บทที่ 1101 ทุ่มกำลังครั้งสุดท้าย
มังกรวารีล้างโลกาถูกครึ่งเทพหลงหวงทำรายจนบาดเจ็บสาหัสในตอนนั้น น่าจะได้รับโอกาสอะไรจากในร่างเทพ ถึงสามารถฟื้นฟูจนกลับคืนสู่ขอบเขตพลังขั้นราชาเซียนได้ แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น พลังของมังกรวารีทมิฬก็อยู่เหนือผู้แข็งแกร่งขั้นราชาเซียนจำนวนมากแล้ว
ในตอนนี้ มังกรวารีล้างโลกาเดินทางบนทางเดินแสงด้วยความเร็วสูงสุด ความเร็วนี้ขนาดจ้าวเฟิงยังตื่นตะลึงยิ่ง แต่ว่าผู้แข็งแกร่งคนอื่นในที่แห่งนั้นมองเห็นจ้าวเฟิงแล้วกลับตกใจเสียยิ่งกว่า
คนที่สามารถหลุดออกจากกลุ่มคนจำนวนมหาศาลได้ หากไม่ใช่ผู้แข็งแกร่งที่มีชื่อเสียงโด่งดังมานานในแผ่นดินใหญ่ อย่างน้อยๆ ก็อยู่ในขั้นราชาเซียน
กระทั่งครึ่งเทพหลงหวงที่แข็งแกร่งที่สุดในสองราชวงศ์ ยังมองจ้าวเฟิงอย่างตื่นตะลึงน้อยๆ
“เจ้าเด็กคนนี้ ดูไปแล้วตัวเลือกของข้าก็ไม่เลวนัก!”
ครึ่งเทพชื่อเสี่ยแห่งตระกูลเถี่ยผู้อยู่ไกลยิ่งกว่าจ้าวเฟิงเอ่ยพลางยิ้มน้อยๆ
ความเร็วในการเดินทางของจ้าวเฟิงในตอนนี้ แสดงให้เห็นถึงพลังและศักยภาพของเขา
“เจ้ามนุษย์นี่ไม่ธรรมดาเลย!”
ฟากพวกต่างเผ่าพันธุ์ ครึ่งเทพแห่งลัทธิเมืองมืดผู้หนึ่งมองจ้าวเฟิงอย่างครุ่นคิดลึกซึ้ง
ศัตรูของราชวงศ์มีชนรุ่นหลังที่มีศักยภาพเช่นนี้ เขาเองก็ย่อมไม่รังเกียจที่จะสังหารอีกฝ่ายหากมีโอกาส
“บ้าเอ๊ย เจ้าเด็กนี่!”
ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งกัดฟันกรอดอยู่เบื้องหลังจ้าวเฟิง แต่กลับทำอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น
ชั้นวิญญาณเป็นจุดอ่อนของครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง ถ้าหากเขายังทู่ซี้จะไล่ตามจ้าวเฟิงให้ทัน เช่นนั้นก็เป็นไปได้มากว่าจะได้รับผลกระทบจากเขตมายารอบกาย ทันทีที่กลุ่มแสงพลังเทพกลางอากาศกระทบโดนร่างก็จบสิ้นเมื่อนั้น
แน่นอนว่าคนที่หลุดพ้นออกมาได้ไม่ได้มีเพียงจ้าวเฟิงเพียงคนเดียวเท่านั้น
อีกฟาก พลังที่น่ากลัวของหนานกงเซิ่งก็ทำให้ผู้แข็งแกร่งมากมายหวาดกลัวอย่างยิ่ง
ในตอนนี้ หนานกงเซิ่งไปถึงระดับพลังขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นสูง สำนึกรู้ก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย จึงสามารถจัดการพลังเทพปีศาจได้มากขึ้น กำลังรบก็แข็งแกร่งเกินจะเปรียบ ใช้วิธีบ้าคลั่งอันธพาลพุ่งทะลวงไป
ความเร็วของคุนอวิ๋นก็ไม่ด้อยไปกว่าครึ่งเทพทั่วไปเช่นกัน
ในช่วงชีวิตก่อนคุนอวิ๋นเป็นยอดฝีมือที่ฝึกร่างกาย ด้านวิญญาณเป็นจุดอ่อนของเขา ด้วยเหตุนี้ตั้งแต่ถือกำเนิดใหม่ คุนอวิ๋นจึงใส่ใจพัฒนาและเสริมความมั่นคงให้ดวงวิญญาณเป็นพิเศษ
แล้วยังมีราชาเซียนสังสารวัฏ ราชาเซียนโยวมู่ และราชาเซียนต่างเผ่าพันธุ์หลายคนที่โดดเด่นอย่างยิ่ง
จ้าวเฟิงสามารถผ่านการทดสอบของเขตมายามาได้อย่างรวดเร็ว
“ผ่านทางเดินแสงทั้งหมดมาเกินครึ่งแล้ว!”
