Skip to content

King of Gods 23

King Of Gods

บทที่ 23 : ขั้นสูงของวิชาระดับสูง

หลังจากปะทะกันครั้งแรก ความแตกต่างก็ปรากฏขึ้นในทันที

จ้าวกางทรงตัวในขณะที่มองตรงไปยังคู่ต่อสู้ด้วยความตกตะลึง

จ้าวเฟิงไม่ได้โจมตีต่อ ในด้านของความเร็วนั้นเขามั่นใจว่ากระทั่งผู้ฝึกตนขั้นสี่บางคนก็ไม่อาจเทียบเขาได้

ในตอนนี้ การประลองระหว่างจ้าวเฟิงและจ้าวกางกลายเป็นจุดสนใจของทุกคน

“ความเร็วของเขามากกว่าจ้าวกางเสียอีก!” สามอันดับแรกของศิษย์สายนอกนิ่งงันไป

“เป็นท่าเท้าที่งดงามอันใดเยี่ยงนั้น!” ผู้อาวุโสที่มองอยู่ก็ตะลึงไปเช่นกัน

“วิชาของเขาดูคุ้นเคยยิ่ง” ผู้ตัดสินหลักเอ่ยพึมพำ

“เขาเรียนรู้วิชานภาลอยล่อง! ข้ามั่นใจ!” หนึ่งในผู้ฝึกตนมองตรงไปยังเด็กหนุ่มด้วยสายตาซับซ้อน เขาเองก็เคยเรียนรู้วิชานั้นเช่นกัน ทว่ามันยากเกินกว่าที่เขาจะฝึกแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่ส่วนเดียว ดังนั้นแล้วเขาจึงฝึกเพียงสองปีก่อนจะล้มเลิกไป

“มันคือวิชานภาลอยล่อง!”

“สามารถฝึกวิชานั่นได้จนเข้าขั้นสูงเช่นนี้ ความสามารถในการเรียนรู้ของเขาไม่นับว่าแย่…”

แม้ว่าวิชานภาลอยล่องจะเป็นวิชาระดับสูง แต่มันไม่สมบูรณ์ ดังนั้นแล้วความสามารถของมันจึงมีจำกัด

“จ้าวเฟิงโจมตีแล้ว!”

ร่างของเด็กหนุ่มราวกับสายลม ความเร็วของเขานั้นมากมายยิ่ง จ้าวกางใช้แรงทั้งหมดทว่าก็ยังคงไม่อาจหลบการโจมตีของอีกฝ่ายได้

“มังกรคลั่งที่ห้า!”

หมัดมังกรคลั่งเป็นวิชาที่ได้รับความนิยมอย่างมากในบรรดาวิชาระดับกลาง ดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องง่ายที่จะจดจำได้เมื่อเห็น

ปั่ก! ปั่ก! เพี้ยะ!

จ้าวเฟิงกดดันจ้าวกางอย่างหนัก จ้าวกางรู้สึกราวกับว่าเขาไม่อาจหายใจได้ภายใต้แรงกดดันนั้น ทุกๆ หมัดกระแทกเขาถอยหลัง จ้าวเฟิงเหนือกว่าเขาโดยสิ้นเชิง

ในด้านความเร็ว จ้าวเฟิงเหนือกว่าเขาอย่างง่ายดาย ในด้านของพลัง อีกฝ่ายก็ยังคงเหนือกว่าเขา

อั่ก!

หลังจากที่รับหมัดที่แปด จ้าวกางก็กระอักเลือดออกมาและยอมแพ้ เขาผู้ครองอันดับห้าพ่ายแพ้ภายใน 10 กระบวนท่า

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ว่าจ้าวเฟิงแข็งแกร่งและสามารถต่อสู้กับห้าอันดับแรกได้ ผลลัพธ์ก็ยังทำให้พวกเขาตื่นตะลึง ความสามารถของเด็กหนุ่มนั้นไม่อาจนับว่าด้อยกว่าจ้าวเยว่และคนอื่นๆ ได้แม้แต่น้อย

