บทที่ 1564 อาวุธบรรพชนที่สมบูรณ์
นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าสำแดงวิชาเนตรเทพรวมเป็นหนึ่ง หลอมรวมสร้าง ‘เนตรเทพวิถีฟ้า’ ดวงหนึ่งที่ดูแล้วแข็งแกร่งยิ่งกว่าออกมา ถึงแม้ว่าจะแกร่งกว่า แต่ก็ไม่มั่นคงด้วย อย่างไรเสียนายเหนือหัวทั้งห้าเพียงแค่ใช้เคล็ดวิชาสร้างพลังกลุ่มนี้ แต่เจ้าสวรรค์หลอมรวมสร้างออกมา คงอยู่ได้นิรันดร์
ในรัศมีหลายล้านลี้ คนทั้งหมดถูกพลังที่น่ากลัวกลุ่มนี้เขย่าขวัญ
ฟ้าดินถล่มทลาย จันทร์และอาทิตย์พลิกกลับ ฟ้าดินรอบบริเวณเละเทะไม่เป็นรูปร่างแล้ว
“พลังแข็งแกร่งกว่าเจ้าสวรรค์อีกหรือ?” ใจผู้คุมกฎจั่วสั่นสะท้านเล็กน้อย
ภายในเรือรบสีเงิน หลิ่วฉินซินและอวี่เทียนอูต่างจดจ้องขอบฟ้าไกลลิบ
“นี่คือพลังบางส่วนของต้นกำเนิดดวงตาวิถีฟ้า คิดว่าน่าจะรับมือกับ ‘อวี่เทียนซู’ ได้แน่!” อวี่เทียนอูพึมพำกับตนเอง
เนตรเทพทำนายของหลิ่วฉินซินสาดพลังแห่งโชคชะตาที่ทรงพลังยิ่งกว่าออกมาภายใต้กลิ่นอายของเนตรเทพวิถีฟ้าทั้งสองกลุ่ม กลิ่นอายในเนตรเทพทำนายแข็งแกร่งขึ้นทุกที เห็นได้ชัดว่าเนตรเทพวิถีฟ้าส่งผลกระตุ้นหลิ่วฉินซินเช่นเดียวกัน
แต่ถึงจะเป็นเช่นนั้น การถือกำเนิดเนตรเทพวิถีฟ้าสองดวงก็ทำให้จักรวาลสั่นสะเทือน วิถีธรรมชาติโกลาหลวุ่นวาย เนตรเทพทำนายของนางยากจะคาดเดาอะไรได้แล้ว
กลางอากาศ
“พลังแห่งวิถีฟ้า!”
เจ้าสวรรค์เผยอาการลิงโลดสุดขีด เนตรเทพวิถีฟ้าตรงหว่างคิ้วเต้นกระตุก
พลังที่นายเหนือหัวทั้งห้าสร้างออกมาทำให้เขารู้สึกคุ้นเคยอย่างยิ่ง ยิ่งอยากจะได้มาครอบครองแทบไม่ไหว
“กลืนกิน!” เจ้าสวรรค์กระตุ้นเนตรเทพวิถีฟ้าของตนเอง ให้ดูดซึมพลังเนตรเทพวิถีฟ้านิรนามที่แข็งแกร่งกลุ่มนั้น
ไหนจะเป็นการสำแดงเคล็ดวิชาครั้งแรก หนำซ้ำพลังกลุ่มนี้ยังทรงพลังจนเกินไป จึงทำให้นายเหนือหัวทั้งห้าไม่อาจควบคุมได้โดยง่าย เจ้าสวรรค์ฉวยโอกาสนี้ดูดซึมพลังของเนตรเทพวิถีฟ้า มาเพิ่มความแข็งแกร่งให้ตนเอง
วู้ม ครืน ครืน~
พลังวิถีฟ้าสองสายไม่ได้ปะทะกัน เพียงแค่ต่อสู้กันอย่างไร้รูปเท่านั้น ฟ้าดินรอบบริเวณมืดสลัวลง
สนามรบด้านล่าง สมาชิกทั้งหมดต่างได้รับผลกระทบจากพลังที่ไร้เทียมทาน หวาดกลัวตัวสั่นจากก้นบึ้งหัวใจ ผู้แข็งแกร่งระดับต่ำถึงขนาดที่ทรุดลงลงภายใต้พลังกลุ่มนี้
“ไป!” ราชาเทพหวาเฟิงถ่ายทอดคำสั่งไปทันที
ในยามนี้ การต่อสู้ของบรรดานายเหนือหัวน่ากลัวเกินไปแล้ว หากเข้าไปใกล้เกิน จะโดนสังหารโดยไม่รู้ตัวจากระลอกพลังตอนไหนก็ไม่รู้เลย
