Skip to content

I shall seal the heaven Chapter 1389

ตอนที่ 1389

อยู่ด้านหลังข้า

ตรงด้านนอกดาวหนานเทียน ยังคงมีกลุ่มคนนอกคอกนับล้าน ที่กำลังสั่นสะท้านหลังจากที่เพิ่งจะรอดชีวิตมาจากหายนะอันน่ากลัว เป็นสิ่งที่พวกมันไม่มีทางจะลืมเลือนไปได้

อย่างไรก็ตาม…เมื่อค่ายกลเวทหายไปแล้วในตอนนี้ ดาวหนานเทียน…ก็สูญเสียเกราะป้องกันไป ดวงตากลุ่มคนนอกคอกเริ่มกลายเป็นสีแดงก่ำขึ้นอย่างช้าๆ ยากที่จะบอกได้ว่าใครเป็นคนเริ่มพุ่งเข้าไปก่อน แต่ในที่สุดกองกำลังทั้งหมดกำลังพุ่งตรงไปยังดาวหนานเทียน!

ในตอนนี้เองด้วยเช่นกัน ตรงจุดสูงสุดของท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงตำแหน่งที่สามสิบสามสวรรค์จากมา ทุกสิ่งทุกอย่างเงียบกริบตั้งแต่ตอนที่เต้าฟางตกลงมา แต่ตอนนี้ท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาวเริ่มบิดเบี้ยวไปมา ขณะที่พลังแห่งความต้องการสังหารผลักดันให้เกิดขึ้นเช่นนี้!

ตรงตำแหน่งที่ไม่อาจจะรับรู้ได้บางแห่งในท้องฟ้าที่เต็มไปด้วยหมู่ดาว ตรงเขตชายแดนของอาณาจักรขุนเขาทะเลตรงความว่างเปล่าที่ขยายยืดยาวออกไป ดินแดนอันกว้างใหญ่แห่งหนึ่งกำลังส่งเสียงดังกระหึ่มกึกก้อง บดขยี้ทุกสรรพสิ่งที่มาขัดขวางเส้นทางของมัน

ที่กำลังฉุดลากดินแดนอันกว้างใหญ่นั้นมา เป็นดวงตะวันขนาดใหญ่เก้าดวง ซึ่งส่องแสงสว่างเจิดจ้า!

พวกมันกำลังมาแล้ว!

ย้อนกลับไปยังดาวหนานเทียน เศษชิ้นส่วนของค่ายกลเวทกำลังแตกกระจายออกไป ขณะที่กลุ่มคนนอกคอกนับล้านพุ่งตรงไปโจมตี เสียงแตกร้าวและรอยร้าวมากมายเริ่มปรากฏขึ้นบนพื้นผิวของดวงดาว

ดาวหนานเทียนกำลังจะพังทลายลงไปแล้ว!

ผู้ฝึกตนทั้งหมดบนดาวหนานเทียนกำลังกระอักโลหิตออกมา และสูงขึ้นไปในท้องฟ้า กลุ่มคนนอกคอกนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้น และเริ่มต่อสู้มาอย่างดุร้าย เท่าที่เห็นสิ่งมีชีวิตทั้งหมดบนดาวหนานเทียน…กำลังตกอยู่ในเงามืดของกลุ่มคนนอกคอก

ตอนนี้ดาวหนานเทียนตกอยู่ในช่วงวิกฤตอย่างที่ไม่อาจจะอธิบายได้

บิดาเมิ่งฮ่าว, ฟางซิ่วเฟิงกระอักโลหิตออกมา ขณะที่กระบี่บินส่งเสียงหวีดหวิวพุ่งแทงเข้ามาในร่าง เมื่อเมิ่งฮ่าวมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นนั้น โลกทั้งหมดก็ดูเหมือนว่าจะหยุดชะงักนิ่งไป