“เด็กนั่นฉลาดมาก ไม่เพียงแค่ฝึกวิชาระดับพื้นฐานจนเข้าขั้นหลอมรวม ทว่ายังฝึกเพลงหมัดมังกรคลั่งกระทั่งเข้าขั้นสุดยอดด้วย”

“เขาสามารถเอาชนะจ้าวกางได้เพียงแค่ใช้วิชาระดับกลางขั้นสุดยอด” ผู้อาวุโสเอ่ยชมจ้าวเฟิง

การประลองยังคงดำเนินต่อไป

มีเพียงแค่สี่คนที่ยังคงสถิติชนะต่อเนื่อง จ้าวเยว่ จ้าวยี่จาง จ้าวหยูเฟ่ย และจ้าวเฟิง ทั้งสี่ถูกเรียกในนาม ‘ผู้แข็งแกร่งทั้งสี่’

“จ้าวเฟิง! จ้าวเฟิง!” ฝูงชนตะโกนเชียร์เด็กหนุ่มขณะที่เขากำลังก้าวขึ้นลานประลอง ทุกครั้งที่เขาขึ้นไป คู่ต่อสู้ส่วนมากจะยอมแพ้ หรือไม่ก็พ่ายแพ้ในสามกระบวนท่า

จ้าวเฟิงกระทั่งเจอจ้าวคัง

“ข้ายอมแพ้!” จ้าวคังกัดฟันกรอด รู้สึกอยากจะมุดดินหนี

ความแข็งแกร่งของอีกฝ่ายนั้นเหนือกว่าพี่ชายของเขาเสียอีก แล้วเขาจะชนะได้อย่างไรกัน?

ผู้แข็งแกร่งทั้งสี่ยังคงชนะทุกการประลอง หลายคนคาดหวังให้ทั้งสี่ปะทะกันเอง…

ในที่สุด หลังจากที่ชนะครั้งที่ 60 จ้าวเยว่ที่ครองอันดับหนึ่งก็เผชิญหน้ากับจ้าวยี่จางที่ครองอันดับสอง

“จ้าวเยว่! จ้าวเยว่!”

“จ้าวยี่จาง! จ้าวยี่จาง!”

หลายคนตะโกนชื่อของทั้งสองออกมาด้วยความคาดหวัง

“จ้าวเยว่! ตั้งแต่ข้าพ่ายให้แก่เจ้ามาเมื่อครึ่งปีก่อน ในที่สุดเราก็เผชิญหน้ากันอีกครั้ง!” จ้าวยี่จางเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น ดวงตาเร่าร้อนจ้องมองไปยังอีกฝ่ายอย่างหมายมาด

ในบรรดาศิษย์สายนอก จ้าวเยว่นั้นนับว่าเป็นเพียงบุคคลธรรมดา สิ่งที่เขาทำมีเพียงการฝึกตนทุกวัน ดังนั้นแล้วพื้นฐานของเขาจึงมั่นคงที่สุด และทำให้เขาสามารถนั่งอยู่ในฐานะของศิษย์สายนอกอันดับหนึ่งได้

“เริ่มเถอะ จะได้เห็นกันว่าคมดาบเหมันต์ของเจ้าหรือว่ากายาเหล็กของข้าที่แข็งแกร่งกว่ากัน” จ้าวเยว่ยืนสูงสง่าเบื้องหน้าคู่ต่อสู้

ชิ้ง!

จ้าวยี่จางชักดาบของเขาออกจากฝักดาบ

ในตอนที่วิชาคมดาบเหมันต์ได้ถูกใช้ออก อากาศก็ราวกับจะเข้าสู่จุดเยือกแข็ง

“หมัดเหล็ก!” ร่างของจ้าวเยว่ยืนเหยียดขณะที่เขาส่งหมัดออกไปยังดาบของคู่ต่อสู้

เปรี้ยง!