“ถอย!” อีกฟากหนึ่ง ผู้คุมกฎจั่วนำกองทัพทั้งหมด สั่งให้ทุกคนออกห่างจากสนามรบของระดับนายเหนือหัว
ตอนที่คนทั้งสนามรบหลบหนีไปไกล ท่ามกลางความวุ่นวาย เหลือเพียงจ้าวเฟิงแค่คนเดียว
จ้าวเฟิงยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ดวงตาซ้ายแผ่ประกายสว่างพร่างพรายยิ่งขึ้น
วู้ม วู้ม~ ดวงตาซ้ายที่หมุนวนเปล่งวงแสงมายาเป็นชั้นๆ ออกมา ทำให้อากาศในบริเวณใกล้เคียงพังทลายหายไปทันใดดุจหมอกควัน
ขณะนี้ พลังที่สาดซัดออกมาจากดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง ต่อให้เป็นราชาเทพหวาเฟิงและผู้คุมกฎจั่วก็ตื่นกลัวตกใจ ไม่กล้าผลีผลามเข้มใกล้
“พี่เฟิง!” จ้าวหยูเฟยร้องเรียกอย่างอดไม่ได้
ตอนนี้สนามรบออกห่างไปแล้ว แต่จ้าวเฟิงยังยืนนิ่งตรงนั้นเหมือนไม่ได้ยิน
“ไม่ต้องเป็นห่วงเขา เนตรเทพเจ้าดวงที่เก้าของจ้าวเฟิงใกล้จะปรากฏจริงๆ แล้ว ถึงตอนนั้นเกรงว่าคงเข้าร่วมการต่อสู้ของบรรดานายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าได้!”
สีหน้าราชาเทพหวาเฟิงแปลกใจ เจือด้วยความปีติยินดี
ในอากาศที่อยู่ไกลออกไป
เนตรเทพวิถีฟ้าทั้งสองประจันหน้ากันจากไกลๆ ทุกพื้นที่ในอากาศพังทลาย จนเหลือเพียงแค่ความว่างเปล่า
ในอากาศผืนนี้ยังคงเต็มไปด้วยพลังที่น่ากลัว จอมเทพทั่วไปเข้าไปใกล้ต้องตายทั้งหมด
“ทัณฑ์สวรรค์ เจ้ามาควบคุมที เดี๋ยวพวกเราช่วยเจ้าแล้วกัน!” นายเหนือหัวเนตรมิติตะโกนทันใด
ถ้าหากคนทั้งห้ายังคิดจะควบคุมพลังกลุ่มนั้น รังแต่จะทำให้วุ่นวายกว่าเดิม ในเมื่อเป็นเช่นนั้นก็ให้คนผู้หนึ่งควบคุม ส่วนคนที่เหลือให้ความช่วยเหลือ
จะปล่อยให้เจ้าสวรรค์ดูดกลืนพลังวิถีฟ้าต่อไปเรื่อยๆ แบบนี้ไม่ได้ พวกเขาไม่ได้มาเพื่อช่วยเหลือเจ้าสวรรค์ แต่มาเพื่อสังหารเจ้าสวรรค์
“ตกลง!” คนอื่นที่เหลือต่างเห็นด้วย
หลังจากที่คลำทางไปครู่หนึ่ง นายเหนือหัวทั้งห้าควบคุมเนตรเทพวิถีฟ้าได้อย่างราบรื่น และความเร็วที่เจ้าสวรรค์กลืนกินพลังวิถีฟ้าก็เชื่องช้าลงทันที
“เจ้าสวรรค์ วันตายของเจ้ามาถึงแล้ว!” เนตรเทพทัณฑ์สวรรค์พลันตะโกน
เหนือศีรษะของทุกคน ดวงตาที่ปั่นป่วนภายในกลุ่มหมอกแสงขมุกขมัวเพ่งมองไป เหมือนกำลังประจันสายตากับเนตรเทพวิถีฟ้าของเจ้าสวรรค์
“จะชนะหรือแพ้ก็ยังไม่แน่!” สีหน้าเจ้าสวรรค์เคร่งเครียด ฉายแววบ้าคลั่ง
