Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1383

ตอนที่ 1383

กระบองของเต้าฟาง

เป้าหมายที่แท้จริงของสามบรรพจารย์ก็คือ จัดการผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้จากสามสิบสามสวรรค์ พวกท่านโจมตีออกไปเพื่อผนึกผู้ยิ่งใหญ่ไว้ภายใน แต่ก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งของแผนการเท่านั้น การสังหารที่แท้จริงมาจากการก่อตัวขึ้นของหอกทั้งสามเล่ม!

ด้วยการใช้พลังแห่งคัมภีร์ที่อยู่ภายในร่างพวกท่าน รวมทั้งความช่วยเหลือของผู้พิทักษ์คัมภีร์ ซึ่งเป็นศิษย์ของท่าน ทำให้กลายเป็นหอกคัมภีร์สามเล่ม เมื่อหอกเหล่านั้นแทงเข้าไปในร่างของใครบางคน พื้นฐานฝึกตนของคนผู้นั้นก็จะถูกผนึกไว้ แม้แต่ผู้แข็งแกร่งแปดแก่นแท้ที่ถูกโจมตีไป ก็จะพบว่าพื้นฐานฝึกตนของตัวเองได้ลดลงไป ถึงจะไม่ใช่ตลอดไป แต่อย่างน้อยก็เป็นเวลานานอย่างเห็นได้ชัด!

คนผู้นั้นจะลดลงจากระดับแปดแก่นแท้เป็นระดับเจ็ดแก่นแท้ และบางทีอาจจะไม่ได้เป็นผู้ยิ่งใหญ่แล้ว

ในช่วงวิกฤตนี้ผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้สะท้านใจ นางเคยไตร่ตรองถึงความเป็นไปได้ทั้งหมด แต่ก็ไม่เคยจะคาดคิดว่าอาณาจักรขุนเขาทะเลจะมีแผนการเช่นนี้ และไม่เคยคิดว่าบรรพจารย์เหล่านี้ซึ่งเทียบได้กับราชันจักรพรรดิ จะเพียงแค่นั่งดูผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลตกตายไปนับไม่ถ้วน และไม่ยอมทำอะไรเลยในตอนแรก จนกระทั่งขุนเขาที่เจ็ดถูกทำลายไป

ความอดทนเช่นนั้นช่างน่ากลัวเป็นอย่างยิ่ง จนทำให้ผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้สั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง

เพราะนางไม่รู้ว่าอาณาจักรขุนเขาทะเล จะมีความอดทนเช่นนี้มากน้อยเท่าใดกันแน่!

อาจจะกล่าวได้ว่ายิ่งอาณาจักรขุนเขาทะเลต่อสู้ไปนานเท่าใด ก็จะทำให้สามสิบสามสวรรค์ต้องพบเจอกับเรื่องเลวร้ายมากขึ้นเท่านั้น จนในที่สุดก็อาจจะพ่ายแพ้ไปก็เป็นได้

ขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ถอยไปทางด้านหลัง

นางก็มองไปยังจ่านเทียนจุนเจ่อ และสิ่งที่ทำให้นางรู้สึกสนใจมากที่สุดก็คือกลิ่นอายของท่าน ก่อนหน้านี้นางคิดว่าท่านได้ตายไปแล้ว และไม่เคยคาดคิดว่าทั้งหมดนั้นคือกับดัก!

“ทั้งหมดนี้คือกับดัก! เป็นกับดักที่ถูกเตรียมไว้มานานหลายปีจนนับไม่ถ้วน โดยมีเป้าหมายที่ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้!!”

“ชายชราผู้นี้คือจ่านเทียนจุนเจ่อ แต่เวลาเดียวกันนั้นก็ไม่ใช่ ผู้ที่ตายไปก่อนหน้านี้คือบุคคลที่ฝึกฝนคัมภีร์ตัดสวรรค์จนถึงจุดที่แทบจะบรรลุถึงระดับบรรพจารย์”

“แต่ชายชราผู้นี้…คือวิญญาณไร้ร่างที่มายึดครองร่างของจ่านเทียนจุนเจ่อด้วยเวทยิ่งใหญ่บางอย่าง คล้ายกับเป็นชีวิตที่สอง จ่านเทียนจุนเจ่อที่แท้จริงน่าจะตายไปแล้ว ทำให้วิญญาณไร้ร่างสามารถจะยึดครองร่างกายนั้นได้ และสามารถจะใช้…คัมภีร์ตัดสวรรค์ออกมาได้!!”

