Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 278

Lord of the Mysteries 278

ตอนที่ 278 : ไม่คิดเงินหรือ

หลังอาหารมื้อค่ำ

ณ ห้องบิลเลียดของผับวีรบุรุษ

ไคลน์ในชุดโค้ทสีดำธรรมดาและหมวกแก๊ปสีเข้ม ยกแก้วเบียร์นันวีลล์ขึ้นจิบพลางปิดประตูด้านหลัง จากนั้นก็เดินตรงไปทางคาสปาสซึ่งกำลังโน้มตัวเตรียมแทงบิลเลียด

ไคลน์ฉีกยิ้มกว้าง แต่ยังไม่ทันได้กล่าวสิ่งใด คาสปาสพลันชะงักมือพร้อมกับเหยียดหลังตั้งตรง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นพูด

“มาริคไม่อยู่”

“ไม่มีการชุมนุมอื่น”

“ฉันขายแค่อาวุธ!”

…นั่นแหละ จุดประสงค์ของฉัน…คิดไม่ถึงใช่ไหม ว่าจะมาหาด้วยเหตุผลแสนธรรมดา…ไคลน์ยกโค้งมุมปาก

“ผมมาซื้ออาวุธ”

มาริคไม่อยู่…ไม่ผิดแน่ พวกเขาถูกศัตรูทราบตำแหน่ง และจำเป็นต้องย้ายแหล่งกบดานโดยเร็ว…แบบนี้ก็หมายความว่า เราคงติดต่อมิสบอดี้การ์ดไม่ได้สักพัก…ว่าจะขอยืมซอมบี้ของมาริคสักหน่อย ให้ปลอมตัวเป็นลูกน้องเรา…พวกมันเก็บความลับเก่ง เชื่อฟังคำสั่ง และไม่เกรงกลัวความตาย แต่อยู่ภายใต้เงื่อนไขว่า ต้องไม่ถูกอิทธิพลของนกหวีดทองแดงเล่นงาน… ขณะตอบคาสปาส สมองไคลน์ครุ่นคิดหลายเรื่อง

คาสปาสประหลาดใจเล็กน้อย ถึงขั้นแสดงออกทางสีหน้า มันนำไม้คิวมาค้ำยันร่างกาย มือข้างหนึ่งลูบจมูกโตสีแดง

“นายจะซื้ออาวุธแบบไหน? กระสุนชุดก่อนถูกใช้หมดแล้วหรือ? ไปฝึกอิท่าไหนถึงได้บ้าคลั่งขนาดนั้น”

ไม่เลยสักนิด เราใช้กระสุนซ้อมจากสโมสรครักซ์ต่างหาก…ไคลน์ยิ้ม

“อยากได้ระเบิด ระเบิดแบบเดียวกับในวงการเหมืองแร่”

“นายจะเอาไปทำอะไร?” คาสปาสโพล่งด้วยสีหน้าอึมครึม “ขอเตือนไว้ก่อน อย่าพยายามทำเรื่องชั่วร้ายเด็ดขาด! ฉันไม่ต้องการให้ลูกค้าไปพัวพันกับซิลวารัสยาร์ด! ถ้าไม่พอใจ จะไปซื้อกับคนอื่นก็ได้”

การเป็นพ่อค้าอาวุธเถื่อนและรักษาชีวิตมาได้ยาวนานขนาดนี้ คาสปาสคงมีกฎเหล็กประจำใจสักข้อสองข้อ อย่างน้อยก็จะไม่ขายอาวุธให้กับพวกเสียสติ…ไคลน์ประเมินอีกฝ่ายจากมุมมองของอดีตเหยี่ยวราตรี ก่อนจะอมยิ้ม “เข้าใจผิดแล้ว ผมไม่ได้จะเอาไประเบิดคลังเก็บเงินของธนาคารสักหน่อย และไม่อยากลงข่าวหน้าหนึ่งด้วย เพียงแต่กำลังหาทางช่วยใครสักคนระเบิดตึก เพื่อง่ายต่อการปรับปรุงโครงสร้างอาคาร”

