Skip to content

I Shall Seal The Heaven Chapter 605

ตอนที่ 605

พุ่งทะยานราวกับสายรุ้ง

“สังหารข้า? เจ้าประเมินตัวเองสูงเกินไปแล้ว!” แม้จะกล่าวเช่นนี้ แต่จริงๆ แล้วภายในใจของปรมาจารย์ฮูเหยียนกำลังตื่นตระหนก สีหน้ามันเคร่งเครียดมากขึ้นกว่าเดิม ขณะที่ล่าถอยออกไป จากนั้นพื้นฐานฝึกตนของมันก็ระเบิดออกอย่างเต็มกำลัง ขณะที่เตรียมตัวจะปลดปล่อยพลังเวทออกมา

“ข้าประเมินตัวเองสูงเกินไป? ถ้าเช่นนั้นข้าก็จะให้เจ้าเห็นว่า ข้าประเมินตัวเองสูงไปอย่างไร!” เมิ่งฮ่าวกล่าวด้วยเสียงเยือกเย็น “วิญญาณดวงที่สี่!”

เสียงกระหึ่มได้ยินมาจากร่างเมิ่งฮ่าว ขณะที่เข้าไปในวิญญาณดวงที่สี่ มีพื้นฐานฝึกตนเทียบเท่ากับแปดวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง สำหรับกายเนื้อ มีพลังอันน่ากลัวเกินกว่าวิญญาณดวงที่เจ็ดเดิมของเขา

เมื่อเมิ่งฮ่าวพุ่งตรงเข้าไปโจมตี ก็เกิดเป็นภาพทับซ้อนดูเลือนลาง เพียงชั่วพริบตา ก็ไปอยู่ตรงหน้าปรมาจารย์ฮูเหยียน เขาโบกสะบัดนิ้วชี้ด้านขวา ทำให้นิ้วนั้นแทงเข้าไปตรงมือขวาที่ยกขึ้นมาของปรมาจารย์ฮูเหยียน ในเวลาเดียวกันนั้นเมิ่งฮ่าวก็ยื่นมือซ้ายออก กดทับลงไปบนหน้าอกของมัน

เสียงระเบิดได้ยินมา ปรมาจารย์ฮูเหยียนเท้าชี้ฟ้าลอยละลิ่วปลิวไปด้านหลัง โลหิตไหลพุ่งออกมาจากปาก สีหน้าประหลาดใจและไม่อยากจะเชื่อโดยสิ้นเชิง สิ่งที่มันหวาดกลัวไม่ใช่พื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว แต่เป็นพลังจากกายเนื้อของเขา

ร่างกายที่น่าตกใจเช่นนั้น เป็นสิ่งที่เกินกว่ามันจะคาดคิดได้มากนัก และเป็นสิ่งที่มันไม่เคยได้ยินมาก่อน!ขณะที่พลังการโจมตีของดรรชนี ทำให้ปรมาจารย์ฮูเหยียนลอยละลิ่วปลิวไปทางด้านหลัง เมิ่งฮ่าวก็ก้าวเนิบนาบตรงไปอีกครั้ง

“วิญญาณดวงที่ห้า!”

ตอนนี้เขามีพื้นฐานฝึกตนเทียบเท่ากับ สิบหกวิญญาณแรกก่อตั้งอันยิ่งใหญ่ และมีร่างกายอันแข็งแกร่งอย่างน่าตกใจมากขึ้นไปอีก เขาถูกห้อมล้อมด้วยเสียงกระหึ่มดังกึกก้อง และถึงแม้จะมองไม่เห็นว่าร่างกายมีการเปลี่ยนแปลง แต่อากาศรอบๆ ตัวเขาก็บิดเบี้ยว และมีระลอกคลื่นกระจายออกมา

นี่เป็นกายเนื้อที่ทำให้ใครก็ตามต้องตกตะลึงโดยสิ้นเชิง เมื่อรวมกับพื้นฐานฝึกตนของเขา ก็ทำให้ดูเหมือนว่าการก้าวเดินไปของเมิ่งฮ่าว จะสามารถทำให้อากาศแยกออกไปได้ เขาไปปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าปรมาจารย์ฮูเหยียนอีกครั้ง ยกมือขวาขึ้นและทำการโจมตีไปเป็นดรรชนีที่ห้า