เมื่อครู่ดูดซึมพลังวิถีฟ้าไปไม่น้อย เขาก็สามารถสัมผัสได้ว่าเนตรเทพวิถีฟ้าของตนเองแข็งแกร่งกว่าที่ผ่านมา
ถึงแม้เนตรเทพวิถีฟ้าที่นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าสร้างขึ้นจะทำให้เขาหวาดกลัวอยู่บ้าง แต่เจ้าสวรรค์เชื่อมั่นว่าความสามารถในการใช้พลังวิถีฟ้าของตนเองอยู่เหนือฝ่ายตรงข้ามมาก
“สังหาร!” นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์แค่นเสียงต่ำ
ดวงตาปั่นป่วนเลือนรางปลดปล่อยพลังที่เขย่าขวัญออกมา พลังเนตรเทพมรณะ ทัณฑ์สวรรค์ มิติ และหมื่นปรากฏการณ์ในฟ้าดินปะทุขึ้นทันที
“เหอะ!” เจ้าสวรรค์แค่นเสียงเย็น ก่อนจะโคจรเนตรเทพวิถีฟ้า
โครม ตูม!
แสงแห่งการทำลายล้างที่บิดเบี้ยวสายหนึ่งพุ่งออกมา ภายในนั้นแฝงด้วยพลังแข็งแกร่งที่ทำลายล้างทุกหลักการได้ พลังที่นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าส่งออกมาถูกทำลายสลายไปอย่างรวดเร็ว
พลังที่ทรงอานุภาพกลุ่มนี้ ตอนที่เจ้าสวรรค์เพิ่งจะหลอมรวมเนตรเทพวิถีฟ้า ก็ต้องใช้เวลาพักหนึ่งถึงจะพบ เขาเชื่อว่านายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าจะต้องไม่เข้าใจวิธีใช้แน่ และเป็นไปตามคาด นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าทำได้เพียงกระตุ้นเนตรเทพวิถีฟ้า ปลดปล่อยการโจมตีเป็นชั้นๆ เพื่อขวางพลังของเจ้าสวรรค์ไว้
โครม ตู้ม! เนตรเทพวิถีฟ้าที่นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้ารวมออกมา เมื่อโดนโจมตีอย่างหนักก็สั่นไหว พลังดั้งเดิมวิถีฟ้าสาดซัดออกมา มิติจักรวาลสั่นสะเทือนเบาๆ
“กลืนกิน!” เจ้าสวรรค์โคจรเนตรเทพวิถีฟ้า ดูดซึมพลังวิถีฟ้ากลุ่มนี้มา
“เจ้านี่…” นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้ามีสีหน้าไม่สู้ดีนัก
ถึงแม้พวกเขาจะสร้างพลังวิถีฟ้าออกมา แต่เพราะไม่คุ้นเคย จึงถูกเจ้าสวรรค์เอาเปรียบ แต่เมื่อเทียบความคุ้นเคยกับเนตรเทพวิถีฟ้าแล้ว สัดส่วนของห้าเนตรเทพเจ้าเหมือนจะเร็วกว่าเจ้าสวรรค์มาก
นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าเริ่มควบคุมเนตรเทพวิถีฟ้าได้ทีละน้อย
“สมแล้วที่เป็นบรรดาเนตรเทพเจ้า ควบคุมพลังกลุ่มนี้ได้เร็วมาก!” เจ้าสวรรค์ระมัดระวังขึ้นเล็กน้อย
“ตายซะ!” นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้ากระตุ้นเนตรเทพวิถีฟ้า ดวงตาที่ขมุกขมัวเป็นประกายแวววับ สาดคลื่นแสงสีเทาอ่อนกวาดออกไปด้านหน้า
“ฝ่ามือเทพบรรพกาล!”
