Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1365

ตอนที่ 1365

กลุ่มเต๋าลงมือ

นอกจากเมิ่งฮ่าวแล้ว ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาเลือกที่จะเป็นอสูรหรือเซียน

หลังจากที่ตื่นขึ้นมา เมิ่งฮ่าวก็พบว่าเวลาได้ผ่านไปแล้วหลายเดือน ตอนนี้เขากลับไปอยู่บนดวงตะวัน และผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดของตนเองกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ด้านข้าง ทำตัวเป็นผู้พิทักษ์เต๋า

ผู้ฝึกตนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นนับแสนกำลังควบคุมค่ายกลเวทเพียงลำพัง และที่ห่างไกลออกไปบนขุนเขาแรก เปลวไฟแห่งสงครามสาดประกายขึ้นมาอย่างเจิดจ้า กลุ่มคนนอกคอกต่อสู้จนเข้าไปใกล้จุดสูงสุดของยอดเขา และสงครามโดยรวมทั้งหมดก็ตกอยู่ในสภาวะที่โหดร้ายอย่างน่าเหลือเชื่อ

มองเห็นราชันแห่งขุนเขาทะเลทั้งปวงกำลังต่อสู้อยู่ตรงด้านนอกในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ไห่เมิ่งจื้อจุนก็อยู่ที่นั่นด้วยเช่นกัน และดวงตาก็สาดประกายราวสายฟ้าขณะที่คอยเฝ้าสังเกตดูการต่อสู้ ขุนเขาแรก…แทบจะถูกเหยียบย่ำไปโดยสิ้นเชิง

ไม่มีราชันจักรพรรดินอกคอกหกคนอีกต่อไป สองคนถูกสังหารไปโดยดวงตะวันที่เมิ่งไว่กงควบคุม แต่กว่าที่จะทำได้สำเร็จ ท่านต้องใช้ลูกธนูแสงถึงสี่ดอก!

ตอนนี้ดวงตะวันสามารถจะปลดปล่อยลูกธนูแสงที่เหลือออกไปได้เพียงแค่เจ็ดดอกเท่านั้น!

จากราชันจักรพรรดิที่เหลืออยู่สี่คน สองคนในตอนนี้กำลังเข้าร่วมการต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้างให้กับผู้ฝึกตนขุนเขาทะเล พวกมันกลับทำตัวเป็นเหมือนกับใบมีดอันแหลมคม ตัดเปิดเป็นเส้นทางให้กับกลุ่มคนนอกคอก เพื่อให้หลั่งไหลเข้าไปในขุนเขาแรก

พวกมันต่อสู้อยู่รอบๆ อาณาเขตของไห่เมิ่ง โดยไม่ล่วงล้ำเข้าไป เนื่องจากตระหนักดีว่าตราบเท่าที่ยังไม่รุกล้ำเข้าไปในอาณาเขตนั้น ผู้ยิ่งใหญ่ก็จะไม่เข้าร่วมในการต่อสู้นี้

น่าเสียดาย ถ้าผู้ยิ่งใหญ่ไม่ช่วยเหลือ ราชันขุนเขาทะเลก็ไม่อาจจะต่อสู้กับราชันจักรพรรดิทั้งสองได้ แม้จะร่วมมือกันก็เป็นเรื่องยากที่จะต่อสู้ได้

ตรงด้านนอกในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว กองกำลังสุดท้ายของกลุ่มคนนอกคอกกำลังตั้งแถวอยู่ รอคอยที่จะเข้าร่วมการต่อสู้ ดวงตาสาดประกายขึ้นด้วยรังสีสังหาร ขณะที่จ้องมองไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล

การต่อสู้ดำเนินไปในลักษณะนี้ เป็นเวลามากกว่าเจ็ดเดือนเต็ม

ภายในอีกห้าเดือน สวรรค์ชั้นเจ็ดและชั้นอื่นๆ ก็จะโผล่ออกมา และสามารถจะเข้าร่วมการต่อสู้ได้

เมื่อเมิ่งฮ่าวลืมตาขึ้นมา ตอนแรกทุกสิ่งทุกอย่างก็ดูเลือนลางไป แต่เสียงของการต่อสู้ฆ่าฟันก็ช่วยให้เขามีสติขึ้นมา และในที่สุดดวงตาก็สาดประกายขึ้นด้วยแสงอันเจิดจ้า ขณะที่ลุกขึ้นมายืน

ผู้ฝึกตนหนึ่งแสนคนที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น เกือบครึ่งเคยต่อสู้ร่วมกับเขาในสงครามครั้งแรกกับเสวียนฟางจื้อจุน เมื่อเมิ่งฮ่าวลุกขึ้นมายืน ผู้ฝึกตนเหล่านั้นก็มองมาด้วยแววตาที่ลุกโชนขึ้นด้วยความคลั่งไคล้

“เสาจู่ตื่นขึ้นมาแล้ว!!”

