บทที่ 72 : หัวหน้าโจร
หลังจากผ่านการต่อสู้ที่หนักหน่วง ทั้งสามก็ยังคงอยู่ที่จุดเดิมเพื่อพักผ่อน ทั้งจ้าวหยูเฟ่ยและฮวงชี่นั้นล้วนได้รับบาดเจ็บ มีเพียงจ้าวเฟิงที่ไม่บาดเจ็บใดๆ แม้แต่น้อย ซึ่งทำให้ทั้งสองรับรู้ถึงความแตกต่างระหว่างพวกเขา
สิ่งที่ทำให้พวกเขาตะลึงมากกว่าเก่านั้นคือจ้าวเฟิงเพียงใช้พลังของผู้ฝึกตนขั้นต้นของขั้นหกในการฆ่าผู้นำโจร ไม่ใช่ขั้นสุดยอดของขั้นหก อาจเรียกได้ว่าพลังของจ้าวเฟิงนั้นเทียบเท่าได้กับขั้นเสมือนจอมยุทธ์เป็นอย่างน้อย!
ทั้งสามเก็บกวาดสถานที่ต่อสู้ จากนั้นจึงแบ่งแต้มต่อสู้กัน เป็นเพราะจ้าวเฟิงนั้นได้ฆ่าหัวหน้า แต่ไม่ใช่หน้าหลัก ดังนั้นมันจึงมีค่าเพียง 5 แต้มเท่านั้น ทั้งยังมีอีกหกคนที่ถูกฆ่าโดยจ้าวเฟิง โดยมีผู้ฝึกตนขั้นสี่สองคน ผู้ฝึกตนขั้นห้าสองคน และผู้ฝึกตนขั้นหกสองคน
เมื่อรวมทั้งหมดเข้ากับก่อนหน้า แต้มต่อสู้ของจ้าวเฟิงก็ได้มากกว่า 20 แต้ม และจากกฎนั้น 10 แต้มสามารถแลกกับวิชาระดับสุดยอดได้
ครั้งชั่วโมงถัดมา
“เราควรไปได้แล้ว มันไม่ดีนักที่จะรั้งอยู่ที่นี่นาน” จ้าวเฟิงสั่งในฐานะของหัวหน้ากลุ่ม
“ได้” ฮวงชี่และจ้าวหยูเฟ่ยต่างตกลงในทันที บัดนี้พวกเขาเชื่อใจจ้าวเฟิงอย่างสิ้นเชิง
ปึก! เช้ง! เช้ง!
ทั้งสามพลันเพิ่มความเร็วและออกจากหุบเขาไปในไม่ช้า
สองชั่วโมงหลังจากที่ทั้งสามจากไป
ร่างในชุดดำสามร่างลอยผ่านท้องฟ้าสีมืดและกระโดดลงเบื้องหน้าห้องไม้
“หัวหน้า คนสิบเอ็ดคนรวมทั้งชี่ไป๋เหยาตาย ครึ่งหนึ่งตายโดยนักธนู” เสียงของหนึ่งในเงาดำเอ่ยด้วยน้ำเสียงเย็นเยียบไร้อารมณ์
“ผู้ใดกล้าแตะต้อง ‘กองโจรทำลายล้าง’ ของข้า!?” หนึ่งในร่างนั้นยกมือขึ้นช้าๆ ก่อนที่ลมแรงจะพัดทุกสิ่งในรัศมีหลายเมตรกระจาย
ร่างชุดดำทั้งสองต่างรู้สึกได้ถึงแรงกดดัน แม้ว่าพวกเขาจะไม่อ่อนด้อยไปกว่าชายวัยกลางคนที่เพิ่งจะตายไป
ตูม!