แม้ในขณะที่เขาพุ่งออกมาจากภายในทะเลโลหิต ก็มองเห็นภาพเหล่านั้นได้อย่างเต็มตา

“ไม่!” เมิ่งฮ่าวดวงตาแดงก่ำ ขยับสองมือร่ายเวท ระเบิดกองกำลังกลุ่มคนนอกคอกเป็นเส้นทางผ่านออกไป ทำให้พวกมันนับไม่ถ้วนต้องแผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา ขณะที่กลายเป็นเถ้าธุลีไป

เมิ่งฮ่าวพุ่งผ่านเส้นทางที่ตนเองสร้างขึ้นมาด้วยความรวดเร็วอย่างที่ยากจะอธิบายได้ ไปถึงดาวหนานเทียนคว้าจับร่างบิดาไว้ได้ทันเวลา ขณะที่เริ่มตกลงมาหลังจากถูกแทงด้วยกระบี่บินเป็นจำนวนมาก

เวลาเดียวกันนั้น เมิ่งฮ่าวก็ปลดปล่อยพลังระเบิดอย่างดุร้ายลงไปยังพื้นดินที่ด้านล่าง

ตูมมมมมมม!

พื้นดินสั่นสะเทือน แต่ก็ไม่ถูกทำลายไป พลังนั้นกลับม้วนตัวพุ่งขึ้นไปในท้องฟ้า ทำให้เกิดเป็นพลังอันมหาศาลกระแทกตรงไปยังกลุ่มคนนอกคอก เสียงแผดร้องอย่างน่าอนาถใจได้ยินออกมาจากกลุ่มคนนอกคอกในบริเวณนั้น ขณะที่แรงกดดันอันมหาศาลกดทับลงไปบนร่างพวกมันจนระเบิดออกไป

ทันใดนั้นทั่วทั้งฟ้าดินก็เต็มไปด้วยพิรุณโลหิตของกลุ่มคนนอกคอก!

กลุ่มคนนอกคอกที่ยังคงอยู่ห่างไกลออกไปอ้าปากค้าง มองไปยังเมิ่งฮ่าวด้วยความประหลาดใจ พวกมันเริ่มถอยไปทางด้านหลัง ไม่กล้าที่จะเข้ามาใกล้แม้แต่น้อย

เส้นผมเมิ่งฮ่าวพลิ้วไสวไปมาอยู่รอบๆ ศีรษะ คล้ายกับเป็นภูเขาไฟที่ปะทุขึ้นมาด้วยกลิ่นอายอันน่ากลัว ซึ่งเข้มข้นจนทำให้ทุกสรรพสิ่งมืดสลัวลงไป

ฟางซิ่วเฟิงได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส แต่ก็ไม่ร้ายแรงมากนัก

เมื่อได้เห็นเมิ่งฮ่าวปรากฎกายขึ้นอย่างกะทันหัน ก็ยิ้มออกมา เป็นรอยยิ้มที่เต็มไปด้วยความอบอุ่น, ภาคภูมิใจ และดีใจ

การมาถึงของเมิ่งฮ่าวทำให้เกิดเป็นความตื่นเต้นพุ่งกระจายไปทั่วทั้งกลุ่มคนตระกูลฟาง และผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลอื่นๆ ต่างก็เริ่มร้องตะโกนออกมาด้วยความคลั่งไคล้กันทั้งหมด

“เมิ่งฮ่าว!!”

“เสาจู่!!”

