Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1137

ตอนที่ 1137

เหตุการณ์พลิกผัน

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น เขารับรู้ได้ถึงกลิ่นอายอันชั่วร้ายอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายออกมาได้ กำลังพุ่งออกมาจากหม้อดินเผาใบนั้น ราวกับว่ามันประกอบไปด้วยพลังแห่งเจตจำนงของสิ่งมีชีวิตทั้งหมดในอาณาจักรสายลมแห่งนี้

เสียงที่คล้ายกับเป็นเสียงแผดร้องอย่างไร้ขอบเขต กระเพื่อมออกมาจากโลหิตในทั่วทุกทิศทาง ทำให้ท้องฟ้าแวบประกายขึ้น และเสาแห่งแสงทั้งเก้าที่พุ่งขึ้นมาจากชนเผ่าทั้งเก้ามืดสลัวลงไปเล็กน้อย แม้แต่กระแสน้ำวนทั้งเก้าที่อยู่ในท้องฟ้าก็ดูเหมือนว่าจะได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน และดูเหมือนว่าพวกมันอาจจะหยุดหมุนวนไปก็เป็นได้!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มกึกก้องขึ้น และจักรพรรดิก็หัวเราะอย่างบ้าคลั่งออกมา หลังจากที่ขว้างหม้อดินเผาลงไปแล้ว มันก็แตกกระจายไป ส่งผลให้โลหิตพุ่งออกไปในทั่วทุกทิศทาง เสียงแผดร้องที่ไร้ตัวตนดังเข้มข้นมากขึ้นกว่าเดิม จนกลายเป็นระลอกคลื่นที่กระจายออกไปทุกหนทุกแห่ง ปกคลุมไปทั่วทั้งอาณาจักรสายลม ทำให้มันบิดเบี้ยวไปมา

เมิ่งฮ่าวหอบหายใจออกมา เหตุการณ์ที่พลิกผันกลับกลายไปเช่นนี้กำลังทำให้อาณาจักรสายลมสั่นสะเทือนขึ้น และถึงแม้ว่าเขาจะเตรียมใจไว้แล้ว แต่สิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ตรงหน้าในตอนนี้ก็น่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง

ผู้ฝึกตนอื่นๆ จากอาณาจักรขุนเขาทะเลต่างก็มีสีหน้าประหลาดใจไปตามๆ กัน

หม้อดินเผาแตกกระจายไป และโลหิตก็พุ่งออกไปในทั่วทุกทิศทาง การต่อสู้กันอย่างดุร้ายของกองกำลังทั้งเก้าชนเผ่า ทำให้พื้นดินเปียกชุ่มไปด้วยสีแดงมานานแล้ว แต่โลหิตที่กระจายออกมาในตอนนี้ไม่ได้แค่ทำให้พื้นดินเปียกชุ่มเท่านั้น แต่ทุกสิ่งทุกอย่างที่มันสัมผัสไปโดนก็จะกลายเป็นสีแดงเข้มมากขึ้นไปอีก

“สิ่งมีชีวิต, สวรรค์และปฐพี, ภูเขาและแม่น้ำ, สายลมและกลุ่มเมฆ…ด้วยพลังที่อยู่ในร่างข้า ข้าขอเรียกพวกเจ้าออกมา!”

ขณะที่เสียงแหลมเล็กของจักรพรรดิร้องตะโกนดังก้องออกไปในทั่วทุกทิศทาง โลหิตจากหม้อดินเผาก็เริ่มบิดเบี้ยวไปมา ราวกับว่ามันมีชีวิตขึ้นมา

ราวกับว่ามีบางสิ่งบางอย่างถูกปกปิดไว้อยู่ที่ด้านในของโลหิต ซึ่งในตอนนี้ถูกเรียกออกมา คล้ายกับเป็นกุญแจที่สามารถจะเปิดประตูเข้าไปสู่ดินแดนสีโลหิต!

