ตอนที่ 220 : พิธีกรรมสังเวยของท่านไคลน์
“ทดลอง?”
จัสติสออกอาการตื่นเต้น เธอรีบผงกศีรษะอย่างสงวนกิริยา
“ดิฉันยินดีร่วมมือค่ะ”
ในฐานะผู้ชม เส้นทางเชี่ยวชาญด้านความจำ ออเดรย์จึงยังไม่ลืมว่าเดอะฟูลเคยใช้วลี ‘ทดลอง’ เพียงสองครั้งเท่านั้น
หนแรกคือ การทดลองนำตัวเธอและแฮงแมนขึ้นมาบนห้วงมิติสายหมอก
หนสองคือ การทดลองสวดภาวนาเอ่ยถึงพระนามอันสูงส่งของเดอะฟูล เพื่อแจ้งข่าวสารในกรณีไม่ว่างร่วมชุมนุม และผลลัพธ์ลงเอยด้วยความสำเร็จ เผยให้เห็นความสุดยอดและยิ่งใหญ่ของ ‘ท่าน’
‘คราวนี้เป็นอะไร อดใจรอไม่ไหวแล้ว!’
ในฐานะผู้ชมมากประสบการณ์ เด็กสาวพยายามระงับอาการตื่นเต้นอย่างสุดความสามารถ เพื่อมิให้ตนหลุดจากสภาวะผู้ชม
‘ทดลอง…’
อัลเจอร์พลันแน่นหน้าอก มันก้มหน้าประเมินข้อเสนอของมิสเตอร์ฟูลอย่างรอบคอบ
‘ท่านต้องการทำสิ่งใดกันแน่ เป้าหมายสูงสุดของท่านคืออะไร และสิ่งนั้นอันตรายกับตัวเราไหม’
ขณะคำถามมากมายถาโถมสมองอัลเจอร์ ฉากการตายสุดสยองของพลเรือโทวายุ คีลิงเกอร์ ย้อนกลับมาฉายซ้ำภายในใจ ส่งผลให้มันไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากก้มศีรษะคำนับอย่างนอบน้อม
“ประสงค์ของท่านคือประสงค์ของผม”
ไม่ไกลกันนัก เดอร์ริคมองสลับไปมาระหว่างแฮงแมนและจัสติส มันทำได้เพียงนึกสงสัยว่า เหตุใดคนทั้งสองถึงอ่อนไหวกับคำว่า ‘การทดลอง’ นัก
ไคลน์ใช้นิ้วมือขวาเคาะขอบโต๊ะสำริดอย่างแผ่วเบาพลางอมยิ้ม
“เป็นการทดลองส่งสิ่งของผ่านห้วงมิติ หากสำเร็จ การแลกเปลี่ยนระหว่างพวกเราจะง่ายและปลอดภัยขึ้นมาก”
ไคลน์เบือนใบหน้าไปด้านข้าง สายตาจ้องมองแฮงแมน ตามด้วยการเปล่งเสียงราบเรียบ
“เจ้ายังจำพิธีกรรมสังเวยตามคำอธิบายของเดอะซันได้ไหม”
ไคลน์จงใจย้อนกลับไปถึงเนื้อหาการชุมนุมคราวก่อน เพื่อสร้างภาพจำว่านั่นคือพิธีกรรมสำหรับตัวตนระดับ ‘เทพ’
แต่จุดประสงค์แท้จริงเป็นการกลบเกลื่อน ไม่ให้สมาชิกตระหนักว่า ตนเพิ่งเคยได้ยินพิธีกรรมจากเดอะซันเป็นครั้งแรก ผ่านการหลอกถามแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด จากนั้นก็ดัดแปลงให้เป็นของตน ด้วยประสบการณ์และข้อมูลเสริมจากบุคคลอื่นเล็กน้อย
“จำได้ขอรับ ว่ากันตามตรงผมมีโอกาสได้พบพิธีกรรมสังเวยในชีวิตจริงอยู่บ้าง”
อัลเจอร์ตอบอย่างซื่อตรง แต่ภายในใจกำลังสั่นระริกจนหยุดไม่ได้
สาเหตุเพราะเทพจารีตจะไม่ตอบสนองพิธีกรรมสังเวยเหล่านี้ หรืออีกนัยหนึ่งก็คือนับตั้งแต่ยุคสมัย 5 เป็นต้นมา พิธีกรรม ‘สังเวย’ จะถูกระบุให้เป็นพิธีกรรมนอกรีตสำหรับบูชาเทพนอกรีตและปีศาจ!
