Skip to content

A World Worth Protecting 262

บทที่ 262 การเปลี่ยนแปลงสุดพรั่นพรึง

ครั้นได้ยินท่านอาจารย์ของตนพูดเช่นนั้น เฉินหุยก็หายใจถี่กระชั้น นัยน์ตาเบิกกว้างจ้องมองอีกฝ่ายอย่างตื่นตะลึงทันที นางไม่คิดมาก่อนว่าผนึกไม้นั้นจะเกิดจาก        การร่วมมือกันระหว่างสำนักของนางและตระกูลนภาห้าสมัย

นางรู้ดีว่าจะเกิดผลลัพธ์เช่นไรตามมา ทางสำนักเองก็น่าจะทราบดีเช่นกันว่า    การกระทำเช่นนี้คือ การตั้งตนเป็นศัตรูกับสหพันธรัฐ หากเรื่องแดงขึ้นมาคงจะเกิดสงครามใหญ่โตขึ้นเป็นแน่

ถึงกระนั้นทางสำนักก็ยังตัดสินใจเดินหน้าดำเนินการต่อไป เฉินหุยตื่นตะลึงพอได้รู้ว่าสำนักของนางวางแผนทำการใหญ่บางอย่างอยู่!

หญิงชราไม่ได้พูดอะไรต่อ นางส่งโอสถให้เฉินหุย จากนั้นก็ซักถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแหล่งกำเนิดปราณวิญญาณ พอรู้ว่าวัตถุเวทชนิดนั้นคือหม้อหลอมเล็กสามขา นางก็หันหลังพุ่งทะยานออกไปบนฟ้า มุ่งหน้าไปยังทิศทางที่หวังเป่าเล่อเก็บตัวหลอมรากฐานตั้งมั่นอยู่ทันที!

นางเคลื่อนที่ไปอย่างรวดเร็ว แหวกอากาศจนฟ้าพลันเปลี่ยนสี เกิดเสียงดังสนั่นราวสายฟ้าฟาดไปทั่วทุกสารทิศ เรียกความสนใจจากเหล่าผู้ฝึกตนเบื้องล่างมากมาย ทุกคนนิ่งตะลึงงันไปเมื่อได้เห็นหญิงชราบนฟากฟ้า รู้สึกฉงนใจไปหมด

“ขั้นกำเนิดแก่นใน!”

“สวรรค์ นี่มันเรื่องอะไรกัน เป็นไปไม่ได้…มีผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในเข้ามาใน  เขตจันทราเวท!”

“ผนึกก็ยังไม่ถูกทำลาย แต่กลับมีผู้ฝึกตนขั้นกำเนิดแก่นในเข้ามาที่นี่ได้อย่างนั้นหรือ!”

ผู้ฝึกตนในบริเวณนั้นต่างตัวสั่นเทิ้ม หายใจระรัวด้วยความตื่นตกใจ พวกเขารู้สึกว่าในเขตจันทราเวทแห่งนี้ มีเรื่องราวเหนือความคาดหมายเกิดขึ้นไม่หยุดหย่อน       ไม่มีใครรู้ว่าท้ายที่สุดแล้วจะเกิดอะไรขึ้น ความกลัวเกรงในใจท่วมท้นเสียจนอธิบายเป็นคำพูดไม่ได้!

หญิงชราไม่สนใจเหล่าผู้ฝึกตนระดับลมหายใจเที่ยงแท้ที่ตื่นตะลึงอยู่เบื้องล่างแม้แต่น้อย นางไม่แม้แต่จะพยายามปิดบังอำพรางตัวตนด้วยซ้ำไป เนื่องจากแผนการต่างๆ ในตอนนี้ใกล้จะเสร็จสมบูรณ์แล้ว จึงไม่มีเหตุจำเป็นต้องหลบซ่อนตัวอีกต่อไป นางจึงได้ปรากฏตัวให้ลูกศิษย์ของตนเห็นกับตา แถมยังยินดีปรีดายิ่งนักเมื่อรู้เรื่อง   วัตถุเวทสมบูรณ์แบบ

หม้อหลอมเล็กสามขาจะต้องเป็นวัตถุที่เหมาะสมในการบรรลุขั้นรากฐานตั้งมั่นของหุยเอ๋อร์เท่านั้น!