เจ้าสวรรค์โคจรพลังสายเลือดเผ่าบรรพกาล ระเบิดแสงฝ่ามือระดับสุดยอดสายหนึ่งออกมา จากนั้นจึงโคจรเนตรเทพวิถีฟ้าเพื่อเพิ่มอานุภาพให้พลังกลุ่มนี้
แสงฝ่ามือสีทองเงินมาพร้อมพลังไร้เทียมทาน จิตแห่งการทำลายล้าง ไม่แยแสผู้ใดทั้งสิ้น
โครม ตูม! พลังดวงตาทั้งสองกลุ่มปะทะเข้าด้วยกัน พายุต้องห้ามปั่นป่วนขึ้น ทะลักออกประหนึ่งคลื่นยักษ์โหมซัดสาด
สนามรบของสองฝ่ายอยู่ที่เขตวารีคราม
แต่เขตวารีครามในตอนนี้เกิดความเสียหายในทุกพื้นที่ โกลาหลอลหม่าน ขั้วอำนาจที่ระดับขั้นต่ำนับไม่ถ้วนต่างถูกมหันตภัยนี้ทำลาย แต่พายุพลังกลุ่มนี้ก็ยังกระจายตัวออกไปไม่สิ้นสุด ส่งผลกระทบต่อทั้งดินแดนเทพรกร้าง
ครืน ตูม ตูม~
การต่อสู้ระหว่างห้านายเหนือหัวและเจ้าสวรรค์ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ
ไกลออกไป สมาชิกของทั้งพวกฝืนชะตาฟ้าและพันธมิตรเนตรเทพเจ้า มีเพียงราชาเทพเท่านั้นที่สามารถมองเห็นสถานการณ์ในสนามรบได้รางๆ ส่วนที่เหลือทำได้เพียงหลบอยู่ภายในปราการป้องกันเท่านั้น
ภายในเรือรบสีเงินขาว
“ดี นายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าทั้งห้าค่อยๆ ได้เปรียบแล้ว!” หลิ่วฉินซินอาศัยเนตรเทพทำนาย จึงมองเห็นสถานการณ์ในสนามรบอย่างชัดเจน
พลังเนตรเทพวิถีฟ้าที่ห้านายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าสร้างขึ้นย่อมแข็งแกร่งกว่าเจ้าสวรรค์แน่นอน
เจ้าสวรรค์เพียงอาศัยความชำนาญในการใช้พลังวิถีฟ้า ตอนแรกจึงได้เปรียบกว่าบ้าง แต่สิ่งเหล่านี้ล้วนไม่สำคัญ เมื่อห้านายเหนือหัวเนตรเทพเจ้าค่อยๆ ควบคุมพลังกลุ่มนั้นได้แล้ว เจ้าสวรรค์ก็ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
โครม ตู้ม!