“เสาจู่กลับมาแล้ว!!” เสียงร้องตะโกนนับไม่ถ้วนดังก้องออกไป หยดน้ำตาไหลลงมานองหน้าเมิ่งลี่ ขณะที่ช่วยพยุงฟางซิ่วเฟิงออกมาจากวงแขนของเมิ่งฮ่าว ไม่มีเวลาให้เมิ่งฮ่าวทักทายหรือพูดคุยถึงความหลัง มองไปเห็นสายตาที่แดงก่ำของสวี่ชิง, เจ้าอ้วน, เฉินฟาน, ซุนไห่และพี่สาวฟางอวี๋ พร้อมทั้งบาดแผลที่กลาดเกลื่อนไปทั่วร่างของคนเหล่านั้น ทำให้โทสะของเมิ่งฮ่าวพุ่งสูงมากขึ้นกว่าเดิม

โดยที่ไม่พูดจาใดๆ เมิ่งฮ่าวหมุนตัวปลดปล่อยวิชาเวทและความสามารถศักดิ์สิทธิ์ออกไป สุดยอดสะพานส่งเสียงดังกระหึ่ม และเวทกลืนภูเขาก็ทำให้ภูเขานับไม่ถ้วนปรากฎขึ้น กลุ่มคนนอกคอกที่อยู่บริเวณใกล้เคียงไม่อาจจะหลบเลี่ยงได้ จากความแตกต่างของพื้นฐานฝึกตนพวกมันและเมิ่งฮ่าว ทำให้เกิดการบาดเจ็บล้มตายเป็นจำนวนมาก

ดูเหมือนว่าเมิ่งฮ่าวจะคลุ้มคลั่งไปโดยสิ้นเชิง ขณะที่พุ่งออกไปเพื่อทำการสังหารมากขึ้น แต่ในตอนนี้เองที่ผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่และผู้ยิ่งใหญ่สตรีพุ่งเข้ามาจากที่ห่างไกล ความเกลียดชังอย่างชั่วร้ายแวบขึ้นมาในแววตาของผู้ยิ่งใหญ่ ขณะที่ขยับมือร่ายเวท จากนั้นก็ฟาดลงไปยังด้านบนศีรษะของตนเอง ทันใดนั้นไข่มุกสีม่วงก็พุ่งออกมาจากปากนางและกลายเป็นทะเลม่วงไป

ผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ขมวดคิ้ว จากนั้นร่างกายก็บิดเบี้ยวไปมา ขณะที่พลังอันรุนแรงปะทุออกมาจากร่างมัน หลอมรวมเข้าไปในทะเลม่วงพุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าว

ใบหน้าเมิ่งฮ่าวบิดเบี้ยวขึ้นด้วยความดุร้าย ยกคันธนูแสงอาทิตย์ขึ้นมาและยิงออกไปสามดอก!

ลูกธนูทั้งสามที่ถูกยิงออกไปนั้นทำให้เมิ่งฮ่าวต้องกระอักโลหิตออกมา และสูญเสียพลังชีวิตไปเป็นจำนวนมาก สามลูกธนูคือขีดจำกัดของตนเอง แต่ก็เป็นสามลูกธนูที่น่าตกใจยิ่ง ธนูดอกแรกคล้ายกับเป็นมังกรที่พุ่งตรงไปยังผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ และเมื่อแทงเข้าไปในร่างมัน โลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปาก ขณะที่ร่างกายสั่นสะท้านถอยไปทางด้านหลัง เวลาเดียวกันนั้นธนูดอกที่สองก็เข้ามาใกล้มันอีกครั้ง

ธนูดอกที่สามพุ่งทะลุผ่านทะเลม่วงตรงไปยังผู้ยิ่งใหญ่สตรี ทำให้ดวงตานางต้องเบิกกว้างขึ้น แต่ผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ก็ไม่อาจจะคลี่คลายอันตรายของตนเองเพื่อไปช่วยเหลือนางได้ ดังนั้นนางจึงไร้ทางเลือกนอกจากต้องกัดฟันแน่น ปล่อยให้ลูกธนูแทงเข้ามาในร่าง และร่างกายนางก็ระเบิดออกไปในทันที

แต่นางก็ยังไม่ตายไปอย่างแท้จริง หลังจากที่ระเบิดก็รวมร่างกลับเข้ามาใหม่ ด้วยใบหน้าที่ซีดขาวและความเกลียดชังในดวงตาที่มองไปยังเมิ่งฮ่าวก็ยิ่งมีความรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิม

“ข้าจะถลกหนังเจ้าออกมาทั้งเป็น!!” นางแผดร้องออกมา เวทช่วยชีวิตที่เพิ่งจะใช้ออกไปนี้มาพร้อมกับค่าตอบแทน เป็นค่าตอบแทนที่นางไม่มีทางจะสามารถบรรลุถึงระดับพื้นฐานฝึกตนแปดแก่นแท้ได้อีกต่อไป!

