Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1390

ตอนที่ 1390

ลาก่อน ฮ่าวเอ๋อร์ของข้า

เมิ่งฮ่าวสั่นสะท้านไปทั้งร่างยืนไม่มั่นคง ถูกห้อมล้อมด้วยกลุ่มคนนอกคอกที่ใกล้เข้ามา พวกมันกำลังจะสังหารคนในครอบครัว, สหายและผู้ฝึกตนอื่นๆ ทั้งหมดบนดาวหนานเทียนไป ทำให้เขาต้องกัดฟันแน่นโคจรหมุนวนพลังการฝึกตนทั้งหมด ที่ยังคงหลงเหลืออยู่ภายในร่างเพื่อโจมตีกลับไปอย่างรุนแรง เพื่อช่วยปกป้องกลุ่มคนที่เขาห่วงใย

คนทั้งหมดเริ่มร้องตะโกนออกมา

“ฮ่าวเอ๋อร์!!”

“เมิ่งฮ่าว!!”

“เสาจู่!!”

สวี่ชิงร้องไห้และเดินไปยังเมิ่งฮ่าวเพื่อช่วยเหลือดูแล แต่เมิ่งฮ่าวก็ผลักนางไปทางด้านข้าง และยื่นมือออกไปคว้าจับคนนอกคอกที่แอบลอบโจมตีมาทางด้านหลังนางไว้ จับไปที่ลำคอของมัน และจากนั้นเสียงแตกร้าวก็ดังก้องออกมาเมื่อลำคอมันแหลกละเอียดไป

“ไปอยู่ด้านหลังข้า!” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นหอบหายใจออกมา จากนั้นก็ขยับร่ายเวทพร้อมกันทั้งสองมือ เพื่อโจมตีไปยังกองกำลังกลุ่มคนนอกคอกอีกครั้ง

แต่ก็ดูเหมือนว่ากลุ่มคนนอกคอกจะมีมากขึ้นเรื่อยๆ และเมิ่งฮ่าวก็เริ่มอ่อนแอลงไปทุกที

ที่ด้านข้างซึ่งอยู่ห่างไกลออกไป ดวงตาของผู้ยิ่งใหญ่หุ่นเชิดแวบประกายขึ้น และพลังก็ระเบิดออกไป ขณะที่พยายามจะหันหน้ามองมายังทิศทางของเมิ่งฮ่าว แต่ก็ถูกขัดขวางจากผู้ยิ่งใหญ่แปดแก่นแท้อีกคน ไห่เมิ่งจื้อจุนก็ถูกตรึงไว้เช่นเดียวกัน จึงไม่อาจจะเข้าไปใกล้ดาวหนานเทียนได้

สุ่ยตงหลิวถอนหายใจ และสีหน้าขัดแย้งก็ปรากฏขึ้นชั่วขณะ ก่อนที่จะจางหายไป

“ทั้งหมดนี้ก็เพื่ออาณาจักรขุนเขาทะเล” ท่านพึมพำด้วยเสียงที่มีแต่ตนเองได้ยิน แอบถอนหายใจออกมา “ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลไม่อาจจะคลายผนึกบนดาวหนานเทียนได้ นอกจากคนนอกคอกเท่านั้น และต้องเป็นการกระทำจากวิญญาณที่เหมาะสมเท่านั้น…เกือบแล้ว เกือบถึงเวลาแล้ว…”

ขณะที่ท่านโบกสะบัดมือเพื่อโจมตีไปยังเต้าฟาง ก็มองขึ้นไปยังสุดขอบของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวด้านบนสุด

เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจดังก้องอยู่บนดาวหนานเทียน เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน และพื้นฐานฝึกตนกำลังตกลงไปอย่างรวดเร็ว ผู้ยิ่งใหญ่สตรีแปดแก่นแท้ต้องจ่ายค่าตอบแทนออกมาอย่างน่าเหลือเชื่อ เพื่อปลดปล่อยความสามารถศักดิ์สิทธิ์ที่เขาแทบไม่อาจจะต่อต้านได้ พลังของความสามารถศักดิ์สิทธิ์นั้นพยายามจะทำลายโลหิตและร่างกายของเมิ่งฮ่าวไปอย่างไม่ลดละ