“แล้วทำไมถึงไม่จ้างบริษัทก่อสร้าง?” คาสปาสยังคงไม่ลดความระแวง

“ฮะฮะ! เขาจะสร้างห้องลับ จึงไม่ต้องการให้มีคนรู้มากนัก” ไคลน์สลับเป็นฝ่ายถามบ้าง “คุณพอจะรู้จักนักวางระเบิดมืออาชีพบ้างไหม? ผมไม่ค่อยสันทัดเรื่องนี้ กลัวว่าบ้านทั้งหลังจะระเบิดพังครืนลงมา”

เมื่อเห็นไคลน์กังวลว่าบ้านจะพัง คาสปาสเริ่มบรรเทาอคติภายในใจ

ขณะกำลังจะมอบคำตอบ เสียงมายาอันล่องลอยพลันกังวานไปทั่วห้องบิลเลียด

“ไม่จำเป็น”

ไคลน์สัมผัสถึงความรู้สึกแสนคุ้นเคย เมื่อหันหลังกลับไปมอง มันพบมิสบอดี้การ์ดกำลังนั่งบนเก้าอี้มุมห้องอย่างเงียบเชียบ ไม่มีใครทราบว่าหล่อนปรากฏตัวตอนไหน

คนคุ้มกันสาวสวยยังคงสวมเดรสโกธิกสีดำตัวเก่า หมวกใบเล็กเข้าชุด ผิวพรรณขาวซีดเหมือนทุกครั้ง ประกอบกับเส้นผมสีทองและใบหน้าอันงดงาม ทั้งหมดเข้ากันได้ดีจนน่าหลงใหล

“สายัณห์สวัสดิ์ มาดาม” ไคลน์โน้มตัวคำนับเล็กน้อย

“สายัณห์สวัสดิ์ มาดามชารอน” คาสปาสทำท่าแบบเดียวกัน

เธอชื่อชารอนนี่เอง…ไคลน์ครุ่นคิด พลางนิ่งเงียบรอให้อีกฝ่ายอธิบาย

หญิงสาวนามชารอนมองไปทางคาสปาส

“มาริคคงไม่มาอีกแล้ว”

“หากต้องการสิ่งใด จงทิ้งข้อความด้วยช่องทางลับหมายเลขสาม”

“เข้าใจแล้วครับ มาดามชารอน” คาสปาส ผู้มีประสบการณ์ชีวิตโชกโชน แสดงท่าทีหวาดกลัวต่อมิสบอดี้การ์ดจากก้นบึ้งจิตใจ

เมื่อได้ยินดังนั้น ไคลน์ตัดสินใจพูดแทรก

“เอ่อ…ถ้าเกิดว่า ผมต้องการความช่วยเหลือจากมาริค จะติดต่อทางใดได้บ้าง?”

“ผ่านคาสปาส” ชารอนตอบกระชับ

“ได้ครับ” ไคลน์ขานรับ ก่อนจะซักถามต่อ “แล้วคุณหมายความว่าอย่างไร ถึงบอกว่าผมไม่จำเป็นต้องจ้างนักวางระเบิด?”

ชารอนตอบด้วยดวงตาสีฟ้าไม่สั่นคลอน

“ฉันจัดการเอง”

คุณจะจัดการเอง? คุณเป็นนักวางระเบิดมืออาชีพหรือไง? เดี๋ยวก่อน ไม่ใช่ว่าคุณคือผู้วิเศษเส้นทางพิสดารหรอกหรือ แถมยังมีลำดับสูงถึงห้า…แล้วทำไมถึงได้มีอดิเรกเป็นนักวางระเบิด? ไคลน์หมดคำพูดไปชั่วขณะ

แต่จนแล้วจนรอด มันเลือกจะเชื่อคำพูดของชารอนโดยไม่เคลือบแคลง จึงตัดสินใจอธิบายสถานการณ์

“ผมกำลังจะไป”

ยังไม่ทันกล่าวจบประโยค ไคลน์ประเมินว่าบทสนทนาของตนไม่เหมาะจะให้คนธรรมดาได้รับฟัง

ถึงจะเป็นพ่อค้าอาวุธเถื่อน…แต่ร่างกายก็ยังเป็นคนธรรมดาอยู่ดี…ไคลน์เสริม

ชารอนหันไปมองคาสปาส

“เตรียมระเบิดหนักสองปอนด์ เขาจ่าย”