ปรมาจารย์ฮูเหยียนเงยหน้าขึ้น และส่งเสียงกู่ร้องออกมา ขณะที่มันรับรู้ได้ถึงอันตรายอันร้ายแรงพุ่งตรงมา มันกัดลิ้นอย่างแรงเล็กน้อยพ่นโลหิตออกมาจากปาก จากนั้นก็กลายเป็นสัญลักษณ์เวทซึ่งกระจายออกไปทั่วทุกทิศทาง

“เจ็ดอารมณ์หกกามคุณ สิบสามสังสารวัฏ กลายเป็นสิบสามรูปแบบสังหาร รวมตัวกันเป็น…ตัดอารมณ์ดับสูญสิ้น!” สัญลักษณ์เวทโลหิตอันน่าตกใจ ที่อยู่เบื้องหน้าปรมาจารย์ฮูเหยียน เริ่มรวมตัวเข้าด้วยกันกลายจนมีรูปร่างเป็นกระบี่สวรรค์ กรีดเฉือนลงมาตรงหน้าเมิ่งฮ่าวในทันที!

ในตอนนั้นเองที่นิ้วเมิ่งฮ่าวได้กระแทกเข้าไปในกระบี่สวรรค์สีโลหิต และเสียงระเบิดขนาดใหญ่ก็ดังก้องออกไป กระบี่สั่นไปมาชั่วขณะ และจากนั้นก็ระเบิดออกกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ถูกทำลายไปโดยสิ้นเชิง สำหรับดรรชนีของเมิ่งฮ่าว ยังคงพุ่งตรงไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งไปแตะสัมผัสโดนหน้าอกของปรมาจารย์ฮูเหยียน

โลหิตกระจายออกมาจากปากปรมาจารย์ฮูเหยียน และหน้าอกมันก็เปียกชุ่มเต็มไปด้วยโลหิต ร่างมันเต็มไปด้วยเสียงกระหึ่ม ขณะที่พุ่งถอยไปทางด้านหลังอย่างรวดเร็ว ใบหน้าซีดขาว ขณะที่มันล้มเลิกความคิดที่จะต่อสู้ทั้งหมดไป และต้องการจะหลบหนีไปให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

มันหวาดกลัวต่อกายเนื้อของเมิ่งฮ่าวโดยสิ้นเชิง กลายเป็นความหวั่นหวาดอย่างรุนแรง ขณะที่มันตระหนักว่ากายเนื้อเช่นนั้นช่างน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ความสามารถศักดิ์สิทธิ์และวิชาเวททั้งหมดของมัน ไม่อาจจะทำให้เขาต้องสั่นสะท้านไปได้แม้แต่น้อยนิด

ในเวลาเดียวกับที่ปรมาจารย์ฮูเหยียนตัดสินใจจะหลบหนีไป เสียงเมิ่งฮ่าวก็ลอยผ่านอากาศมาได้ยินขึ้นอีกครั้ง

“วิญญาณดวงที่หก!”

ตูม!

ทันทีที่เมิ่งฮ่าวผ่านเข้าไปในวิญญาณดวงที่หก ร่างกายเขาก็สั่นสะท้าน เงยหน้าขึ้นส่งเสียงกู่ร้องออกมา สำหรับเขาแล้ว สามารถจะสังหารปรมาจารย์ฮูเหยียนเมื่อไหร่ก็ได้ แต่สิ่งที่เขาต้องการจะทำก็คือ ทดสอบพลังของวิญญาณดวงที่แปดซึ่งเขาเพิ่งจะสร้างขึ้นมา

ขณะที่เขาเข้าไปในวิญญาณดวงที่หก พลังของสามสิบสองวงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้งแทบจะนับได้ว่าไม่มีอะไร แต่สิ่งที่น่าตกใจอย่างแท้จริงก็คือร่างกายของเขา ในวิญญาณดวงที่หกนี้ พลังของเขาในตอนนี้ได้ระเบิดออกมาอย่างแท้จริง ขณะที่ตอนนี้กลิ่นอายตัดวิญญาณกำลังเริ่มกระจายออกมาจากร่างกายเขาอย่างช้าๆ

อากาศรอบๆ กายเมิ่งฮ่าวเต็มไปด้วยการบิดเบี้ยว และดินทรายในบริเวณนั้นก็พุ่งขึ้นมา กระแสน้ำวนเริ่มก่อตัว คล้ายกับเป็นลมพายุอันบ้าคลั่ง ลมพายุนั้นไม่อาจจะทำให้เส้นผมของเมิ่งฮ่าวพุ่งขึ้นไปได้แม้แต่เส้นเดียว แต่ภายในลมพายุนั้น มีเพียงเมิ่งฮ่าวคนเดียวเท่านั้นที่ไม่ได้ขยับตัวเคลื่อนไหว!