จ้าวเฟิงสีหน้าเคร่งขรึม มองไปเบื้องหน้า
ผู้แข็งแกร่งคนอื่นจากสองราชวงศ์สีหน้าต่างก็ตึงเครียด และค่อยๆ ผ่อนความเร็วลง
“การทดสอบที่แท้จริงเพิ่งจะเริ่มขึ้นตอนนี้!”
ผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าพันธุ์ผู้หนึ่งเอ่ยอย่างจริงจัง
ในพื้นที่ก่อนนี้ กลุ่มแสงพลังเทพขนาดใหญ่ร่วงลงมาจากกลางอากาศ กลิ่นอายชัดเจน รวดเร็วอย่างมาก และกระจัดกระจายไปทั่ว ทำให้หลบหลีกค่อนข้างง่ายดาย
ทว่าในตอนนี้ เบื้องหน้าทุกคน
กลุ่มแสงพลังเทพที่ร่วงลงมาไม่หยุดมีขนาดประมาณกำปั้น ความเร็วเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว ครอบคลุมพื้นที่แน่นถี่ ทำให้ความยากเพิ่มขึ้นมากกว่าสองเท่าตัว
ถ้าหากจะพูดว่า ระยะทางที่ผ่านมาคือการคัดเลือกยอดฝีมือที่แข็งแกร่งที่สุดในขอบเขตพลังขั้นเดียวกัน ระยะทางช่วงหลังก็แทบเป็นการคัดเลือกผู้แข็งแกร่งที่ต่อสู้เป็นเลิศ หนำซ้ำในตอนที่ทุกคนเริ่มเคลื่อนไหว บนทางเดินแสงยังมียังการทดสอบอื่นๆ มาถึง
เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ เปรี๊ยะ!
ด้านหน้าจ้าวเฟิงปรากฏกระบี่แสงสีทองแน่นขนัดตรงดิ่งมาหา
แต่ละเล่มของกระบี่แสงทองแฝงไปด้วยเสวียนอ้าวธาตุทองบริสุทธิ์ สามารถสังหารเซียนขอบเขตเทวาเร้นลับชั้นต้นคนใดก็ตามในพริบตาเดียว
พรึ่บ แซ่ด แซ่ด!
จ้าวเฟิงโคจรกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ ตั้งรับกระบี่แสงทองนั้นอย่างซึ่งหน้า
พรึ่บ! กระบี่แสงทองหลายสิบเล่มปะทะร่างจ้าวเฟิงก็แตกสลายเป็นผุยผงไป
“โชคดีที่ก่อนเข้ามาในนี้ กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขั้นที่หกได้ทะลวงถึงระดับสูงแล้ว ยามนี้การโจมตีของเทวาเร้นลับชั้นสูงทั่วไปก็ยังยากจะสร้างอาการบาดเจ็บให้ข้า!”