“เสาจู่ได้สติแล้ว!!”

เสียงร้องตะโกนของผู้ฝึกตนนับแสนดังก้องออกไปทั่วทุกทิศทาง และในที่สุดทั่วทั้งดวงตะวันก็เริ่มมีแสงเจิดจ้ามากขึ้นกว่าเดิม แม้แต่ผู้ฝึกตนจำนวนมากที่กำลังต่อสู้อยู่บนขุนเขาแรก ต่างก็สามารถจะบอกได้ว่าสายตาคู่หนึ่งได้มองมายังทิศทางของพวกมัน

ขณะที่เมิ่งฮ่าวลุกขึ้นมายืน ภาพนับไม่ถ้วนก็แวบผ่านเข้ามาในจิตใจ ซึ่งเป็นเหตุการณ์ที่ทำให้ตนเองต้องหมดสติไป และยังคงจำเสียงเก่าแก่โบราณที่พูดออกมา ก่อนที่สายตาของตนเองจะมืดมิดลงไปโดยสิ้นเชิงได้เช่นกัน

เสียงนั้นดูเหมือนว่าจะประกอบไปด้วยความเก่าแก่โบราณของโลกทั้งหมดนี้

“มันคือใคร…?” เมิ่งฮ่าวคิด มองลงไปยังตัวเอง ไม่เห็นกลิ่นอายแห่งความตายอีกต่อไป และบาดแผลบนร่างก็ถูกรักษาจนหายดีแล้ว รู้สึกว่าแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย จากพื้นฐานฝึกตนในตอนนี้ ทำให้มีพลังการต่อสู้ที่สูงเกินกว่าราชันจักรพรรดิ เขาสามารถจะต่อสู้กับผู้ยิ่งใหญ่ได้อย่างแน่นอนในตอนนี้

ความรู้สึกที่สามารถจะควบคุมพลังเช่นนั้นได้ ทำให้เมิ่งฮ่าวต้องหอบหายใจออกมา เมื่อคิดย้อนกลับไปในตอนที่ต้องต่อสู้อย่างบ้าคลั่งกับเสวียนฟาง ก็ไม่อาจจะขจัดความหวาดกลัวที่ยังคงอยู่ในจิตใจได้ การเลือกดับตะเกียงวิญญาณไปสี่ดวง ถือว่าเป็นการตัดสินใจที่บ้าบิ่น ซึ่งทำให้ต้องเผชิญหน้ากับความตายเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ให้ม้วนกวาดออกไปทั่วทั้งสนามรบ และจากนั้นดวงตะวันก็ระเบิดเป็นแสงอันเจิดจ้าขึ้นมา ขณะที่ลูกธนูหนึ่งดอกพุ่งตรงไปยังขุนเขาแรก ก่อนที่ผู้ต่อสู้กันอยู่ทั้งสองฝ่ายจะทันได้มีปฏิกิริยาใดๆ ลูกธนูแสงก็แทงเข้าไปในศีรษะของราชันจักรพรรดิผู้หนึ่ง!

แม้แต่ผู้ยิ่งใหญ่ก็ยังได้รับบาดเจ็บจากลูกธนูแสงของดวงตะวัน อย่าว่าแต่ราชันจักรพรรดิ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่ราชันจักรพรรดิถูกสังหารไปโดยลูกธนูเช่นนี้

เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นอย่างกะทันหันนี้ทำให้สนามรบต้องสั่นสะเทือน และเป็นข้อความที่ส่งต่อให้กลุ่มคนนอกคอกทั้งหมดรู้ว่า…เมิ่งฮ่าวกลับมาแล้ว

ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกจากสวรรค์ชั้นหกกำลังนั่งขัดสมาธิอยู่ตรงด้านนอกในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา มันพยายามคลี่คลายแก่นแท้แห่งความว่างเปล่าของเมิ่งฮ่าวอยู่ตลอดเวลา

และเกือบจะปลดปล่อยเสวียนฟางออกมาได้แล้ว แต่ทันใดนั้นดวงตามันก็ลืมขึ้นมา และเมื่อมองออกไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็มองเห็นเมิ่งฮ่าว