เนื่องจากหอกสามเล่มที่แทงเข้ามาในร่าง ทำให้นางตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากจะกลับไปสู่ระดับแปดแก่นแท้ได้อีก แต่เวทช่วยชีวิตที่เพิ่งจะใช้ออกมานี้ ก็ทำให้พื้นฐานเต๋าของนางต้องแตกร้าวไป จนหมดหนทางที่จะอยู่ในระดับแปดแก่นแท้ได้อีกต่อไป!

เวลาเดียวกันนั้นโลหิตก็พ่นกระจายออกมาจากปากของผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ ซึ่งร่างกายในตอนนี้ถูกทำลายลงไปครึ่งหนึ่งหลังจากที่ลูกธนูดอกที่สองยิงเข้ามา แต่มันก็เริ่มฟื้นฟูร่างกลับคืนมาได้อย่างรวดเร็ว และช่วงเวลานั้นแรงดึงดูดอันทรงพลังก็ปรากฏขึ้น ทำให้ร่างของกลุ่มคนนอกคอกที่อยู่ใกล้เคียงบริเวณนั้นต้องถูกฉีกกระชากออกเป็นชิ้นๆ ในชั่วพริบตามันก็ดูดซับกลุ่มคนเหล่านั้นเข้าไป และกลับเข้าไปสู่ระดับพลังขึ้นสูงสุดเหมือนเดิม

“เจ้าบรรลุถึงขีดจำกัดในการใช้ธนูนั้นแล้ว วันนี้ข้าจะไม่สังหารเจ้าไป แต่พวกเราก็อยู่กันคนละฝ่าย โปรดยกโทษให้ข้าด้วย” หลังจากนั้นผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ก็ถอนหายใจ และเริ่มเดินตรงไปยังเมิ่งฮ่าว

เส้นผมของผู้ยิ่งใหญ่สตรียุ่งเหยิงไปโดยสิ้นเชิง และเต็มไปด้วยความชั่วร้ายอย่างไร้ที่สิ้นสุด อีกครั้งที่นางฟาดฝ่ามือลงไปบนหน้าผากของตัวเอง พ่นโลหิตที่มีเศษชิ้นส่วนของอวัยวะภายในออกมา โลหิตเหล่านั้นกลายเป็นทะเลโลหิตที่แปดเปื้อนสกปรกอย่างรวดเร็ว และมีความแข็งแกร่งมากกว่าทะเลโลหิตอื่นๆ ก่อนหน้านี้

นางยังได้รวมผนึกบางอย่างและแก่นแท้ที่อ่อนแอของตนเองเข้าไปในทะเลโลหิตนั้นอีกด้วย ทำให้ระเบิดออกไปด้วยพลังของระดับแปดแก่นแท้อย่างน่าตกใจยิ่ง

นั่นเป็นสิ่งที่ตามปกติแล้วนางจะไม่กระทำเช่นนี้ ต่อให้สามสิบสามสวรรค์กำลังจะพ่ายแพ้ไปในสงครามนี้ก็ตามที นอกจากนั้นนางเป็นคนที่เห็นแก่ตัวอย่างยิ่ง ตราบเท่าที่ยังมีวิธีอื่นที่จะหลีกเลี่ยงสถานการณ์นี้ไปได้ นางก็ต้องทำ แต่ตอนนี้พื้นฐานเต๋าของตนเองถูกบดขยี้ไป ทำให้ไม่อาจจะบรรลุถึงระดับแปดแก่นแท้ได้อีกต่อไป แต่ความเกลียดชังของนางก็บรรลุถึงระดับที่แทบจะคลุ้มคลั่ง ดังนั้นจึงไม่ลังเลที่จะพ่นแก่นแท้ผนึกของตนเองออกไป เพื่อมีโอกาสที่จะปลดปล่อย…ความสามารถศักดิ์สิทธิ์แปดแก่นแท้ออกไป!