คลื่นแสงสีเทาอ่อนที่วุ่นวายสายหนึ่งทำลายการโจมตีของเจ้าสวรรค์จนแหลกละเอียด และปะทะโดนร่างเขาด้วย
ทันใดนั้น ร่างเจ้าสวรรค์แหลกไปเกือบทั้งหมด เหลือเพียงแค่ส่วนเล็กๆ เท่านั้น
“กลับคืน!” เจ้าสวรรค์กระตุ้นพลังดั้งเดิมสังสารวัฏจนถึงขีดสุด ร่างกายฟื้นกลับไปสู่สภาวะเดิมอย่างรวดเร็ว
‘รับมือยากจริงๆ!’ นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์ลอบถอนใจ
พวกเขาห้าเนตรเทพเจ้าร่วมมือกันรวมพลังวิถีฟ้า ยังไม่สามารถสังหารเจ้าสวรรค์ได้ในเวลาสั้นๆ
ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเป็นฝ่ายได้เปรียบ แต่เจ้าสวรรค์ก็สังหารยากเย็นเกินไป อีกทั้งพวกเขายังสังเกตเห็นด้วยว่า ระหว่างการต่อสู้เจ้าสวรรค์ดูดซึมพลังวิถีฟ้าของพวกเขาอยู่ตลอด
เจ้าสวรรค์ก็เข้าใจว่าฝ่ายตรงข้ามเก่งกาจกว่าตน ดังนั้นจึงอาศัยข้อได้เปรียบของกายเทพมารบรรพกาลรวมไปถึงกายวัฏสงสารรับการโจมตีจากอีกฝ่าย และฉวยโอกาสดูดรับพลังวิถีฟ้าส่วนหนึ่งเอาไว้
ภายใต้การเปลี่ยนแปลงที่สวนทางกันนี้ เขาก็สามารถพลิกสถานการณ์ได้
‘มันสามารถกลืนกินพลังวิถีฟ้า ไม่รู้ว่าพวกเราจะกลืนกินพลังเนตรเทพวิถีฟ้าของมันได้หรือไม่?’
ในใจนายเหนือหัวเนตรมรณะเกิดความสงสัยเช่นนี้ขึ้น
เหตุที่เจ้าสวรรค์แข็งแกร่งได้ขนาดนี้ เนตรเทพวิถีฟ้าเป็นที่พึ่งที่ทรงพลังที่สุด หากกลืนกินพลังพลังเนตรเทพวิถีฟ้าของเจ้าสวรรค์ได้ เจ้าสวรรค์จะยังทำอะไรได้อีก?
นายเหนือหัวทั้งห้าค่อยๆ คลำทางจนเจอเคล็ดลับแล้ว
“กลืนกิน!” นายเหนือหัวทั้งห้าควบคุมเนตรเทพวิถีฟ้า ปลดปล่อยแรงดูดที่น่ากลัวออกมา
พลังทั้งหมดรอบบริเวณแหลกเป็นผุยผงทันที มีเพียงพลังวิถีฟ้าที่พุ่งตรงไปรวมตัวกันที่นั่น
“ตาแก่พวกนี้ ชักจะดูถูกกันมากไปแล้ว!” เจ้าสวรรค์พลันระเบิดพลัง ส่วนลึกในเนตรเทพวิถีฟ้าแผ่พลังที่แก่กล้าเกินเปรียบเช่นเดียวกันออกมา
‘เจ้าคนนี้เก็บงำพลังเอาไว้!’ นายเหนือหัวเนตรทัณฑ์สวรรค์แอบตกใจ
ที่แท้เจ้าสวรรค์ดูดซึมพลังวิถีฟ้าของพวกเขา เนตรเทพวิถีฟ้ากำลังแข็งแกร่งขึ้นไม่หยุด แต่เจ้าสวรรค์กลับไม่ได้ใช้พลังกลุ่มนี้ออกมาทั้งหมด เสแสร้งว่าอ่อนแอมาตลอด เพราะคิดจะดูดเอาพลังวิถีฟ้าให้ได้มากขึ้น รอจนได้เวลาจะพลิกสถานการณ์ถึงค่อยเผยออกมา
เมื่อสังเกตเห็นจุดนี้ นายเหนือหัวทั้งห้าประหนึ่งมีคลื่นโหมซัดในใจ
เจ้าสวรรค์ผู้นี้เจ้าเล่ห์เพทุบายจริงๆ ทันทีที่ไม่ระวังก็แทบจะตกหลุมพรางอีกฝ่าย
