Skip to content

King of Gods 671

King Of Gods

บทที่ 671 แผนการชุบชีวิตครึ่งเซียน

ภายในน้ำเต้าปราณมรกตมีกลิ่นอายจิตวิญญาณส่วนหนึ่งเกินมา ทำให้จ้าวเฟิงต้องสูดลมหายใจเย็นเข้าปอด

ภายในน้ำเต้า เลือดครึ่งเซียนและเศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋นตัวสั่นงันงก

เศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋นดีใจจนเนื้อเต้น

“พลังครึ่งเซียน ทำไมถึงตามมาถึงที่นี่ได้?”

จ้าวเฟิงตกใจจนขวัญผวา

พลังครึ่งเซียนเป็นพลังจิตวิญญาณประเภทหนึ่งที่มีการรับรู้ต่อฟ้าดินของครึ่งเซียน

ดีที่พลังครึ่งเซียนนี้เป็นเพียงพลังจิตวิญญาณบริสุทธิ์ มีสติปัญญา แต่ว่าไม่มีความคิดความทรงจำเป็นของตัวเองแต่อย่างใด

จากการพูดคุยกันของเศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋นและจ้าวเฟิง จึงวิเคราะห์สาเหตุออกมาได้คร่าวๆ

วินาทีที่จ้าวเฟิงออกจากอุทยาน แรงมหาศาลของพลังครึ่งเซียนกดดันมาในทันที

ช่วงเวลาวิกฤตินั้น

พลังครึ่งเซียนแยกออกมาส่วนหนึ่ง จากนั้นแฝงตัวเข้าไปภายในน้ำเต้าปราณมรกต

เช่นนั้นทำไมพลังครึ่งเซียนต้องตามจ้าวเฟิงมา?

จ้าวเฟิงคิดว่าน่าจะมีสาเหตุมาจากเลือดครึ่งเซียนและเศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋น

เลือดครึ่งเซียนจะส่งผลต่อส่วนสำคัญที่สุดของเลือดเนื้อในร่างครึ่งเซียน

เศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋นส่งผลต่อสตินึกคิดและจิตวิญญาณ

เมื่อทั้งสองสิ่งนี้รวมตัวกันจะได้ร่างกายและกลิ่นอายจิตวิญญาณของครึ่งเซียน

พอดีกับที่พลังครึ่งเซียนนี้มาจากจิตวิญญาณของครึ่งเซียน เมื่อมันสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายของ ‘นายเหนือหัว’ จึงตามจ้าวเฟิงออกมาด้วย

เพราะเหตุนี้ พลังครึ่งเซียนส่วนหนึ่งจึงหนีออกจากอุทยานเข้าไปภายในน้ำเต้าปราณมรกต

“นายท่าน! เมื่อมีพลังครึ่งเซียนกลุ่มก้อนนี้ ทันทีที่ข้า ‘คืนชีวิตด้วยเลือด’ ก็มีความหวังได้ว่าอาจจะฟื้นฟูไปถึงช่วงรุ่งโรจน์เลยทีเดียว” เศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋นเอ่ยอย่างยินดียิ่ง

เพราะว่าพลังครึ่งเซียนแฝงไปด้วยขอบเขตพลังและการรับรู้ในฟ้าดินก่อนจะสิ้นชีพของครึ่งเซียน

ในเวลาเดียวกันมันจึงเป็นพลังจิตวิญญาณที่ยิ่งใหญ่อย่างยิ่ง

ตามที่จ้าวเฟิงเดาเอาไว้ พลังครึ่งเซียนส่วนหนึ่งที่แบ่งแยกออกมานี้เทียบได้กับพลังในขั้นราชันที่สมบูรณ์ หนำซ้ำยังมาจากตัวครึ่งเซียน จึงทำให้ยิ่งพิเศษกว่า

หรือจะพูดได้ว่า พลังครึ่งเซียนกลุ่มนี้สามารถข่มพลังของขั้นราชันได้

“แต่หลังจากที่ครึ่งเซียนถือกำเนิดใหม่อีกครั้ง ข้าก็ต้องเผชิญหน้ากับภัยอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพลังครึ่งเซียนกลุ่มก้อนนี้” แววตาของจ้าวเฟิงเป็นประกาย

