Skip to content

King of Gods 904

King Of Gods

บทที่ 904 ยอมศิโรราบ

ในวันนี้ ณ สำนักศักดิ์สิทธิ์วั่น

ผู้อาวุโสสูงสุดเฒ่าประหลาดสวีที่ปิดด่านนับร้อยปีออกจากแดนต้องห้าม การกระทำนี้ทำให้อีกสองจักรพรรดิตื่นตระหนกกันยกใหญ่ หากแต่ยังมิทันได้ถามอะไร เฒ่าประหลาดสวีก็บินจากไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อได้ยินข่าวว่าเจ้าลัทธิมารเก้านิรยปะทะกับจ้าวเฟิง เฒ่าประหลาดสวีก็นั่งไม่ติดแล้ว

“หวังว่าจ้าวเฟิงยังจะมีชีวิตอยู่!” แววตาของเฒ่าประหลาดสวีร้อนรน แต่จริงๆ แล้วเขาร้อนใจวารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนที่อยู่ในมือของจ้าวเฟิงเสียมากกว่า

ความแข็งแกร่งที่แสนลึกลับของจ้าวเฟิง ตัวเขาก็เคยสัมผัสมาแล้ว แต่กับเซียนเทวาเร้นลับก็ยังนับว่าห่างกันราวฟ้ากับเหว เขาจะเอาชนะได้อย่างไร?

เฒ่าประหลาดสวีในขณะนี้ทำได้เพียงแต่หวังว่าพลังของจ้าวเฟิงจะพัฒนาขึ้นในระยะนี้ และสามารถยืนหยัดได้ต่ออีกสักระยะ

“ไปหาหนานเฟิงอ๋องที่จวนอ๋องโหวก่อน ไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่มีหวังจะชนะ!” เฒ่าประหลาดสวีวางแผนไว้ในใจ

หนึ่ง เจ้าลัทธิมารเก้านิรยไม่กล้าลงมือกับหนานเฟิงอ๋อง เพราะเบื้องหลังของหนานเฟิงอ๋องคือเหล่าเชื้อพระวงศ์แห่งราชวงศ์ต้าเฉียน

สอง หากตนเองรวมพลังกับหนานเฟิงอ๋อง มีระดับปฐมเซียนถึงสองคน แถมยังรวมจ้าวเฟิงอีกคน ก็น่าจะต่อกรขั้นเซียนได้

ขอเพียงช่วยจ้าวเฟิงได้ แล้วก็ให้สัญญาอะไรอีกสักเล็กน้อย เห็นแก่ว่าเคยอยู่สำนักเดียวกันมาก่อน เฒ่าประหลาดสวีเชื่อว่าอย่างไรเสียจ้าวเฟิงก็จะไม่ปฏิเสธตนอย่างแน่นอน

“เอ๋? นั่นคือเจ้าลัทธิมารเก้านิรยรึ?” เฒ่าประหลาดสวีรู้สึกแปลกใจ พลังมหาศาลที่ปกคลุมทั่วทั้งผืนฟ้าและปฐพี ทำเอาปราณที่แท้จริงภายในร่างกายเขาสั่นไหว

เจ้าลัทธิมารเก้านิรยไม่ใช่ว่าไล่สังหารจ้างเฟิงอยู่หรอกรึ? เหตุใดจึงมาอยู่ที่นี่ได้?

จ้าวเฟิงล่ะ? รึว่าโดนสังหารไปเสียแล้ว?

ชั่วขณะนั้น ในใจของเฒ่าประหลาดสวีสับสนวุ่นวาย

“ไม่ดีแล้ว!” เฒ่าประหลาดสวีกำลังจะอ้าปากพูดบางอย่าง สีหน้าหวาดวิตก เขากัดนิ้วของตัวเองจนเกิดบาดแผล ใช้เลือดสดวาดอักขระขึ้นกลางอากาศ จากนั้นร่างกายก็แปรเปลี่ยนเป็นกลุ่มแสงสีแดงเลือด ก่อนจะระเบิดออกแล้วเลือนหายไปในทันที

ครืน!