มีคำเตือนมากมายเกี่ยวกับอันตรายของพิธีกรรมสังเวย จึงไม่แปลกหากหัวใจอัลเจอร์กำลังเต้นไม่เป็นจังหวะปกติ ความรู้สึกปัจจุบันไม่ต่างกับกำลังยืนบนขอบเหว!
หากไม่ระวังตัว มันจะตกลงไปในหุบเหวและกลายเป็นส่วนหนึ่งของปีศาจตลอดกาล
ไคลน์พูดเรื่องจำเป็นไปหมดแล้วจึงไม่คิดอธิบายเรื่องจิปาถะเพิ่มเติม มันผงกศีรษะเล็กน้อย ตามด้วยการพูดเข้าประเด็นหลัก
“หลักการก็คือให้เจ้าส่งวัตถุดิบวิเศษมาถึงเราผ่านพิธีกรรมสังเวย จากนั้น เราจะมอบให้มิสจิสตัสผ่านพิธีกรรมในภายหลัง ด้วยวิธีนี้พวกเจ้าสามารถแลกเปลี่ยนสิ่งของได้อิสระ โดยไม่สูญเสียความลับของตัวเอง”
‘ทำแบบนี้ได้ด้วยหรือ’
ออเดรย์ประหลาดใจอย่างมาก เธอมองว่าเรื่องเช่นนี้เกินขีดจำกัดของจินตนาการไปไกล
แต่หลังจากตระหนักว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เด็กสาวเริ่มได้สติกลับมาทีละนิด
‘สำหรับบุคคลทัดเทียมเทพ การกระทำเช่นนี้คงง่ายดายยิ่งกว่าพลิกฝ่ามือตัวเอง! มิสเตอร์ฟูลเจ๋งมาก! ไม่ผิดหวังจริงๆ ! ชุมนุมไพ่ทาโรต์ของเรา แตกต่างจากชุมนุมอื่นอย่างลิบลับ พวกเราแลกเปลี่ยนโดยใช้พลังของเทพเป็นสื่อกลาง!’
ออเดรย์ตื่นเต้นจนเกือบโพล่งออกไปว่า ‘เทพธิดาจงเจริญ’ แต่ชะงักคำพูดไว้ทัน และเลือกพูด ‘มิสเตอร์ฟูลจงเจริญ’ ในใจแทน
อัลเจอร์เริ่มสงบอาการฟุ้งซ่าน จิตใจกลับมาสุขุมเยือกเย็นกว่าตอนแรก
“ท่านมิสเตอร์ฟูลผู้ยิ่งใหญ่ แล้วตัวผมต้องกระทำสิ่งใดบ้าง”
บางทีมันอาจตระหนักถึงจุดประสงค์แท้จริงของเดอะฟูลผ่านรายละเอียดพิธีกรรมสังเวยคราวนี้
ไคลน์ใช้มือขวาเคาะโต๊ะแผ่วเบา
“เราได้เกริ่นไปแล้ว นี่เป็นเพียงการทดลองอาจสำเร็จหรือไม่ก็ได้คงต้องรบกวนพวกเจ้าสักเล็กน้อย ประการแรก เตรียมแท่นบูชาเรียบง่าย ไม่ต้องซับซ้อนหรูหรา ข้อกำหนดเพียงสิ่งเดียวคือ พวกเจ้าต้องวาดสัญลักษณ์นี้ลงไป”