เขาตกลงสู่ห้วงภวังค์อยู่ครู่หนึ่ง จะเริ่มแผนการ ‘ชุบชีวิตครึ่งเซียน’ ได้อย่างไร จะต้องใช้ประโยชน์จากพลังนี้ให้มากที่สุด แล้วลดทอนความเสี่ยงของตนลงให้มากที่สุดเช่นกัน

ลองมาคิดดู ระดับขั้นครึ่งเซียนสูงส่งขนาดไหน ทันทีที่ฟื้นคืนชีพจะยอมรับใช้จ้าวเฟิงอย่างเต็มอกเต็มใจได้อย่างไร?

“นายท่าน! ถ้าหากข้าได้ถือกำเนิดใหม่ก็จะมีพลังครึ่งเซียนกลุ่มนี้ ในภายภาคหน้าจะเข้าออกอุทยานครึ่งเซียนได้ตามอำเภอใจ และควบคุมอุทยานได้ใหม่อีกครั้งหนึ่ง”

เศษเสี้ยวห้วงคิดครึ่งเซียนเกลี้ยกล่อมจ้าวเฟิงอย่างสุดความสามารถ

ควบคุมอุทยานครึ่งเซียน!

เมื่อฟังถึงตรงนี้ จ้าวเฟิงก็ใจเต้นแรง

ระดับขั้นของอุทยานครึ่งเซียนสูงส่งกว่าซากปรกหังสือเฉิงมากนัก ต่อให้เป็นจักรพรรดิในขอบเขตปราณเทวะ หรือกระทั่งเซียนในขอบเขตเทวาเร้นลับก็ไม่อาจหักห้ามใจจากความเย้ายวนนี้ได้

หากควบคุมอุทยานครึ่งเซียนได้จะมีทรัพยากรจำนวนมหาศาล ซึ่งจะส่งผลช่วยผลักดันในการฝึกตนอย่างยิ่ง

“ข้ารับปากว่าจะจัดการแผนชุบชีวิตให้ครึ่งเซียนอย่างแน่นอน แต่ว่าไม่ใช่ตอนนี้” จ้าวเฟิงผงกศีรษะ

เขาไม่ได้สูญเสียความเยือกเย็นแต่อย่างใด

ด้วยความสามารถของเขาในตอนนี้ ต่อให้สามารถปลุกชีพครึ่งเซียนและครอบครองอุทยาน ก็มีแต่จะหาเรื่องเดือดร้อนใส่ตัว

ดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจินอู่มีสำนักสามดาวสองสำนัก และสำนักสองดาวสามสิบสามแห่ง พวกเขาจะปล่อยให้ผู้เยาว์ที่ยังไม่ถึงขั้นราชันฉกฉวยเอาผลประโยชน์ของอุทยานครึ่งเซียนไปคนเดียวได้อย่างไร?

เวลาหลายวันต่อมา

จ้าวเฟิงเริ่มเข้าฌาน ฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ

ห้วงคิดเซียนของเขาจัดการของกำนัลที่ได้มาจากอุทยานครึ่งเซียน

ในช่วงระยะเวลานี้ จ้าวเฟิงก็ได้พบความยุ่งยากเล็กน้อย

ตั้งแต่ออกมาจากอุทยานครึ่งเซียน ในแต่ละวันจะมีคนส่วนหนึ่งมาแวะเวียนมาหาไม่ได้ขาด

ในตอนแรกคือต่งเหวินเจี้ยนจากสำนักเดียวกัน

หลายวันต่อมาเป็นศิษย์ผู้สืบทอดคนอื่นๆ กระทั่งราชันและจักรพรรดิที่อยู่ในระดับสูงของสำนักก็ยังมี

คนเหล่านี้ส่วนมากเป็นเพราะหมายตาผลประโยชน์ที่จ้าวเฟิงเก็บเกี่ยวมาได้จากอุทยานครึ่งเซียน

มีราชันและจักรพรรดิหลายคนที่เอ่ยเป็นนัยๆ ว่าต้องการจะแลกเปลี่ยน ‘ธนูเหนือนภา’ หรือไม่ก็อยากยืม ‘ร่างศพอำนาจเทวะ’ ของจ้าวเฟิง

