ตอนที่ 198 : อาศัยความพิเศษ
เพียงเสี้ยววินาที ผิวโลหะเงินพลันเกิดความเย็นเฉียบสุดขั้ว ถึงขั้นมีเกล็ดน้ำแข็งฉาบเกาะ
ไคลน์ยืนสั่นระริกเล็กน้อย แต่สมาธิอันแน่วแน่ช่วยสยบความหวาดกลัวเจือสับสน พลังวิญญาณไหลซึมเข้าไปในแผ่นยันต์เงินพร้อมกับการใช้ปลายนิ้วตวัดออกจากกระเป๋าพุ่งลงพื้น
เปลวเพลิงแดงเข้มลอยฟุ้งในอากาศผสมผสานเสียงระเบิดดังกังวานไพเราะ บรรยากาศสุขสงบลุ่มลึกเริ่มแพร่กระจายถ้วนทั่วห้องนอนมาดามเชอรอนรวมถึงร่างของเธอข้างกระจกเงาเต็มบาน
แน่นอน ไคลน์และโคเฮนรีก็โดนด้วย
ยันต์หลับใหลไม่เคยแยกแยะมิตรศัตรู ฉะนั้นในยามปกติเหยี่ยวราตรีมักเล็งขว้างให้ใกล้ศัตรูและไกลมิตรมากเข้าไว้
แถมวิธีดังกล่าวยังช่วยให้ตัวผู้ขว้างไม่ถูกผลหลับใหลสะลึมสะลือเล่นงาน อย่างมากก็ได้รับคลื่นกระแทกแรงระเบิดเล็กน้อย
แต่ไคลน์ไม่มีทางเลือกมากนักในสถานการณ์ปัจจุบัน ต้องตัดสินใจแลกตาต่อตาฟันต่อฟัน ปล่อยให้ผลหลับใหลเล่นงานทุกคนในห้องอย่างมิอาจเลี่ยง
อย่างไรก็ตามมันเคยจินตนาการภาพเช่นนี้ในหัวบ่อยครั้ง และทราบดีว่าจะเกิดผลลัพธ์แบบใดตามมา
สาเหตุทำให้ไคลน์ไม่เกรงกลัว เพราะร่างกายของมันพิเศษแตกต่างไปจากผู้วิเศษลำดับต่ำคนอื่น
ภายในเวลาอันสั้นเปลือกตาไคลน์ปิดสนิทเป็นสัญญาณการเข้าสู่ภาวะหลับใหล ทางด้านมาดามเชอรอนและโคเฮนรีก็เริ่มออกอาการโงนเงน
ชายหนุ่มตระหนักทันทีว่าตนกำลังอยู่ในภวังค์ความฝัน
นับตั้งแต่เดินทางข้ามโลกหากมีเหตุการณ์เกี่ยวกับความฝันหรือการสะกดจิต ไคลน์จะยังรักษาสติไว้แน่วแน่เสมอ
มันเริ่มค้นพบความพิเศษของตัวเองหลังจากถูกดันน์·สมิทบุกรุกความฝันหนแรกรวมถึงพิธีกรรมสื่อวิญญาณของมาดามดาลีย์ภายในบ้านเวิร์ช
เพล้ง!
ไคลน์ฝืนทำลายมโนภาพตรงหน้าพร้อมกับลืมตาตื่นก่อนใคร ขณะเดียวกันก็สัมผัสได้ว่าแขนขามิได้ถูกเส้นด้ายโปร่งแสงพันธนาการแน่นขนัดเหมือนตอนแรก
ใบหน้าเชอรอนกำลังเหม่อลอยเพราะถูกผลยันต์หลับใหลเล่นงานในระยะประชิด อาจปรากฏสัญญาณการดิ้นรนขัดขืนให้เห็น แต่ก็ไม่สามารถหลุดพ้นความฝันโดยสมบูรณ์
ด้านโคเฮนรีกำลังนอนหมอบไปกับพื้นในลักษณะหมดสติ กระจกผู้สื่อวิญญาณคว่ำลง ส่วนปืนพกกระเด็นไปทางประตูห้อง
โอกาสทอง!
ไคลน์อาศัยขณะเส้นด้ายโปร่งใสคลายตัว ล้วงมือซ้ายจากกระเป๋าพลางดีดนิ้วจนเกิดประกายไฟสีน้ำเงินเจือจาง จากนั้นก็ใช้เปลวเพลิงดังกล่าวแผดเผาด้ายบัดซบรอบตัวจนกลายเป็นผงขี้เถ้า
ถัดมาเป็นการหยิบลูกโม่ด้วยมือขวาพร้อมกับกระหน่ำลั่นไกปืนต่อเนื่อง
ปังๆ!