ทุกสิ่งทุกอย่างเริ่มเลือนลางลงไป และเสียงร้องตะโกนนับไม่ถ้วนก็ดังก้องอยู่ในหู มีทั้งเสียงแผดร้องด้วยโทสะ, เสียงโอ้อวดเยาะเย้ย, เสียงแผดร้องโหยหวน และเสียงร้องไห้ด้วยความขมขื่น

“ตาย…” เมิ่งฮ่าวกล่าวขึ้นด้วยเสียงแผ่วเบา พุ่งตรงไปยังกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้นอีกครั้ง เหลือทิ้งไว้แต่โลหิตและความตายเป็นทางยาวอยู่ด้านหลัง ซากศพกลุ่มคนนอกคอกกำลังซ้อนทับสูงขึ้นไปอยู่ทั่วทุกที่

มือซ้ายเมิ่งฮ่าวถูกทำลายไป แต่ก็ยังมีมือขวาอยู่!

เมิ่งฮ่าวกัดฟันแน่นขณะที่พื้นฐานฝึกตนตกลงไปอย่างต่อเนื่อง โบกสะบัดมือขวาออกไป เรียกภูเขาจำนวนมากให้ตกลงมา แต่ละย่างก้าวที่เดินไป สายลมอันทรงพลังก็ม้วนกวาดไปมา โจมตีไปยังกลุ่มคนนอกคอกด้วยพลังทำลายล้าง

เขากำลังเฝ้าปกป้องกลุ่มคนที่ตนเองห่วงใยรักใคร่ ไม่ต้องการเห็นสหายและคนในครอบครัวได้รับบาดเจ็บ จิตใจว่างเปล่าไม่มีความคิดใดๆ หลงเหลืออยู่ยกเว้น…ความมุ่งมั่น

กลุ่มคนนอกคอกนับไม่ถ้วนแผดร้องคำรามขณะที่โจมตีมา แต่ถึงแม้ว่าเมิ่งฮ่าวกำลังจะหมดสติไปในไม่ช้านี้แล้ว แต่ความต้องการสังหารก็ไม่ลดน้อยลงไป แขนขวาหักไป แต่ก็ยังคงกัดฟันแน่น ขาทั้งสองแหลกละเอียดไป แต่ก็ไม่สนใจต่อความเจ็บปวด เสียงแผดร้องคำรามอย่างน่าตกใจและท้าทายดังก้องอยู่ในทั่วทุกทิศทาง

ผู้ฝึกตนตระกูลฟาง, เจ้าอ้วน, บิดามารดาเมิ่งฮ่าว และผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลอื่นๆ ทั้งหมดโจมตีออกไปอย่างต่อเนื่อง ด้วยการปกป้องโดยเมิ่งฮ่าว ทำให้บางคนได้รับบาดเจ็บ แต่ก็ไม่อันตรายจนต้องเสียชีวิตไป

อย่างไรก็ตามค่าตอบแทนที่เมิ่งฮ่าวต้องจ่ายออกไปก็คือ พื้นฐานฝึกตนกำลังตกลงไปอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง

ผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ลอยตัวอยู่ที่นั่นอย่างเงียบๆ ข้างกายมันคือผู้ยิ่งใหญ่สตรี กำลังขมวดคิ้วเพ่งสมาธิเพื่อชักนำความสามารถศักดิ์สิทธิ์ของนาง เมิ่งฮ่าวกำลังเผาไหม้พลังชีวิตของตนเอง ความเหน็ดเหนื่อยไหลท่วมไปทั่วร่างราวกับเป็นน้ำป่าที่ไหลหลาก ภาพที่เบื้องหน้าในตอนนี้กำลังเลือนราง และเริ่มมืดลงไปอย่างช้าๆ

เมิ่งฮ่าวไม่รู้ว่าได้สังหารกลุ่มคนนอกคอกไปมากน้อยเท่าใดกันแน่ แต่ไม่ว่าเขาจะกำจัดพวกมันไปมากเท่าใด พวกมันก็ยิ่งปรากฏมากขึ้นไปกว่าเดิม เขาอ่อนแอลงไปมากกว่าที่คิด พยายามจะเรียกตะเกียงวิญญาณออกมา เพื่อดับพวกมันลงไปซึ่งจะช่วยให้ตนเองฟื้นฟูร่างกายได้ แต่เนื่องจากโลหิตถูกปนเปื้อน ทำให้ตะเกียงวิญญาณก็แปดเปื้อนไปด้วยเช่นกัน จึงไม่สามารถจะเรียกพวกมันออกมาได้!