ขณะกล่าว ไคลน์เสกม่านแสงฉายภาพตรงหน้า เป็นภาพสัญลักษณ์ ‘เนตรไร้ม่านตา’ มาพร้อมกับเส้นบิดเป็นเกลียวคล้ายดีเอ็นเอ เหมือนกับสัญลักษณ์ด้านหลังเก้าอี้ประธานชุมนุมทุกประการ
มันเคยทดลองก่อนหน้านี้หลายครั้งโดยไม่ใช้วัตถุวิญญาณ จึงมั่นใจว่า หากปฏิบัติตามขั้นตอนโดยไม่ขาดตกบกพร่อง พิธีกรรมของสมาชิกจะทำให้เกิดประตูวิญญาณแน่นอน
แต่พิธีกรรมชนิดนี้ไม่สามารถระบุถึงไคลน์ในโลกจริงได้ เพราะความแข็งแกร่งส่วนตัวของมัน ยังไม่เพียงพอสำหรับสร้างอุโมงค์วิญญาณให้มั่นคง จำเป็นต้องอาศัยบารมีและความพิเศษของมิติสายหมอก ในการทำให้พิธีกรรมส่วนนี้เสร็จสมบูรณ์
ไคลน์มั่นใจราวเก้าถึงสิบส่วนว่าการทดลองพิธีกรรมสังเวยจะประสบความสำเร็จ ปัญหาเดียวของพิธีกรรมคือ มันยังไม่แน่ใจว่า ลำพังวัตถุวิญญาณ มีพลังพอสำหรับสร้างอุโมงค์วิญญาณเชื่อมถึงอาณาจักรของตนหรือไม่ หรือต้องใช้ของแพงอย่างวัตถุดิบวิเศษ หากเป็นอย่างหลังแล้วต้องใช้จำนวนเท่าไรถึงจะเพียงพอ
‘คงต้องให้มิสจัสติสและมิสเตอร์แฮงแมนแบกรับค่าใช้จ่ายส่วนนี้กันเอาเอง อย่างน้อยทั้งสองก็ทราบว่า ชุมนุมไพ่ทาโรต์เกิดจากการทดลองของเรา คงไม่น่าแปลกใจเท่าไรนัก ถ้าจะมีการทดลองอื่นตามมาในภายหลัง และการทดลองย่อมคู่กับความล้มเหลวอยู่แล้ว แม้แต่เทพก็ไม่มีข้อยกเว้น’
ไคลน์วางแผนชั่วช้าโดยการโยนความเสี่ยงให้สมาชิกแบกรับแทน
ขณะจัสติส แฮงแมน และเดอะซันพยายามจดจำสัญลักษณ์เดอะฟูล ชายหนุ่มส่งเสียงคิกคักแผ่วเบาในลำคอ
“ไม่ต้องกังวล ถ้าพวกเจ้าหลงลืม สามารถสวดอ้อนวอนถึงเรา จากนั้นก็จะ ‘จำ’ ได้เอง”
“ค่ะ!” ออเดรย์ขานตอบเสียงสดใส
‘พิธีกรรมของมิสเตอร์ฟูลไม่เคยยุ่งยากซับซ้อนเลยสักครั้ง!’