แสงทองปลายแหลมน่าสะพรึงกลัวผสานกับวายุคลั่งอยู่ด้านหลัง เสียงโลหะเสียดหูดังก้องกลบทุกสิ่ง ราวเสียงปะทะกันของทวนทองและอาชาเหล็ก เป็นเสียงเดียวที่ดังก้องไปทั่วปฐพี

ฉึก ฉึก ฉึก!

สิ่งมีชีวิตทั้งหมดด้านล่างถูกพายุคลั่งเข้ากวาดฉีกทึ้งจนกลายเป็นฝุ่นธุลี

โครม!

เฒ่าประหลาดสวีที่หนีออกมาได้หลายหมื่นลี้ ยังไม่วายโดนเศษเสี้ยวแรงลมที่เหลือซัดลงกับพื้นอย่างแรง

ครั้นเฒ่าประหลาดสวีกระโดดออกมาได้แล้ว ก็ยืนมึนงงมองไปข้างหน้า ในหัวว่างเปล่า สูญเสียสติสัมปชัญญะไปชั่วขณะ

ไกลออกไปนับหมื่นลี้มีหลุมยักษ์ขนาดใหญ่ ลึกหลายสิบจั้ง!

ผิวนอกของหลุมลึกมีรอยกรีดเล็กๆ นับพันนับหมื่นรอยกระจายอยู่ทั่ว และมีพลังคมแหลมสีทองสาดกระจายออกมา

นี่เป็นสภาพของใจกลางการระเบิดในอากาศ

ในรัศมีหลายหมื่นลี้ยากยิ่งนักที่จะหากลิ่นอายของเจ้าลัทธิมารเก้านิรยพบ!

“เจ้าลัทธิมารเก้านิรย ไม่ใช่ว่าตามไล่สังหารจ้าวเฟิงอยู่หรอกรึ? เหตุใดจึงกลายเป็นเช่นนี้?” เฒ่าประหลาดพึมพำอย่างเหม่อลอย

“หรือว่านี่จะเป็นพลังของอาวุธเทพชั้นรองศรสังหารเทพ!” เฒ่าประหลาดสวีนึกย้อนความถึงเงาแสงธนูเทพด้านหลังเจ้าลัทธิมารเมื่อครู่ ก่อนเงยหน้าขึ้นอีกครั้ง ใจหล่นวูบ

ไม่นึกไม่ฝันเลยว่าจ้าวเฟิงจะได้อาวุธเทพชั้นรองชิ้นนี้ตอนอยู่ที่คฤหาสน์ลับเทพบรรพกาล!

อาวุธเทพชั้นรอง คืออาวุธที่ครึ่งเทพเท่านั้นจึงจะสามารถควบคุมได้อย่างสมบูรณ์ อาวุธเทพชั้นรองอย่างศรสังหารเทพเป็นประเภทใช้ได้ครั้งเดียว อานุภาพที่ระเบิดออกมาในชั่วพริบตา ไม่ใช่สิ่งที่อาวุธเทพชั้นรองธรรมดาจะเทียบได้ ถึงแม้เป็นครึ่งเทพก็ทำได้แค่เพียงหลบหลีกเท่านั้น

เสียงหวีดหวิวของลมเมฆบนพื้นดิน ส่งผลกระทบถึงเซียนเทวาเร้นลับที่ฟ้าดินฟากหนึ่ง เมื่อเห็นร่างของเซียนเทวาเร้นลับกลายเป็นจุณด้วยน้ำมือราชันปราณเทวะช่วงกลางอยู่ข้างตน เฒ่าประหลาดสวีเองยังไม่อยากจะเชื่อ

คิดได้ถึงตรงนี้ เฒ่าประหลาดนึกกลัวในภายหลังขึ้นมา เหงื่อซึมเต็มแผ่นหลัง

หากเมื่อครู่ตนช้ากว่านั้นเพียงแค่ครึ่งจังหวะ หากตนไม่มีเคล็ดวิชาหลบหนี หากหนีไปผิดทิศทางเพียงนิดเดียว เกรงว่าคงจะดับเป็นเถ้าธุลีแล้วเป็นแน่