มันขมวดคิ้วขึ้นในทันที ตลอดช่วงเวลาในการพยายามทำลายแก่นแท้แห่งความว่างเปล่า มันก็แน่ใจได้ว่าเมิ่งฮ่าวยังไม่ตายไป แต่ก็ไม่เคยจะคาดคิดว่าเขาจะสามารถกลับมาได้ในที่สุด เมื่อไม่กี่เดือนก่อนชีวิตของเขาถูกแขวนอยู่บนเส้นด้ายแห่งความตาย แต่ในตอนนี้กลับฟื้นคืนกลับมาได้อย่างสมบูรณ์ และยังแข็งแกร่งมากขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

ในทันทีที่เมิ่งฮ่าวตื่นขึ้นมา ดวงตะวันก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น

และราชันจักรพรรดินอกคอกก็ถูกสังหารไป กองกำลังกลุ่มคนนอกคอกสั่นสะท้าน แต่ความต้องการสังหารของพวกมันก็ยังคงแข็งแกร่งเหมือนเช่นเคย ยิ่งไปกว่านั้นขุนเขาแรกก็เปียกชุ่มไปด้วยโลหิตโดยสิ้นเชิงแล้ว

เมิ่งฮ่าวไม่ได้ปลดปล่อยพลังแห่งดวงตะวันออกมาอีกครั้ง ขณะที่ยืนอยู่ตรงนั้น ไห่เมิ่งก็มองมาด้วยแววตาที่สาดประกายขึ้น และทันใดนั้นเสียงของนางก็ดังขึ้นอยู่ในจิตใจเมิ่งฮ่าว

“ส่งผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดออกไปโจมตี!”

ดวงตาเมิ่งฮ่าวสาดประกายขึ้น รู้ดีว่าสิ่งที่ไห่เมิ่งต้องการให้เกิดขึ้นคืออะไร ดังนั้นจึงส่งสัมผัสศักดิ์สิทธิ์ออกไปโดยไม่ลังเลใดๆ ทำให้ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดลืมตาขึ้นมา ลุกขึ้นมายืนในทันที ดวงตาเจิดจ้าขึ้นขณะที่เดินตรงไปข้างหน้าหนึ่งก้าว และจากนั้นก็พุ่งตรงไปยังขุนเขาแรก!

อาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังทำลายข้อตกลงที่เคยสัญญาร่วมกันมาก่อน…พวกมันกำลังโจมตีไปด้วยผู้ยิ่งใหญ่!

แทบจะในทันทีที่ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดเริ่มเคลื่อนที่ตรงไป สีหน้าผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกก็เปลี่ยนไปพร้อมกับกัดฟันแน่น มันยังคงต้องการเวลามากกว่านี้เพื่อคลี่คลายแก่นแท้แห่งความว่างเปล่าอย่างปลอดภัย หลังจากที่เวลาผ่านไปนานหลายเดือน มันยังคงไม่อาจจะทำลายขุนเขาแรกได้ รู้ดีว่าตนเองไม่ใช่นักยุทธศาตร์ ถ้าเสวียนฟางยังอยู่ สถานการณ์ก็คงจะแตกต่างออกไปแล้ว

ตอนนี้เมื่อเมิ่งฮ่าวทำลายข้อตกลง ผู้ยิ่งใหญ่นอกคอกก็กัดฟันแน่นและปลดปล่อยพลังการฝึกตนที่ทำให้ตัวเองต้องได้รับบาดเจ็บออกไป จิตใจเริ่มเซื่องซึมลงไป ขณะที่กระอักโลหิตแก่นแท้ชีวิตลงไปบนผนึกแก่นแท้แห่งความว่างเปล่า ด้วยการใช้เวทลับนี้พร้อมกับเสียสละอายุขัยของตนเองไป ด้วยความหวังว่าจะช่วยให้คลี่คลายผนึกได้รวดเร็วมากขึ้น

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่โลหิตแก่นแท้ชีวิตของมันสาดกระจายไปบนแก่นแท้แห่งความว่างเปล่าของเมิ่งฮ่าว จากนั้นผนึกก็เริ่มสั่นไหวไปมา และเริ่มกระจายเป็นเสียงแตกร้าวออกมา! จากนั้นก็พังทลายลงไปอย่างง่ายดาย!