พื้นดินในเขตพื้นที่วิหารกลางกำลังสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง ต่อมาโลหิตจำนวนมากก็เริ่มพุ่งขึ้นมาจากพื้นดิน ราวกับว่ามันกำลังถูกเรียกโดยตรง

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังกึกก้องขึ้น ขณะที่เสียงดุร้ายนับไม่ถ้วนกำลังแผดร้องออกมา โลหิตพุ่งขึ้นมาจากพื้นดินมากขึ้น จนทำให้ทุกสรรพสิ่งในที่แห่งนี้กลายเป็นโลกแห่งโลหิตไป

ผู้ฝึกตนจากอาณาจักรขุนเขาทะเล รวมทั้งฝานตงเอ๋อร์ ต่างก็ตกตะลึงไปทั้งหมด และไม่รู้ว่ากำลังมีอะไรเกิดขึ้นอยู่

“โลหิตสายลม น้ำตาสวรรค์ ข้าเรียกร้องให้พวกเจ้าตื่นขึ้นมาจากการหลับใหลแห่งความตาย!” จักรพรรดิกัดไปที่ปลายลิ้นและพ่นโลหิตออกมาหนึ่งคำ เส้นผมของมันยุ่งเหยิงเป็นกระเซิง และมีท่าทางบ้าคลั่ง

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องออกมาขณะที่พื้นดินสั่นสะเทือนด้วยความรุนแรงมากขึ้น เมิ่งฮ่าวแวบผ่านอากาศไป ยกเลิกการไล่ตามเต้าเทียน และมุ่งหน้าตรงไปยังจักรพรรดิ จู่ๆ เขามีลางสังหรณ์ขึ้นมาว่า ถ้าเรื่องราวยังคงดำเนินต่อไปเช่นนี้ ก็จะเกิดเป็นหายนะอันร้ายแรงขึ้นมา

แทบจะในทันทีที่เมิ่งฮ่าวเริ่มพุ่งตรงไปยังจักรพรรดิ จ้งอู๋หยาก็ถอนหายใจและก้าวเท้าตรงมา กางแขนออกปิดกั้นเส้นทางของเมิ่งฮ่าวไว้

“เมิ่งฮ่าว เจ้าไม่อาจจะหยุดเรื่องที่กำลังเกิดขึ้นนี้ได้ แค่มองดูก็พอ”

เมิ่งฮ่าวผลักจ้งอู๋หยาให้พ้นทาง ทำให้เกิดเป็นสายลมขนาดใหญ่พุ่งขึ้นไป แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรเพื่อหยุดโลหิตที่กำลังพุ่งขึ้นมาได้

“ก่อนหน้านี้เจ้าจงใจปล่อยให้ข้ารอดชีวิต เพราะเหตุใด?!” เมิ่งฮ่าวขยับมือขวาร่ายเวท ทำให้แสงสีฟ้ากระจายออกไปจากร่าง ทันใดนั้นภูเขาจำนวนมากก็เริ่มตกลงมา ซึ่งเป็นผลมาจากเวทกลืนภูเขา ทั้งหมดนี้ไม่ใช่ภูเขาธรรมดา แต่เป็นภูเขาสีฟ้าอันไร้ขอบเขต เป็นภูเขาเซียนที่กระแทกลงมาด้วยพลังอันน่าตกใจ

“ข้ารู้ว่าเจ้าตัดสินใจจะทำอะไร และเจ้าก็รู้การตัดสินใจของข้าด้วยเช่นกัน สำหรับใครจะผิดใครจะถูก ก็แค่มาดูกัน…เวลาจะตอบคำถามทั้งหมดนี้เอง”

มันขยับมือขวาร่ายเวทและชี้นิ้วตรงมา ทันใดนั้นตะเกียงวิญญาณที่ดับลงไปแล้วของมันก็กระจายออก พุ่งขึ้นไปปะทะกับภูเขาเซียนสีฟ้า เกิดเป็นเสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา และมันก็ถอยไปทางด้านหลังสองสามก้าว ร่างกายสั่นสะท้าน

“สำหรับเหตุผลที่ทำไมข้าปล่อยให้เจ้ารอดชีวิต…นั่นเป็นเพราะ…ข้าหวังว่าถ้าข้าคิดผิด เจ้าก็สามารถจะช่วยให้ข้าบรรลุถึงบางสิ่งได้” ดวงตามันเต็มไปด้วยการหวนรำลึก และอารมณ์อันซับซ้อนก็พุ่งขึ้นมาอีกครั้ง ถอนหายใจอีกครา