“จ้าวเฟิง!” เฒ่าประหลาดสวีดึงสติออกจากภวังค์ได้ พลันรีบออกบินทันใด

เมื่อตามรอยกลิ่นอายพลังทองของศรสังหารเทพไปเรื่อยๆ เฒ่าประหลาดสวีหาตัวจ้าวเฟิงเจออย่างรวดเร็ว

จ้าวเฟิงในตอนนี้ร่างกายผอมแห้ง ใบหน้าซีดขาว มุมปากยังมีเลือดรินไหล นั่งขัดสมาธิอยู่กลางซากหลุม

เฒ่าประหลาดสวีชะงักฝีเท้า ดวงตากลอกไปมา จ้าวเฟิงเพิ่งสู้ศึกใหญ่กับเซียน อีกทั้งยังใช้ศรสังหารเทพจนเกินกำลัง ในตอนนี้จะต้องอ่อนแอเป็นอย่างมาก คงไม่มีทางขัดขืนได้

เขาเป็นผู้ได้รับผลประโยชน์มากที่สุดในมิติเทพลวงตา เป็นหนึ่งในผู้มีชัยสูงสุดแห่งคฤหาสน์ลับเทพบรรพกาล มีความลับมากมายซ่อนอยู่

หากลงมือในตอนนี้…

แววตาของเฒ่าประหลาดสวีนิ่งลึก มือขวาสั่นเทาน้อยๆ ขณะตัดสินใจไม่ได้

สุดท้ายแล้ว เฒ่าประหลาดสวีก็ถอนหายใจยาว รีบรุดก้าวไปหาจ้าวเฟิง

“สหายน้อยจ้าว เจ้าเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ช่วยคุ้มครองข้าที ข้าต้องรักษาตัว!” ริมฝีปากของจ้าวเฟิงสั่นระริก ในมือปรากฏผลึกเริ่มต้นระดับสุดยอดส่วนหนึ่ง ก่อนจะบีบแตกในชั่วพริบตา ไอสวรรค์ในฟ้าดินที่บริสุทธิ์หลั่งไหลเข้าสู่มิติปราณที่แท้จริง

ก่อนอื่น จ้าวเฟิงแปรเปลี่ยนไอสวรรค์ในฟ้าดินเหล่านี้เป็นวายุอัสนีธาตุน้ำ พลังฟื้นฟูที่ทรงพลังของวายุอัสนีธาตุน้ำสามารถรักษาบาดแผลตามร่างกายได้อย่างรวดเร็วยิ่ง

จากนั้นก็เปลี่ยนวายุอัสนีธาตุน้ำส่วนหนึ่งให้เป็นวายุอัสนีธาตุไม้ แล้วใช้ร่วมกับวายุอัสนีธาตุน้ำอีกทีเพื่อรักษาและให้ความชุ่มชื้น

กล่าวได้ว่าศรสังหารเทพดูดกลืนพลังของจ้าวเฟิงไปจนสิ้น หากไม่รักษาให้ทันท่วงที ก็จะกลายเป็นปัญหาเรื้อรังในภายภาคหน้า

อีกทั้งตาซ้ายของจ้าวเฟิงก็เห็นการมาเยือนของเฒ่าประหลาดสวีนานแล้ว

จ้าวเฟิงรอคอยการมาเยือนของเขาอยู่พอดี

เฒ่าประหลาดสวีตกใจ แววตาของจ้าวเฟิงยังนิ่งเรียบราวน้ำ ถึงแม้จะได้รับบาดเจ็บหนักขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังคงความสงบเยือกเย็นเอาไว้ได้ ไม่เกรงกลัวว่าเขาจะถือโอกาสลงมือเลย

“ได้!” เฒ่าประหลาดสวีรับคำ จากนั้นพลังระดับปฐมเซียนมหาศาลก็แผ่กระจายออก สะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่ว แต่กลับไม่มีผลใดกับจ้าวเฟิง

