอู๋ไขว

ถึงแม้ว่าภาพนั้นจะไม่ค่อยคมชัดมากนัก แต่ปรมาจารย์ฮูเหยียนก็จดจำเมิ่งฮ่าวได้ในแวบแรก เวลาเดียวกันนั้น มันก็มองเห็นสิ่งที่แตกต่างกันระหว่างเมิ่งฮ่าวและบุรุษหนุ่มชุดดำ

“ไม่ใช่เซิ่งจู่ภาพศักดิ์สิทธิ์แห่งเผ่าจินอูที่สังหารชิ่งเอ๋อร์” ตอนนี้มันได้เข้าใจเรื่องราวเหล่านี้ ปรมาจารย์ฮูเหยียนหันร่าง และส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์พุ่งออกไปทั่วทุกทิศทางของทะเลม่วง

แต่โชคร้ายที่มันไม่อาจจะรับรู้ได้ถึงเมิ่งฮ่าวที่อยู่ใต้ก้นทะเล และไม่อาจจะตรวจจับถึงการต่อสู้ที่เกิดขึ้น ซึ่งอยู่ห่างออกไปถึงหนึ่งปีการเดินทาง ในเขตทางเหนือของทะเลทรายตะวันตกได้เช่นกัน หลังจากที่ค้นหาไปทั่วทั้งบริเวณนั้น ปรมาจารย์ฮูเหยียนก็หยุดการค้นหา พร้อมกับใบหน้าที่ดุร้าย มันเริ่มบินกลับไปยังดินแดนสีดำ

“ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวไม่ใช่ผู้กระทำผิดที่แท้จริง แต่การที่มันถูกปรักปรำจากคนแปลกๆ นั้น ก็แสดงว่าคนทั้งสองต้องมีความสัมพันธ์กันบางอย่าง”

“ถ้าข้าไม่อาจจะค้นหามือสังหารตัวจริงได้ ข้าก็จำเป็นต้องหาเมิ่งฮ่าว ข้าจะใช้วิชาควาญหาวิญญาณบนตัวมัน เพื่อค้นหาตัวตนที่แท้จริงของมือสังหาร นั่นก็จะช่วยแก้ไขปัญหานี้ได้!”

“สำหรับเมิ่งฮ่าว ไม่จำเป็นต้องไปค้นหามัน ข้าสามารถบังคับให้มันออกมาได้! ไม่ว่ามันจะมีชีวิตอยู่หลังจากการใช้วิชาควาญหาวิญญาณหรือไม่ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกับข้า คงได้แต่ตำหนิ…ความโชคร้ายของตัวมันเอง!” ดวงตาปรมาจารย์ฮูเหยียนสาดประกายด้วยรังสีสังหาร มันวางแผนที่จะบังคับให้เมิ่งฮ่าวเสนอหน้าออกมาได้อย่างง่ายดาย ก็แค่เพิ่มแรงกดดันลงไปบนเผ่าจินอู

พร้อมกับเสียงแค่นอย่างเย็นชา ปรมาจารย์ฮูเหยียนหันหลัง ร่างมันแวบขึ้น ขณะที่พุ่งตรงไปยังดินแดนสีดำ

ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงระเบิดดังกระหึ่มเต็มอยู่ในอากาศ ในเขตทางเหนือของทะเลทรายตะวันตก ใบหน้าเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นมาจากผิวน้ำ ดวงตาสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้า ขณะที่จ้องนิ่งไปยังซากศพซึ่งลอยอยู่กลางอากาศ

ในที่สุด ใบหน้าที่ค่อนข้างคลุมเครือนั้นก็โผล่ออกมาจากผิวน้ำโดยสมบูรณ์ ด้านล่างใบหน้านั้นเป็นเสาแห่งน้ำขนาดใหญ่ ที่พุ่งตรงไปยังซากศพ ซึ่งมันไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้ เสาแห่งน้ำห้อมล้อมซากศพนั้นไว้ในทันที