น้ำอมฤต สุราเซียนมายา ผลึกน้ำตาเงือก และหญ้าเกล็ดม่วงก็เป็นสิ่งที่อัจฉริยะจำนวนมากต้องการ

ราชันกับจักรพรรดิส่วนหนึ่งมาเยี่ยมจ้าวเฟิงด้วยตนเองเพื่อเจราจาแลกเปลี่ยนแทนลูกศิษย์ตัวเอง

โดยเฉพาะอย่างยิ่งสุราเซียนมายาซึ่งมีส่วนช่วยให้เข้าใจขอบเขตพลังที่สูงส่งกว่า และส่งผลดีอย่างมากกับผู้ที่ต้องการจะทะลวงผ่านไปขั้นราชัน

คนระดับกลางอย่างขั้นครึ่งก้าวสู่ราชันส่วนหนึ่งในสำนักจึงต้องการของดังกล่าวเป็นอย่างยิ่ง

ส่วนหญ้าเกล็ดม่วงสามารถเพิ่มพลังสายเลือดได้ จึงดึงดูดความสนใจเหล่าราชันส่วนหนึ่งเช่นกัน

ในขณะที่อยู่ภายในอุทยานครึ่งเซียน จ้าวเฟิงยึดครองทะเลสาบจื่อเยียน สมบัติที่หามาได้มีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน

สมบัติล้ำค่าส่วนหนึ่ง ถึงแม้ว่ามูลค่าจะไม่เท่าสุราเซียนมายา แต่ว่าหยิบสุ่มๆ ชิ้นสองชิ้นก็สามารถทำให้ยอดผู้สูงศักดิ์ตาลุกเป็นไฟด้วยความริษยาแล้ว

หลายวันที่ผ่านมา

ธรณีประตูที่พักของจ้าวเฟิงโดนเหยียบจนแทบราบไปกับพื้น

การแลกเปลี่ยนส่วนหนึ่งจ้าวเฟิงฝืนรับปากไปโดยไม่เต็มใจ แต่ก็มีบางส่วนที่ปฏิเสธไปเช่นกัน

เขายังไม่อยากมีปัญหากับเหล่าจักรพรรดิและราชันพวกนั้น

แต่กับของอย่างเช่นธนูเหนือนภาหรือร่างศพอำนาจเทวะ จ้าวเฟิงไม่อาจแลกเปลี่ยนได้

ส่วนสุราเซียนมายาและผลึกน้ำตาเงือก จ้าวเฟิงเหลือไว้กับตนเองส่วนหนึ่งเพื่อเตรียมพร้อมให้กับจ้าวหยูเฟยเป็นหลัก

เพราะว่าพื้นฐานสายเลือดของจ้าวหยูเฟยคุ้นเคยกลมกลืนกับไอสวรรค์ในฟ้าดินอย่างยิ่ง มีเพียงความเข้าใจในขอบเขตพลังกับระดับชั้นวิญญาณที่นับว่าด้อยไปเล็กน้อย

เพื่อที่จะสลัดความยุ่งยากเหล่านี้  จ้าวเฟิงจึงจำต้องออกจากที่พักของตนแล้วย้ายไปยังคฤหาสน์ของอาจารย์ตวนมู่ชิงอย่างเสียไม่ได้

ถึงแม้ว่าตวนมู่ชิงจะยังไม่กลับมา แต่อย่างไรที่นี่ก็เป็นถึงคฤหาสน์ของจักรพรรดิ

อีกทั้งในคฤหาสน์แห่งนี้ ตวนมู่ชิงยังเหลือร่างเงาปราณเทวะเอาไว้ด้วย

ในที่สุด ชีวิตของจ้าวเฟิงจึงสงบราบรื่นลงได้บ้าง

พ่อบ้านของคฤหาสน์จักรพรรดิช่วยบอกปัดผู้มาเยือนจำนวนมาก

 

ต่อให้เป็นราชันหรือจักรพรรดิส่วนหนึ่ง เมื่อเจอกับเงาปราณเทวะของตวนมู่ชิงก็ไม่กล้าทำให้จ้าวเฟิงลำบากใจอีก