จ้าวเฟิงที่อยู่ท่ามกลางหมอกปกคลุมมาตลอด ทำให้เฒ่าประหลาดสวีมองไม่อออก ไม่กล้าลงมือ หรือจะพูดให้ถูกคือไม่กล้าวางเดิมพัน

ไม่กล้าเดิมพันว่าจ้าวเฟิงในตอนนี้แกล้งแสดงว่าตนทรงพลัง หรือมีแผนอะไรไว้แล้ว

หากเขาไม่ได้วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน ภายในสามปีนี้ความตายต้องมาเยือนเขาเป็นแน่

แต่ความตายของเจ้าลัทธิมารเก้านิรยยังคงหลอกหลอนอยู่ลึกในใจเขา!

ความเป็นความตายอยู่ในชั่วขณะเท่านั้น

เฒ่าประหลาดสวีเลือกที่จะร่วมมือ!

มุมปากของจ้าวเฟิงที่นั่งขัดสมาธิรักษาตัวอยู่ปรากฏรอยยิ้มขึ้น

นี่เป็นการทดสอบเฒ่าประหลาดสวีของเขา หากเฒ่าประหลาดสวีฉวยโอกาสลงมือในขณะนี้ เรื่องวารีศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นอันยกเลิก

อีกทั้งเทพราตรีทมิฬและแมวขโมยน้อยที่ซ่อนอยู่ในเงามืดไม่มีทางปล่อยให้เฒ่าประหลาดสวีมีโอกาสลงมืออย่างแน่นอน

จ้าวเฟิงโคจรวายุอัสนีธาตุน้ำทันที วายุอัสนีธาตุไม้สอดประสานเหนือผิวกายเขา ร่างกายและพลังชีวิตฟื้นฟูอย่างรวดเร็ว

จากนั้นจ้าวเฟิงดื่มน้ำผึ้งไป่หยวนบางส่วนและกินกลีบสีเขียวครามของบัวฟ้าวารีคราม

สิ่งที่ทำให้เขาตื่นเต้นยินดีก็คือ กายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์พลันสามารถทะลุผ่านขั้นห้าได้ขณะร่างกายและชีวิตถูกชำระล้างจนบริสุทธิ์เมื่อครู่ เพียงแค่จ้าวเฟิงดื่มวารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวน ก็จะพุ่งทะลุจนถึงขีดสูงสุดของขั้นห้า และปูพื้นฐานแข็งแกร่งไว้สำหรับกายสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์ขั้นหก

ตอนนี้พลังฝึกตนของเขาก็ใกล้ถึงขอบเขตปราณเทวะช่วงปลาย เพียงแค่กลับไปฝึกให้เสถียรอีกเล็กน้อย ก็สามารถทะลวงขอบเขตได้ทันที

แต่สิ่งที่ทำให้จ้าวเฟิงใจเต้นระรัวที่สุดคือ แสงวนตรงใจกลางทะเลสาบสีฟ้าในมิติดวงตาซ้ายไม่สงบราบเรียบเหมือนดังเก่า หนึ่งในนั้นส่องประกายประหลาดเป็นบางครั้ง ราวกับมันกำลังสะสมพลังอะไรอยู่ ในใจจ้าวเฟิงสัมผัสมันได้

เมื่อเห็นบาดแผลของจ้าวเฟิงฟื้นฟูได้อย่างรวดเร็ว อีกทั้งยังเพิ่มพลังขึ้นไปอีกขั้น เฒ่าประหลาดสวีรีบยิ้มบาง พลางพูดขึ้นว่า “สหายน้อยจ้าว ตัวข้ามาครั้งนี้ก็เพื่อขอโทษเรื่องเมื่อครั้งที่แล้ว ข้าทำบุญคุณของเจ้าเสียเปล่า…”