ขณะเดียวกัน หวังเป่าเล่อกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ในถ้ำที่ขุดขึ้นเอง เริ่มกระบวนการหลอมรากฐานตั้งมั่นอยู่อย่างตั้งใจ

ขั้นตอนในการหลอมวัตถุเพื่อใช้บรรลุขั้นรากฐานตั้งมั่นมีเพียงสองข้อ ขั้นตอนแรกคือการหลอมรวมวิญญาณ โดยการใช้เศษชิ้นส่วนจำนวนหนึ่ง หรือวัตถุเวทสมบูรณ์แบบเป็นเครื่องมือ จากนั้นก็ใช้พลังปราณของตนเองเข้าห่อหุ้มให้วัตถุอ่อนพลังลง เพื่อที่จะหลอมรวมปราณวิญญาณให้เป็นหนึ่งก่อนจะนำวัตถุเข้าสู่ร่าง ปล่อยให้จมลึกลงไปยังจุดตันเถียน

ขั้นตอนที่สองถัดจากนั้นคือ การผสานรากฐานชีวิต

การผสานรากฐานชีวิตคือ กระบวนการหลอมเลือดเนื้อกับวัตถุเวทเข้าด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว จนกลายเป็นศิลารากฐาน!

‘รากฐาน’ คือวัตถุที่ใช้หลอม ส่วน ‘ตั้งมั่น’ คือการสร้างมันขึ้นมานั่นเอง!

ขั้นรากฐานตั้งมั่นก็เปรียบเสมือนการเพิ่มอวัยวะใหม่เข้าไปในร่างกาย เพื่อใช้ในการฝึกตนให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นไป!

โดยปราณวิญญาณจะไม่ใช่แหล่งพลังงานที่ไร้รากฐานอีกต่อไป อวัยวะที่เพิ่มขึ้นมาใหม่นั้นจะทำให้ร่างกายของผู้ฝึกตนเป็นดังแหล่งเก็บปราณวิญญาณ สามารถ  ซึมซับพลังจากฟ้าดิน เพื่อค้นหาต้นกำเนิดของจักรวาลอันกว้างใหญ่ได้ในที่สุด!

เมื่อกระบวนการทั้งหมดสำเร็จลุล่วงได้ด้วยดี พื้นฐานการใช้ชีวิต การใช้คาถาเวท และทุกสิ่งทุกอย่างของผู้ฝึกตนจะเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง!

หลังจากหวังเป่าเล่อปล่อยพลังปราณเข้าโอบล้อมหม้อหลอมเล็กได้แล้ว          เขาก็เรียกผนึกฝ่ามือขึ้นมาอีกครั้งและเริ่มกระบวนการหลอมรวมวิญญาณตามที่  สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์สอนมา

หม้อหลอมเล็กที่ห้อมล้อมไปด้วยปราณวิญญาณค่อยๆ ขุ่นมัวลง ก่อนจะกะพริบแล้วค่อยๆ เลือนรางหายไป จากโปร่งแสงไม่นานก็โปร่งใสเสียจนไม่สามารถมอง    เห็นได้ เมื่อหม้อหลอมตรงหน้าหายไป นัยน์ตาของหวังเป่าเล่อก็ฉายแววมุ่งมั่นอีกครั้ง เขาอ้าปากกว้างสูดลมลึก หม้อหลอมเล็กที่ล้อมรอบไปด้วยปราณวิญญาณพลันลอยเข้าปากชายหนุ่มไปอย่างรวดเร็ว

หวังเป่าเล่อรู้สึกเหมือนกลืนเต้าหู้ก้อนใหญ่ หม้อหลอมเล็กลื่นลงคอไป         อย่างง่ายดาย ปราณวิญญาณจมลึกไปยังจุดตันเถียน