คฤหาสน์จักรพรรดิ ภายในห้องโถงลับที่เงียบสงบ

จ้าวเฟิงนั่งคุกเข่า มือยกขึ้นกลางอากาศเบื้องหน้า ปรากฏจอกเหล้าสามใบ

หนึ่งคือแก้วผลึกสีม่วง

อีกหนึ่งคือแก้วสุราไม้แดง

สุดท้ายก็คือจอกเหล้าสำริด

จอกเหล้าทั้งสามนี้เป็นสุราวิญญาณที่เซียนหมักบ่มขึ้น แบ่งเป็น

สุราเซียนมายา สุราเพลิงมังกร สุราเมฆาอัสนี

สุราสามชนิดนี้ล้วนแต่อยู่ในระดับเดียวกัน ได้มาจากห้องบ่มสุราครึ่งเซียนเช่นเดียวกัน

“สุราเพลิงมังกร สุราเมฆาอัสนี สามารถเพิ่มความลึกซึ้งในวายุอัสนีพิฆาตสีชาดของข้าได้”

จ้าวเฟิงมีแผนการในใจ

นอกจากสุราทั้งสองแก้วนี้ เขายังมีส่วนกะโหลกศีรษะของร่างศพอำนาจเทวะ

ร่างศพแฝงไปด้วยกลิ่นอายพลังของวายุอัสนีจากอำนาจเทวะ บางทีอาจจะช่วยให้จ้าวเฟิงพัฒนาระดับของ ‘มรดกวายุอัสนี’ ได้อย่างสมบูรณ์แบบ

พลังอัสนีจากอำนาจเทวะกำราบผู้ฝึกตนทั้งหมดในโลกนี้ สามารถเรียกได้ว่าเป็นพลังอัสนีที่น่ากลัวที่สุด

“เหอะ เหลยเจิ้น! สำนักหมื่นอัสนีงั้นเรอะ? ไม่แน่ว่าข้าอาจจะทำให้พวกเจ้าประหลาดใจไม่น้อยก็เป็นได้”

มุมปากของจ้าวเฟิงยกขึ้นเป็นรอยยิ้ม

วูบ!

จ้าวเฟิงโบกมือเก็บสุราสามชนิดเอาไว้

อุทยานครึ่งเซียนครั้งนี้เขาเก็บเกี่ยวผลประโยชน์ได้มากมาย ด้านที่สามารถพัฒนาได้ก็มีไม่น้อย

สามวันจากนั้น

อาการบาดเจ็บของจ้าวเฟิงหายเป็นปกติ จิตวิญญาณก็กลับคืนสู่สภาวะสุดยอด

“นายท่าน แผนการชุบชีวิตครึ่งเซียนจะเริ่มได้เมื่อไหร่กัน?”

เศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋นอดรนทนไม่ไหว

ในตอนนี้มันเป็นแค่เศษเสี้ยวความคิดของวิญญาณเท่านั้น ไม่มีกายเนื้อ แม้แต่แก่นแท้วิญญาณก็ยังไม่ใช่ ทำให้รู้สึกไม่ยินดีเป็นอย่างยิ่ง

“รอไปอีกช่วงหนึ่ง”

จ้าวเฟิงเอาผลึกน้ำตาเงือกชิ้นหนึ่งกับหญ้ารวมวิญญาณต้นหนึ่งมอบให้เศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋น

ถัดจากนั้น

เป้าหมายของเขาก็จดจ่ออยู่กับ ‘เลือดครึ่งเซียน’

เลือดครึ่งเซียนเป็นส่วนสำคัญในการถือกำเนิดใหม่จากหยดเลือด เหมือนกับเซียนจื่อเย่ที่หลังจากล่วงลับไปก็ไม่ได้เก็บเลือดไว้แม้แต่หยดเดียว ดังนั้นจึงเป็นไปไม่ได้ที่จะคืนชีพใหม่อีกครั้ง

“ปรากฏ!”