“ได้ครับ มาดามชารอน” คาสปาสชำเลืองไคลน์เล็กน้อย ก่อนจะเดินกะเผลกออกจากห้องบิลเลียด โดยไม่ลืมปิดประตูตามหลัง

เมื่อต้องเผชิญสายตาของมิสบอดี้การ์ดตามลำพัง ไคลน์รู้สึกประหนึ่งถูกจ้องมองด้วยผีสางนางไม้ มันรีบเรียบเรียงคำพูดอธิบายด้วยร่างกายสั่นเทาเจือจาง

“ผมสืบจนทราบพิกัดบ้านบาโรเน็ตพาวน์ จึงเดินทางไปเยี่ยมเยียนเขากลางดึก…”

ไคลน์เล่าเรื่องราวอย่างละเอียด เกี่ยวกับบทสนทนาระหว่างตนและราฟเตอร์·พาวน์ จากนั้นก็สอดแทรกทฤษฎีของตัวเอง

“ผมคิดว่าเขาโกหกหลายเรื่อง ทายาทตระกูลไวเคาต์ไม่มีทางถูกคนรอบข้างชักจูงได้ง่ายขนาดนี้แน่”

“ในเมื่อเด็กสิบขวบสัมผัสถึงสิ่งผิดปรกติ แล้วราชวงศ์กับโบสถ์จะไม่ทราบเลยหรือ?”

“หลังจากราฟเตอร์·พาวน์เริ่มเสียคน เขามีโอกาสได้พบสมาชิกตระกูลขุนนางจำนวนมาก หากมีความกล้าสักนิด ปัญหาดังกล่าวก็จะถูกแก้ไขโดยง่าย”

“ดังนั้น ผมจึงเชื่อว่าเขาพยายามปิดบังบางสิ่ง และเรื่องดังกล่าวต้องเกี่ยวข้องกับอาคารโบราณใต้ดินแน่”

“ดูจากพฤติกรรมไม่หนี มีโอกาสเป็นไปได้มากกว่าวิญญาณมารจะถูกผนึกอยู่ในห้องดังกล่าวไปอีกนาน ดังนั้น ผมจึงวางแผนระเบิดทำลายทางเข้าอาคารโบราณ เพื่อไม่ให้ใครย่างกรายเข้าไปได้ เอ่อ…แต่ผมกังวลว่า ถ้าทำแบบนั้น อาจเกิดอุบัติเหตุจนทำให้วิญญาณมารหลุดจากผนึก”

“ตกลง” มิสบอดี้การ์ด ชารอน ไม่ยืนยันว่าทฤษฎีไคลน์ถูกต้อง แต่ก็ไม่ปฏิเสธเช่นกัน

ทันใดนั้น ไคลน์แสดงสีหน้าลังเล

“ผมไม่ทราบเทคนิคการใช้ระเบิด ก็เลยเตรียมจ้างนักวางระเบิดมืออาชีพ จากนั้นค่อยวาดแผนผังโครงสร้างอาคารให้ดู เพื่อจะได้คำนวณถูกว่าต้องใช้ระเบิดปริมาณเท่าใด เอ่อ…ถ้าผมขอให้คุณช่วยอีกครั้ง จะต้องจ่ายเงินเท่าไรหรือ?”

หากแพงเกินไป เราควรมองหานักวางระเบิดมืออาชีพซึ่งเป็นคนธรรมดา…ต้องไม่ลืมว่า ภารกิจของมิลเลอร์·คาเตอร์มีมูลค่าเพียง ห้าสิบปอนด์เท่านั้น ส่วนมิสบอดี้การ์ดเคยคิดค่าคุ้มกัน สาม วัน หนึ่งพันปอนด์…ไคลน์วางแผนต่อเนื่องในใจ

“ไม่คิดเงิน” ชารอนมอบคำตอบด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์

ไม่คิดเงิน? ไคลน์พลันตะลึง

จากประสบการณ์ของเรา ของฟรีมักแพงเสมอ!