โครม! เนตรเทพวิถีฟ้าทั้งสองระเบิดพลังที่รุนแรงไร้เทียมทาน ต่างคนต่างดูดซึมพลังวิถีฟ้าของฝ่ายตรงข้าม
ในการปะทะกันของพลังวิถีฟ้ากลุ่มนี้ มิติจักรวาลสั่นสะเทือนขึ้นติดต่อกัน เขตแดนหลายแห่งใกล้ๆ เขตวารีครามพังทลายทั้งหมด เหมือนวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึง
จ้าวเฟิงอยู่ใกล้กับพื้นที่ในการปะทะกันของพลังเนตรเทพวิถีฟ้าที่สุด
อาการเจ็บปวดในดวงตาซ้ายของเขาค่อยๆ ดีขึ้นเล็กน้อย
การเปลี่ยนแปลงของเนตรเทพเจ้ายังไม่สิ้นสุดลง พลังมายาดั้งเดิมไม่มีสิ้นสุดในมิติเนตรเทพเจ้าพวยพุ่งออกมา
พลังมายาดั้งเดิมที่ทะลักล้นกลุ่มนี้พุ่งออกมาจากดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิง สร้างเป็นภาพมายาที่วิจิตรตระการตา เพียงแต่การประลองพลังของเนตรเทพวิถีฟ้าเขย่าขวัญมากเกินไป เหตุการณ์ประหลาดนี้แทบจะไม่มีใครสังเกตเห็นด้วยซ้ำ
“นี่คือพลังของเนตรเทพมายาหรือ?” จ้าวเฟิงตื่นเต้นอย่างยิ่ง
พลังมายาดั้งเดิมกลุ่มนี้ไม่เพียงแต่มีผลกับดวงตาซ้าย ยังไหลบ่าเข้าไปทุกแห่งทั่วร่างกายของจ้าวเฟิง
ในขณะนี้ เขารู้สึกได้ว่าดวงตาซ้ายของตนเองสามารถปลดปล่อยพลังที่แข็งแกร่งเกินจะเปรียบ ไปจนถึงขั้นนายเหนือหัว ถึงขนาดที่รู้สึกได้ว่าสามารถทำได้ทุกอย่าง
“แต่พลังมายาดูจะไม่มีพลังโจมตีมากนัก!” จ้าวเฟิงครุ่นคิด
แน่นอน เมื่อการโจมตีไม่แกร่งมากนัก ก็มีประโยชน์มากได้เช่นกัน
‘ไม่รู้ว่าจะสามารถซ่อมแซมอาวุธบรรพชนได้หรือเปล่า…’ ในใจจ้าวเฟิงมีความคิดที่น่าตื่นตระหนกนี้เกิดขึ้น
ซ่อมแซมอาวุธบรรพชน อาวุธบรรพชนถือกำเนิดขึ้นโดยธรรมชาติ มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น หากขาดชิ้นส่วนไปเพียงหนึ่งจะไม่สามารถสมบูรณ์ได้อีก
จ้าวเฟิงไม่ใส่ใจมากนัก ตอนนี้ก็แค่ทดลองดูเท่านั้น
พลังแปรฝันให้เป็นจริงหมุนโคจร เกิดความปรารถนาอย่างแรงกล้าขึ้นในใจ พลังมายาดั้งเดิมในร่างจ้าวเฟิงสลายไปอย่างรวดเร็ว
‘ทะยานฟ้า’ บนตัวเขาเปล่งสีสันงดงามพร่างพรายขึ้นชั้นหนึ่ง
“นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
ทะยานฟ้าใจสั่นสะท้าน มันรู้สึกได้ถึงพลังที่ทั้งแข็งแกร่งทั้งคุ้นเคยอย่างยิ่งบนร่างตนเอง
ในตอนที่กำลังสงสัยตกใจ ทะยานฟ้าก็ค้นพบทันใดว่าพลังของตนทะยานขึ้นไปอีกระดับขั้นหนึ่ง
“อาวุธบรรพชน!” เมื่อสัมผัสพลังนี้ ทะยานฟ้าตื่นตะลึง
คิดไม่ถึงเลยว่ามันในตอนนี้จะฟื้นฟูไปถึงขั้นอาวุธบรรพชนมิติที่สมบูรณ์ได้!