เมิ่งฮ่าวก็ถูกบังคับให้ต้องถอยไปทางด้านหลังด้วยพลังสะท้อนกลับเช่นเดียวกัน เขามองไปยังจ้งอู๋หยา และจ้องเข้าไปในดวงตาของมัน จนทำให้ต้องเงียบไป

โลหิตลอยขึ้นมามากขึ้นเรื่อยๆ ในชั่วพริบตาก็ปกคลุมไปทั่วทุกสรรพสิ่ง ทำให้กลายเป็นแม่น้ำแห่งโลหิต เสียงกระหึ่มกึกก้องได้ยินมา และดวงตาเมิ่งฮ่าวก็เบิกกว้างขึ้น ที่ห่างออกไปด้านข้าง เต้าเทียนมีท่าทางประหลาดใจ แต่ก็ฉวยโอกาสในสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นนี้หลบหนีจากไป

“ออกมา โลหิตสายลม!” จักรพรรดิร้องตะโกนขึ้น จู่ๆ มือขวาของมันก็พุ่งขึ้นมา แทงนิ้วเข้าไปในดวงตาของตัวเอง ในตอนที่นิ้วแทงเข้าไป ท้องฟ้าก็เต็มไปด้วยสายฟ้าที่ปะทุขึ้นมา

โลหิตที่ปกคลุมไปทั่วทั้งพื้นดินกำลังเดือดพล่าน และลอยขึ้นมาจากส่วนลึกของพื้นดินอย่างต่อเนื่อง แม่น้ำแห่งโลหิตในตอนนี้กำลังกลายเป็นทะเลแห่งโลหิต!

ในชั่วพริบตาดินแดนทั้งหมดก็ถูกปกคลุมด้วยโลหิตที่มากมายจนนับไม่ถ้วน แม้แต่เจดีย์ทั้งเก้าที่เป็นตัวแทนของเก้าชนเผ่า ก็ตกอยู่ในอันตรายจากการถูกปกคลุมด้วยโลหิตเหล่านี้

นี่คือโลหิตที่สาดกระจายออกมาจากนักรบนับไม่ถ้วนที่ตกตายไปในช่วงของการต่อสู้

“วิญญาณสายลม ปลดปล่อยความเคียดแค้นที่สะสมมานานหลายปีจนนับไม่ถ้วนออกมา เพื่อก่อตัวเป็นผู้กล้าของพวกเจ้า…” มันแหงนหน้าขึ้นไปและแผดร้องออกมา ชูมือทั้งสองขึ้นไปในอากาศอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะสะบัดลงมายังพื้นดินอย่างรุนแรง

ความเคียดแค้นนั้นทำให้พื้นดินสั่นสะเทือน ทะเลแห่งโลหิตส่งเสียงดังกระหึ่มขึ้น และจากนั้นก็เริ่มเผยให้เห็นเป็นงาร่างแล้วร่างเล่าพุ่งขึ้นมา ในชั่วพริบตาก็มีอยู่เป็นจำนวนมาก หลังจากที่ปรากฏขึ้นพวกมันก็ส่งเสียงแผดร้องอย่างรุนแรงออกมา และจากนั้นก็ใช้ดวงตาที่เป็นสีโลหิตของพวกมันจ้องมองมายังเมิ่งฮ่าวและเต้าเทียน รวมทั้งผู้ฝึกตนอื่นๆ ที่มาจากอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด

มันคือความเป็นปรปักษ์ที่ถูกสะกดข่มไว้มานานหลายปี เป็นความเกลียดชังที่จมลึกลงไปถึงในกระดูก แทรกซึมลงไปในสายโลหิต ถูกสร้างขึ้นมาจากรุ่นสู่รุ่น จนกระทั่งกลายมาเป็นลมพายุ

“ก่อตั้งค่ายกลเก้าโลหิต!” จักรพรรดิแผดร้องออกมาด้วยเสียงแหบแห้ง ยกเท้าขวาขึ้นและจากนั้นก็กระทืบลงไปยังทะเลแห่งโลหิตด้วยความดุร้าย เสียงระเบิดดังก้องขึ้นมา และเงาร่างที่รวมตัวกันขึ้นมาจากโลหิตก็เริ่มพุ่งตรงไปยังเจดีย์ทั้งเก้า ส่งเสียงกู่ร้องไปตลอดทาง