เสียงปะทะทำให้เยื่อแก้วหูของศิษย์ที่มีระดับฝึกตนต่ำสั่นสะท้าน

จ้าวยี่จางถอยหลังไปสองก้าว ก่อนจะหมุนตัวและแทงดาบตรงไปยังร่างกายช่วงล่างของจ้าวเยว่

“หนึ่งป้องกัน หนึ่งโจมตี”

เห็นได้ชัดว่าความแข็งแกร่งของจ้าวเยว่และจ้าวยี่จางนั้นสามารถเอาชนะผู้ที่มีพลังขั้นเสมือนผู้ฝึกตนได้อย่างง่ายดาย

หากจ้าวเฟิงยังไม่สามารถโคจรพลังภายในได้ เขาย่อมไม่อาจโจมตีผ่านพลังป้องกันของจ้าวเยว่ได้

เคร้ง! เคร้ง! เชี้ยะ!

การประลองของทั้งสองเร่าร้อนถึงขีดสุด ดาบของจ้าวยี่จางนั้นเร็วขึ้นเรื่อยๆ อากาศเย็นเยียบล้อมกรอบร่างของจ้าวเยว่

หากเป็นผู้อื่นที่อยู่ในขั้นสามแห่งหนทางผู้ฝึกตนแทนจ้าวเยว่ พวกเขาย่อมพ่ายในเพียงแค่กระบวนท่าเดียว

จ้าวเยว่ยังคงรับดาบของคู่ต่อสู้

“พื้นฐานของจ้าวเยว่นั้นแข็งแกร่งมาก และจุดแข็งของเขาก็คือการป้องกัน หากจ้าวยี่จางไม่อาจเอาชนะเขาได้ในชั่วเวลาครึ่งน้ำเดือด เขาย่อมไม่อาจชนะ” ผู้ตัดสินหลักเอ่ย

“ฮี่ฮี่ ครึ่งน้ำเดือดเช่นนั้นหรือ? เขาไม่ต้องใช้เวลานานเช่นนั้นหรอก” ชายวัยกลางคนผู้เป็นบิดาของจ้าวยี่จางเอ่ยอย่างมั่นใจ

“โฮ่?” สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไป

อึก!

จ้าวเยว่ครางออกมาเมื่อบนแขนแกร่งของเขาปรากฏรอยตัดขึ้น

“กายาเหล็กของข้าถูกทำลายลงได้อย่างไร…?” ใบหน้าของจ้าวเยว่ซีดขาว

วิชากายาเหล็กนั้นคือการที่เปลี่ยนร่างกายของผู้ฝึกให้แข็งราวกับเหล็ก เมื่อรวมเข้ากับวิชาหมัดเหล็ก ความแข็งแกร่งและพลังป้องกันของเขาก็ถึงขีดจำกัดแล้ว เขามั่นใจว่าไม่มีผู้ใดที่ระดับต่ำกว่าขั้นสี่สามารถเจาะพลังป้องกันของเขาเข้ามาได้

“วิชาระดับสูงขั้นสูง!” ผู้ตัดสินตะโกน

วิชาระดับสูงขั้นสูง?

ศิษย์ใกล้ๆ สูดลมหายใจเย็นเยียบ

การฝึกฝนวิชาระดับสูงส่วนมากให้กลายเป็นขั้นต่ำก็นับว่ายากแล้ว และการที่จะฝึกให้เขาขั้นสูงนั้นกลับยากเสียยิ่งกว่า

ทว่าเมื่อวิชาเหล่านั้นเข้าสู่ขั้นสูง พลังของพวกมันจะสูงกว่าขั้นต่ำราวๆ 50% หรือมากกว่า

วิชาคมดาบเหมันต์นั้นเป็นวิชาโจมตีระดับสูงที่น่าหวาดหวั่นมากพอแล้ว เมื่อผู้ที่มีขั้นสามแห่งหนทางผู้ฝึกตนฝึกมันจนเข้าสู่ระดับต่ำ คนผู้นั้นก็จะมีพลังเทียบเท่าขั้นเสมือนผู้ฝึกตน และหากฝึกฝนจนเข้าขั้นสูงจะทำได้กระทั่งทำร้ายผู้ฝึกตน