เกิดเสียงระเบิดดังขึ้น จากนั้นเสียงปะทุก็ได้ยินออกมาจากภายในร่าง ดวงตาซากศพสาดประกายเจิดจ้า ทันใดนั้นก็ใช้วิชาที่ไม่มีใครรู้จัก ทำให้ร่างของมันถูกล้อมรอบด้วยสัญญลักษณ์เวทแปดชิ้นที่ส่องแสงวาววับอย่างน่าตกใจ เพื่อต่อต้านพลังของทะเลม่วง

หลังจากสี่หรือห้าลมหายใจผ่านไป น้ำก็ตกกลับลงไปในทะเลอย่างรวดเร็ว ซากศพสั่นสะท้าน พ่นปราณชีวิตจำนวนมากออกมา ร่างมันเริ่มแยกออกเป็นชิ้นๆ ขาข้างหนึ่งของมันกลายเป็นเถ้าธุลี มีสีหน้าดุร้ายขณะที่หันร่างพุ่งออกไปยังที่ห่างไกล

เจตจำนงเมิ่งฮ่าวตรึงแน่นอยู่บนร่างของซากศพนั้น ถ้าร่างจริงเขาอยู่ที่นี่ ซากศพนั้นก็จะไม่มีทางหลบหนีจากไปได้ ในตอนนี้ เจตจำนงเมิ่งฮ่าวหลอมรวมเข้ากับทะเลม่วง แต่เขายังไม่กลายเป็นอสูรจำแลงโดยสมบูรณ์ ซึ่งทำให้ต้องสูญเสียสติสัมปชัญญะไป ดังนั้นพลังการต่อสู้ของเขาจึงไม่เพียงพอที่จะกำจัดซากศพนั้นไป

“ถ้าเจ้าต้องการจากไป ก็ต้องจ่ายค่าตอบแทนมา!” ใบหน้าเมิ่งฮ่าวปรากฏขึ้นบนพื้นผิวน้ำทะเลอีกครั้ง ดวงตาสาดประกายเจิดจ้าจากนั้นก็หลับตาลง และทันใดนั้นใบหน้าก็หายไป ในเวลาเดียวกันนั้น หยดน้ำทะเลม่วงก็เริ่มพุ่งขึ้นไปในอากาศ

จากนั้นเสียงของเมิ่งฮ่าวก็ดังก้องออกมา เต็มไปด้วยรังสีสังหาร “โลหิตพุ่งเต็มฟ้า!”

หยดน้ำจำนวนมากมายพุ่งขึ้นไป ปกคลุมไปทั่วทั้งท้องฟ้า ขณะที่พุ่งตรงไปยังซากศพ

ดวงตาซากศพเบิกกว้าง และทันใดนั้นก็เริ่มขยับมือร่ายเวท สัญลักษณ์เวทไหลออกมาจากร่างกาย หมุนวนออกไปปะทะกับหยดน้ำทะเลที่ใกล้เข้ามา เสียงระเบิดอย่างน่าเหลือเชื่อดังก้องขึ้น ซากศพลอยละลิ่วไปด้านหลัง สุดท้ายก็พ่นปราณชีวิตออกมาคำโต น้ำทะเลกระจายไป และซากศพก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกออกมา มันกำลังจะหลบหนีต่อไป แต่ทันใดนั้นหมัดยักษ์ก็พุ่งออกมาจากภายในท้องทะเล ก่อนหน้านี้น้ำจำนวนมากมายได้ปกปิดการปรากฏตัวขึ้นของหมัดยักษ์ไว้ ดังนั้นขณะที่มันเคลื่อนที่มาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ซากศพก็ถูกหมัดยักษ์กระแทกเข้าไปในทันที

เสียงแตกร้าวได้ยินมา และซากศพก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจออกมา ขณะที่มันลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง ขาอีกข้างของมันระเบิดออก ทำให้มันต้องหลบหนีไปด้วยร่างครึ่งตัว