มือข้างหนึ่งของจ้าวเฟิงตวัดกลางอากาศ แล้วจึงปรากฏเลือดเซียนสีทองสุกใสขึ้นในใจกลางฝ่ามือ

โถงลับที่เขาใช้ปิดด่านฝึกกตนมีการปิดผนึกชั้นยอด จึงไม่ต้องกังวลว่ากลิ่นอายของเลือดครึ่งเซียนจะกระจายออกไป

อีกทั้งจากการต่อสู้แย่งชิงในอุทยานครึ่งเซียน ในตอนนี้เลือดครึ่งเซียนอ่อนกำลังลงไปมาก จนแรงต่อต้านลดลงแล้ว

ถัดจากนั้น

สิ่งที่จ้าวเฟิงต้องทำก็คือดูดซึมพลังส่วนหนึ่งของ ‘เลือดครึ่งเซียน’

เลือดบริสุทธิ์ของครึ่งเซียนแฝงไปด้วยส่วนบริสุทธิ์ในกายเนื้อของครึ่งเซียน ส่งผลมหาศาลต่อยอดฝีมือในขั้นต่ำกว่าเซียนลงไป

“ตราจักรพรรดิเหมันต์!”

มืออีกข้างของจ้าวเฟิงปรากฏตราสีฟ้าในลักษณะคล้ายผลึกแก้ว เป็นประหนึ่งดอกบัวน้ำแข็งที่เบ่งบาน สาดซัดความหนาวเหน็บอย่างที่สุดของจักรพรรดิเหมันต์โบราณออกมา

ขั้นแรก

เขาต้องผนึก ‘เลือดบริสุทธิ์ของครึ่งเซียน’ ด้วยน้ำแข็งเพื่อดูดกลืนพลังครึ่งเซียนในนั้นได้ง่ายดายยิ่งขึ้น

เพื่อการนี้ พลังสายเลือดของจ้าวเฟิงถูกกระตุ้นไปจนถึงขีดสุด แล้วปลดปล่อยพลังหอกจักรพรรดิเหมันต์ออกมาจนสุดกำลัง

ใช้เวลาครึ่งชั่วยามเต็มๆ

พลังสายเลือดของจ้าวเฟิงหมดไปกว่าครึ่งจึงจะผนึกเลือดบริสุทธิ์ของครึ่งเซียนได้

จากนั้น จ้าวเฟิงจึงเริ่มดูดซึมพลังของเลือดครึ่งเซียนที่ถูกผนึกด้วยน้ำแข็งผ่านสายเลือดวารีเหมันต์

“นายท่าน ท่านทำเช่นนี้ไม่ได้…” เศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋นที่อยู่ภายในน้ำเต้าปราณมรกตร้องโอดครวญ

จ้าวเฟิงไม่ใส่ใจแม้แต่น้อย ยังคงค่อยๆ ตั้งหน้าตั้งตาดูดซึม ‘เลือดครึ่งเซียน’ ต่อไปเรื่อยๆ

วิ้ง ผลัวะ~

เลือดสีทองขนาดเล็กซึ่งอยู่ในสภาวะน้ำแข็ง ค่อยๆ หลอมรวมเข้าไปภายในพื้นฐานสายเลือดของจ้าวเฟิง

ในตอนนี้

ระดับขั้นชีวิตของจ้าวเฟิงแทบไม่ต่างจากราชันเลย

แก่นผลึกภายในร่างกายของเขาก็แตะไปถึงลักษณะของขอบเขตแก่นก่อกำเนิดระดับสูงขั้นต้น

การป้องกันร่างกายได้หญ้าเกล็ดม่วง ทำให้อยู่เหนือกว่าคนอื่นๆ ในขั้นต่ำกว่าราชัน

ถึงจะเป็นเช่นนั้น

ในขณะที่เลือดสีทองขนาดเล็กจิ๋วหลอมเข้าไปภายในร่างกายนั้นเอง เลือดเนื้อของจ้าวเฟิงรู้สึกเจ็บปวดเหมือนโดนทิ่มแทง

สายเลือดและปราณที่แท้จริงทั่วร่างของเขาโดนกดดันจนสั่นสะท้าน

แต่ทว่าผลลัพธ์ของเลือดครึ่งเซียนก็ชวนให้ตกตะลึงอย่างยิ่ง มีผลมากกว่าร้อยเท่าของเลือดหัวใจวาฬเสียด้วยซ้ำไป

หลังจากที่จ้าวเฟิงดูดซึมเลือดสีทองไปไม่กี่เส้นสาย ก็ทำให้พื้นฐานสายเลือดทั่วร่างเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