เมิ่งฮ่าวเริ่มใช้ศีรษะโขกกระแทกไปยังกลุ่มคนนอกคอก ทำให้โลหิตสีดำพ่นกระจายออกมาจากปาก พื้นฐานฝึกตนตกลงไปอย่างต่อเนื่อง

ที่ด้านหลังคนทั้งหมดที่ถูกเมิ่งฮ่าวปกป้องไว้ต่างก็ได้รับบาดเจ็บ, คลุ้มคลั่งและเสียใจ หยดน้ำตาไหลนองหน้า มองไปยังเมิ่งฮ่าวที่แข็งแกร่งดุจขุนเขาตรงด้านหน้า

ซากศพของกลุ่มคนนอกคอกกองพะเนินยืดยาวออกไปที่เบื้องหน้าเมิ่งฮ่าว ที่ห่างไกลออกไปเป็นกองกำลังที่ดูเหมือนว่าจะไร้จุดสิ้นสุด พวกมันมองมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความหวาดกลัวและตื่นตระหนก เขาไม่ได้เทียบเท่ากับผู้ยิ่งใหญ่อีกต่อไป พื้นฐานฝึกตนตกลงมาและยืนโซเซไปมาจนแทบจะพังทลายลงไป แต่กลิ่นอายอันน่ากลัวที่กระจายออกมาจากร่างอย่างเข้มข้น ก็ทำให้สวรรค์ต้องสะท้านปฐพีต้องสะเทือน

ขณะที่เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ตรงนั้นถูกห้อมล้อมด้วยกองซากศพ พลังก็พุ่งออกไป กลุ่มคนนอกคอกตกใจกลัวจนไม่กล้าที่จะเดินหน้าเข้ามาอีก สีหน้าเต็มไปด้วยความขัดแย้งขณะที่พวกมันมองมายังเมิ่งฮ่าว ผู้ฝึกตนเช่นนี้เป็นสิ่งที่พบเห็นได้ยากในสามสิบสามสวรรค์ แต่หลังจากที่รุกรานเข้ามาในอาณาจักรขุนเขาทะเล พวกมันก็ได้พบเห็นคนแล้วคนเล่า

และตอนนี้พวกมันกำลังเผชิญหน้ากับเมิ่งฮ่าว

สนามรบเงียบกริบลงไปชั่วขณะ และถึงแม้ว่าดวงตาเมิ่งฮ่าวค่อนข้างจะว่างเปล่า แต่ก็กล่าวขึ้นมาอย่างเงียบๆ ว่า “ชิงเอ๋อร์ พันแผลให้ข้าด้วย”

สวี่ชิงเข้ามาใกล้ ใบหน้าซีดขาวเต็มไปด้วยคราบน้ำตา ฉีกแถบผ้าออกมาจากชุดที่สวมใส่อยู่ ภายใต้การมองมาจากกลุ่มคนนอกคอกและผู้ฝึกตนตระกูลฟางที่อยู่ใกล้เคียง นางพันแถบผ้าไปรอบๆ แขนข้างขวาที่หักไปอย่างแน่นหนา

เมื่อได้เห็นหยดน้ำตาของนาง เมิ่งฮ่าวก็พึมพำ “อย่าร้องไห้ พันให้แน่นกว่านี้ มิเช่นนั้นมันอาจจะหลุดไปได้”

สวี่ชิงกัดริมฝีปาก ผูกไปที่แขนอีกข้างอย่างเงียบๆ เพื่อให้มั่นใจว่าผ้าที่พันไว้นั้นจะแน่นหนาเพียงพอ

ขณะที่กลุ่มคนนอกคอกยืนอยู่ที่นั่น ความหวาดกลัวและไม่ต้องการจะต่อสู้ก็พุ่งขึ้นมา แต่ดวงตาของผู้ยิ่งใหญ่สตรีก็ลืมขึ้นมาและร้องตะโกนเป็นเสียงแหลมเล็กออกไป “สังหารพวกมันให้หมด!!”