“แปดเปื้อนจิตใจ! สร้างมลทินให้กับพื้นฐานเต๋า! เปิ่นจุนขอเรียกร้องให้เวทพลังชีวิตของข้า ทำลายโลหิตของเจ้า และทำให้วิญญาณของเจ้าถูกทำลายล้างไปตราบชั่วนิรันดร์!” นางกัดฟันแน่น จ้องมองไปยังเมิ่งฮ่าวและกลุ่มคนตระกูลฟางที่อยู่รอบๆ บริเวณนั้น

“และไม่ใช่เพียงแค่เจ้าเท่านั้น แต่เป็นตระกูลของเจ้าทั้งหมด! เจ้าคิดว่าเปิ่นจุนไม่รู้ว่าจ่านเทียนจุนเจ่อบัดซบนั่นมีสายสัมพันธ์กับพวกเจ้าด้วยวิญญาณและโลหิต?!” นั่นคือหนึ่งในเหตุผลหลักที่นางเกลียดชังทั้งเมิ่งฮ่าวและตระกูลฟาง

แม้ในขณะที่คำพูดหลุดออกมาจากปากนาง ทะเลโลหิตที่แปดเปื้อนสกปรกก็พุ่งตรงมายังเมิ่งฮ่าวด้วยความรวดเร็ว จนไม่มีโอกาสที่จะหลบเลี่ยงได้ทัน!

เมิ่งฮ่าวรีบปลดปล่อยพลังการฝึกตนทั้งหมดออกไป แต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรกับทะเลโลหิตนั้นได้ สุดยอดสะพาน หรือแม้แต่เวทผนึกต่างก็ไม่อาจจะป้องกันไม่ให้มันไหลซึมเข้าไปในรูขุมขนทั่วทั้งร่างได้

เกิดเป็นความเจ็บปวดอย่างรุนแรงขึ้น จนเมิ่งฮ่าวต้องแผดร้องเป็นเสียงโหยหวนออกมา ดวงตาถลนเบิกโพลง และเส้นเลือดเขียวก็ปะทุขึ้นทั่วใบหน้า แต่ความสามารถศักดิ์สิทธิ์นี้ก็ถูกปลดปล่อยออกมาจากผู้ยิ่งใหญ่สตรีด้วยการจ่ายค่าตอบแทนไปสังเวยอย่างสูงลิ่ว จึงเป็นสิ่งที่เมิ่งฮ่าวไม่อาจจะต่อสู้ด้วยได้

โลหิตที่แปดเปื้อนสกปรกหายเข้าไปในร่างเมิ่งฮ่าว กระจายออกไปอยู่ทั่วทุกส่วนในร่างกาย ทันใดนั้นมันก็เริ่มขับโลหิตเดิมของเขาออกไป โจมตีไปยังหัวใจ และทำให้อวัยวะภายในทั้งหมดต้องแปดเปื้อน

เมิ่งฮ่าวอ่อนแอและได้รับบาดเจ็บอยู่แล้ว แต่ตอนนี้กำลังสั่นสะท้านอย่างรุนแรงมากขึ้น สติกำลังจะเลือนหายไป ราวกับว่าถ้าไร้พลังแห่งเจตจำนงที่แข็งแกร่งก็แทบไม่อาจจะยืนหยัดอยู่ได้ ภายในจิตใจกำลังแผดร้องและดิ้นรนต่อต้านผลกระทบเหล่านั้น

“สังหารพวกมันทั้งหมด!!” ผู้ยิ่งใหญ่สตรีกล่าวขึ้น จากนั้นก็กระอักโลหิตออกมาหนึ่งคำ และนั่งลงขัดสมาธิ ใช้สัมผัสศักดิ์สิทธิ์ของตนเองไปจัดการกับโลหิตที่แปดเปื้อนภายในร่างเมิ่งฮ่าว ด้วยความคิดว่าจะกำจัดเขาไปอย่างแท้จริง!