ถึงขนาดที่ว่าคุณสมบัติปราณที่แท้จริงกับพลังวิญญาณของจ้าวเฟิงก็เพิ่มขึ้นตามไปด้วย

เลือดบริสุทธิ์จะแฝงไปด้วยจิตวิญญาณที่บริสุทธิ์ของยอดฝีมือผู้หนึ่ง

ยิ่งไปกว่านั้นเลือดบริสุทธิ์หยดนี้มาจากครึ่งเซียนด้วย

สองวันต่อมา

พื้นฐานสายเลือดของจ้าวเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างมหาศาล

“ระดับขั้นชีวิตมาถึงราชันเรียบร้อยแล้ว!”

มีประกายยินดีเกิดขึ้นในดวงตาของจ้าวเฟิง

แต่ว่าเขาเพิ่งจะดูดซึมผลลัพธ์ของเลือดครึ่งเซียนไปไม่ถึงหนึ่งในสิบส่วน

ภายในน้ำเต้าปราณมรกต

“นายท่าน ท่านจะต้องใช้เลือดเซียนอย่างน้อยหกส่วน มิฉะนั้นผลสำเร็จในการชุบชีวิตก็จะลดลงไปด้วย”

เศษเสี้ยวห้วงคิดคุนอวิ๋นโอดควรญอย่างเจ็บปวดใจ

จ้าวเฟิงไม่ได้ใส่ใจ ดูดซึมเอาพลังของเลือดครึ่งเซียนไปเรื่อยๆ

ในวันนี้

จ้าวเฟิงเกิดความคิดหนึ่งขึ้นมาอย่างฉับพลัน

เขาจึงเอาเลือดสีทองเส้นสายหนึ่งหลอมรวมเข้าไปในดวงตาซ้ายของตนผ่านสายเลือดวารีเหมันต์

เอาเลือดเซียนหลอมเข้าไปภายในดวงตาเทพเจ้า!

โครม!

เกิดเสียงดังโครมครามในระดับชั้นวิญญาณของจ้าวเฟิง

ภายในมิติดวงตาซ้าย ทะเลสาบพลังดวงตาปั่นป่วนอย่างรุนแรง น้ำวนภายในนั้นทะลักแรงดึงดูดออกมา

พริบตาเดียว

พลังของเลือดครึ่งเซียนก็หลั่งไหลเข้าไปภายใน ‘ดวงตาเทพเจ้า ’

สภาวะดังกล่าวประหนึ่งแผ่นดินแตกระแหงมาอย่างยาวนานได้รับฝนที่ชุ่มฉ่ำ

เวลาเพียงแค่ช่วงพริบตาเท่านั้น เลือดครึ่งเซียนนั่นก็โดนดูดซึมพลังไปแล้วหนึ่งในสามส่วน

ดวงตาซ้ายของจ้าวเฟิงหดเกร็ง จากนั้นจึงผุดแสงสีม่วงออกมา กลิ่นอายพลังเซียนที่มากจากยุคบรรพกาลยิ่งรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ฟู่ วูบ!

เรือนผมของจ้าวเฟิงสะบัดพลิ้วไปมา ทั้งยังปรากฏสีม่วงขึ้นส่วนหนึ่ง

ในวินาทีนี้ จักรพรรดิและราชันภายในดินแดนศักดิ์สิทธิ์เจินอู่ใจสั่นสะท้าน เกิดความรู้สึกบางอย่างขึ้น

“แย่ละ!”

จ้าวเฟิงรีบร้อนปิดผนึกดวงตาเทพเจ้า แล้วจึงหยุดดูดซึมเลือดครึ่งเซียนกลางคัน

ในเวลาดังกล่าว

ปริมาณของเลือดครึ่งเซียนเหลือเพียงแค่กึ่งหนึ่ง

ครึ่งหนึ่งนั้นมีส่วนหนึ่งถูกร่างกายของจ้าวเฟิงดูดซับกักตุนไว้ และมีส่วนหนึ่งถูกดวงตาเทพเจ้ารับไป

ดวงตาเทพเจ้าของจ้าวเฟิงผุดแสงสีม่วง และมีผมสีม่วงอ่อนเพิ่มมากขึ้นด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version