จากน้ำเสียงและศักดิ์ฐานะของนาง

ทำให้กลุ่มคนนอกคอกต้องลังเลอยู่ชั่วขณะ ก่อนที่จะปะทุขึ้นด้วยเสียงแผดร้องคำรามอันแข็งแกร่ง จากนั้นก็พุ่งตรงไปยังเมิ่งฮ่าวราวกับเป็นอุทกภัย

ดาวหนานเทียนสั่นสะเทือน รอยแตกร้าวกระจายออกไปทั่วทั้งพื้นผิว เห็นได้ชัดว่ามันแทบจะพลังทลายลงไปได้ทุกเมื่อแล้ว

เมิ่งฮ่าวยืนอยู่ที่นั่น พยายามฝืนมองออกไปให้ชัดเจนมากขึ้น อ๋าวเฉี่ยนบินออกมาจากถุงสมบัติ แผดร้องคำรามขณะที่พุ่งตรงไปยังกลุ่มคนนอกคอก

อสูรโลหิตฉีกเป็นรอยแยกในอากาศโผล่ออกมา และวิญญาณโลหิตของเมิ่งฮ่าวก็ปรากฎขึ้น ทั้งคู่โจมตีไปยังกลุ่มคนนอกคอกด้วยความดุร้าย สองขาเมิ่งฮ่าวแตกละเอียดไปแล้ว ทำให้ไม่อาจจะเดินได้ แต่ก็ยืนอยู่ที่นั่นราวกับเป็นภูผาอันยิ่งใหญ่ ปล่อยให้ทะเลกลุ่มคนนอกคอกบดขยี้เข้ามา แต่เขาก็ไม่ล้มลงไป!

มือขวาเมิ่งฮ่าวพุ่งออกไปรัดคอคนนอกคอกผู้หนึ่งไว้ ในขณะที่ต่อยหมัดซ้ายลงไปบนหน้าอกของอีกคน กลุ่มคนนอกคอกใช้ความสามารถศักดิ์สิทธิ์โจมตีมาทั่วทุกทิศทาง แต่ขณะที่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์เหล่านั้นกระแทกเข้ามาในร่าง เขาก็ใช้ศีรษะโขกไปยังศัตรูอีกคน

ภาพที่ปั่นป่วนวุ่นวายนี้ทำให้กลุ่มคนนอกคอกตกตะลึงไปโดยสิ้นเชิง อ๋าวเฉี่ยนกำลังต่อสู้อย่างบ้าคลั่ง กลายเป็นริ้วแสงสีแดงลอยวนไปมา แต่ที่แห่งนั้นก็มีกลุ่มคนนอกคอกมากเกินไป ดังนั้นอ๋าวเฉี่ยนจึงใช้ฟันคาบเมิ่งฮ่าวไว้ ยอมได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสขณะที่ลากเขากลับเข้าไปยังกลุ่มผู้ฝึกตนตระกูลฟาง

โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากเมิ่งฮ่าว พื้นฐานฝึกตนตกลงไปจนอยู่ต่ำกว่าอาณาจักเซียน สหายร่วมตระกูล, บิดามารดา และสหายอื่นๆ ทั้งหมดต่างก็ร้องไห้ออกมา อันเนื่องมาจากโศกนาฏกรรมที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้

“ข้า…” เมิ่งฮ่าวดิ้นรนที่จะลุกขึ้นมายืน แต่ทันใดนั้นก็มีมือข้างหนึ่งมาจับอยู่บนไหล่อย่างอ่อนโยน

ซึ่งก็คือฟางซิ่วเฟิง ท่านก็ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่มือก็ยังคงกระจายเป็นแรงกดดันออกมา ขณะที่มองลงไปยังเมิ่งฮ่าว

“ฮ่าวเอ๋อร์ ปล่อยให้เหวยฟู่ (บิดา) จัดการเถอะ หลังจากนี้เจ้าต้องดูแลตัวเองให้ดี…”

ด้วยเช่นนั้นฟางซิ่วเฟิงก็สูดหายใจเข้าลึกๆ ไม่ปล่อยให้เมิ่งฮ่าวมีโอกาสได้พูดใดๆ ก้าวเดินตรงไปยังกลุ่มคนนอกคอก ท่านคือบิดาของเมิ่งฮ่าว และไม่อาจจะนั่งอยู่เฉยๆ ในขณะที่บุตรชายต่อสู้เพื่อตนเอง ท่านคือฟางซิ่วเฟิง!