เสวียนฟางพุ่งออกมาราวกับเป็นสายฟ้า โดยไม่ลังเลแม้แต่น้อย มันชี้นิ้วขึ้นไปยังสวรรค์ชั้นสามและปลดปล่อยพลังทั้งหมดเท่าที่สามารถจะรวบรวมได้ออกไป

สวรรค์ชั้นสามเริ่มสั่นสะเทือน จากนั้นก็เอียงลงมาอย่างช้าๆ และเริ่มตกลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล

ในตอนนี้ความสมดุลที่ถูกรักษาไว้ตลอดเวลาหลายเดือนที่ผ่านมา พังทลายไปโดยสิ้นเชิง เหตุผลที่เมิ่งฮ่าวมีความสำคัญ ไม่ใช่เนื่องจากการควบคุมพลังแห่งดวงตะวัน แต่เป็น…เขาสามารถจะทำลายความสมดุลระหว่างอาณาจักรขุนเขาทะเลและกลุ่มคนนอกคอกได้โดยสิ้นเชิง

อันที่จริงการที่ไห่เมิ่งจื้อจุนเฝ้ารอคอยให้เมิ่งฮ่าวกลับมาหลายเดือนแล้ว ก็เพื่อจุดประสงค์นี้เท่านั้น

เมื่อไหร่ที่ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดพุ่งตรงไปยังขุนเขาแรก แรงกดดันอันน่าเหลือเชื่อก็จะระเบิดออกไปในทันที เวลาเดียวกันนั้นสวรรค์ชั้นสามก็เริ่มเร่งความเร็วขึ้น ขณะที่มุ่งหน้าตรงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล สำหรับเสวียนฟางจื้อจุน เส้นผมของมันยุ่งเหยิงเป็นกระเซิงและใบหน้าก็ซีดขาว โดยภาพรวมแล้วมันมีท่าทางเลวร้ายเป็นอย่างยิ่ง

แววตามันเต็มไปด้วยความเจ็บปวดใจ ตลอดช่วงเวลาหลายเดือนที่ถูกกักขังไว้ กลุ่มคนนอกคอกไม่อาจจะควบคุมกระแสการต่อสู้ได้ และเสวียนฟางก็รู้ว่าจุดวิกฤตได้มาถึงแล้ว

“หลีหลง (มังกรในตำนาน) ช่วยข้าด้วย! พวกเราสูญเสียความได้เปรียบไปแล้ว ถ้าไม่พลิกสถานการณ์…พวกเราก็จะพ่ายแพ้…ในการต่อสู้นี้!” เพื่อตอบรับคำพูดของมัน ผู้ยิ่งใหญ่ที่ถูกปกคลุมด้วยความมืดมิด ก็ขยับมือร่ายเวทและชี้นิ้วตรงไปยังดินแดนอันกว้างใหญ่ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นสามในทันที

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น ขณะที่สวรรค์ชั้นสามสั่นสะเทือน มีความรวดเร็วเพิ่มมากขึ้น ขณะที่มุ่งหน้าตรงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล

เวลาเดียวกันนั้นเสวียนฟางก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อย ที่จะทำให้สวรรค์ชั้นสี่ขยับตัวเคลื่อนไหว ดินแดนอันกว้างใหญ่ทั้งสองมีขนาดใหญ่โตอย่างน่าเหลือเชื่อ เกิดเป็นเสียงกึกก้องจนแก้วหูแทบฉีกขาด ขณะที่พวกมันกระแทกลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเล

ในตอนนี้ผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดได้เหยียบย่างลงไปบนขุนเขาแรกแล้ว กำมือเป็นหมัดต่อยตรงไปยังกองกำลังของกลุ่มคนนอกคอก ฟ้าสะท้านดินสะเทือน และเสียงแผดร้องก็ดังก้องออกมาจากกลุ่มคนนอกคอก เวลาเดียวกันนั้นสองดินแดนอันกว้างใหญ่ก็กำลังตกลงมายังอาณาจักรขุนเขาทะเลอย่างที่ไม่อาจจะต่อต้านได้

สวรรค์ชั้นสามบรรลุถึงตำแหน่งเดิมที่เคยเป็นทะเลแรกมาก่อน แต่ด้วยเหตุผลบางอย่างทำให้สีหน้าของไห่เมิ่งจื้อจุนไม่เปลี่ยนไปแม้แต่น้อย ในตอนนี้เองที่เสียงแค่นเย็นชาจู่ๆ ก็ดังก้องออกมาจากภายในอาณาจักรขุนเขาทะเล

ภาพลวงตาของทะเลสีน้ำเงิน ทันใดนั้นก็ปรากฏขึ้นเหนือขุนเขาแรก ตรงด้านบนลอยตัวไว้ด้วยประตูสีม่วงขนาดใหญ่มหึมา ที่ถูกเขียนอยู่บนประตูสีม่วงนั้นเป็นตัวอักษรสามตัว

ไห่เสินเจี้ย!! (อาณาจักรแห่งท้องทะเล)

ที่กำลังหมุนวนอยู่ตรงด้านล่างประตูคือมังกรทะเลหนึ่งแสนตัว ซึ่งยกประตูให้สูงขึ้นไปในอากาศ ภาพที่เห็นนี้ช่างน่าตกใจเป็นอย่างยิ่ง ทำให้ดวงตาของผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลต้องเบิกกว้างขึ้น เสียงร้องตะโกนด้วยความตกตะลึงก็เริ่มดังก้องขึ้นมาในทันที

“นั่นคืออาณาจักรแห่งท้องทะเล!!”