จ้าวเฟิงเชื่อมั่นอย่างยิ่ง
ต่อให้กระบี่แสงเบื้องหน้าเกิดขึ้นจากการเกาะกลุ่มของเสวียนแห่งอ้าวทอง ทว่ายังยากจะทะลวงผ่านการป้องกันของจ้าวเฟิงไปได้ และสติของเขาจดจ่ออยู่กับกลุ่มแสงพลังเทพที่ร่วงหล่นลงมาเป็นหลัก
อีกด้าน ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งที่ผ่านการทดสอบด่านเขตมายามาแล้วมองสถานการณ์ของคนอื่นรอบกาย สีหน้าหนักอึ้งมากขึ้น
“จะต้องนำหน้าเจ้าเด็กนั่นให้ได้!”
สีหน้าครึ่งเทพจวี้เหมิ่งชั่วร้ายเจ้าเล่ห์ พุ่งทะยานออกไปทันที
เบื้องหน้าของเขาก็มีกระบี่แสงทองนับสิบปรากฏขึ้น ทุกแสงกระบี่สามารถสังหารครึ่งเซียนทั่วไปได้ในพริบตาเช่นกัน
ถึงแม้ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งจะชำนาญการป้องกัน แต่ก็ไม่กล้าต้านทานการโจมตีของกระบี่แสง ทำได้เพียงหลบหลีกไปมาเท่านั้น
ส่วนบนทางเดินแสงอื่นๆ ยอดฝีมือจำนวนมากสำแดงอิทธิฤทธิ์วิชาแต่ละด้านเพื่อรับมืออันตรายตรงหน้า
การทดสอบบนทางเดินแสงมุ่งที่ด้านการป้องกัน ปฏิกิริยาตอบสนอง พลัง ความเร็ว และธาตุทั้งห้า ด้วยเหตุนี้สำหรับทุกคน การทดสอบเหล่านี้ค่อนข้างจะยุติธรรมทีเดียว
ถึงผู้แข็งแกร่งบางคนต้องทดสอบในด้านที่ไม่ชำนาญ ก็ต้องใช้เวลาไปส่วนหนึ่ง แต่ถัดมาเมื่อเป็นด้านที่ชำนาญก็เพิ่มความเร็วในการเดินทางขึ้นได้
สำหรับครึ่งเทพแล้ว ความเร็วของจ้าวเฟิงยังเชื่องช้าไปเล็กน้อย แต่แทบจะไม่มีการทดสอบอะไรที่ทำให้จ้าวเฟิงเชื่องช้าลงไปได้
ต่อให้กลุ่มแสงพลังเทพในอากาศจะหนาแน่นรวดเร็วยิ่งนัก ทั้งยังกระจายปกคลุมไปทั่ว จ้าวเฟิงก็สามารถอาศัยดวงตาเทพเจ้าหลบหลีกได้อย่างสบายๆ
“น่าชังนัก ไล่ตามไม่ทันแล้ว!”
ระยะห่างระหว่างครึ่งเทพจวี้เหมิ่งและจ้าวเฟิงยิ่งไกลออกไปทุกที เห็นเพียงเงาเบื้องหลังของจ้าวเฟิงเท่านั้น
ในวินาทีหนึ่ง ความเร็วของจ้าวเฟิงก็ไล่ตามครึ่งเทพกูซีแห่งวังลอยฟ้าทัน
“สายเลือดดวงตาของเจ้าไม่เลวเลยจริงๆ!”
ครึ่งเทพกูซีมองจ้าวเฟิงและเอ่ยอย่างชื่นชม
“ผู้อาวุโสชมเกินไปแล้ว!”