ท่านเคยเป็นผู้ถูกเลือกที่ยิ่งใหญ่แห่งตระกูลฟาง! ท่านคือผู้นำของตระกูล! แต่สิ่งที่ภาคภูมิใจมากที่สุดก็คือท่านเป็น…บิดาของเมิ่งฮ่าว!

“วันนี้คือวันที่อาณาจักรขุนเขาทะเลจะคงอยู่หรือล่มสลายไป และตระกูลฟางจะคงอยู่หรือตายไปด้วยเช่นกัน พวกเจ้าต้องการกำจัดตระกูลข้าไปทั้งหมดเพื่อยุติความบาดหมางทางสายโลหิต ตราบเท่าที่ตระกูลฟางมีสายโลหิตหลงเหลืออยู่ ไม่ว่าจะผ่านไปนานกี่ปี พวกเราก็จะต้องล้างแค้นให้จงได้!” ขณะที่ฟางซิ่วเฟิงก้าวเดินออกไป ผู้ฝึกตนตระกูลฟางจำนวนมากก็เข้าร่วมกับท่านเพื่อโจมตีไปยังกลุ่มคนนอกคอก!

ก่อนหน้านี้เมิ่งฮ่าวกำลังปกป้องพวกมัน แต่ตอนนี้พวกมันจะปกป้องเมิ่งฮ่าวเอง!

เกิดเป็นเสียงกระหึ่มดังก้องขึ้นขณะที่การสังหารเริ่มดำเนินต่อไป ในตอนนี้ผู้ฝึกตนตระกูลฟางได้บรรลุถึงขั้นบ้าคลั่งเกินกว่าผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลใดๆ ในการต่อสู้ที่ผ่านมา เสียงระเบิดตนเองเริ่มดังก้องออกไปอยู่ตลอดเวลา

โลหิตไหลซึมออกมาจากมุมปากของเมิ่งฮ่าว และม่านตาก็พร่าเลือนไปมากยิ่งขึ้น ได้ยินเสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจนับไม่ถ้วนดังก้องอยู่ในหู ทุกสิ่งทุกอย่างดูเหมือนว่าจะเคลื่อนที่ช้าลง มองเห็นสหายร่วมตระกูลทำการระเบิดตนเอง มองเห็น…บิดาอยู่ในท่ามกลางกองกำลังกลุ่มคนนอกคอก กำลังสังหารศัตรูอยู่ แต่ท่านก็ได้รับบาดเจ็บไปแล้ว และทันใดนั้นคนนอกคอกผู้หนึ่งก็พุ่งแทงไปยังหน้าอกท่านอย่างรุนแรง

ท่านถอยไปทางด้านหลัง สังหารคนนอกคอกนั้นไป แต่ก็ไม่อาจจะหลีกเลี่ยงกระบี่บินที่แทงเข้าไปในหน้าอกได้!

กระบี่แทงทะลุร่างท่านออกไป ทำให้โลหิตพุ่งออกมาราวกับเป็นน้ำพุ…

เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้าน และดวงตาก็เบิกโพลงขึ้น ขณะที่มองไปยังสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ต้องการจะทำให้เรื่องราวทั้งหมดยุติลง แต่ก็ไม่อาจจะเปลี่ยนแปลงอะไรได้

เมื่อกระบี่แทงทะลุร่างฟางซิ่วเฟิง ท่านก็แผดร้องคำรามออกมาอย่างไม่ยอมแพ้ และจากนั้น…ก็มองกลับไปยังภรรยาของตนเอง