สีหน้าของผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้สลดลงขณะที่ตระหนักได้ถึงเรื่องราวทั้งหมด แต่ในตอนนี้เองที่เสียงของจ่านเทียนจุนเจ่อ, ฟางเฮ่อไห่ก็ดังก้องไปทั่วทั้งท้องฟ้า

“หอกตัดสวรรค์!”

หน้าผากของท่านระเบิดขึ้น ทำให้หอกสีโลหิตพุ่งออกมา เต็มไปด้วยพลังแห่งคัมภีร์ซึ่งสามารถจะดับสวรรค์บดขยี้ปฐพีในสิ้นสูญ พุ่งออกไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ เวลาเดียวกันนั้นร่างของฟางเฮ่อไห่ก็แห้งเหี่ยวลงไปอย่างรวดเร็ว จนกระทั่งกลิ่นอายของท่านหายไปโดยสิ้นเชิง

ก่อนที่ดวงตาของท่านจะปิดลง…ก็มองไปยังหลานชาย ซึ่งเป็นหลานที่ท่านรักมากที่สุด และเป็นคนที่ทำให้ท่านรู้สึกภาคภูมิใจมากกว่าผู้ใดทั้งปวง

ท่านไม่ต้องการที่จะแยกจากไป และสายตาก็เต็มไปด้วยทั้งความเสียใจและความปรารถนาดี…

ในที่สุดท่านก็หลับตาลง

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้น เมื่อหอกเล่มนั้นพุ่งตรงไปยังผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ สำหรับเมิ่งฮ่าวเขากำลังสั่นสะท้าน นั่นคือท่านปู่ซึ่งหายสาบสูญไปนานหลายปีอันเนื่องมาจากตนเอง

“เหยียเยี่ย…” เมิ่งฮ่าวพึมพำ หยดน้ำตาเอ่อล้นขึ้นมา ไหลลงไปนองหน้า เมื่อสงครามดำเนินมาจนถึงจุดนี้ ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลนับไม่ถ้วนต่างก็รู้สึกเจ็บปวดใจ เมื่อต้องมองดูสหายและคนในครอบครัวตกตายไป ตอนนี้ก็ถึงคราวของเมิ่งฮ่าวแล้ว

“ไม่…”

เสียงร้องไห้ดังขึ้นมาจากภายในตระกูลฟาง ดวงตากลายเป็นสีแดงก่ำขณะที่หยดน้ำตาไหลลงมานองหน้า ดังเช่นคำกล่าวที่ว่าครอบครัวอยู่เหนือสิ่งอื่นใด ในช่วงวิกฤตของความเป็นตายนี้ ก็ยิ่งมีผลกระทบมากขึ้นกว่าเดิม

เสียงกระหึ่มดังก้องออกมา ขณะที่หอกตัดสวรรค์สีแดงเข้มพุ่งตรงไปยังผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ นางมีหอกสองเล่มปักอยู่ภายในร่างแล้ว ทำให้พื้นฐานฝึกตนตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย ดังนั้นจึงไม่อาจจะหลีกเลี่ยงจากหอกสุดท้ายได้ เมื่อหอกเล่มนั้นแทงเข้ามาตรงจุดตันเถียน ทำให้เสียงกรีดร้องอย่างน่าอนาถใจดังก้องออกมาจากปากนาง แต่เวลาเดียวกันนั้นความมุ่งมั่นก็แวบขึ้นมาในแววตา

นางไม่มีเวลาที่จะไตร่ตรองถึงเรื่องราวได้ทั้งหมด นางไม่ใช่ผู้ฝึกตนแห่งสามสิบสามสวรรค์ นางและผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้อีกคนต่างก็มาจากการยึดครองร่าง แต่นางก็ไม่ใช่วิญญาณไร้ร่าง นางเป็นวิญญาณที่ครบถ้วนสมบูรณ์