เด็กสาวครุ่นคิดอย่างตื่นเต้น
เมื่อเห็นแฮงแมนผงกศีรษะตอบรับ ไคลน์เริ่มอธิบายพิธีกรรมต่อ
“ประการถัดมา ให้ปฏิบัติเหมือนกับพิธีกรรมทั่วไป แต่ไม่ต้องเผาสมุนไพรหรือใช้สารสกัดน้ำมันวุ่นวาย ไม่มีข้อจำกัดด้านวันเวลา แค่เอ่ยนามเต็มของเราให้ถูกต้องก็พอ จงจำไว้ให้ดี ต้องท่องเป็นภาษาเฮอร์มิสโบราณหรือคนยักษ์เท่านั้น คำอธิษฐานมีดังนี้ : ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านรับฟังคำขอร้อง ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านรับเครื่องเซ่นสังเวย ผู้ศรัทธาของท่าน ขอภาวนาให้ท่านเปิดประตูสู่อาณาจักร หลังจากท่องจบ รีบนำวัตถุบรรจุพลังวิญญาณผสานเข้ากับพลังธรรมชาติจากผลลัพธ์ของคาถาทันที ทำไปเพื่อสร้างอุโมงค์วิญญาณสำหรับเชื่อมต่อถึงอาณาจักร จากนั้นก็รอการตอบสนองจากเรา”
“หากวิธีแรกไม่สำเร็จให้เปลี่ยนจากวัตถุวิญญาณเป็นวัตถุดิบวิเศษ และเริ่มประกอบพิธีกรรมใหม่ตั้งแต่ต้น”
หลังจากตั้งใจฟังคำอธิบาย อัลเจอร์เริ่มตระหนักว่า สมมติฐานคราวก่อนของตนมีโอกาสเป็นจริงค่อนข้างมาก
‘มิสเตอร์ฟูลกำลังอยู่ในสภาพไม่สมบูรณ์! ท่านใช้วลี ’ การทดลอง’ บังหน้า อีกทั้งยังปรับพิธีกรรมให้ง่ายลง จะได้ฟังดูสนุกและน่าตื่นเต้น แต่ทุกการทดลองใหม่จะยกระดับขึ้นจากเดิมเสมอ จนกระทั่งถึงจุดหนึ่ง ทั้งตน จัสติส และเดอะซัน มีพลังมากพอสำหรับประกอบพิธีกรรมขั้นสูง เพื่อปลดปล่อยท่านจากพันธนาการปัจจุบัน!
‘และในตอนสุดท้าย ท่านก็จะปรากฏกายบนโลกความจริง! นี่คือสาเหตุให้ท่านตัดสินใจดึงผู้คนเข้ามาในมิติลึกลับ จากนั้นก็แสร้งเห็นดีเห็นงามกับแนวคิดก่อตั้งชุมนุมไพ่ทาโรต์!’
ต่อให้ตนไม่ได้ตั้งสมมติฐานไว้ก่อน แต่อัลเจอร์มั่นใจว่า มันจะได้ข้อสรุปแบบเดียวกันหลังจากฟังคำอธิบายพิธีกรรมสังเวยจบ
เพราะเมื่อนำไปเทียบกับการทดลองคราวก่อน มันไม่สามารถหาเหตุผลอื่น มารองรับการกระทำของมิสเตอร์ฟูลได้อีกแล้ว
แต่ยังมีเรื่องหนึ่งคาใจ ในเมื่อมิสเตอร์ฟูลครอบครองผู้รับใช้ระดับครึ่งเทพ แล้วเหตุใดต้องพึ่งพาตน จัสติส และเดอะซันด้วย แค่สั่งให้ผู้รับใช้ครึ่งเทพช่วยประกอบพิธีกรรมขั้นสูงก็เพียงพอแล้วไม่ใช่หรือ