ร่างใหญ่โตโบกมือของเขาก่อนที่บ้านไม้เบื้องหน้าจะทลายลง ในตอนนั้นเองที่กลิ่นอายของชายร่างใหญ่นั้นเทียบเท่าได้กับสัตว์ปีศาจระดับสูง
“จ้าวแห่งการทำลายล้าง!” หัวใจของสองผู้ฝึกตนขั้นเสมือนจอมยุทธ์กระตุก
“ตามหาคนฆ่า ข้าจะทำกับพวกมันเช่นที่พวกมันทำกับคนของข้านับสิบเท่า!” น้ำเสียงกราดเกรี้ยวเย็นชาดังขึ้นลอยไปตามสายลม
ในเวลาเดียวกันนั้น เด็กหนุ่มสาวลึกลับที่แบ่งออกเป็นกลุ่มๆ ได้คร่าชีวิตของเหล่าโจรไป ทุกคนจากกองพันองครักษ์ฟ้านั้นมีความสามารถมากมาย ภายใต้สภาพแวดล้อมเช่นนี้ พวกเขาย่อมแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว ทว่ามันก็ยังมีความสูญเสียบ้างเช่นกัน
นอกจากสิบองครักษ์ฟ้าแล้ว ร่างสีเงิน 7-8 ร่างได้หลอมตนเองเข้ากับความมืดมิดยามราตรีและคำนวณแต้มต่อสู้ ในค่ำคืนนั้น สายตาของจ้าวเฟิงนั้นยังคงสมบูรณ์ ทว่าเมื่อคิดถึงความจริงที่ว่าทั้งจ้าวหยูเฟ่ยและฮวงชี่เหนื่อยอ่อน เขาจึงตัดสินใจไม่จู่โจมต่อ ทั้งสามค้นพบสถานที่ที่ค่อนข้างปลอดภัยและตัดสินใจที่จะพักผ่อนที่นั่นโดยที่ไม่มีโจรอยู่รอบๆ
วันที่สอง
กลุ่มของคนทั้งสามเริ่มมองหาโจรอีกครั้ง
“เอ๋? เกิดอันใดขึ้นกัน? เหตุใดรอบนี่โจรจึงได้น้อยลงนัก?” จ้าวเฟิงพบปัญหาในไม่ช้า
พวกเขาได้ลาดตระเวนไปรอบๆ เป็นเวลานาน แต่แทนที่จะพบกับโจร พวกเขากลับพบกับกลุ่มอื่นแทน
ฮวงชี่เอ่ยเสียงล้ำลึก
“อาจเป็นเพราะกองพันองครักษ์ฟ้าฆ่าโจรมากเกินไปเมื่อคืน และพวกที่เหลือนั้นหลบซ่อนตัว”
จ้าวเฟิงผงกศีรษะและพบว่าความคิดนั้นมีเหตุผล หากโจรเหล่านั้นหลบซ่อนในภูเขา มันย่อมเป็นเรื่องยากที่จะค้นหาแม้จะเป็นดวงตาซ้ายของเขา
“เราต้องเข้าไปลึกกว่านี้” จ้าวเฟิงนำทาง
บางครั้ง เขาจะกระโดดขึ้นไปบนต้นไม้และสำรวจบริเวณโดยรอบของพวกเขา
ทันใดนั้น
ห่างออกไป 30 ลี้ ปรากฏควันสีรุ่งขึ้นซึ่งดึงดูดความสนใจของเขา
“มีสัญญาณฉุกเฉินจากกลุ่มอื่น!” จ้าวหยูเฟ่ยอุทาน
ไปช่วยเหลือ!
จ้าวเฟิงเป็นคนแรกที่พุ่งตรงไปยังทิศนั้น ทว่าสีหน้าของเขาพลันแปรเปลี่ยนไปเมื่อเขาเปิดดวงตาซ้าย กลุ่มที่ตกอยู่ในอันตรายนั้นคือกลุ่มของลู่เซียวเหลียน เด็กหนุ่มเจ็ดแปดคนจากกองพันองครักษ์ฟ้าถูกล้อมกรอบโดยกลุ่มโจรราวๆ 15 คน
มีโจรสวมชุดดำสองคนที่มีพลังขั้นเสมือนจอมยุทธ์ ผู้ฝึกตนขั้นสาม 3 คน ส่วนที่เหลือเป็นผู้ฝึกตนขั้นสี่และขั้นห้า
ในตอนนั้น ทั้งสองฝั่งได้เข้าต่อสู้กัน ทว่าเหล่าเด็กหนุ่มนั้นไม่อาจฝ่าวงล้อมออกไปได้ โชคดีที่กลุ่มคนสี่คนที่อยู่ใกล้ๆ ได้เร่งรุดไปช่วยพวกเขา สร้างความหวังเล็กๆ ให้
ฟุ่บ! ฟุ่บ! ฟุ่บ!
แต่ในตอนนั้นเอง โจรนักธนูสามสี่คนที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าก็ได้ยิงธนูของพวกมันออก
อ๊ากกก!
สมาชิกกองพันองครักษ์ฟ้าบางส่วนบาดเจ็บ
หมัดเมฆาคล้อย!