“ขั้นสูงของวิชาระดับสูง! ไม่น่าแปลกใจเลย! ยินดีด้วยจ้าวเทียนเจี้ยนที่มีบุตรชายมากพรสวรรค์เช่นนี้” ผู้ตัดสินหลักยิ้มให้กับชายวัยกลางคน จ้าวเทียนเจี้ยน ผู้เป็นบิดาของจ้าวยี่จาง

“ขอบคุณท่านผู้อาวุโส!” ชายวัยกลางคนรู้สึกอึ้งกับการกระทำของอีกฝ่าย ผู้ซึ่งเป็นผู้อาวุโสของพรรคและตำแหน่งสูงกว่าเขามากนัก

บนลานประลอง

“ประกายเหมันต์!”

จ้าวยี่จางวาดดาบออกไปด้วยความเร็วที่มากกว่าเก่า

แคว่กกก!

เสื้อของจ้าวเยว่ขาดออกเป็นชิ้น บนร่างปรากฏรอยบาดหลายแห่ง

“จ้าวยี่จางชนะ!” ผู้ตัดสินเอ่ยขึ้นในทันที

“ขั้นสูงของวิชาระดับสูง นับว่าข้าไม่ได้พ่ายแพ้อย่างอยุติธรรม” จ้าวเยว่เอ่ยขณะถอนหายใจ

หลังจากเอาชนะจ้าวเยว่ก็ไม่มีผู้ใดสามารถหยุดจ้าวยี่จางได้อีกต่อไป

“จ้าวยี่จาง! จ้าวยี่จาง!”

ฝูงชนเบื้องล่างตะโกนเชียร์ เด็กหนุ่มสาวหลายคนมองเขาอย่างหวาดกลัว บัดนี้จ้าวยี่จางกลายเป็นราชาของศิษย์สายนอกไปแล้ว

สายตาของจ้าวยี่จางกวาดมองไปโดยรอบก่อนจะหยุดลงที่ร่างของจ้าวเฟิง ริมฝีปากยกขึ้นเป็นรอยยิ้มเย็น ดวงตาเต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

“พี่เจี้ยน!” ใบหน้าของจ้าวซุ่ยแดงซ่านขณะที่นางวิ่งตรงไปยังเขา นางเชื่อว่าพลังของเขานั้นไม่มีผู้ใดเอาชนะได้ ในขณะเดียวกัน นางก็ใช้หางตามองไปยังจ้าวเฟิง

ใบหน้าของจ้าวเฟิงไม่ปรากฏความรู้สึกใดๆ

บัดนี้มีเพียงแค่ 3 คนเท่านั้นมียังคงสถิติไว้ได้ จ้าวยี่จาง จ้าวเฟิง และจ้าวหยูเฟ่ย ทว่าบัดนี้ไม่มีผู้ใดให้ความคาดหวังกับมันมากนัก

ในสายตาของผู้คนนั้น จ้าวยี่จางไม่มีทางพ่ายแพ้ให้กับผู้ใดในศิษย์สายนอก เขาอาจทำได้กระทั่งครองอันดับสูงในบรรดาศิษย์สายใน!

“ขั้นสูงของวิชาระดับสูง?” จ้าวเฟิงพึมพำ

สถิติของเขายังคงเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และถึง 60… 61ครั้ง…

ทว่าการประลองระหว่างจ้าวยี่จางและจ้าวเฟิงนั้นเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้

ในที่สุด ในการประลองตาที่ 69 จ้าวเฟิงก็พบกับเด็กหนุ่มในชุดสีม่วงบนลานประลอง

จ้าวยี่จาง!

ฝูงชนเงียบเสียงลงเมื่อทั้งสองเผชิญหน้ากัน อย่างไรก็ตามสถิติของจ้าวเฟิงก็ยังไม่ถูกทำลายลง

“จ้าวเฟิง! เจ้าจะไม่ยอมแพ้ใช่หรือไม่?” จ้าวยี่จางเอ่ยเยาะเย้ย

ในสายตาของเขา คนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้มีเพียงจ้าวเยว่เท่านั้น ที่เหลือเป็นเพียงแค่ขยะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!