คนทั้งหมดมองไปขณะที่เงาร่างสีโลหิตกระแทกเข้าไปในเจดีย์ และจากนั้นก็หายตัวไปโดยสิ้นเชิง ถูกเจดีย์ดูดซับเข้าไป จากนั้นเจดีย์ก็กลายเป็นสีโลหิตไป

โลหิตที่ยังคงเหลืออยู่บนพื้น ไหลเข้าไปในเจดีย์อย่างต่อเนื่อง เห็นได้ชัดว่าถูกแรงดึงดูดอันน่าตกใจบางอย่างดูดเข้าไป เพียงชั่วขณะโลหิตทั้งหมดก็เหือดแห้งหายไป

เมื่อเจดีย์ทั้งเก้าดูดซับทะเลแห่งโลหิตและเงาร่างสีโลหิตเข้าไป ตอนนี้กำลังเปล่งประกายเป็นสีแดงเข้มอย่างเจิดจ้าออกมา จนถึงตอนนี้ลำแสงสีโลหิตทั้งเก้าจู่ๆ ก็พุ่งขึ้นมาจากเก้าเจดีย์เหล่านั้น

พวกมันพุ่งตรงขึ้นไปในท้องฟ้า แทงทะลุผ่านกลุ่มเมฆเพื่อก่อตัวเป็น…กระแสน้ำวนสีโลหิตเก้าแห่ง!

ถ้ามองดูให้ละเอียดก็จะเห็นว่ามีเงาร่างสีโลหิตนับไม่ถ้วนอยู่ภายในกระแสน้ำวนเหล่านั้น กำลังพุ่งไปมาราวกับว่าพวกมันกำลังวิ่งอยู่!

เจดีย์ทั้งเก้าไม่ได้อยู่ห่างไกลกันมากนัก และไม่ได้อยู่ห่างจากเสาแห่งแสงทั้งเก้าด้วยเช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นกระแสน้ำวนทั้งเก้าที่ด้านบนก็อยู่ใกล้กันเป็นอย่างยิ่ง ขณะที่พวกมันมีขนาดใหญ่มากขึ้น ก็หลอมรวมเข้าด้วยกัน ก่อตัวเป็น…กระแสน้ำวนขนาดใหญ่เพียงกระแสเดียว!

ผู้ฝึกตนจากอาณาจักรขุนเขาทะเลต่างก็ตกตะลึงกับเหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ไม่นานต่อมากระแสน้ำวนสีโลหิตอันน่าตกใจก็เต็มอยู่ในท้องฟ้าพร้อมกับเสียงกระหึ่มกึกก้อง ทำให้พื้นดินที่ด้านล่างสั่นสะเทือนไปมา

เสาแห่งแสงจากเก้าชนเผ่า กำลังป้องกันไม่ให้อาณาจักรสายลมพุ่งสูงขึ้นไป แต่ก็เห็นได้ชัดว่ากระแสน้ำวนสีโลหิต ได้ทำลายพลังของพวกมันไปในทันที ขณะที่กระแสน้ำวนสีโลหิตหมุนวนไปมา พื้นดินที่หยุดชะงักนิ่งไปก่อนหน้านี้ก็สั่นสะท้านขึ้น จากนั้นก็เริ่ม…พุ่งสูงขึ้นไปอีกครั้ง!

 

ถ้ามองมาจากความว่างเปล่าที่ด้านนอก ก็จะเห็นได้ว่าอาณาจักรสายลมจู่ๆ ก็พุ่งขึ้นไปในความว่างเปล่าอย่างรวดเร็ว

“ทำให้ภูเขากั๋วยิ่นแปดเปื้อน!” จักรพรรดิแผดร้องออกมา แทงนิ้วเข้าไปในดวงตาอีกข้างของมัน ทำให้ตัวเองตาบอดไปโดยสิ้นเชิง สิ่งเดียวที่ยังเหลืออยู่ในดวงตาของมันก็คือ หลุมที่มีโลหิตไหลออกมา ในเวลาเดียวกันนั้น เสียงหัวเราะที่แสบแก้วหูก็ดังก้องขึ้น

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกตนในสำนักทั้งหมดของเก้าชนเผ่าแห่งอาณาจักรสายลม ก็เริ่มสั่นสะท้าน แทบจะราวกับว่าพวกมันกำลังตื่นขึ้นมาจากความฝัน สีหน้าเปลี่ยนเป็นบ้าคลั่ง และเริ่มร้องตะโกนออกมาด้วยเสียงที่ดังก้องไปทั่ว

“เพื่ออิสรภาพ!!”