ทันทีที่ปรมาจารย์ฮูเหยียนมองเห็นสิ่งนี้ แม้แต่พื้นฐานฝึกตนของมัน, อายุของมัน และพลังของมัน ก็ยังไม่อาจจะช่วยเหลือมันได้ ได้แต่ตะโกนออกมาด้วยความตกใจ “ร่างตัดวิญญาณ!!! เป็นไปไม่ได้!!!”

เท่าที่มันจำได้ ร่างตัดวิญญาณเป็นขั้นในตำนาน ที่มีอยู่แต่ในสมัยโบราณเท่านั้น มันเป็นทั้งตัดวิญญาณและไม่ใช่ตัดวิญญาณ เพราะว่ามันไม่มีอาณาจักร แต่ถึงจะไม่มีอาณาจักร ด้วยร่างกายเช่นนั้นก็สามารถเทียบได้กับคนที่อยู่ในจุดสูงสุดของขั้นตัดวิญญาณ

ถ้าเขามีพื้นฐานฝึกตนขั้นตัดวิญญาณด้วย ผู้ฝึกตนตัดวิญญาณใดๆ ก็ตาม จะต้องมองว่าเขาไม่ใช่อะไรอื่นนอกจากเป็น…ฝันร้ายของพวกมันอย่างแน่นอน!

“การฝึกฝนร่างกายไม่ได้ถูกมุ่งเน้นอยู่ในรุ่นปัจจุบันนี้ เรื่องเช่นนั้นเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นมานานมากแล้วเมื่อในอดีต อย่าบอกข้านะว่าคนผู้นี้…ได้รับโชควาสนาที่เกี่ยวข้องกับการฝึกฝนร่างกาย อยู่ในสำนักเซียนอสูร!?!?” หนังศีรษะปรมาจารย์ฮูเหยียนด้านชาขนลุกตั้งชี้ชัน จิตใจเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ขณะที่มันหลบหนีจากไปอย่างรวดเร็ว มันรู้ดีว่าเวทของเมิ่งฮ่าวมีถึงวิญญาณดวงที่เจ็ด

ในตอนนี้ วิญญาณดวงที่หกของเมิ่งฮ่าว ก็น่าตกใจอย่างมากแล้ว ถ้าเขาเปลี่ยนเป็นวิญญาณดวงที่เจ็ด…ปรมาจารย์ฮูเหยียนไม่ต้องการจะเสี่ยงชีวิตของมัน และทุ่มสุดตัวอยู่ในที่แห่งนี้ มันยังมีเรื่องอื่นอีกที่จะต้องกระทำ ดังนั้นมันจึงไม่สนใจเรื่องหน้าตาใดๆ ทั้งสิ้น หลบหนีจากไปอย่างรวดเร็ว แต่ไม่ว่ามันจะรวดเร็วอย่างไรก็ตามที เมิ่งฮ่าว…ก็รวดเร็วกว่า!

ตูม!

เพียงชั่วพริบตา เมิ่งฮ่าวก็ไปปรากฏขึ้นที่เบื้องหน้าปรมาจารย์ฮูเหยียน เพื่อปิดกั้นเส้นทางของมัน เขายกมือขวาขึ้นมาและโบกสะบัดนิ้วอีกครั้ง

“เรื่องของพวกเรายังไม่จบ” เขากล่าว “แล้วเจ้าจะรีบไปไหน?”