นางอาศัยอยู่ในสามสิบสามสวรรค์เพื่อคอยพิทักษ์ปกป้อง หลังจากที่เอาชนะอาณาจักรเซียนผู้ยิ่งใหญ่ได้แล้ว ภารกิจของนางก็คือเตรียมการโจมตีแต่เนิ่นๆ ตามคำสั่งของสองกองกำลังที่ปรากฏขึ้น ถ้าเป็นเช่นนั้นนางก็จะกวาดล้างอาณาจักรขุนเขาทะเลไป เพื่อรอต้อนรับสองกองกำลังนั้น

แต่ตอนนี้สองกองกำลังยังคงอยู่ในช่วงของการเดินทางมา และพื้นฐานฝึกตนของนางก็ถูกสะกดข่มไว้ ทำให้สงครามต้องถูกลากยาวออกไป และทรัพยากรที่ถูกใช้ออกมาของอาณาจักรขุนเขาทะเล ก็ทำให้นางต้องรู้สึกหวาดกลัวขึ้นมา

เมื่อไม่มีทางเลือกอีกแล้ว นางจึงร้องตะโกนออกไปสองคำอย่างสุดเสียง

“เต้าฟาง!!”

เมื่อหอกตัดสวรรค์แทงเข้ามาในร่าง นางก็ร้องตะโกนคำพูดนี้ออกไป ราวกับว่าเป็นคำสาปแช่ง ถ้ามองไปที่ปากของนาง ก็จะคล้ายกับว่ามีเสียงมากมายกำลังถูกเปล่งออกมา แต่สิ่งที่ดังก้องอยู่ในหูของคนทั้งหมด ที่สามารถจะได้ยินก็มีแค่สองคำเท่านั้น!

เต้าฟาง!

ในตอนที่สองคำนี้ดังก้องออกมา ก็ถูกเกื้อหนุนด้วยพลังที่คล้ายคำสาปแช่ง ตรงจุดสูงสุดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว จากตำแหน่งที่สามสิบสามสวรรค์ตกลงมา เสียงอันชั่วร้ายจู่ๆ ก็ดังก้องออกมา กระจายเต็มไปทั่วทั้งอาณาจักรขุนเขาทะเล ทำให้อาณาจักรและสวรรค์ทั้งหมดต้องสั่นสะเทือน

“เจ้าต้องสังเวยข้า”

หอกตัดสวรรค์แทงทะลุเข้าไปในจุดตันเถียนของผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ ในช่วงเวลาเดียวกับที่เสียงนั้นดังก้องออกมา แรงสั่นสะเทือนวิ่งผ่านไปทั่วร่างนาง และพื้นฐานฝึกตนก็เริ่มลดลงไป ทันใดนั้นหนี่งในแก่นแท้ของนางก็ถูกผนึกไว้ ทำให้นางอยู่ในระดับเจ็ดแก่นแท้ จากนั้นก็อ่อนแอลงไปอย่างต่อเนื่อง จนกระทั่งเกือบจะตกลงมาจากระดับผู้ยิ่งใหญ่โดยสิ้นเชิง!

ใบหน้านางซีดขาวขณะที่กระอักโลหิตออกมากองโต ทำให้อายุขัยของวิญญาณนางลอยออกไป ลดต่ำลงไปหกในสิบส่วน

ส่วนของอายุขัยวิญญาณนางที่ถูกสังเวยไป กลายเป็นเส้นใยจำนวนมากพุ่งขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงไปยังส่วนที่อยู่สูงมากที่สุด จากนั้นผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ก็เริ่มหัวเราะออกมา

“อาณาจักรขุนเขาทะเล ถึงวาระที่จะถูกทำลายไปแล้ว!”

ทันใดนั้นตรงจุดสูงสุดในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว แสงสีทองอันลึกล้ำก็แผ่กระจายออกมา ถ้ามองดูให้ละเอียดก็จะเห็นว่ามันคือกระบองเล่มหนึ่ง!

เป็นกระบองที่น่าตกใจมีขนาดใหญ่โตมหาศาล ส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งฝ่าความว่างเปล่าลงมายังขุนเขาทะเลที่แปด!

ราวกับว่ายักษ์ขนาดใหญ่อย่างที่ไม่อาจจะจินตนาการได้กำลังกวัดแกว่งกระบองนั้น ทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวทั้งหมดต้องสั่นสะเทือนไปมา เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องไปทั่วทั้งขุนเขาทะเลที่แปด ซึ่งเริ่มสั่นสะเทือนอย่างรุนแรงและเริ่มพังทลายลงไป ในที่สุดก็ระเบิดขึ้น

การโจมตีมาแค่ครั้งเดียวของกระบองนั้น ทำลายขุนเขาทะเลที่แปดไป!