หลังจากเข้าไปในทางเดินแสงแล้วระยะหนึ่ง จ้าวเฟิงกระตุ้นพลังดวงตาซ้ายอยู่ตลอด และเป็นเพราะเหตุนี้เองเขาจึงสามารถหลบหลีกกลุ่มแสงพลังเทพทั้งหมดที่ร่วงลงมา และยังไล่ตามฝีเท้าของครึ่งเทพกูซีทัน
เมื่อเดินทางไประยะหนึ่ง จ้าวเฟิงก็หยุดลง
กระบี่แสงที่พุ่งทะยานมาด้านหน้า ความเร็วพลันช้าลงไป
“ฟื้นฟูสิ่งที่ขาดหายไปก่อนแล้วกัน!”
จ้าวเฟิงนั่งขัดสมาธิบนพื้นทางเดินแสง
เขากินยามากมายที่ช่วยฟื้นฟูไอสวรรค์และวิญญาณที่ใช้หมดไป
“ข้ายังเตรียมไม่ครบถ้วนพอ น่าจะคัดลอกวารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนเอาไว้หลายส่วน!”
จ้าวเฟิงส่ายศีรษะเล็กน้อย
วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน นอกเหนือจากว่าจะเพิ่มอัตราส่วนการทะลวงขั้นเซียน ยังสามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บในระดับขั้นชีวิตได้อย่างรวดเร็ว ฟื้นฟูไอสวรรค์ที่สิ้นเปลืองไป และยังส่งผลหล่อเลี้ยงวิญญาณส่วนหนึ่งด้วย
ตอนนี้ ในมือจ้าวเฟิงเหลือเพียงวารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนส่วนหนึ่งเท่านั้น ทันทีที่ดื่มเข้าไป ก็จะคัดลอกเอาไว้ใช้ในภายหน้าไม่ได้อีก
ตลอดทางที่ผ่านมา จ้าวเฟิงสิ้นเปลืองพลังไปมา ยามนี้ทางเดินแสงด้านล่างยังคงดูดซึมพลังศักดิ์สิทธิ์เทวาเร้นลับในร่างจ้าวเฟิง
ถ้าหากจ้าวเฟิงมีวารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนจำนวนมาก ก็จะใช้ได้เลยทันที และฟื้นฟูไอสวรรค์ที่ใช้ไปอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่พักฟื้นช่วงระยะหนึ่ง จ้าวเฟิงก็เตรียมออกเดินทาง
“จ้าวเฟิง รอให้ถึงปลายทางก่อน เมื่อนั้นจะเป็นวันตายของเจ้า!”
ด้านข้างมีเสียงของครึ่งเทพจวี้เหมิ่งดังขึ้น
เพราะจ้าวเฟิงพักผ่อนไปช่วงเวลาหนึ่ง ครึ่งเทพจวี้เหมิ่งจึงไล่ตามจ้าวเฟิงทันอีกครั้ง
“นั่นคือ?”
จ้าวเฟิงทอดสายตาไปยังสถานที่ไกลลิบ มองข้ามครึ่งเทพจวี้เหมิ่งไป
เห็นแค่บนทางเดินแสงสายหนึ่ง ราชาเซียนสังสารวัฏมองข้ามกระบี่แสงทองที่ตรงดิ่งมาด้านหน้า ปล่อยให้กระบี่แสงผ่านร่างไป ส่วนตัวเขารีบร้อนทะลวงผ่านไปบนทางเดินแสงด้วยความเร็วน่าอัศจรรย์
สำหรับคนที่รู้เรื่องเกี่ยวกับราชาเซียนสังสารวัฏเพียงเล็กน้อย จะรู้ว่าเขาครอบครองกายสังสารวัฏสงสาร การทดสอบประเภทนี้ไม่มีผลอะไรกับเขา
แต่ทว่า เมื่อต้องเผชิญหน้ากับกลุ่มแสงพลังเทพด้านบน ราชาเซียนสังสารวัฏจึงอาศัยพลังในการมองทะลุปรุโปร่งของเขาหลบหลีก
อย่างไรเสีย ตอนที่พลังยิ่งใหญ่ไปจนถึงระดับหนึ่ง กระทั่งเสวียนอ้าวสังสารวัฏก็ยังไม่อาจทำลายได้
ในเวลาเดียวกัน จ้าวเฟิงยังค้นพบว่าความเร็วในการเดินทางของมังกรวารีล้างโลกาเทียบเท่าได้กับครึ่งเทพชั้นยอดของสองราชวงศ์
มังกรวารีล้างโลกาเหมือนจะสามารถคาดเดาตำแหน่งที่กลุ่มแสงพลังเทพจะตกกระทบลงมา เขาจึงหลบหลีกอันตรายทุกอย่างได้อย่างสบายๆ
“เจ้าปลาหนีชิวดำ ช่างไม่กลัวตายเลยจริงๆ!”