เห็นได้ชัดว่านางต้องการจะล้างแค้นความเกลียดชังที่มีต่อจ่านเทียนจุนเจ่อ ไปยังตระกูลฟางทั้งหมด ความเกลียดชังนั้น รวมเข้ากับการที่เมิ่งฮ่าวทำให้นางต้องได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัส จึงมีความคิดที่จะทำลายพื้นฐานเต๋าของเมิ่งฮ่าวไป

เสียงร้องตะโกนต่อสู้ดังก้องกระหึ่ม ขณะที่กองกำลังกลุ่มคนนอกคอกพุ่งตรงไปโจมตีอีกครั้ง

ผู้ฝึกตนศีรษะใหญ่ถอนหายใจอย่างเงียบๆ เลือกที่จะไม่ทำอะไร ยืนห่างออกไปที่ด้านข้าง เฝ้ามองดูเหตุการณ์ทั้งหมดที่กำลังเกิดขึ้นอยู่นี้ ลึกลงไปในแววตา ดูเหมือนว่ามันค่อนข้างจะสับสน ราวกับกำลังครุ่นคิดว่าควรจะต่อสู้อยู่ในสงครามนี้หรือไม่

ตรงด้านนอกของดาวหนานเทียน ใกล้กับขุนเขาที่เก้า ผู้ฝึกตนขุนเขาทะเลกำลังระเบิดตนเอง ตกตายไป และกำลังผลักดันให้สนามรบพุ่งถอยกลับไป ขณะที่กลุ่มคนนอกคอกนับไม่ถ้วนยังคงเข้ามาเต็มอยู่ในขุนเขาที่เก้าอย่างต่อเนื่อง

ขุนเขาที่เก้ากำลังสั่นไหวไปมา เต็มไปด้วยรอยแตกร้าวและรอยแยกที่มองไม่เห็นนับไม่ถ้วน ทำให้แทบจะถูกทำลายลงไปได้โดยสิ้นเชิง

อาณาจักรขุนเขาทะเลเหลืออยู่เพียงแค่ขุนเขาที่กำลังจะพังทลายลงไป และดวงดาวที่แตกร้าวเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น

เมิ่งฮ่าวกำลังสั่นสะท้านอยู่ในท้องฟ้าเหนือดาวหนานเทียน ขณะที่ผู้ยิ่งใหญ่สตรีกำลังพยายามกัดกร่อนทำลายเต๋าของเขาไปด้วยตนเอง เมื่อโลหิตของเมิ่งฮ่าวถูกเผาไหม้ไป สติก็เริ่มเลือนลางลงอย่างต่อเนื่อง แม้แต่พื้นฐานฝึกตนก็กำลังตกลงไป

เมิ่งฮ่าวหัวเราะอย่างขมขื่น กระอักโลหิตสีดำที่เต็มไปด้วยเศษชิ้นเนื้อนับไม่ถ้วนออกมา

กัดฟันแน่นมองไปรอบๆ ยังสหายร่วมอาณาจักร จากนั้นก็โคจรหมุนวนพื้นฐานฝึกตนที่ยังหลงเหลืออยู่ และกล่าวกับคนทั้งหมดว่า “อยู่ด้านหลังข้า!”

ด้วยเช่นนั้นเมิ่งฮ่าวก็ก้าวเดินตรงไปต่อสู้กับกลุ่มคนนอกคอก!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!