กระสุนปราบมารสีเงินสองนัดพุ่งผ่านลำกล้องปืนแหวกอากาศไปยังทิศทางเชอรอน
ไคลน์ไม่รอยืนยันผลลัพธ์ มันรีบงอเข่าลงพลางเกร็งเอวก่อนกระโจนไปทางโคเฮนรีและฉีกทำลายด้ายโปร่งใสไปพร้อมกัน
กระสุนสองนัดเมื่อครู่ไว้สำหรับเตือนดันน์ว่าเหตุการณ์ภายในบ้านไม่ชอบมาพากลและพวกตนต้องการกำลังเสริม แน่นอน หากมาดามเชอรอนถูกสังหารก็จะเป็นผลพลอยได้ในอุดมคติ
อย่างไรก็ตาม ไคลน์ไม่กล้าคาดหวังขนาดนั้นในเมื่ออีกฝ่ายเป็นถึงผู้วิเศษลำดับ 7 หรือไม่ก็ 6
เปลวเพลิงสีฟ้าซึ่งกำลังลุกลามไปตามใยแมงมุมระโยงระยางโปร่งใส
ท่ามกลางฉากงดงามดังกล่าว กระสุนปราบมารสองนัดฝังเข้าไปในร่างมาดามเชอรอนโดยไม่พลาดเป้า
เพล้งๆ!
ร่างมาดามเชอรอนในชุดราตรีสีดำแตกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย ภาพจันทร์แดงเลือดนกจากริมหน้าต่างส่องสะท้อนบนผิวเศษกระจกจนเกิดประกายระยิบระยับ
ขณะเดียวกัน กระจกเงาบานใหญ่ด้านข้างก็มีชะตากรรมไม่ต่าง เศษกระจกจำนวนมากร่วงกราวบนพื้นโดยแต่ละชิ้นมีขนาดเพียงนิ้วโป้งมนุษย์ บางส่วนยังคงค้างคาอยู่บนกรอบหรูหราสลักลวดลายวิจิตร
แต่เรื่องน่าประหลาดก็คือเศษกระจกทุกชิ้นแตกหักในลักษณะคล้ายฝ่ามือรูปทรงประหลาดไม่เหมือนกับมนุษย์
‘ร่างปลอม? เส้นทางแม่มดมีพลังสร้างร่างปลอม?’
ขณะยืนข้างร่างโคเฮนรี ไคลน์รีบกวาดสายตาสำรวจทั่วห้องอย่างละเอียด เนื่องจากเส้นด้ายปริศนาคล้ายใยแมงมุมถูกทำลายจนหมดสิ้น เปลวเพลิงสีฟ้าจึงเริ่มดับมอด
ขณะไคลน์กำลังประเมินว่าเชอรอนได้หลบหนีออกจากห้องนอนแล้ว ‘ผู้หลับใหล’ โคเฮนรีพลันตัวกระตุกพร้อมกับเลื่อนฝ่ามือสองข้างขึ้นมาบีบคอตัวเองแน่นขนัด ฟองน้ำลายเริ่มฟูมฟายจากมุมปาก แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าจะหยุดออกแรงบีบ
อย่างไรก็ตามเนตรวิญญาณของไคลน์กลับมิอาจตรวจพบความผิดปกติใดจากร่างกายโคเฮนรี
ทันใดนั้นคำอธิบายของ 3-0271 พลันแล่นเข้ามาในหัว
…สถานการณ์เลวร้ายอันดับหนึ่งก็คือ
เหยื่อเห็นภาพตัวเองในกระจก!
‘เพราะโคเฮนรีมองเห็น 3-0271 ผ่านกระจกเงาของมาดามเชอรอน?’
ชายหนุ่มลองคาดเดา ขณะเดียวกันก็รีบล้วงหยิบยันต์ออกจากกระเป๋าโดยไม่มีเวลาขบคิดให้มากความ
คราวนี้เป็นแผ่นเงินทรงสามเหลี่ยม ยันต์ปัดเป่าวิญญาณ
“แดงฉาน!”