ลู่เซียวเหลียนบังคับให้เหล่าโจรล่าถอยด้วยวิชาระดับสุดยอดของเขาซึ่งถูกฝึกจนเข้าขั้นสุดยอด ทว่าเขาไม่อาจฆ่าพวกมันได้เมื่อหนึ่งในผู้ฝึกตนขั้นเสมือนจอมยุทธ์คนหนึ่งทำให้มือไม้ของเขาปั่นป่วน
“หัวหน้า! มีเด็กเหลือขออีกสามคนกำลังมา!” นักธนูที่ซ่อนตัวอยู่ในป่าบอกร่างในชุดสีดำทั้งสอง
สามคนที่กำลังมานั้นคือกลุ่มของจ้าวเฟิง
เด็กหนุ่มมองผ่านดวงตาซ้ายก่อนจะคำนวณเส้นทางที่ตรงที่สุดก่อนจะค่อยๆ เข้าใกล้ เมื่อเขาอยู่ในระยะ 100 หลา จ้าวเฟิงก็พลันหยุดเท้าก่อนจะนำธนูของเขาออกมา
ฟุ่บ ฟุ่บ ฟุ่บ
จ้าวเฟิงรั้งสายธนูติดๆ กันและยิงนักธนูที่ซ่อนอยู่ในป่าได้อย่างสมบูรณ์แบบ สร้างเวลาให้กับกลุ่มของลู่เซียวเหลียนสองสามลมหายใจ
ฆ่า!
เหล่าโจรและเด็กหนุ่มเข้าต่อสู้กัน ด้วยจ้าวเฟิงและกลุ่มอื่นที่เข้าร่วม ฝั่งของกองพันองครักษ์ฟ้าจึงได้เปรียบขึ้นอย่างช้าๆ เหล่าเด็กหนุ่มสาวต่างฮึกเหิมขึ้นตามเวลาที่ผ่านพ้นไป
“กลุ่มเด็กเหลือขอ! ทั้งหมดหยุด!” น้ำเสียงดเย็นลึกดังขึ้นจากภายในป่า
ฟุ่บ!
แรงกดดันอย่างหนักพุ่งออกมาจากด้านหนึ่งของป่าซึ่งทำให้หัวใจของเหล่าเด็กหนุ่มสาวกระตุก เจ้าของเสียงนั้นเป็นชายตาเดียวที่สวมชุดคลุมสีดำ
“ไม่ดีแล้ว มันเป็นจอมยุทธ์!” ใบหน้าของลู่เซียวเหลียนแปรเปลี่ยนเป็นขาวซีดในขณะที่หัวใจสั่นสะท้าน
ผู้ที่มานั้นเป็นหัวหน้าของเหล่าโจร
“เจ้าเด็กเหลือขอ! ตาย…” ชายตาเดียวพุ่งทะยานเข้าหา กลิ่นอายของเขาทำให้เหล่าเด็กหนุ่มสาวไม่อาจหายใจได้
ฝ่ามือทลายวายุ!
ฝ่ามือนั้นมุ่งตรงไปยังร่างของลู่เซียวเหลียนพร้อมด้วยเสียงที่ดังราวฟ้าผ่า
“ทุกคน ป้องกัน!” ลู่เซียวเหลียนตวาดขณะที่เขารวมพลังกับลีจีเวินเพื่อป้องกันการโจมตีของอีกฝ่าย
เปรี้ยง!
แรงระเบิดสร้างคลื่นอากาศที่ผลักทุกสิ่งที่ขวางทางให้กระเด็นลอยออกไป รวมทั้งร่างของลีจีเวินและลู่เซียวเหลียนที่ถูกส่งลอยออกไป 7-8 เมตร
พรวด!
ทั้งสองที่รับการโจมตีตรงๆ ต่างกระอักเลือดคำโต พวกเขานั้นเป็นอันดับห้าและอันดับเจ็ดในสิบองครักษ์ฟ้า และความแข็งแกร่งของเขานั้นอยู่ที่ราวๆ ขั้นเสมือนจอมยุทธ์ ทว่าแม้จะเป็นพลังของขั้นเสมือนจอมยุทธ์สองคน และความช่วยเหลือจากผู้ฝึกตนขั้นหกอีกจำนวนมาก ก็ไม่อาจรับมือได้แม้แต่กระบวนท่าเดียว
“จ้าวเฟิง ลู่เฉิน! มาช่วยเร็ว!” ลู่เซียวเหลียนตะโกนขอความช่วยเหลือจากจ้าวเฟิงและหัวหน้าของอีกกลุ่ม
กลุ่มกลุ่มหนึ่งนั้นจะถูกนำด้วยหนึ่งในสิบองครักษ์ฟ้าอย่างน้อยหนึ่งคน และในครานี้ลู่เฉิน รวมกับจ้าวเฟิง ห้าในสิบของสิบองครักษ์ฟ้าปรากฏตัวอยู่
ผึง
จ้าวเฟิงรั้งสายธนูจากที่ไกลๆ และส่งพลังภายในลงไปในนั้น พลังของธนูนั้นกระทั่งคุกคามชีวิตของผู้ฝึกตนขั้นเสมือนจอมยุทธ์ได้
เพลงดาบลมมายา!