ครึ่งเทพหลงหวงข้างกายมังกรวารีล้างโลกาเอ่ยเสียงเรียบ
“สังหารข้าไม่ได้ถึงสองครั้งสองครา เจ้ายังกล้าพูดเช่นนี้อีกหรือ?”
มังกรวารีล้างโลกายิ้มเยาะเย้ย
“หึ รอจนถึงจุดหมายปลายทางก่อน ข้าจะรอดูว่าเจ้าจะหนีไปได้อย่างไร!”
ครึ่งเทพหลงหวงแค่นเสียงเย็น
ในตอนนี้ครึ่งเทพหลงหวงไม่อาจจะลงมือกับมังกรวารีล้างโลกา แต่ทันที่ไปถึงจุดหมายปลางทาง ผู้แข็งแกร่งในราชวงศ์ทั้งสองย่อมไม่ปล่อยเขาไปแน่
“รอดูไปก็แล้วกัน!” มังกรวารีล้างโลกาเอ่ยอย่างดูแคลน
ได้รับความช่วยเหลือจากเนตรทำนาย บวกกับพลังของตัวเขาเอง มังกรวารีล้างโลกาเชื่อมั่นว่าในช่วงที่สองราชวงศ์อลหม่าน เขาจะได้โอกาสที่ดีเยี่ยมมาครองได้อย่างราบรื่น
……
จ้าวเฟิงมองบรรยากาศรอบๆ
“ไม่เห็นหยูเฟย!”
จ้าวเฟิงมองไม่เห็นจ้าวหยูเฟย แปลได้ว่าความเร็วของนางไม่มากพอ หรืออาจเปลืองเวลาส่วนหนึ่งไปกับการทดสอบบางด้าน
จ้าวเฟิงเชื่อว่า ด้วยความสามารถของจ้าวหยูเฟย สิ้นเปลืองเวลาส่วนหนึ่งเพื่อเดินผ่านทางเดินแสงนี้ก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เปรี๊ยะ!
จ้าวเฟิงสยายปีกแสงอัสนีสีชาดศักดิ์สิทธิ์ที่หลัง โบยบินไปบนทางเดินแสงอย่างรวดเร็วอีกครั้ง และพึ่งพาวิชาปีกอัสนีโบยบินกับดวงตาเทพเจ้าเพื่อหลบหลีกอันตรายระหว่างทาง
ไม่นาน จ้าวเฟิงก็ทิ้งระยะห่างกับครึ่งเทพจวี้เหมิ่งอีกครั้ง
จากการที่ผู้แข็งแกร่งมากมายเข้าใกล้กลุ่มแสงสว่างตรงใจกลางไม่หยุด
ระยะห่างในระหว่างทางเดินแสงสั้นลงไปทุกที จ้าวเฟิงและครึ่งเทพกูซีห่างกันสิบกว่าจั้งเท่านั้น
ดีที่พื้นที่นอกทางเดินแสงมีพลังที่ปิดกั้นทุกอย่างเอาไว้ ระลอกพลังที่ครึ่งเทพกูซีสาดซัดออกมาจึงไม่อาจส่งผลใดต่อจ้าวเฟิงได้เลย
“อยู่ห่างจากปลายทางแค่เพียงพันจั้งเท่านั้น!”