โชคร้ายแม้ขณะที่มันกำลังจะหลบหนีไป คลื่นขนาดใหญ่ก็ปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้า จากนั้นน้ำทะเลก็รวมตัวเข้าด้วยกัน กลายเป็นศีรษะขนาดใหญ่ หน้าตาของศีรษะนั้นไม่ใช่ใครอื่นนอกจากเป็นเมิ่งฮ่าว นี่ไม่ใช่แค่ใบหน้า แต่เป็นศีรษะเต็มรูปแบบ มีความกว้างถึงหนึ่งพันจ้าง พุ่งขึ้นมาจากส่วนลึกของทะเล ปิดกั้นเส้นทางหลบหนีของซากศพค้างคาวดำ

“บัดซบ!!” จิตใจของซากศพค้างคาวดำสั่นสะท้านขึ้นโดยสิ้นเชิง หนังศีรษะด้านชา มันเริ่มสั่นสะท้านขณะที่หันหลังเปลี่ยนทิศทาง ตอนนี้มันหวาดกลัวเมิ่งฮ่าวอย่างแท้จริง ย้อนกลับไปตอนที่มันวางแผนจะปรักปรำเขา มันจะคาดคิดได้อย่างไรว่าแม้จะมีการเตรียมตัวไว้สองร่าง มันก็ยังคงไร้พลังที่จะป้องกันไม่ให้เมิ่งฮ่าวสังหารมันได้

อันที่จริง เมิ่งฮ่าวก็ไม่ได้อยู่ในที่แห่งนี้ด้วยตัวเอง เพียงแค่หลอมรวมเจตจำนงเข้าไปในน้ำทะเลม่วงเท่านั้น เขายังคงสามารถผลักดันให้ค้างคาวดำตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยุ่งยากได้ เนื่องจากเช่นนี้ จึงทำให้มันเกิดความรู้สึกหวาดกลัวต่อเมิ่งฮ่าวอย่างน่าเหลือเชื่อ

ก่อนที่มันจะทันได้ใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์ใดๆ เสียงกระหึ่มกึกก้องก็ได้ยินมา ขณะที่ทันใดนั้นน้ำทะเลก็เริ่มพลุ่งพล่านปั่นป่วน แขนยักษ์สองข้างซึ่งประกอบด้วยน้ำทะเลจำนวนมากมายมหาศาล ก็พุ่งขึ้นมาจากภายในกระแสน้ำวนที่ไร้ขอบเขต แขนทั้งสองเคลื่อนที่มาด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ขณะที่พวกมันพุ่งตรงไปยังซากศพค้างคาวดำก็ตบมือเข้าด้วยกันในทันที

มือทั้งสองข้างนี้มีความยาวหลายร้อยจ้าง และทำให้เกิดเป็นลมพายุขนาดใหญ่ ตามมาด้วยคลื่นยักษ์ ราวกับว่าทั่วทั้งบริเวณนั้นถูกผนึกไว้ ซากศพค้างคาวดำรู้สึกหวาดกลัวอย่างถึงที่สุด เงาแห่งความตายดูเหมือนจะพุ่งขึ้นมาภายในจิตใจ

ในช่วงวิกฤตอันร้ายแรง ซากศพค้างคาวดำ ทันใดนั้นก็หันหน้ามาและส่งเสียงแผดร้องอย่างโศกเศร้าออกมา “รวมวิญญาณค้างค้าวที่แท้จริง!!”