มองไปยังบุตรี และมองไปยังบุตรชาย ในอดีตที่ผ่านมา ท่านจงใจที่มองไปยังบุตรชายด้วยความหวาดหวั่นและเกรงขาม ซึ่งเป็นสิ่งที่บิดาทั่วไปไม่เคยทำเช่นนั้น แต่ท่านก็ยินดีที่จะทำให้เป็นตัวอย่างแก่คนอื่นๆ ท่านรู้ว่าจริงๆ แล้วเมิ่งฮ่าวเป็นผู้ที่มีจิตใจอ่อนโยน และจำเป็นต้องเรียนรู้เกี่ยวกับสงครามอันโหดร้าย เขาจำเป็นต้องเติบใหญ่ขึ้นจนสามารถจัดการกับการต่อสู้อันน่าขมขื่นมากที่สุดได้

ท่านตระหนักมานานมาแล้วว่าตนเอง…ไม่อาจจะยืนเคียงข้างเมิ่งฮ่าวไปได้ตลอดกาล ในที่สุดวันนั้นก็มาถึง เมื่อท่านไม่อยู่ที่นั่นและเมื่อเกิดขึ้นเช่นนั้น…ท่านก็หวังว่าบุตรชายจะแข็งแกร่งขึ้น

ความรักที่ท่านมีต่อเมิ่งฮ่าว ก็เหมือนกับความรักที่เคออวิ๋นไห่มีต่อเคอจิ่วซือ มันคือความภาคภูมิใจและเต็มไปด้วยความมุ่งหวัง

วันนี้เมื่อท่านก้าวออกไปต่อสู้ก็รู้แล้วว่าตนเองจะต้องตายไป ท่านรู้ว่าด้วยระดับพื้นฐานฝึกตนของเมิ่งฮ่าว เขาไม่ควรจะตกอยู่ในอันตรายเช่นนี้ ฟางซิ่วเฟิงรู้ว่าเนื่องมาจากตนเอง และกลุ่มคนในตระกูลอื่นๆ เท่านั้น ท่านไม่ต้องการเป็นตัวถ่วงให้กับเมิ่งฮ่าว และเนื่องจากเช่นนั้น เนื่องจากอันตรายอันน่าเหลือเชื่อที่เมิ่งฮ่าวกำลังเผชิญหน้าอยู่ ฟางซิ่วเฟิงจึงเลือกที่จะไม่เป็นภาระอีกต่อไป

“เส้นทางของเจ้า ยังคงไปได้อีกยาวไกล…”

ขณะที่บิดาและบุตรสบประสานสายตากัน จิตใจเมิ่งฮ่าวรู้สึกราวกับว่ากำลังฉีกขาดออกเป็นชิ้นๆ ความรู้สึกสับสนและหวาดกลัวกำลังกัดแทะอยู่ในจิตใจ

“เตีย…” เมิ่งฮ่าวพูดขึ้นด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ

ฟางซิ่วเฟิงยิ้มให้ จากนั้นก็หลับตาลง

ลาก่อน ฮ่าวเอ๋อร์ของข้า…

เมื่อท่านลืมตาขึ้นมาอีกครั้ง ก็สาดประกายเจิดจ้าขึ้น ขณะที่ตัดสินใจ…ระเบิดตนเอง!

อาการบาดเจ็บของท่านสาหัสเป็นอย่างยิ่ง และรู้ดีว่าถึงแม้จะไม่ระเบิดตนเอง ก็คงจะตายไปในการต่อสู้ ดังนั้นท่านจึงต้องการบอกกับคนทั้งหมดว่า ข้าคือฟางซิ่วเฟิง! มีชีวิตอยู่และตายไปเพื่อขุนเขาทะเล!

เสียงระเบิดที่ดังก้องออกไปนั้น ไม่ใช่เสียงที่ผิดปกติใดๆ บนสนามรบ แต่สำหรับเมิ่งฮ่าวแล้ว ราวกับว่าสวรรค์กำลังสั่นสะท้านปฐพีกำลังสั่นสะเทือน!!

มันคือเสียงระเบิดที่เขย่าสวรรค์หั่นปฐพี ทำให้โลกของเมิ่งฮ่าวสั่นสะเทือนไปโดยสิ้นเชิง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!