หม้อหลอมเล็กที่โปร่งใสค่อยๆ ปรากฏเด่นชัดขึ้นมาอีกครั้งในร่างกายชายหนุ่ม ลอยนิ่งอยู่เหนือเมล็ดดูดกลืน

สมกับเป็นวัตถุหายากที่ใช้สำหรับบรรลุขั้นรากฐานตั้งมั่น ข้าเสร็จสิ้นขั้นตอนแรกไปแล้วอย่างง่ายดาย! หวังเป่าเล่อตื่นเต้นดีใจ จากข้อมูลที่สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์อธิบายถึงขั้นตอนแรกไว้ กระบวนการหลอมรวมเศษชิ้นส่วนยี่สิบชิ้นเข้าไปในร่าง     ผู้ฝึกตน แล้วค่อยผสานมันเข้าเป็นชิ้นเดียวกันภายในร่างนั้นย่อมยากกว่านี้อีกเท่าตัว

ผู้ฝึกตนต้องใส่ใจกระบวนการนี้ไม่ให้มีอะไรผิดพลาด เพราะหากทำอะไรพลาดไปแม้แต่นิดเดียว ก็อาจสร้างความเสียหายให้กับจุดตันเถียนและเส้นปราณวิญญาณของตัวเองได้ ซึ่งจะเป็นอันตรายถึงตายเลยทีเดียว

ผู้ฝึกตนไม่สามารถเคลื่อนไหวร่างกายได้เลยตลอดกระบวนการนี้ จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเริ่มกระบวนการในพื้นที่ที่ปลอดภัย หวังเป่าเล่อเองก็เป็นกังวลกับเรื่องนี้แม้ว่าจะใช้วัตถุเวทสมบูรณ์แบบในการหลอมรวมก็ตาม ชายหนุ่มไม่กล้าเคลื่อนไหวร่างกายโดยไม่จำเป็น มิเช่นนั้นอาจจะทำให้หม้อหลอมเล็กที่เพิ่งหลอมรวมเข้ากับ   ร่างของเขานั้นไม่มั่นคง ทั้งยังปลดปล่อยปราณวิญญาณจำนวนมากออกมา อาจพาลทำให้ร่างกายของเขาพองเหมือนดังลูกโป่ง ก่อนจะระเบิดออกมาจนได้

หวังเป่าเล่อจึงไม่กล้าหลอมรากฐานตั้งมั่นตั้งแต่ก่อนหน้านี้ แต่พอได้มาอยู่ที่นี่ เขาก็รู้สึกปลอดภัยมากพอที่จะเริ่มเข้าสู่กระบวนการหลอมรากฐานตั้งมั่น ชายหนุ่มหายใจลึก นั่งเหยียดตรงเพื่อให้แน่ใจว่าหม้อหลอมเล็กหลอมรวมเข้าสู่จุดตันเถียนได้  อย่างมั่นคงนั้น จากนั้นจึงค่อยไปต่อขั้นตอนที่สอง ขั้นตอนนี้นั้นต้องใช้ความระมัดระวังมากกว่าขั้นตอนแรก

เพราะมันคือขั้นตอนการผสานรากฐานชีวิต!

หากขั้นตอนแรกต้องกระทำอย่างระมัดระวังไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดใดๆ แล้ว ขั้นตอนที่สองนั้นยิ่งต้องเป็นไปอย่างรอบคอบมากกว่านั้น หากมีอะไรผิดพลาดแม้แต่นิดเดียวอาจทำให้กระบวนการทั้งหมดล้มเหลวได้ในทันที เนื่องจากการผสานรากฐานชีวิตนั้นเป็นการผสานเลือดเนื้อและชีวิตของเขาเข้ากับหม้อหลอมเล็กเพื่อสร้างเป็นอวัยวะใหม่