สีหน้าปรมาจารย์ฮูเหยียนสลดลง โดยไม่ลังเล มันร่ายเวทด้วยสองมือ ใช้นิ้วชี้ของมือข้างหนึ่งแตะไปที่นิ้วโป้งของมืออีกข้าง ด้วยการหันฝ่ามือเข้าหากัน มันยื่นมือออกไปยังเมิ่งฮ่าวในทันที

ลายเส้นสี่ด้านพุ่งออกมา ซึ่งสอดคล้องกับอาณาจักรที่มันฝึกฝนมา พลังการขับไล่พุ่งขึ้นไป โดยมีด้านหนึ่งเป็นสวรรค์และปฐพี อีกด้านเป็นบุคคลที่จะถูกขับไล่

ลายเส้นสี่ด้านนั้นกระพริบไปมา ขณะที่พวกมันพุ่งตรงไป พุ่งไปปะทะกับลมพายุที่กระจายออกมารอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าว

ในเวลาเดียวกันนั้น พลังขับไล่อันรุนแรงอย่างน่ากลัว ก็ดูเหมือนจะเต็มอยู่ในลายเส้นทั้งสี่ด้าน พลังของการขับไล่นี้รุนแรงจนเพียงพอที่จะบดขยี้ให้เมิ่งฮ่าวกลายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย

“ไปให้พ้นนนน…”

เสียงแปลกๆ ไม่รู้ว่ามาจากที่แห่งใด ดังก้องออกมาราวกับเป็นเสียงฟ้าฟาด อยู่ภายในหูเมิ่งฮ่าว เป็นเสียงที่ทำให้พลังของการขับไล่อันน่าตกใจนี้ ดูเหมือนจะยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกของเมิ่งฮ่าวที่ต้องมาเผชิญหน้า กับวิชาเวทเช่นนี้ของปรมาจารย์ฮูเหยียน

ตอนนี้ เขาอยู่ในวิญญาณดวงที่หก และมีพลังของกายเนื้ออันน่ากลัว ดวงตาทันใดนั้นก็แวบขึ้น อ้าปากและส่งเสียงแผดร้องคำราม ตรงไปยังลายเส้นสี่ด้านที่พุ่งเข้ามา

“ไสหัวไป!”

เสียงนั้นสร้างบางสิ่งที่คล้ายกับเป็นคลื่น ซึ่งสะกดข่มสายฟ้าที่อยู่ด้านบนทั้งหมดในทันที ม้วนตัวออกไป ทำให้รอยแตกปรากฏขึ้นในอากาศ และเสียงกระหึ่มก็ได้ยินมาทั่วทุกทิศทาง ลายเส้นสี่ด้านระเบิดออกกลายเป็นชิ้นๆ ในทันที

พลังของการขับไล่ ได้เผชิญหน้ากับใครบางคน ที่ไม่อาจจะสร้างความสั่นสะเทือนให้ได้ ตอนนี้มันไม่มีอะไรนอกไปจากเป็นเรื่องขำขัน!

มันเหมือนกับเป็นกระแสน้ำเล็กๆ ที่ต้องการจะแข็งแกร่งราวกับเป็นภูผา แล้วมันจะเป็นไปได้อย่างไรกัน!?ขณะที่รูปร่างที่เป็นลายเส้นสี่ด้านพังทลายลง นิ้วเมิ่งฮ่าวก็แตะไปบนหน้าอกปรมาจารย์ฮูเหยียนอีกครั้ง เสียงระเบิดได้ยินมา โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากมัน และหน้าอกก็เต็มไปด้วยโลหิต แม้แต่แผ่นหลังของมันก็ยังชุ่มโชกไปด้วยโลหิต ขณะที่มันตระเกียกตระกายถอยไปทางด้านหลัง มองมายังเมิ่งฮ่าว สีหน้าบิดเบี้ยวด้วยความโหดเหี้ยมดุร้าย

“เหล่าฟูจะจากไป” มันร้องคำรามออกมา “เจ้าไม่ยอม? เจ้าคิดว่าเหล่าฟูหวาดกลัวเจ้าจริงๆ!?” ด้วยเช่นนั้น ปรมาจารย์ฮูเหยียนก็ใช้มือขวาร่ายเวทออกมาอีก กดมือลงไปบนหน้าผาก จากนั้นก็อ้าปากขึ้นพ่นมีดเล่มเล็กๆ สีดำออกมา

ทันทีที่มีดนั้นปรากฏขึ้น ทุกสิ่งทุกอย่างก็มืดสลัวเลือนลางลง มันเริ่มหมุนวนเร็วขึ้นเรื่อยๆ บนฝ่ามือ จากนั้นก็ขยายขนาดขึ้นอย่างรวดเร็ว อย่างน่าตกใจ มันได้กลายเป็นดาบขนาดใหญ่มหึมา ซึ่งถูกแกะสลักเป็นศีรษะมังกรที่ถูกตัดออกมา!