ชารอนนั่งนิ่งราวสามวินาที ก่อนจะอธิบายอย่างสั้นกระชับ

“หลังจากถล่มทางเข้า จะไม่มีใครผ่านเข้าออกอาคารโบราณแห่งนั้นได้นอกจากฉัน”

“นั่นคือค่าตอบแทน”

หรือก็คือ หากคุณแข็งแกร่งมากพอเมื่อไร จะเข้าไปจัดการวิญญาณมารตามลำพัง และรวบรวมสมบัติก้อนโตกลับออกมา? จริงด้วย การถล่มทางเข้าจะสร้างผลดีต่อเธออย่างมาก เนื่องจากขจัดคู่แข่งในการแย่งสมบัติทั้งหมดในคราวเดียว… พลังสำหรับเคลื่อนย้ายตัวเองข้ามผนังหินหนา มีเพียงไม่กี่เส้นทางสามารถกระทำได้ โดยร่างวิญญาณของมาดามชารอนคือหนึ่งในนั้น…เส้นทางผู้ฝึกหัดเองก็น่าจะผ่านได้เช่นกัน แต่พวกมันไม่ทราบการมีอยู่ของอาคารโบราณ…ไคลน์ผงกศีรษะเมื่อบรรลุสัจธรรม

“ตกลง!”

หลังพูดจบ มันรีบเสริม

“เอ่อ…คุณช่วยยืมลูกน้องของมาริคสักสองสามคนได้ไหม? ผมเคยเห็นกลุ่มคนริมฝีปากหนา ล้อมวงเล่นไพ่กับเขา…อย่างน้อยก็ต้องแสดงให้มิลเลอร์·คาเตอร์เห็นว่า ผมมีผู้ช่วยในการทำงาน จะได้ไม่ดูน่าสงสัยเกินไป”

“ตกลง” ชารอนไม่ปฏิเสธ

ไคลน์จงใจไม่พูดถึงเรื่องเงิน มันเพียงยิ้มรับ

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอนัดเวลา สิบโมงเช้าของวันพรุ่งนี้ พวกเราจำเป็นต้องสำรวจโครงสร้างบ้านอย่างละเอียดอีกรอบ เพื่อไม่ให้แรงระเบิดสร้างความเสียหายเกินความจำเป็น”

ชารอนพยักหน้ารับ ก่อนจะเลือนหายไปในความว่างเปล่า ราวกับการมีตัวตนเมื่อครู่เป็นเรื่องโกหก

เสาร์เช้า ซิล·เดียร์ชามีแผนนั่งรถม้าสาธารณะตระเวนทั่วเขตตะวันออกอีกครั้ง เพื่อตรวจสอบว่า มีใครได้ข่าวสารของลาเนวุสเพิ่มเติมหรือไม่

ขณะกำลังยืนรอให้รถมาถึง เธอตัดสินใจซื้อหนังสือพิมพ์อ่าน

ซิลควักเหรียญเพนนี แลกกับหนังสือพิมพ์เบ็คลันด์โพสหนึ่งฉบับจากเด็กขายหนังสือพิมพ์ด้านข้าง ก่อนจะก้มหน้าอ่านอย่างตั้งใจ

ทันใดนั้น ดวงตาพลันเบิกโพลงหลังจากเหลือบเห็นข่าวด่วนหน้าสาม

“ตามเวลาสิบเก้านาฬิกาสิบนาทีของเมื่อคืนวาน เกิดเหตุระเบิดรุนแรงกับอาคารหมายเลขหนึ่ง ของถนนดาราวีบนเขตตะวันออก ตึกดังกล่าวเปิดให้บริการเช่าหอพัก ตำรวจสันนิษฐานว่าเหตุเกิดจากแก๊สรั่ว ต้นตอของระเบิดมาจากห้องพักหมายเลข3-06 ผู้เช่าเสียชีวิตในจุดเกิดเหตุทันที แรงระเบิดได้ฉีกกระชากร่างเหยื่อจนไม่หลงเหลือสภาพเดิม ในปัจจุบันขณะลงข่าว มีผู้เสียชีวิตไปแล้ว สามราย และบาดเจ็บสาหัสอีกสิบหกคน…”