‘ต้องมีความลับซ่อนอยู่แน่ หรือพิธีกรรมดังกล่าวอาจใช้เวลานาน และต้องกระทำในจุดลับตาผู้คนเสมอ บางที ผู้รับใช้ของมิสเตอร์ฟูลอาจถูกจับตามองโดยตัวตนระดับสูงกว่าจึงไม่สะดวกประกอบพิธีกรรมด้วยตัวเอง’
อัลเจอร์บรรจงปะติดปะต่อเหตุการณ์ตามหลักตรรกศาสตร์อย่างใจเย็น
หลังจากไคลน์อธิบายขั้นตอนพิธีกรรมจบ มันกล่าวต่อด้วยเสียงทุ้มต่ำเจือความอ่อนโยน
“พิธีกรรมสังเวยต้องจัดการให้เสร็จภายในเวลากำหนด มิสเตอร์แฮงแมน เจ้ามีแผนทดลองพิธีกรรมตอนไหนหรือ”
พิธีกรรมสังเวยทั้งซับซ้อนและมีระดับสูง ฝ่ายไคลน์จำเป็นต้องรีบตอบกลับให้ทันก่อนอุโมงค์วิญญาณสลายไป ไม่เหมือนกับการสวดอ้อนวอนปกติ สิ่งนี้สามารถดึงเวลาตอบกลับเมื่อไรก็ได้ ตามแต่ไคลน์ปรารถนา
อุโมงค์วิญญาณคงสภาพได้ไม่นาน มันต้องนั่งรอบนมิติสายหมอกก่อนอีกฝ่ายเริ่มลงมือ
“ปัจจุบันผมมีวัตถุดิบวิเศษเพียงชิ้นเดียวคือต่อมใต้สมองของซาลามันเดอร์สีรุ้ง แต่ถ้าเป็นวัตถุวิญญาณยังพอมีอยู่บ้าง…มิสเตอร์ฟูลขอรับ ผมจะทดลองแบบแรกทันทีเมื่อเสร็จสิ้นการชุมนุม แต่หากล้มเหลว ผมคงต้องใช้เวลาสักพักเพื่อรวบรวมวัตถุดิบวิเศษ ถ้าได้ครบเมื่อไรจะรีบแจ้งวันและเวลาให้ท่านทราบด้วยวิธีสวดภาวนา”
อัลเจอร์อธิบายอย่างรัดกุม ขณะเดียวกันก็ชำเลืองมองไปทางมิสจัสติส
ในฐานะผู้ชม ออเดรย์เข้าใจทันทีว่าสายตาของแฮงแมนหมายถึงสิ่งใด เธอขานตอบอีกฝ่ายโดยไม่ลังเล
“ถ้ามีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดิฉันยินดีชดเชยให้คุณภายหลัง แต่ไม่รับประกันว่าจะเป็นวัตถุดิบประเภทเดียวกับการสูญเสียของคุณ”
‘สมกับเป็นจัสติสผู้ร่ำรวย’
เดอะฟูล ไคลน์ ถอนหายใจเสียงค่อย ตามด้วยการหัวเราะคิกคัก
“พวกเราได้ข้อสรุปกันแล้วสินะ”
ชายหนุ่มหันมองทางมิสจัสติสเล็กน้อย ตามด้วยการอธิบายหลังจากเรียบเรียงคำพูด
“ถ้าการทดลองของแฮงแมนประสบความสำเร็จ เราจะแจ้งให้เจ้าทราบถึงวันและเวลาสำหรับพิธีกรรมรับมอบ”
“ค่ะ!”