ทันใดนั้น ลำแสงสีดำก็พุ่งออกมาจากหน้าผากของมัน

ทันทีที่ลำแสงปรากฏขึ้น ทุกสรรพสิ่งก็เริ่มสั่นสะเทือน ทะเลม่วงสั่นสะท้าน สิ่งที่คล้ายกับเป็นภาพภูติผีของโลกทั้งหมดนี้จู่ๆ ก็ปรากฎขึ้น พลังนั้นดูเหมือนจะเกิดมาจากกลิ่นอายของโลกอื่น ซึ่งทันใดนั้นก็พุ่งออกมาจากหน้าผากของซากศพค้างคาวดำ

ในเวลาเดียวกันนั้น…บนท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวของดาวหนานเทียน มีแท่นบูชาขนาดใหญ่มหึมาอยู่ แท่นบูชานั้นหมุนวนอยู่รอบๆ ดาวหนานเทียนมานานหลายปีจนนับไม่ได้ นี่ก็คือสิ่งลี้ลับมากที่สุดของดาวหนานเทียน…

เฟิงเซียนไถ! (แท่นผนึกเซียน)

รายนามจำนวนมากมายนับไม่ถ้วนซึ่งถูกสลักอยู่ในแท่นผนึกเซียนนี้ จู่ๆ ก็เริ่มสาดประกายด้วยแสงเจิดจ้า กลิ่นอายเก่าแก่โบราณกำลังตื่นขึ้นมา!

เสียงเก่าแก่โบราณดังก้องขึ้น เต็มไปด้วยจำนวนปีที่นับไม่ถ้วน ทันใดนั้นก็ได้ยินมา “เจตจำนงแห่งวิญญาณที่แท้จริง ปรากฏขึ้นในดาวหนานเทียน…ด้วยเช่นนั้น กระบี่สังหารวิญญาณเซียนที่แท้จริง ก็ต้องถือกำเนิดขึ้นในโลกนี้ด้วยเช่นกัน! ท้ายที่สุดแล้วไม่ว่าข้าจะเป็นเซียนเทียมหรือไม่ ข้าก็ต้องเข้าใจมันให้ได้หลังจากที่ถูกกระบี่นั้นแทงไป!”

ในเวลาเดียวกันนั้น ย้อนกลับไปในทะเลทรายตะวันตก ค้างคาวดำส่งเสียงแผดร้องอย่างน่าสังเวชออกมา ลำแสงสีดำซึ่งกระจายออกมาจากหน้าผากมันค่อยๆ ขยายกว้างออกไป ปกคลุมไปทั่วทั้งศีรษะ ดูเหมือนจะเริ่มอ่อนแอลงขณะที่เป็นเช่นนั้น

ในเวลาเดียวกันนั้น สองแขนยักษ์ของน้ำทะเลก็เริ่มเข้ามาใกล้มากขึ้น สองหัตถ์ยักษ์ตบลงไปบนร่างซากศพค้างคาวดำ

เสียงระเบิดขนาดใหญ่ได้ยินมา แรงสั่นสะทือนอันเข้มข้นกระจายออกไป ทำให้สองหัตถ์ยักษ์พังทลายกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ตามมาด้วยแขนยักษ์ หยดน้ำพุ่งตกลงไปในทะเล ศีรษะของเมิ่งฮ่าว ซึ่งดูเหมือนจะมีโลหิตไหลซึมออกมาจากรูขุมขน ก็แตกกระจายออกไปด้วยเช่นเดียวกัน

ขณะเดียวกันนั้น ซากศพค้างคาวดำก็ระเบิดออกไปโดยสิ้นเชิง ยกเว้นศีรษะของมัน ซึ่งยังคงกระจายแสงสีดำออกมา ขณะที่พุ่งออกไปราวกับเป็นดาวตก เสียงแผดร้องแหลมเล็กด้วยความเกลียดชัง ได้ยินมาขณะที่มันหายลับตาไป

ทันทีที่มันหายไป คลื่นขนาดใหญ่ที่อยู่บนพื้นผิวทะเลก็สงบลงไป ทุกสิ่งทุกอย่างกลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม เมิ่งฮ่าวดึงเจตจำนงออกมาจากทะเลม่วง ย้อนกลับไปยังตำแหน่งที่ร่างจริงเขานั่งขัดสมาธิเข้าฌาณอยู่ แรงสั่นสะเทือนจู่ๆ ก็วิ่งผ่านไปทั่วร่าง ใบหน้าซีดขาวขณะที่ออกมาจากวิญญาณดวงที่เจ็ด กลับเข้าไปในวิญญาณดวงแรก ดวงตาลืมขึ้นมาในทันที