หมายเลขหนึ่ง ถนนดาราวี…ห้อง 3-06…นั่นมัน…ห้องของวิลเลียมส์ไม่ใช่หรือ? เขาตายแล้ว? ตายจากแก๊สรั่วเนี่ยนะ? ไม่มีทาง! เป็นไปไม่ได้เด็ดขาด! ชายคนนั้นไม่กล้าใช้เงินฟุ่มเฟือยไปกับแก๊สแน่นอน ต่อให้ห้องพักมีท่อแก๊สก็ตาม…เขาตายเพราะรับภารกิจจากเรา? น่าแปลกมาก…ลาเนวุสเป็นอาชญากรค่าหัวสูงลิบ ถ้าพบว่ากำลังถูกใครบางคนตามล่า ก็ควรรีบหนีไปให้ไกลไม่ใช่หรือ? การฆ่าคนปิดปากไม่ใช่เรื่องฉลาดเลย นั่นยิ่งทำให้ตำรวจสาวถึงตัวง่ายขึ้น…

วิธีลงมือแบบนี้ อีกฝ่ายต้องเป็นพวกหัวรุนแรงสุดโต่ง ไม่ต่างจากการกระทำของบุคคลเสียสติ…

พฤติกรรมสมกับเป็นนักต้มตุ๋นหน้าโง่…

วิลเลียมส์ผู้น่าสงสาร…

ฉ…ฉันจะแก้แค้นให้นายเอง!

ต้องลากข้อเท็จจริงออกมาให้ได้!

สีหน้าซิลพลันอึมครึมกะทันหัน สายตาจ้องมองรถม้าสาธารณะแล่นมาจอดอย่างเหม่อเลย เธอตัดสินใจไม่เดินขึ้นไปตามความตั้งใจเดิม

ซิลย่อมทราบดี การเดินทางไปยังเขตตะวันออกตอนนี้ มีเพียงอันตรายรออยู่

เธอเตรียมกลับไปหอพักของตัวเอง เพื่อบอกให้ฟอร์สรีบย้ายไปพักในบ้านสำรองชั่วคราว จากนั้น ซิลจะปลอมตัวและมุ่งหน้าไปยังเขตตะวันออก มองหาคนสนิท ซักถามสถานการณ์ปัจจุบัน และตามหาเบาะแสของฆาตกรผู้สังหารวิลเลียมส์

เฮ่อ…ภารกิจของมิสออเดรย์ไม่เคยง่ายเลยสักครั้ง…เราแค่คิดว่า ถ้าไม่ไปเข้าขัดขวางแผนการของนักตุ้มตุ๋น ไม่ไปขัดขวางการหลบหนีของมัน อีกฝ่ายคงไม่ลงกล้ามือทำอะไรรุนแรง…เราคิดง่ายเกินไป และนั่นเป็นเหตุให้วิลเลียมส์ต้องตาย… ไม่สิ วิลเลียมส์อาจตายเพราะเรื่องอื่นก็ได้ ไม่เกี่ยวกับภารกิจของเราเสมอไป…ซิลหลับตาลงพลางกำหมัด ก่อนจะเดินข้ามไปยังถนนฝั่งตรงข้าม

สิบนาฬิกาสิบสี่นาที หลังจากยืนยันโครงสร้างของอาคารใต้ดินโบราณจากยุคสมัยสี่อย่างละเอียด ไคลน์และมิสบอดี้การ์ด ชารอน เดินทางถึงหน้าบ้านหมายเลขแปด ถนนวิลเลียมส์

ชารอนหายตัวรวมเป็นหนึ่งเดียวกับความว่างเปล่า มิลเลอร์·คาเตอร์จึงมองเห็นเพียงนักสืบเชอร์ล็อค·โมเรียตี้ ผู้สวมชุดคนงานสีฟ้าอมเทาและหมวกแก๊ป รวมถึงลูกน้องบรรยากาศเงียบขรึมอีกสามคน

“ทำงานแบบนี้สะดวกกว่า” ไคลน์อธิบาย

มิลเลอร์·คาเตอร์สำรวจลูกน้องทั้งสามคนหัวจรดเท้า มันประเมินว่าคงเป็นกลุ่มคนประเภทชำนาญการใช้พละกำลัง

“คุณเตรียมตัวได้รวดเร็วกว่าความคาดหมายของผมมาก…หนึ่งในนี้มีผู้เชี่ยวชาญการไล่งูด้วยใช่ไหม?”

“ใช่ครับ พวกเขาถนัดไล่งูมาก” ไคลน์ตอบอย่างฉะฉานและหน้าด้าน

ไม่มีซอมบี้ตัวไหนกลัวงูกัดหรอกนะ…

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!