“เพื่ออิสรภาพ!!”

“เพื่ออิสรภาพ!!”

จากชนเผ่าแรกไปยังชนเผ่าที่สอง…จนกระทั่งทั่วทั้งเก้าชนเผ่า สำนักต่างๆ ทั้งหมด ต่างก็ร้องตะโกนขึ้นมาจนดังเต็มอยู่ในโลกแห่งนี้ด้วยคำพูดเดียวกัน

ในเวลาเดียวกันนั้น ผู้ฝึกตนแห่งอาณาจักรสายลมจู่ๆ ก็ใช้มือขวาฟาดลงไปบนศีรษะของตนเอง เกิดเป็นเสียงกึกก้องราวกับเสียงฟ้าคำรามดังขึ้น โลหิตพ่นกระจายออกมาจากปาก และร่างพวกมันก็โซเซไปมา ใบหน้าซีดขาว บางคนยังได้ล้มตายลงไปอีกด้วย

เมื่อโลหิตพ่นกระจายออกมาจากปากพวกมันราวกับเป็นน้ำพุ โลหิตนั้นก็ลอยขึ้นไปในอากาศ และจากนั้นก็พุ่งตรงไปยังเศษซากปรักหักพังของ…ภูเขากั๋วยิ่นที่อยู่ใกล้มากที่สุด!

ทันใดนั้น ภูเขากั๋วยิ่นที่พังทลายลงไปก็เผชิญกับกระแสแห่งโลหิตจำนวนมา ที่กำลังพุ่งตรงมาอย่างรวดเร็ว

โลหิตกำลังถูกใช้เพื่อให้แปดเปื้อนลำแสง!

พื้นดินสั่นสะเทือน และท้องฟ้าก็เปลี่ยนเป็นสีโลหิต กลุ่มเมฆสีดำม้วนตัวไปมา และลำแสงที่กำลังพุ่งขึ้นมาจากเก้าชนเผ่า ลำแสงแรกหายไปในทันที จากนั้นก็ลำแสงที่สอง, ที่สาม และที่สี่…

ในช่วงเวลาไม่กี่อึดใจ ลำแสงทั้งหมดต่างก็ดับลงไป!

เมื่อเกิดขึ้นเช่นนี้ กระแสน้ำวนที่ลำแสงเหล่านั้นสร้างขึ้นมาก็หายไปด้วยเช่นกัน เหลือไว้เพียงหนึ่งเดียวที่ยังคงอยู่บนท้องฟ้า…กระแสน้ำวนสีโลหิตที่พุ่งขึ้นมาจากเขตพื้นที่วิหารกลาง!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่ดินแดนแห่งอาณาจักรสายลมพุ่งขึ้นไปด้วยความรวดเร็ว ถ้ามองมาจากความว่างเปล่าตรงด้านนอก ก็จะเห็นว่าดินแดนแห่งนี้กำลังพุ่งสูงขึ้นไปอย่างรวดเร็ว

เนื่องจากความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อนี้ ทำให้ภูเขาและแม่น้ำพังทลายลงไป และพื้นดินก็สั่นไปมาอย่างรุนแรง เมืองพังทลายลง และผู้ฝึกตนทั้งหมดรวมทั้งเมิ่งฮ่าวและคนอื่นๆ จากอาณาจักรขุนเขาทะเล ต่างก็รู้สึกได้ถึงแรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อ ราวกับว่าหัตถ์ยักษ์กำลังบดขยี้ลงมายังคนทั้งหมด

ฝานตงเอ๋อร์และคนอื่นๆ กระอักโลหิตออกมากองโต และมีสีหน้าประหลาดใจไปโดยสิ้นเชิง

แม้แต่เต้าเทียนก็ยังต้องสั่นสะท้านใจ มันถอยไปทางด้านหลังเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้หลบหนีจากไป มันรู้สึกว่าเหตุการณ์ที่พลิกผันของอาณาจักรสายลม…กำลังบรรลุถึงจุดสูงสุด

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!