ปรมาจารย์ฮูเหยียนโบกสะบัดมือขวา สีหน้ามันปกคลุมด้วยความดุร้าย ซึ่งดูเหมือนว่ามันกำลังทุ่มสุดตัวถึงแม้จะต้องเสียงตายก็ตามที ขณะที่มันพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

“ตาย!!” พลังพื้นฐานฝึกตนของปรมาจารย์ฮูเหยียนระเบิดออก อันที่จริง…ระดับพลังที่มันใช้ออกมาในตอนนี้มากกว่าก่อนหน้านี้หลายเท่านัก พื้นที่รอบๆ ร่างมันเต็มไปด้วยระลอกคลื่นของความเก่าแก่โบราณ ซึ่งดูเหมือนจะประกอบไปด้วยกฎแห่งธรรมชาติ!!

กฎธรรมชาติแห่งอาณาจักรเซียนอสูรโบราณ!

กฎธรรมชาตินี้ประกอบไปด้วยพลังของการขับไล่ ที่ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับรูปร่างลายเส้นสี่ด้าน นี่เป็นพลัง ที่แท้จริงของการขับไล่ ซึ่งมาจากอาณาจักรเซียนอสูรโบราณ

ดาบตวัดลงมา สวรรค์สะท้าน ปฐพีสะเทือน!

“เจ้าควรจะกลัวข้า” เมิ่งฮ่าวกล่าวเสียงราบเรียบ ขณะที่เข้าไปใน…วิญญาณดวงที่เจ็ด!!

พลังของหกสิบสี่วงจรอันยิ่งใหญ่ขั้นวิญญาณแรกก่อตั้ง ระเบิดออกอยู่ภายใน กายเนื้อปลดปล่อยกลิ่นอายตัดวิญญาณออกมาเพิ่มมากขึ้น เมื่อรวมเข้าด้วยกัน ก็ทำให้อากาศรอบๆ ร่างเมิ่งฮ่าวเริ่มพังทลายลง เสียงกระหึ่มได้ยินอยู่รอบๆ ตัว แทบจะราวกับว่าร่างกายเขา เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือจากสำนักเซียนอสูรที่ล่มสลายไปแล้วนี้

ราวกับว่ามีเขตหวงห้ามที่มองไม่เห็นอยู่ในสถานที่แห่งนี้ และพื้นฐานฝึกตนหรือพลังการต่อสู้ใดๆ ที่เกินกว่าขอบเขตนั้นก็ไม่อนุญาตให้เข้าไปได้

ด้วยพลังการต่อสู้ที่แสดงออกมาในตอนนี้ ทำให้เมิ่งฮ่าวสัมผัสได้ถึงข้อจำกัดของโลกนั้น

“จริงๆ แล้ว ไม่จำเป็นต้องเข้าไปถึงวิญญาณดวงที่แปด” เมิ่งฮ่าวคิด “ข้าก็มีร่างตัดวิญญาณแล้ว!” ขณะที่เขาเผชิญพบกับความรู้สึกเช่นนั้นอยู่ชั่วครู่ ก็ตระหนักได้ว่าเขา…

กำลังอยู่ในขั้นตัดวิญญาณแล้ว!

ถึงแม้เขาจะไม่มีอาณาจักร แต่ก็ยังคงอยู่ในขั้นตัดวิญญาณ!! อันที่จริง เขายังแข็งแกร่งกว่าตอนที่ขอยืมพลังจากอ๋าวเฉี่ยนมา จากนั้นก็สวมใส่หน้ากากเซียนโลหิต และใช้พลังของเซียนโลหิตซะอีก

เมิ่งฮ่าวเผชิญหน้ากับดาบที่กำลังตวัดลงมาของปรมาจารย์ฮูเหยียน ยกมือขวาขึ้นโดยไม่ลังเล และกดนิ้วออกไป