ไคลน์เปล่งภาษาเฮอร์มิสโบราณชัดถ้อยชัดคำพร้อมกับถ่ายพลังวิญญาณเข้าไป
ยันต์ถูกโยนใส่ร่างโคเฮนรีซึ่งอีกไม่กี่อึดใจจะเสียชีวิตจากภาวะขาดอากาศถ้าปล่อยไว้โดยไม่ช่วยเหลือ
ถัดมาเป็นการใช้มือซ้ายคว้ากระจกผู้สื่อวิญญาณแน่นขนัด มุมสายตาชำเลืองมองให้มั่นใจว่ากระจกบัดซบบานนี้จะไม่ย้อนกลับมาทำร้ายตัวเอง
แผ่นยันต์สีเงินสามเหลี่ยมลุกโชนด้วยเปลวเพลิงสีฟ้าเย็นเฉียบ กลิ่นอายความมืดมิดเริ่มฟุ้งกระจายท่วมร่างไคลน์และโคเฮนรีด้วยบรรยากาศเงียบสงบ
อาการประหลาดเมื่อครู่หยุดลงในพริบตา โคเฮนรีเริ่มคลายฝ่ามือจากลำคอตัวเอง
จิตใจไคลน์สงบนิ่งราวกับกำลังยืนริมมุขหน้าต่างบ้านครอบครัวโมเร็ตติพลางดื่มด่ำบรรยากาศยามค่ำคืนใต้แสงจันทร์แดงสลัว
นี่คือจุดประสงค์แท้จริงของการใช้ยันต์ปัดเป่าวิญญาณ ภาวะเงียบสงบรอบตัวช่วยให้ชายหนุ่มรู้สึกคล้ายกับตนอาศัยตามลำพังบนโลกอันกว้างใหญ่
ด้วยสมาธิจดจ่อระดับสัมบูรณ์ นิมิตลางบอกเหตุพลันแสดงขึ้นภายในเศษเสี้ยวห้วงจิต
มาดามเชอรอนเล็งโจมตีสะโพกขวา!
สิ่งนี้คือนิมิตพิเศษหลังจากกลายร่างเป็นตัวตลกมีไว้สำหรับการต่อสู้โดยแท้จริง ไคลน์รีบยกกระจกผู้สื่อวิญญาณส่องไปทางขวาพร้อมกับกลิ้งหลบในทิศทางตรงข้าม
ในวินาทีที่ชายหนุ่มเริ่มขยับตัว มีดสั้นซึ่งลุกโชนด้วยเพลิงทมิฬพุ่งออกจากความว่างเปล่าเข้าใส่จุดเดิมของไคลน์
มาดามเชอรอนเผยตัวอีกครั้ง
หลังจากม้วนกลิ้งครบรอบ ด้านผิวกระจกถูกหงายส่องใส่ใบหน้าเชอรอนอย่างแม่นยำ
การเข้าใกล้โคเฮนรีมิได้มีเจตนาเพียงช่วยเหลือเพื่อนร่วมทีม แต่เป้าหมายหลักคือการหยิบสมบัติวิเศษ 3-0271 ขึ้นมาเล่นงานศัตรู
ไคลน์คิดวิธีอื่นนอกจากนี้ไม่ออกแล้วการรอคอยให้ดันน์·สมิทวิ่งขึ้นมาช่วยไม่ใช่ทางเลือกฉลาดนัก ขณะเดียวกันก็มิอาจทิ้งเพื่อนร่วมทีมหมดสติให้นอนเผชิญหน้าผู้วิเศษลำดับสูงกว่า 7 ตามลำพัง
ยังไม่ถึงเวลาใช้ยันต์เพลิงสุริยัน สิ่งนี้อาจส่งผลต่อมนุษย์ไม่มากก็น้อย แต่ไม่รุนแรงเท่าขณะใช้ใส่วิญญาณร้ายแน่นอน แถมอีกฝ่ายยังปราดเปรียวมาก การใช้ภายในห้องแคบจะมีผลลัพธ์ออกมาเพียงสองทางคือ ถ้าไม่โดนยันต์เล่นงานทั้งคู่ก็พลาดเป้าทั้งหมด
ในเวลาเดียวกันตนยังมีไพ่ตายซึ่งไม่แน่ใจว่าใช้ได้ผลหรือไม่อย่างนกหวีดทองแดงของมิสเตอร์อะซิก
ไคลน์ไม่กังวลสักเท่าไรว่าจะอธิบายเรื่องยันต์เพลิงสุริยันและนกหวีดลึกลับให้ดันน์ฟังในภายหลังอย่างไร
เอาไว้รอดชีวิตกลับไปก่อนค่อยคิดเรื่องนั้น!