ออเดรย์ตอบฉะฉาน เธอไม่เคลือบแคลงพลังของมิสเตอร์ฟูลแม้แต่น้อย
ทันใดนั้น เด็กสาวนึกขึ้นได้ว่า พิธีกรรมของมิสเตอร์ฟูลสามารถปรับใช้กับการมอบเงินสดได้เช่นกัน แน่นอน ต้องอยู่ในเงื่อนไขว่า การทดลองของแฮงแมนบรรลุผล
‘ว่าแต่ เราสามารถสังเวยวัตถุปลอดพลังวิญญาณได้ไหมไว้ค่อยถามท่านอีกครั้งหลังจากการทดลองแรกสำเร็จ’
มุมปากเด็กสาวยกขึ้นขณะจินตนาการถึงอนาคตแสนสดใสวันข้างหน้า
เมื่อหัวข้อพิธีกรรมสังเวยจบลง ออเดรย์ก้มหน้าไตร่ตรองสักพักก่อนกล่าวออกมา
“ท่านมิสเตอร์ฟูล ดิฉันพบว่ามีสตรีสองคนเหมาะแก่การเข้าร่วมชุมนุมไพ่ทาโรต์ พวกเธอเป็นผู้วิเศษ และมีเครือข่ายข้อมูลเป็นของตัวเองภายในเบ็คลันด์ เก็บความลับเก่ง แถมนิสัยก็น่าคบหา ท่านอนุญาตให้พวกเธอเข้าร่วมชุมนุมไพ่ทาโรต์หรือไม่คะ”
‘มิสจัสติสต้องการเพิ่มอำนาจต่อรองของฝ่ายตัวเองหรือไง’
อัลเจอร์ผุดความคิดแรกตามสัญชาตญาณ
เดอร์ริคสนใจประเด็นนี้เช่นกัน มันชำเลืองสายตาไปทางเดอะฟูลอย่างคาดหวัง
ไคลน์พลันตกอยู่ในสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก่อนหน้านี้มันวาดฝันไว้ว่า สมาชิกชุมนุมไพ่ทาโรต์ทุกคนต้องไม่รู้จักกันในชีวิตจริง ต่างคนต่างสร้างเครือข่ายของตัวเองและพัฒนาจนยิ่งใหญ่ สิ่งเหล่านี้จะส่งผลให้ชุมนุมไพ่ทาโรต์กลายเป็นองค์กรลับทรงอิทธิพลของโลก
ด้วยวิธีข้างต้นต่อให้สมาชิกปลายแถวของแต่ละฝ่ายถูกจับกุมในโลกจริง ถูกเค้นข้อมูลด้วยวิธีการต่างๆ เช่น พลังสอบสวน พลังสื่อวิญญาณ แต่ความลับสูงสุดอย่างชุมนุมไพ่ทาโรต์ก็จะไม่รั่วไหล
อย่างไรก็ตามมิสจัสติสได้ยิงประเด็นเข้าใส่จุดอ่อนไคลน์อย่างแม่นยำ เพราะเหนือสิ่งอื่นใด เป้าหมายระยะสั้นของมันคือสืบหาข้อมูลของลัทธิเร้นลับภายในกรุงเบ็คลันด์ รวมถึงเบาะแสของลาเนวุสกับอินซ์·แซงวิลล์
เพื่อให้บรรลุเป้าหมายดังกล่าว เครือข่ายข้อมูลภายในเบ็คลันด์จึงสำคัญมาก
‘หากไหว้วานผ่านมิสจัสติส สตรีทั้งสองจะไม่ยอมสืบข้อมูลอย่างสุดฝีมือ แต่เรายังไม่มั่นใจว่า ลำพังการเอ่ยนามเต็มของเดอะฟูลจะเพียงพอให้ดึงบุคคลดังกล่าวขึ้นมาบนมิติสายหมอกหรือไม่’
อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของเดอะฟูล ไคลน์ไม่สามารถกระโตกกระตากออกนอกหน้าได้ มันไม่มีทางเลือกนอกจากตอบหยั่งเชิงด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม
“เราขอทดสอบให้แน่ใจเสียก่อน มิสจัสติส จงใช้วิธีการไม่โฉ่งฉ่างไม่เปิดเผยตัวตน หลอกล่อให้อีกฝ่ายทราบนามเต็มของเรา และสร้างความสนใจไปทีละนิด”
เมื่อเด็กสาวเห็นว่าอีกฝ่ายยินยอมพิจารณาข้อเสนอของตน เธอรีบขานตอบอย่างตื่นเต้น
“ได้ค่ะ!”
ถัดมาเป็นการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารอีกเล็กน้อย จนกระทั่งชุมนุมไพ่ทาโรต์ของสัปดาห์นี้ยุติลง พร้อมการจากไปของเดอะซัน แฮงแมน และจัสติส ส่วนไคลน์ยังคงอยู่บนมิติสายหมอก รอตอบสนองพิธีกรรมสังเวยหนแรกของแฮงแมน
………………