หัวหน้ากลุ่มอีกคนใช้วิชาระดับสูงขั้นหลอมรวมของเขาออกและโจนตีจากด้านหลัง
หมัดสลายเมฆา!
ลู่เซียวเหลียนพลันใช้วิชาหมัดของเขาออก ในขณะที่ลีจีเวินข้างๆ ใช้ดาบ
การโจมตีของยอดอัจฉริยะทั้งห้าได้ไปถึงยังร่างของชายตาเดียว
“อัจฉริยะเหล่านี้มาจากที่ใดกัน?” ชายตาเดียวอุทาน และขณะเดียวกันเขาก็ได้โคจรพลังภายในที่เกรี้ยวกราดของเขา
เปาะ!
ลูกศรของจ้าวเฟิงหักครึ่ง
เคร้ง เคร้ง เคร้ง
การโจมตีทั้งหมดถูกป้องกัน และพวกเขาก็ถูกส่งลอยออกไปอีกครั้ง
“พลังอันใดกัน!”
จ้าวเฟิงตะลึงไม่น้อย
จอมยุทธ์นั้นสามารถปลดปล่อยพลังภายในออกและโจมตีจากระยะไกลได้ หากมีผู้ใดในนั้นที่เผชิญหน้ากับมันเพียงคนเดียว พวกเขาย่อมสูญเสียชีวิตไปในสองกระบวนท่า
ครานี้ทั้งลู่เซียวเหลียนและลีจีเวินต่างได้รับบาดเจ็บเล็กๆ พลังภายในของจอมยุทธ์ขั้นเจ็ดนั้นราวฟ้าผ่าและสามารถเปลี่ยนร่างของผู้ฝึกตนขั้นสี่ขั้นห้าให้กลายเป็นฝุ่นได้
มีเพียงจ้าวเฟิงที่ไม่จำเป็นต้องสู่ในระยะประชิดขณะที่เขารั้งสายธนูของเขาซ้ำๆ และศรทุกๆ ดอกนั้นได้พุ่งตรงไปยังช่องว่างเล็กๆ ของชายตาเดียว
การที่จ้าวเฟิงโจมตีอย่างเต็มที่ผ่านธนูของเขานั้นคุกคามการเคลื่อนไหวของโจรตาเดียว
“ไอ้เด็กเวร! ดูเหมือนว่าคนที่ฆ่าคนของข้าในหุบเขานั่นจะเป็นเจ้า…” ชายตาเดียวพลันหมุนตัวพร้อมกับความต้องการฆ่าข้นคลั่กในแววตา
“เป็นข้าแล้วอย่างไร?” จ้าวเฟิงหัวเราะเย็นชา
“ฆ่า!”
โจรร่างใหญ่ไม่สนใจการโจมตีจากเด็กหนุ่มคนอื่นๆ และมุ่งหน้าตรงไปยังจ้าวเฟิง เด็กหนุ่มตระกูลจ้าวสะดุ้งอย่างผวาก่อนจะใช้วิชานภาลอยล่องเพื่อหลบหนีในทันที
“อย่าหนี!”
ชายตาเดียวยังคงเข้าใกล้ขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าเขาเป็นจอมยุทธ์ ดังนั้นแล้วเขาจึงเร็วกว่า
“ฝ่ามือทลายภูผา…”
ฝ่ามือของจอมยุทธ์พุ่งผ่านอากาศและมุ่งตรงไปยังร่างของเด็กหนุ่ม หากเป็นผู้ฝึกตนคนอื่นที่อยู่ในขั้นเดียวกัน เพียงแค่พลังภายในอย่างเดียวก็อาจฆ่าพวกเขาได้ ทว่าจ้าวเฟิงนั้นไม่ใช่ธรรมดา
ฝ่ามือลมลี้ลับ!
เด็กหนุ่มพลิกตัวกลางอากาศ ในสมองปรากฏภาพฝ่ามือของเด็กสาวขึ้น จากนั้นเขาจึงสูดลมหายใจลึกพร้อมกับที่แสงสีครามปรากฏขึ้นในอุ้งมือของเขา จากนั้นทั้งสองจึงเข้าปะทะกันอย่างรุนแรง