Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 241

Lord of the Mysteries 241

ตอนที่ 241 : ถ้อยคำกัดกร่อน

มีเทียนไขเพียงเล่มเดียวภายในห้องสลัว บรรยากาศกำลังเงียบงันประหนึ่งทุกสิ่งถูกแช่แข็งชั่วขณะ

หลายวินาทีถัดมา ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นนักปรุงยาเปล่งเสียงพึมพำ

“ในเมื่อนายจะลองเสี่ยง ฉันขอพิกัดบ้านไว้ได้ไหม เผื่อว่าจะตามไปเก็บศพภายหลัง”

‘ถ้อยคำประชดประชันเหมือนสาปแช่ง แต่เราสัมผัสได้ว่าเขาพยายามโน้มน้าวไม่ให้เราทดสอบ’

ไคลน์แสร้งไม่เข้าใจเจตนาดีของชายร่างท้วม เพียงหันไปพูดกับอสรพิษดำ

“ทางรอดเดียวของผมคือการเสี่ยงโชค ถ้ายังมีโอกาสรอดแม้เพียงน้อยนิดก็ต้องพนันชีวิตไว้กับมัน ผมจะไม่นั่งรอให้ความตายคืบคลานเข้าหาโดยเด็ดขาด”

เนตรแห่งปัญญากำลังจะห้ามปราม แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้น มันตัดสินใจปิดปากเงียบเพราะตนไม่มีทางรอดดีกว่านี้แนะนำแล้ว

“ผมชอบคนแบบคุณ!” อสรพิษดำยิ้ม

“ฉันเองก็ชอบคนแบบนาย เมื่อก่อนเคยมีเพื่อนฝูงนิสัยแบบนี้อยู่หลายคน แต่ปัจจุบันต้องคอยไปเยี่ยมหลุมศพพวกมันทุกปีพร้อมกับดอกไม้ช่อใหญ่”

ผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นนักปรุงยายังคงประชดประชันไคลน์อย่างตลกขบขันเช่นเคย แต่น้ำเสียงของมันเจือความห่วงใยชัดเจนในคราวนี้ ถึงอสรพิษดำจะต่อสู้ได้เก่งกาจกว่าตนก็ไม่กลัว เพียงต้องการให้ไคลน์ทบทวนการตัดสินใจเสียใหม่

‘ด้วยปากแบบนี้ มิสเตอร์นักปรุงยาไม่น่าจะอายุยืนสักเท่าไร’

ไคลน์รำพันติดตลก แต่ก็รู้สึกขอบคุณจากก้นบึ้งเมื่อได้รับความห่วงใยจากคนแปลกหน้า

ชายหนุ่มยื่นกล่องบุหรี่โลหะบรรจุตะกอนพลังนักล่าให้กับผู้ช่วยของเนตรแห่งปัญญา ชายชรานับเงินสด สี่ร้อยปอนด์จากกระเป๋าด้านข้างและส่งให้อสรพิษดำ

อสรพิษดำชำเลืองเพียงเล็กน้อย

“ผมไว้ใจมิสเตอร์เนตรแห่งปัญญา”

จากนั้นก็หยิบกล่องไม้ขนาดเล็กออกมาวางบนพื้น ตามด้วยการผลักกล่องให้ไถลมาหยุดหน้าเก้าอี้ไคลน์โดยไม่ชนกับสิ่งกีดขวาง

ในวินาทีชายหนุ่มใช้ปลายนิ้วสัมผัสผิวกล่อง เสียงเพรียกมายาชวนอาเจียนพลันดังแว่วในสมอง มาพร้อมอาการวิงเวียนศีรษะรุนแรง แต่ไคลน์เคยเผชิญสถานการณ์เช่นนี้นับครั้งไม่ถ้วนจนมีภูมิคุ้มกันแน่นหนา เสียงแหบพร่าเมื่อครู่เจ็บปวดน้อยกว่าคำสวดภาวนาจากมิสจัสติสด้วยซ้ำ

หลังจากหยิบขึ้นมาและเหยียดหลังตั้งตรง ไคลน์บรรจงเปิดกล่องไม้และพบว่าด้านในบรรจุ ‘ใบหูสีดำ’ สภาพคล้ายใบหูมนุษย์อย่างมาก สิ่งไม่ปรกติคือสีของมันดำคล้ำผิดปรกติ รวมถึงจุดสีเขียวจากกระบวนการเน่าเปื่อย