“อี๋? ทำไมขุนเขาทะเลถึงได้อ่อนแอนัก?” เสียงชั่วร้ายนั้นร้องอุทานออกมาด้วยน้ำเสียงที่ค่อนข้างจะประหลาดใจ ขณะที่ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลได้ยินเสียงนี้ ต่างก็สั่นสะท้านไปตามๆ กัน เมื่อมองขึ้นไปยังท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็เห็นว่าเงาร่างขนาดใหญ่กำลังใกล้เข้ามายังอาณาจักรขุนเขาทะเล

เงาร่างนั้นแบกกระบองอยู่บนไหล่ และขณะที่เริ่มมองเห็นได้ชัดเจนขึ้น ก็เผยให้เห็นว่าเป็น…มนุษย์วานรผู้หนึ่ง!!

กลิ่นอายอันน่ากลัวและบ้าคลั่งของมันทำให้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวต้องตกอยู่ในความปั่นป่วนวุ่นวาย กระแสน้ำวนแห่งดวงดาวดูเหมือนว่าจะก่อตัวขึ้นมาอยู่รอบๆ ร่างมัน ทำให้พลังอันน่าตกใจพุ่งกระจายออกไป

แค่โจมตีมาเพียงครั้งเดียวด้วยกระบองของมัน ก็ทำให้ขุนเขาทะเลที่แปดต้องพังทลายลงไปทั้งหมด ทำให้ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลสั่นสะท้านไปโดยสิ้นเชิง บางคนยังได้ร้องตะโกนขึ้นมาด้วยความสิ้นหวังอีกด้วย

จิตใจเมิ่งฮ่าวกำลังหมุนคว้าง ขณะที่จ้องมองไปยังวานรตัวนี้ ซึ่งก็คือ…เต้าฟาง!

มันยืนคุมเชิงอยู่ที่ด้านนอกของสามสิบสามสวรรค์ คอยเฝ้ารักษาเกราะป้องกันที่คุมขังอาณาจักรขุนเขาทะเลชั้นสุดท้ายไว้ หลังจากที่ถูกเรียกและได้รับการเซ่นสังเวยจากผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ ก็สามารถตกลงมาด้วยตนเองได้

สวรรค์สะท้านปฐพีสะเทือน และท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวก็สั่นไหวไปมา ตอนนี้ดูเหมือนว่าขุนเขาทะเลอาจจะถูกกวาดล้างออกไปได้ทุกเมื่อ แต่ในตอนนี้เองที่จู่ๆ ก็มีเสียงดังก้องออกมาจากภายในขุนเขาทะเลที่เก้า

เสียงนั้นดังออกมาจากตำแหน่งที่ว่างเปล่าแห่งท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ทันใดนั้นเองก็มีสองเงาร่างปรากฏกายขึ้น หนึ่งก็คือสุ่ยตงหลิว และอีกคนคือผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้คนที่สองจากสามสิบสามสวรรค์

ผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้นั้นเป็นบุรุษวัยกลางคนที่ดูไม่เหมือนกับคนนอกคอกแม้แต่น้อย ในทันทีที่มันปรากฏตัวขึ้น โลหิตก็ไหลซึมออกมาจากมุมปาก และใบหน้าก็ซีดขาวอย่างน่ากลัว ขณะที่รีบหลบหนีล่าถอยออกไป จ้องมองไปยังสุ่ยตงหลิวอยู่ตลอดเวลา ด้วยสีหน้าที่วิตก, หวาดกลัว และไม่อยากจะเชื่อ

“จิ่วเฟิง! ต้องเป็นเจ้า! เจ้ายังมีชีวิตอยู่จริงๆ!!”

แม้ในขณะที่บุรุษผู้นั้นถอยไปทางด้านหลัง เสียงกระหึ่มกึกก้องก็ดังกระจายออกไปในทั่วทุกทิศทาง ซึ่งเป็นเสียงของสุ่ยตงหลิว “ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเล กลับไปยังขุนเขาทะเลที่เก้า เตรียมพร้อมสำหรับสงครามครั้งสุดท้าย!”