“อาณาจักรแห่งท้องทะเลจากสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ ปรากฏตัวออกมาแล้ว!!”

“สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ลงมือแล้ว!!”

ไม่มีสำนักหรือตระกูลใดในอาณาจักรขุนเขาทะเลทั้งหมด จะสามารถเทียบได้กับสามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่ บางกลุ่มเต๋าก็มีพลังที่เทียบได้กับขุนเขาทะเลแต่ละแห่ง แต่สามกลุ่มเต๋าอันยิ่งใหญ่มีอยู่ในเก้าขุนเขาทะเลทั้งปวง เมื่อพวกมันรวมพลังเข้าด้วยกัน ก็สามารถจะถูกเรียกว่า…สำนักที่แข็งแกร่งมากที่สุดในอาณาจักรขุนเขาทะเล!

บางทีผู้ฝึกตนของพวกมันอาจจะไม่ได้แข็งแกร่งมากที่สุด แต่พวกมันก็สะสมทรัพยากรมานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน ของวิเศษอันล้ำค่าที่เก็บสะสมไว้จนถึงตอนนี้กำลังจะถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว อันที่จริงในทันทีที่ประตูอาณาจักรแห่งท้องทะเลโผล่ออกมา มันก็เปิดออก และโลงศพสิบแปดโลงก็ปรากฏขึ้น!

สัญลักษณ์เวทเปล่งประกายระยิบระยับอยู่บนพื้นผิวของโลงศพ และขณะที่พวกมันลอยออกมา ก็กลายเป็นลำแสงสิบแปดสายพุ่งตรงไปยังสวรรค์ชั้นสาม!

ขณะที่พวกมันลอยขึ้นไป โลงศพก็เริ่มแตกร้าวและแหลกสลายไป เผยให้เห็นถึงซากศพสิบแปดซาก เมื่อซากศพปรากฏขึ้น ดวงตาพวกมันก็ลืมขึ้นมา และกระจายเป็นพลังการฝึกตนและสัมผัสศักดิ์สิทธิ์อันไร้ขอบเขตออกมา!!

“ผู้ฝึกตนอสูรแห่งอาณาจักรชั้นต่ำ บังอาจ!”

“ชีวิตข้าอุทิศให้กับการต่อต้านผู้ฝึกตนอสูรแห่งอาณาจักรชั้นต่ำ พวกเจ้ากล้าดีอย่างไรที่บังอาจมารุกรานโลกแห่งเซียน!!”

“จงยอมแพ้แต่โดยดี!”

ขณะที่เสียงร้องตะโกนด้วยโทสะของซากศพดังก้องออกไป พลังที่ปะทุออกมาจากพวกมันเป็น…พลังแห่งราชันจักรพรรดิ!

อย่างน่าตกใจยิ่ง มี…ราชันจักรพรรดิถึงสิบแปดคนจากโลกแห่งเซียนในปีนั้น!

เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง แต่ก็สามารถจะรับรู้ได้อย่างรวดเร็วว่าซากศพเหล่านี้ ถึงแม้ว่าจะมีพลังแห่งราชันจักรพรรดิ…แต่ก็เป็นแค่เพียงเศษส่วนเท่านั้น ในช่วงก่อนที่จะตายไป วิญญาณไร้ร่างของพวกมันได้กลายเป็นหุ่นเชิด โดยมีเป้าหมายก็คือปลดปล่อยการโจมตีเป็นครั้งสุดท้ายออกมา เมื่อไหร่ที่พวกมันทำการโจมตี…วิญญาณก็จะกระจัดกระจายหายไปตราบชั่วนิรันดร์

“ทรัพยากรและกลยุทธ์ของอาณาจักรขุนเขาทะเลกำลังถูกเปิดเผยออกมาทีละเปลาะแล้ว” เมิ่งฮ่าวคิด ขณะที่มองออกไปยังอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็ตระหนักว่าการต่อสู้ได้ดำเนินมาจนถึงจุดที่…ไพ่ไม้ตายทั้งหมดกำลังถูกหงายออกมาแล้ว

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!