ดวงตาของจ้าวเฟิงจับจ้องไปที่กลุ่มแสงขนาดยักษ์ด้านหน้า
จ้าวเฟิงมองเห็นสิ่งปลูกสร้างในกลุ่มแสงที่เปล่งประกายได้อย่างเลือนราง แต่ว่ายิ่งเข้าใกล้จุดหมาย ความยากในแต่ละด่านทดสอบก็ยิ่งมากขึ้นตามไปด้วย
ในเวลาหนึ่ง จ้าวเฟิงมองเห็นครึ่งเทพต่างเผ่าพันธุ์ผู้หนึ่งหนีออกจากพื้นที่ของทางเดินแสงก่อนที่กลุ่มแสงพลังเทพจะกระทบบนร่าง แล้วจึงออกจากมิติแห่งนี้ไป
“จ้าวเฟิง!” หนานกงเซิ่งมองไปที่จ้าวเฟิงที่กำลังโบยบินอยู่ในทางเดินแสงอย่างว่องไว ใจเต้นระรัว
เดิมเขาคิดว่าจะต้องรีบไปถึงจุดหมายก่อนจ้าวเฟิงให้ได้ แต่ยามนี้น่าจะเป็นไปไม่ได้แล้ว
จ้าวเฟิงในตอนนี้กับผู้แข็งแกร่งชั้นยอดสองราชวงศ์ เป็นผู้ที่เก่งกาจที่สุดในการทดสอบของทางเดินแสง
คนเหล่านี้มีครึ่งเทพหลงหวง ครึ่งเทพโยวหลง ครึ่งเทพกูซี ครึ่งเทพพั่วเมี่ย มังกรวารีล้างโลกา ราชาเซียนสังสารวัฏ แล้วก็เป็นจ้าวเฟิง
กระทั่งครึ่งเทพโยวไห่แห่งวังเก้านิรย ครึ่งเทพชื่อเสี่ย ครึ่งเทพจวี้เหมิ่ง ครึ่งเทพอวี้คงแห่งหอกระบี่ฟ้า และครึ่งเทพที่แข็งแกร่งในขั้วอำนาจส่วนหนึ่งก็ไล่ตามคนพวกนั้นมาติดๆ
การดำรงอยู่ของจ้าวเฟิงแปลกประหลาดอย่างไม่ต้องสงสัย จึงเป็นที่สนใจของยอดฝีมือไม่ถ้วน
ส่วนผู้แข็งแกร่งทั้งหมดฝั่งราชวงศ์จันทราทมิฬต่างอยากสังหารจ้าวเฟิงทั้งสิ้น
“ใกล้ถึงแล้ว!”
แววตาจ้าวเฟิงเปล่งประกาย เขาเองก็สัมผัสได้ถึงจิตสังหารจากผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าพันธุ์เช่นกัน
เพราะเขาโดดเด่นเกินไป ทำให้แทบจะถูกจับจ้องจากผู้แข็งแกร่งต่างเผ่าพันธุ์ แต่ทว่านี่ก็เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้
โครม! สายฟ้าสีแดงนับไม่ถ้วนตรงดิ่งมาหาจ้าวเฟิงบนทางเดินแสง
ในสายฟ้าสีแดงกลุ่มนี้มีพลังเผาผลาญธาตุไฟ กระทั่งยังแฝงด้วยเสวียนอ้าวทำลายล้างด้วย
นี่ก็คือการทดสอบสุดท้ายบนทางเดินแสง
ฟู่ เปรี๊ยะ!
เผชิญหน้ากับสายฟ้าพิเศษที่แฝงเสวียนอ้าวทำลายล้าง จ้าวเฟิงยังไม่กล้ารับอย่างจัง แต่ใช้วิชาปีกอัสนีโบยบินหลบหลีก ในเวลาเดียวกันยังเตรียมพร้อมสำหรับการทุ่มกำลังครั้งสุดท้ายด้วย