เสียงของท่านดูเหมือนว่าจะประกอบไปด้วยพลังที่แปลกๆ และในทันทีที่ผู้ฝึกตนอาณาจักรขุนเขาทะเลได้ยิน ก็เชื่อถือในทันที พวกมันเริ่มถอยไปทางด้านหลังโดยไม่ลังเลใดๆ แม้แต่ไห่เมิ่งจื้อจุนและผู้แข็งแกร่งทรงพลังอื่นๆ ก็เช่นกัน

ขณะที่กองกำลังอาณาจักรขุนเขาทะเลเริ่มล่าถอยกลับเข้าไปยังขุนเขาทะเลที่เก้า ผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ดูเหมือนว่าจะไปหยุดพวกมันไว้ แต่ก็ไม่อาจจะทำได้ สำหรับผู้ยิ่งใหญ่บุรุษแปดแก่นแท้ดวงมันแวบประกายขึ้น แต่ก็ยังมีความหวาดกลัวอยู่ในจิตใจ และไม่ทำอะไรเพื่อที่จะสอดมือเข้าไป

อย่างไรก็ตาม…ริมฝีปากของเต้าฟางที่เพิ่งมาถึงก็บิดขึ้นเป็นรอยยิ้มอันเย็นชา กระบองที่มันแบกอยู่บนไหล่พุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนที่กำลังล่าถอยกลับเข้าไปในขุนเขาทะเลที่เก้าอย่างฉับพลัน

กระบองนั้นเป็นสีทองเข้ม และเคลื่อนที่ไปด้วยความรวดเร็วอย่างน่าเหลือเชื่อ ขณะที่พุ่งลงไปยังขุนเขาที่เก้า ก็เริ่มมีขนาดยาวมากขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งแทบจะกระแทกลงไปยังเป้าหมาย

ในตอนนี้เองที่เสียงแค่นเย็นชาก็ดังก้องขึ้น และสุ่ยตงหลิวก็ก้าวเดินตรงไปปรากฏตัวขึ้นที่ด้านบนของขุนเขาที่เก้า ยกมือขึ้นและโบกสะบัดชายแขนเสื้อออกไป ทำให้เสียงกระหึ่มดังเต็มอยู่ในอากาศ ขุนเขาที่เก้าสั่นสะเทือนขณะที่พลังอันไร้ขอบเขตไหลออกมาจากชายแขนเสื้อของสุ่ยตงหลิว กระแทกเข้าไปยังกระบองเล่มนั้น

ตูมมมมมมม!

ราวกับว่ากระบองถูกปิดกั้นด้วยพลังอันแข็งแกร่งบางอย่าง ทำให้ไม่อาจจะเคลื่อนที่ลงไปได้อีก และจริงๆ แล้วก็สะท้อนกลับไปทางด้านหลังอีกด้วย

ม่านตาเต้าฟางหดเล็กลง กระบองกำลังสั่นสะท้านอยู่ในมือขวาของมัน

สุ่ยตงหลิวใช้เพียงแค่ความแข็งแกร่งของตนเองปิดกั้นกระบองไว้เท่านั้น ถึงแม้ว่าใบหน้าท่านจะเป็นสีแดงเรื่อขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ดูเหมือนว่าจะไม่ได้รับบาดเจ็บแม้แต่น้อย แต่ความจริงก็คือว่าปราณและโลหิตของท่านกำลังพลุ่งพล่านปั่นป่วน และวิญญาณก็ไม่เสถียรมั่นคง แต่ดวงตาก็ยังคงสงบนิ่งเยือกเย็นขณะที่แอบถอนหายใจออกมา

“ในที่สุด…ข้าก็ชราแล้ว…”

หลังจากที่การโจมตีของมันถูกตีกลับมา เต้าฟางก็ไม่เคลื่อนไหวอีก จ้องมองไปยังผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลที่กำลังหลบหนีไปด้วยสายตาที่เย็นชา จากนั้นก็มองกลับไปยังขุนเขาที่เก้า ซึ่งตอนนี้กลายเป็นแหล่งที่มั่นสุดท้ายสำหรับกองกำลังแห่งอาณาจักรขุนเขาทะเล

ในตอนนี้สิ่งที่ยังคงเหลืออยู่ทั้งหมด…คือทะเลที่เก้าและขุนเขาที่เก้าเท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version