อย่างไรก็ตาม สถานการณ์ดำเนินไปในทิศทางค่อนข้างราบรื่น มาดามเชอรอนเลือกลอบจู่โจมอย่างเงียบเชียบแทนการสู้ในระยะประชิด สิ่งนี้หมายถึงไคลน์มีโอกาสใช้งานได้ทั้งยันต์และกระจกสื่อวิญญาณอย่างอิสระ
นั่นจึงเป็นจุดเริ่มต้นของแผนใช้ยันต์ปัดเป่าวิญญาณเพื่อทำให้จิตใจสงบลง เมื่อสมาธิถูกเพ่งจนถึงขีดจำกัด นิมิตตัวตลกสามารถแสดงผลได้ชัดเจนพร้อมกับการใช้ 3-0271 ตอบโต้กลับไป
เมื่อเชอรอนตระหนักว่ามีดพลาดเป้า ปฏิกิริยาตอบสนองแรกจึงเป็นการพุ่งตามไปโจมตีซ้ำใส่เป้าหมาย แต่ขณะร่างกายเริ่มเคลื่อนไหว ภาพตรงหน้ากลับกลายเป็นบานกระจกเงาซึ่งมีรอยแตกสามจุด
ผิวราบเรียบของ 3-0271 กระเพื่อมด้วยพลังวิญญาณพร้อมกับปรากฏร่างหญิงสาวผมดำยาวกระเซอะกระเซิงปกปิดใบหน้า
ไคลน์มิอาจควบคุมมือซ้ายซึ่งกำลังสั่นระริกหนักหน่วงไว้ได้ ลงเอยด้วยบานกระจกหลุดมือกระเด็นไปด้านหน้าหลายสิบเซนติเมตรในลักษณะหงายขึ้น
ท่อนแขนยาวสีขาวซีดเซียวเหยียดออกจากกระจกผู้สื่อวิญญาณ ตามด้วยร่างหญิงสาวในชุดนอนสีขาวคล้ายผ้าปูเตียงกระโจนใส่มาดามเชอรอนระยะประชิด
สีหน้าเชอรอนพลันดำมืดนัยน์ตาน้ำตาลแวววาวเริ่มปรากฏความหม่นหมองเด่นชัด
ทันใดนั้นบอลเพลิงสีดำจำนวนเจ็ดลูกพลันปรากฏจากความว่างเปล่ารอบตัวหญิงสาวเส้นทางแม่มด
ตามด้วยเสียงบางสิ่งแหวกอากาศ
เพลิงทมิฬพุ่งกระแทกร่างสตรีชุดขาวจนเกิดเสียงระเบิดแน่นหนัก
หญิงสาวปริศนาถูกเพลิงสีดำครอกท่วมร่างพลางแหกปากกรีดร้องเจ็บปวดเพียงไม่นานก็สลายหายไปเหลือแค่ความว่างเปล่า
ซู่วๆๆ!
บอลเพลิงทมิฬลูกอื่นเริ่มพุ่งใส่ไคลน์ทีละนัดด้วยความเร็วไม่ต่างจากกระสุนปืน
นัยน์ตาชายหนุ่มหดเกร็ง มันรีบกลิ้งตัวหลบรวดเร็ว ไม่คิดเสี่ยงรับการโจมตีแปลกประหลาดเข้าไปซึ่งหน้า
อย่างไรก็ตาม ความคล่องแคล่วของไคลน์เริ่มลดลงจากปกติอย่างเห็นได้ชัด แขนขาถูกเส้นด้ายมองไม่เห็นรัดพันจนมิอาจเคลื่อนไหวได้ดังความคิด
ดูเหมือนพลังของมาดามเชอรอนจะเป็นของแสลงสำหรับตัวตลกมากทีเดียว
เพลิงทมิฬพุ่งเฉียดใบหน้าไคลน์ปะทะกับเตียงนอนหนานุ่มของเชอรอน แต่กลับไม่ปรากฏการลุกไหม้ให้เห็น ประหนึ่งสิ่งนี้มีไว้ทำลายดวงวิญญาณเป้าหมายโดยตรงเท่านั้น
ไคลน์ไม่ดีใจกับการหลบหลีกสำเร็จมากนัก เนื่องจากนิมิตลางสังหรณ์ใหม่ปรากฏในเวลาไล่เลี่ยโดยไม่ปล่อยให้พักหายใจ
ชายหนุ่มเกร็งเอวเพื่อเปลี่ยนจากท่าม้วนหน้าเป็นกลิ้งหลบไปด้านข้าง ในวินาทีดังกล่าว ผลึกน้ำแข็งแหลมยาวลักษณะคล้ายหอกพุ่งปักลงบนพรมหนาในจุดลงจอดเดิมก่อนไคลน์หักเหวิถี
พื้นห้องกลายเป็นไอความเย็นสีขาวแผ่ขยายกว้างจนถึงจุดยืนปัจจุบันของไคลน์
มันหลบหนีได้ไม่ถนัดนักเพราะถูกเส้นด้ายโปร่งใสคอยกีดขวาง
ร่างกายเริ่มสั่นระริกจากความเย็นเฉียบ ขณะเดียวกันก็แข็งทื่อจนยากขยับเขยื้อน
ถึงยังพอขยับได้บ้าง แต่ก็เป็นความเร็วอันเชื่องช้าชนิดมิอาจหลบหลีกสิ่งใดพ้น
บอลเพลิงทมิฬชุดใหม่เริ่มก่อตัวลุกโชนรอบร่างกายเชอรอนอีกหน ในมือหล่อนกำลังถือหอกน้ำแข็งยาวสีใสค่อนไปทางฟ้าอ่อน
ไคลน์ไม่ลังเลกับการล้วงมือหยิบนกหวีดมิสเตอร์อะซิกออกจากกระเป๋าเสื้อ
กึก.