“แย่ยิ่งนักที่ข้าไม่อาจจะทำลายเจ้าอสูรนั่นไปจนหมดสิ้น ถ้าร่างจริงของข้าอยู่ที่นั่น ก็คงจะแตกต่างกันออกไป…ได้แต่บอกว่า มันได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส ซึ่งต้องใช้เวลาในการฟื้นฟูร่างกาย ครั้งหน้าถ้าได้พบกันอีก ข้าต้องสังหารมันให้ได้!”

“นั่นเป็นพลังอะไรที่มันใช้ในช่วงสุดท้าย…ช่างน่าแปลกเป็นอย่างยิ่ง” จมอยู่ในห้วงความคิด เขามองลงไปยังถุงสมบัติ ขณะที่ในตอนนี้ เขาสามารถรับรู้ได้อย่างชัดเจนว่า หนึ่งในกระบี่สังหารเซียนกำลังสั่นสะท้าน เต็มไปด้วยความรู้สึกปรารถนาอย่างรุนแรงบางอย่าง

“บางทีข้าอาจจะได้รับคำตอบบางอย่าง เกี่ยวกับกระบี่ไม้เหล่านี้จากค้าวคาวดำนั่น” เมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไป และกำลังจะโผล่ออกมาจากทะเล ทันใดนั้น ดวงตาเขาก็เบิกกว้าง และจมกลับลงไปอีกครั้ง โดยไม่ลังเล เขาหลอมรวมเจตจำนงเข้าไปในทะเลม่วง ปิดบังตัวเองไว้

ในตอนนี้เอง ที่สัมผัสศักดิ์สิทธิ์โบราณจากที่ห่างไกลออกไปในสวรรค์ ฉับพลันนั้นก็เริ่มกวาดผ่านไปทั่วทั้งทะเลทรายตะวันตก ดูเหมือนกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง แต่โชคดีที่ถูกปิดกั้นโดยทะเลม่วง เพราะเมิ่งฮ่าวเพิ่งจะหลอมรวมเข้ากับทะเลม่วง และปกปิดตัวเองอยู่ภายใน สัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั้นจึงได้พุ่งผ่านไป และไม่อาจจะตรวจจับเขาได้ แต่มันก็เริ่มเคลื่อนที่ตรงไปยังทิศทางที่ค้างคาวดำได้หลบหนีไป

พลังของสัมผัสศักดิ์สิทธิ์นั้น ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องรำลึกไปถึงเซียนทั้งแปด ที่เขาได้พบเห็นที่ด้านนอกของอาณาจักรแห่งซากสะพานในปีนั้น!

“มันกำลังค้นหาอะไร?” เมิ่งฮ่าวคิดดวงตาสาดประกาย ไม่ได้จากไปแต่นั่งอยู่ที่นั่นอีกสองสามวัน ในช่วงเวลานั้น สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้ปรากฏขึ้นอีกสามครั้ง เห็นได้ชัดว่ามันกำลังค้นหาอะไรบางอย่าง แต่หลังจากผ่านไปอีกสองสามวัน มันก็หายไปโดยสิ้นเชิง

เมิ่งฮ่าวรอคอยนานมากไปกว่านั้น เมื่อมั่นใจว่าสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ได้หายไปแล้วจริงๆ เขาก็พุ่งขึ้นมาจากทะเล ไปยืนอยู่บนพื้นผิวของมัน ในตอนนี้ เขารับรู้ได้อย่างเลือนลางว่า สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ที่มาจากสวรรค์ด้านบน กำลังค้นหากระบี่สังหารเซียน!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!