หวังเป่าเล่อจะวอกแวกไม่ได้แม้แต่นิดเดียว ชายหนุ่มสั่งการยุงให้บินตรวจตราดูอยู่รอบๆ ด้วยตนเอง และป้องกันมิให้ใครเข้ามาใกล้ได้ จากนั้นจึงค่อยผ่อนคลายร่างกายลง แล้วเริ่มกระบวนการผสานเส้นปราณและเลือดเนื้อให้เป็นหนึ่งเดียวกับหม้อหลอมเล็กตามขั้นตอนที่สำนักศึกษาเต๋าศักดิ์สิทธิ์สอนมา

การใช้วัตถุเวทสมบูรณ์แบบหลอมรากฐานตั้งมั่นนั้นมีประสิทธิภาพอย่างเห็นได้ชัด กระบวนการทั้งหมดเป็นไปอย่างราบรื่น ไม่นาน เลือดเนื้อและชีพจรของหวังเป่าเล่อก็เริ่มผสานเข้ากับหม้อหลอมเล็ก ผ่านไปห้านาที กระบวนการผสานก็รุดหน้าไปถึง   สามในสิบส่วน

แล้วค่อยขยับขึ้นเป็นสี่ในสิบส่วน ห้าในสิบส่วน และหกในสิบส่วนอย่างช้าๆ

เวลาผ่านไป กระบวนการผสานก็รุดหน้าขึ้นไปเรื่อยๆ พลังปราณของหวังเป่าเล่อแกร่งกล้ามากขึ้น หากผู้ที่ใช้เศษชิ้นส่วนในการหลอมขั้นรากฐานตั้งมั่นได้มาเห็น    หวังเป่าเล่อในตอนนี้ คงจะตื่นตะลึงพรึงเพริดกันเลยทีเดียว กระบวนการผสานเพิ่งจะรุดหน้าไปเพียงแค่หกในสิบส่วน ทว่าพลังปราณที่แผ่ออกมาจากร่างกายของชายหนุ่ม กลับเทียบเท่ากับเหล่าผู้ฝึกตนที่ใช้เศษชิ้นส่วนพิเศษหลอมจนสำเร็จเลยทีเดียว

กระบวนการผสานไม่ได้หยุดลงเพียงเท่านั้น ค่อยๆ รุดหน้าขึ้นถึงเจ็ดในสิบส่วน และแปดในสิบส่วน…

ระหว่างกระบวนการผสานนั้น พลังปราณของหวังเป่าเล่อก็พุ่งขึ้นพรวดพราด เลือดเนื้อ ชีพจร จิตวิญญาณ ทุกสิ่งอย่างในตัวเขาดูจะพัฒนาขึ้นเรื่อยๆ ขณะเดียวกัน ภาพนิมิตจากอดีตมากมายจากหม้อหลอมเล็กสามขาก็ปรากฏขึ้น ลอยเข้าสู่หัวของหวังเป่าเล่อเช่นกัน

นิมิตเหล่านั้นละลานตาจนหวังเป่าเล่อไม่สามารถมองทุกอย่างได้ชัดเจน          เขาสังเกตเห็นนิมิตของแท่นบูชาขนาดใหญ่ปรากฏบ่อยครั้งกว่านิมิตอื่นๆ มีกลุ่มเงากำลังเซ่นไหว้อยู่รอบๆ เห็นอยู่เลือนราง ในฝูงชนเหล่านั้นมีหลายคนที่แค่จ้องมองก็   ทำให้หวังเป่าเล่อหวั่นกลัวจับจิต ไม่รู้แน่ชัดว่าระดับการฝึกตนบรรลุสูงถึงขั้นใด แต่แค่สายตาที่มองมาก็ฆ่าเขาทิ้งได้อย่างง่ายดาย

แท่นบูชาในภาพนิมิตนั้นมีสามขั้น ขั้นล่างสุดมีหม้อหลอมเล็กสามขาตั้งอยู่สี่มุม มุมละหนึ่งใบ หนึ่งในนั้นมีลักษณะเหมือนหม้อหลอมที่หวังเป่าเล่อกำลังใช้ผสานอยู่  ไม่มีผิดเพี้ยน!