เฒ่าประหลาดสวีอึกๆ อักๆ เล็กน้อย เพราะอย่างไรเขาที่แก่ขนาดนี้ กลับต้องมาก้มหัวขอโทษเด็กหนุ่มอายุสิบกว่าๆ แถมอีกฝ่ายยังอยู่แค่ปราณเทวะช่วงกลาง

แต่เมื่อคิดถึงว่าขนาดเซียนเทวาเร้นลับยังโดนจ้าวเฟิงสังหารสิ้น ใจเขาก็สบายขึ้นเยอะ

เมื่อเห็นจ้าวเฟิงยังคงรักษาตัว ทำราวกับไม่ได้ยิน เฒ่าประหลาดสวีจึงรีบพูดต่อ

“ส่วนเรื่องที่สอง ข้ามาหาสหายน้อยจ้าวก็เพราะจะขอร้องให้มอบวารีศักดิ์สิทธิ์อีกสักส่วนหนึ่ง แล้วต่อจากนี้ไปหากเจ้ามีเรื่องอะไรที่ต้องการ ไม่ว่าจะเรื่องอะไร ข้าจะพยายามทำจนสุดกำลังโดยไม่ปริปากบ่น!”

“ไม่ต้องพูดอะไรแล้ว วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนล้ำค่ามากแค่ไหนคงไม่ต้องให้ข้าพูดอีก หากท่านยังอยากได้มันอีก เงื่อนไขเดียวก็คือเป็นข้ารับใช้ข้าร้อยปี ครบร้อยปีแล้วจะปล่อยให้เป็นอิสระ มิเช่นนั้นก็ไม่มีอะไรต้องพูดกันอีก!” จ้าวเฟิงกล่าวอย่างราบเรียบ น้ำเสียงยืนยันเด็ดเดี่ยว

สีหน้าของเฒ่าประหลาดสวีแข็งกระด้าง พลางตกเข้าสู่ภวังค์ความคิด

คุณค่าของวารีศักดิ์สิทธิ์สูงจนไม่อาจประเมินได้ การจะบรรลุขั้นเซียนให้สำเร็จตั้งแต่ครั้งแรกสูงถึงเจ็ดแปดส่วน ถึงแม้เฒ่าประหลาดสวีจะเสนอสมบัติที่มีอยู่ทั้งหมด ก็ไม่อาจแลกวารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนมาได้ในราชวงศ์ต้าเฉียน

อีกทั้งเมื่อรวมกับครั้งนี้ ก็จะเป็นวารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนถึงสองส่วนด้วยกัน

ทว่าการมีเซียนเทวาเร้นลับเป็นข้ารับใช้ มีเพียงองค์รัชทายาทแห่งต้าเฉียนเท่านั้นจึงจะได้สิทธิพิเศษนี้ จ้าวเฟิงผู้นี้มีคุณสมบัติอะไร..

‘ไม่สิ จ้าวเฟิงสำเร็จถึงขอบเขตปราณเทวะช่วงกลางตั้งแต่ยังหนุ่ม มีกำลังรบระดับปฐมเซียน อีกทั้งยังมีทรัพยากรล้ำค่าต่างๆ จากมิติเทพลวงตา กระทั่งมีอาวุธเทพชั้นรอง การจะบรรลุขั้นเซียนในอนาคตไม่เป็นปัญหาอย่างแน่นอน หรืออาจจะไปถึงขั้นที่สูงกว่านั้น ไม่อาจคาดเดาได้เลย!’ ความคิดของเฒ่าประหลาดสวีขยับไหว ไม่คาดคิดว่าจ้าวเฟิงจะเสนอเงื่อนไขเช่นนี้มา

“คนที่อยากได้วารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนมีมากมายนัก อีกทั้งอัตราการทะลวงถึงขั้นเซียนเทวาเร้นลับและศักยภาพในภายภาคหน้าของพวกเขาก็เป็นสิ่งที่ท่านไม่อาจเทียบได้!” จ้าวเฟิงเอ่ยเตือนอีกก่อนจะลุกยืนขึ้น