ในตอนนี้ ทุกสรรพสิ่งจู่ๆ ก็ดูเหมือนจะถูกแช่แข็งไว้ เสียงกระหึ่มที่ดังเต็มอยู่ในอากาศ ดูเหมือนจะหยุดอยู่ชั่วขณะ และจากนั้นทุกสิ่งทุกอย่างก็กลับมาเป็นปกติเหมือนเดิม

เสียงระเบิดดังก้องออกมาเสียงแล้วเสียงเล่าอยู่ในความเงียบ กระจายเต็มไปทั่วทั้งสำนักเซียนอสูร ผู้ฝึกตนจากดาวหนานเทียนต่างก็ได้ยินกันถ้วนทั่วทุกตัวคน

ปรมาจารย์ฮูเหยียนกระอักโลหิตออกมา และลอยละลิ่วไปทางด้านหลัง ดาบสีดำขนาดใหญ่ในมือมัน แตกกระจายออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ใบหน้าซีดขาว ไม่สนใจผลกระทบใดๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับเวทขับไล่ มันใช้พื้นฐานฝึกตนของมันอย่างเต็มกำลัง…เพื่อจะทำลายศัตรูให้จงได้!

“เจ้าถึงขีดจำกัดในวิญญาณดวงที่เจ็ดแล้ว!” มันกล่าว ดวงตาเต็มไปด้วยความบ้าคลั่ง “นี่เป็นความแข็งแกร่งมากที่สุดของเจ้า!” ตอนนี้มันกำลังหอบหายใจอยู่ แต่รังสีสังหารในดวงตาก็เข้มข้นมากขึ้น “เมื่อเป็นเช่นนี้ เหล่าฟูก็จะช่วยส่งเจ้าออกเดินทาง!”

ปรมาจารย์ฮูเหยียนยกมือขวาขึ้น และกดลงไปบนหน้าอก เมื่อมันยกมือขึ้นมา แสงสีแดงก็ปรากฏขึ้น ดูเหมือนจะถูกดึงออกมาจากร่างของมันเอง

มันเป็นแส้ภาพลวงตาสีแดง ซึ่งดูเหมือนจะสามารถเฆี่ยนตีจิตวิญญาณ ดูเหมือนกับแส้ที่เมิ่งฮ่าวได้ขโมยมาจากมันเมื่อก่อนหน้านี้ ยกเว้นว่ามีสีที่แตกต่างกัน!

ทันทีที่แส้นั้นปรากฏขึ้น ร่างปรมาจารย์ฮูเหยียนก็เริ่มแห้งเหี่ยวลงอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าพลังชีวิตของมันกำลังถูกรวบรวมเข้าด้วยกันอยู่ในตัวแส้ ตอนนี้รังสีสังหารของมันบรรลุถึงจุดสูงสุด

เมิ่งฮ่าวยืนนิ่งอยู่ในตำแหน่งเดิมเหมือนก่อนหน้านี้ สายลมและฝุ่นผงปลิวคละคลุ้งอยู่รอบๆ ร่าง เส้นผมสะบัดพริ้วไปมา

ในช่วงไม่กี่อึดใจ ฝุ่นทรายและสายลมที่อยู่รอบๆ ร่างเขาก็กระจายหายไป…

“ตาย!!” ปรมาจารย์ฮูเหยียนแผดร้องออกมา รูปร่างที่ผอมแห้งของมันแวบขึ้น และเสียงแปลกๆ ก็ได้ยินออกมาจากแส้เส้นนั้น มันฟาดโบยตรงมายังเมิ่งฮ่าว เต็มไปด้วยความกระหายเลือดและกลิ่นอายอันน่ากลัว

เมิ่งฮ่าวมองขึ้นไป ไม่มีความเห็นใจแม้แต่น้อยนิดอยู่ในแววตา มีแต่ความสงบนิ่ง ขณะที่มองไปยังแส้วิญญาณที่ใกล้เข้ามา และปรมาจารย์ฮูเหยียนซึ่งกระจายระลอกคลื่นอันน่ากลัวออกมา เมิ่งฮ่าวได้ทดสอบวิชาเวทใหม่ของเขาแล้ว สิ่งที่จำเป็นต้องทำในตอนนี้ก็คือดูว่า…เขาจะมีความแข็งแกร่งมากเท่าใดกันแน่!

เมิ่งฮ่าวหลับตาลง กล่าวเสียงราบเรียบ “วิญญาณดวงที่แปด!”

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!