ทันใดนั้นโคเฮนรีซึ่งหลุดพ้นจากฤทธิ์ของยันต์หลับใหล และปัดเป่าวิญญาณได้ถลึงตาใส่มาดามเชอรอนด้วยบรรยากาศน่าหวาดกลัว
ใบหน้าส่วนใหญ่ถูกเงาบดบังจนมองไม่เห็นอารมณ์แท้จริง ส่งผลให้ไคลน์รู้สึกขนลุกไปทั่วร่างชั่วขณะ
ตึกๆๆ
โคเฮนรีวิ่งกระโจนใส่มาดามเชอรอนซึ่งเป็นเป้าหมายใกล้สุดอย่างคลุ้มคลั่ง
เธอหรี่ตาลงพลางกระหน่ำยิงเพลิงทมิฬใส่เหยี่ยวราตรีร่างเล็กโดยไม่ลังเล
ฟุ่บๆๆ!
บอลไฟสีดำสลายตัวกลางอากาศอย่างง่ายดายโดยไม่เป็นภัยคุกคามต่อใคร
ไคลน์อึ้งไปชั่วขณะในตอนแรก แต่จากนั้นก็รีบตั้งสติยกลูกโม่
ไกปืนถูกเหนี่ยวฉับพลันเมื่อศูนย์เล็งปรากฏเรือนร่างเชอรอนชัดเจน
ปัง!
มาดามเชอรอนฉากหลบพร้อมกับโยนหอกน้ำแข็งใส่โคเฮนรีตามสัญชาตญาณ แต่คมหอกเวทมนตร์ทะลวงผ่านเสื้อผ้าแบบไม่สัมผัสเนื้อหนัง พลังไอเย็นจึงไม่แสดงผลกับร่างกาย
ปัง!
ไคลน์ยิงซ้ำ แต่เชอรอนใช้ซากกรอบกระจกเงาบานใหญ่เป็นกำบังพลางก้มหยิบเศษกระจกรูปทรงคล้ายฝ่ามือขึ้นมาถือ
สตรีผมน้ำตาลยาวสลวยอาศัยย่างก้าวพลิ้วไหวหลบหลีกกระสุนนัดถัดไปจากไคลน์
ในมือหล่อนกำลังถือเศษชิ้นส่วนกระจกด้วยท่วงท่าคล้ายจับอาวุธแน่นขนัด
เมื่อโคเฮนรีกระโจนเข้าประชิดตัว เชอรอนปาดแผ่นกระจกหยาบสวนกลับพลางอัญเชิญเปลวเพลิงสีดำขนาดมหึมาลุกท่วมฝ่ามือ
เมื่อตระหนักว่าลูกโม่ของตนกระสุนหมด ไคลน์ไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากโยนปืนเปล่าพร้อมปลอกกระสุนทิ้งไว้บนพรมหนา
มันรีบพุ่งตัวไปหยิบปืนโคเฮนรีมาใช้แทน
ทันใดนั้นเองเสียงกรีดร้องโหยหวนของเพื่อนร่วมทีมพลันดังแว่วเข้ามาในโสตประสาทชายหนุ่มซึ่งกำลังก้มหน้า
เมื่อหันกลับไปมองร่างโคเฮนรีชะงักงันในท่าคุกเข่าก้มหน้า มันแหกปากอาเจียนรุนแรงจนถุงน้ำดี หัวใจ ปอด และลำไส้หลุดออกจากปากโดยมีเพลิงสีดำลุกท่วม
…………