ประกายเส้นสีเงินปรากฏวาบ แมวขโมยน้อยเกาะอยู่บนไหล่ของจ้าวเฟิง พยักหน้าให้กับเฒ่าประหลาดสวีราวกับจะโน้มน้าวให้รีบตกลงโดยเร็ว

ร่างเงามืดสายหนึ่งที่ปรากฏเบื้องหลังเฒ่าประหลาดสวี เคลื่อนมาอยู่ข้างกายจ้าวเฟิง จากนั้นก็ถูกกลุ่มหมอกขาวล้อมรอบเอาไว้แล้วหายเข้าไปในมนตราอากาศ

เฒ่าประหลาดสวีที่กำลังสองจิตสองใจมีเหงื่อซึมเต็มกลางหลังทันที นั่นไม่ใช่เทพราตรีทมิฬหรอกรึ? มือสังหารอันดับที่ยี่สิบห้าแห่งมุมมืดทมิฬ ซ้ำยังมีบันทึกว่าเคยร่วมลอบสังหารเซียน

แล้วยังมีแมวขโมยที่คอยตามจ้าวเฟิงเหมือนเงานั่นอีก!

พวกนี้ล้วนแอบซ่อนตัวอยู่รอบกายโดยที่เขาไม่รู้ตัวเลย

และดูเหมือนว่าเทพราตรีทมิฬจะสวามิภักดิ์กับจ้าวเฟิงเพื่อวารีศักดิ์สิทธิ์ไป่หยวนแล้ว!

ครั้นเห็นจ้าวเฟิงกำลังจะจากไป เฒ่าประหลาดสวีกัดฟันกรอด ก่อนรีบเอ่ยขึ้น “สหายน้อยจ้าว เจ้าอย่าเพิ่งไป ข้ายินดี ขอเพียงเจ้าให้วารีศักดิ์สิทธิ์กับข้าอีกครั้ง เป็นข้ารับใช้เจ้าไปอีกร้อยปีแล้วอย่างไร!”

เฒ่าประหลาดสวีทุ่มสุดตัว ถึงแม้เขาจะก้าวเข้าสู่ขั้นเซียนแล้วครึ่งก้าว แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะสำเร็จขอบเขตเทวาเร้นลับได้แน่นอน เพราะอายุขัยที่เหลือของเขาสั้นเหลือทน

หากไม่สำเร็จ แน่นอนว่าการเป็นข้ารับใช้ร้อยปีนี้ก็ไร้ซึ่งประโยชน์

“ดี ตามข้ามา!” ดวงตาของจ้าวเฟิงเป็นประกายวูบไหว เดินไปข้างหน้าพลางวางมือข้างหนึ่งไว้บนร่างของเฒ่าประหลาดสวี จากนั้นใช้มนตราอากาศส่งไปปลายทาง

การยอมเป็นบ่าวเรื่องนี้จ้าวเฟิงไม่เชื่อเพียงลมปากสัญญา จะต้องประทับ ‘ตราผนึกดวงใจทมิฬ’ ลงไป หากแต่เจตจำนงดวงตาของจ้าวเฟิงในขณะนี้ยังไม่ฟื้นฟู จึงทำได้เพียงแค่นำตัวไปด้วย

เมื่อถูกหมอกขาวล้อมเอาไว้ เฒ่าประหลาดสวีรู้สึกเพียงอากาศรอบกายไหวกระเพื่อมอย่างประหลาด พริบตาเดียวเขาก็มาอยู่ที่จวนอ๋องโหวแล้ว

“การข้ามผ่านมิติ หรือว่านี่คือมนตราอากาศ?” เฒ่าประหลาดสวีตระหนกตกใจ

เขาเคยได้ยินมาว่าในมิติเทพลวงตามีอาวุธเทพชั้นรองชิ้นนี้อยู่ แต่คาดไม่ถึงว่ามันจะตกอยู่ในมือของจ้าวเฟิง มิน่าเล่า เมื่อครั้งที่แล้วจ้าวเฟิงจึงมายังสำนักศักดิ์สิทธิ์วั่นโดยไร้ซึ่งร่องรอยแบบนั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version