ขั้นกลางของแท่นบูชามีไข่มุกหนึ่งคู่ สีขาวกับสีดำ กำลังส่องแสงสว่างตามสีของมัน!

ส่วนขั้นบนสุดแลเห็นเป็นชั้นม่านหมอก ปรากฏใบหน้าสามัญชนผู้เลื่อมใสจากภายใน มองดูแปลกพิกล เห็นได้ชัดว่าสิ่งของจากทั้งสามขั้นของแท่นบูชานั้นเป็นดั่งเครื่องเซ่นไหว้ ยิ่งอยู่สูงก็ยิ่งมีมูลค่ามาก เห็นทีคราวนี้หวังเป่าเล่อจะเผชิญกับลาภลอยเข้าเสียแล้ว

แม้จะเป็นเครื่องเซ่นไหว้ขั้นล่างสุด แต่ก็มีคนมากมายกราบไหว้บูชา มูลค่าของหม้อหลอมสามขานี้จึงไม่สามารถอธิบายด้วยวาจาได้เลย

ส่วนร่างเงาจำนวนมากในภาพนิมิตที่หวังเป่าเล่อมองเห็นผ่านหม้อหลอมเล็กใบนั้น กำลังสักการบูชาและถวายเครื่องเซ่นไหว้ล้ำค่าให้กับบางสิ่งบางอย่างที่พร่าเลือนอยู่

บางสิ่งบางอย่างนั้นหน้าตาคล้ายดอกบัวสีเขียวที่ลอยคว้างอยู่กลางอากาศ!

ขณะที่หวังเป่าเล่อเห็นนิมิตดอกบัวสีเขียวนั้นเป็นตอนที่กระบวนการผสานเข้ากับหม้อหลอมเล็กรุดหน้าไปได้แปดในสิบส่วนพอดี พลังที่แผ่ออกมาจากร่างชายหนุ่มนั้นเหนือชั้นไปกว่าผู้ฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นไปแล้วด้วยซ้ำ หากเสร็จสิ้นกระบวนการทั้งหมดเมื่อใด ระดับการฝึกตนขั้นรากฐานตั้งมั่นของหวังเป่าเล่อคงจะนำหน้าผู้อื่น   ไปมาก!

ทว่าตอนนั้นเองกลับมีบางอย่างเกิดขึ้นเสียก่อน ฝูงยุงของชายหนุ่มที่บินอยู่นอกถ้ำ    พากันระเบิดกลายเป็นจุณก่อนจะทันรู้สึกตัวด้วยซ้ำ ว่ามีใครบางคนพุ่งเข้ามาหา   พวกมัน ยุงสีเทาทรหดกว่าตัวอื่นๆ แต่ก็ทนอยู่ได้ไม่นาน มันส่งสัญญาณกลับไปหา  หวังเป่าเล่อก่อนจะระเหิดหายไป

หวังเป่าเล่อตัวสั่นเทิ้ม ภาพดอกบัวสีเขียวในหัวถูกแทนที่ด้วยภาพทัศนวิสัยที่     ยุงสีเทาส่งมา ศัตรูของพวกมันเป็นหญิงชรานางหนึ่งที่กำลังทะยานเข้ามาด้วยใบหน้าเรียบเฉย!

ทันทีที่ภาพของหญิงชราผู้นั้นปรากฏขึ้นในหัว ก็บังเกิดเสียงดังสนั่นไปทั่วสารทิศ ผืนดินสั่นสะเทือนจนถ้ำขนาดย่อมที่หวังเป่าเล่อนั่งขัดสมาธิอยู่ปริแตกออก!

ผนังถ้ำบนหัวระเบิดเปิดกว้าง เศษหินมากมายร่วงพรูลงมา หญิงชราแผ่มวลพลังกล้าแกร่ง มองลงมายังหวังเป่าเล่อด้วยสายตาเหยียดหยาม…

เหตุการณ์ไม่คาดฝันบังเกิดขึ้นจนได้!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!