“ใช้อย่างไร” ไคลน์ซักถาม

อสรพิษดำตอบเสียงผ่อนคลาย

“ใช้มือเปล่าสัมผัส…ขอแนะนำให้กลับไปทดสอบในบ้านตัวเองตามลำพัง”

ไคลน์ไม่ถามเซ้าซี้ เพียงปิดกล่องไม้และยัดใส่ไว้ในกระเป๋าเสื้อ มันจงใจเผยรอยยิ้มขื่นขมพลางกล่าวเสริม

“ชักเริ่มมึนหัวนิดๆ”

บรรยากาศห้องกลับไปเงียบงันอีกครั้ง จนกระทั่งผู้ต้องสงสัยว่าจะเป็นนักปรุงยาเปิดประเด็นใหม่

“มีใครขายผลึกแก่นน้ำพุเอลฟ์ไหม?”

เสียงของมันดังสะท้อนภายในห้องเงียบงันอยู่พักหนึ่งโดยไม่มีใครตอบกลับ

มิสเตอร์นักปรุงยาเม้มปากอย่างอารมณ์เสียพลางบ่นหมีกินผึ้ง

“ให้ตายสิ ถามถึงเจ้านี่กี่ครั้งก็เงียบตลอด”

“ไม่ลองซื้อตั๋วล่องเรือไปเกาะโซเนียดูล่ะ”

เนตรแห่งปัญญาตอบจิกกัด

น้ำพุเอลฟ์มีอีกชื่อหนึ่งว่า ‘น้ำพุโซเนียทองคำ’ แค่ฟังจากชื่อ ไม่ต้องมีความรู้ก็ทราบว่าหาได้จากไหน โดยทั่วไปแล้ว น้ำพุเอลฟ์จะมาในรูปแบบของเหลวเปี่ยมพลังวิญญาณ แต่ผลึกแก่นของมันอยู่ในสภาพของแข็ง นำไปใช้เป็นวัตถุดิบหลักสำหรับปรุงโอสถ หาได้ยากมาก จึงไม่ค่อยมีการซื้อขายตามตลาดมืด

จากนั้นเป็นการค้าขายล้มเหลวอีกหลายครั้งจนกระทั่งจบชุมนุม เนตรแห่งปัญญาปรบมือเสียงดังพลางกล่าว

“วันนี้พอแค่นี้ ตามกฎของการชุมนุม พวกเราจะกลับออกไปทีละคน ห่างกันสามนาที”

‘ออกไปทีละคน…ห่างสามนาที…ป้องกันสมาชิกถูกสะกดรอยตามสินะ’

ขณะครุ่นคิด ไคลน์เหลือบเห็นสัญญามือจากเนตรแห่งปัญญา มันลุกยืนและเดินกลับไปทางประตูบ้านโดยมีผู้ช่วยคอยนำทาง

หลังจากเสื้อคลุมยาวถูกถอดคืน ไคลน์อาศัยความทรงจำเดินวนกลับมายังประตูหลังของผับวีรบุรุษ มันถอดหน้ากากเหล็กและเดินผ่านห้องครัว จนพบคาสปาสกำลังยืนอยู่หน้าห้องเล่นไพ่ บรรยากาศภายในผับเต็มไปด้วยเสียงตะโกนอย่างสะใจปะปนกับเสียงสุนัขเห่า

“เห็นนายกลับมาค่อยโล่งใจ”

ชายสูงอายุจมูกแดงและมีรอยแผลเป็นน่าหวาดเสียวกำลังยืนสั่นเทาเล็กๆ

ไคลน์เดินเข้าไปใกล้พลางเอนตัวกระซิบ

“จะมีชุมนุมแบบนี้อีกเมื่อไร”

“ไม่สมหวังหรอกหรือ ให้ตายสิ ฉันคิดว่านายไม่ควรดันทุรังอย่างเปล่าประโยชน์”

คาสปาสสำรวจลูกค้าของตัวเองหัวจรดเท้าด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“คงอีกหลายวัน ฉันไม่รู้รายละเอียด ไว้จะคอยดูให้ก็แล้วกัน แวะมาถามบ่อยๆ”

ไคลน์ผงกศีรษะพลางถามต่อ

“มาริคอยู่ไหม”

“ยังพยายามโน้มน้าวอีกหรือ? อย่าดีกว่า รังแต่จะทำให้หมอนั่นโมโหยิ่งกว่าเดิม”

คาสปาสตักเตือนด้วยเสียงต่ำ

“…อยู่ในห้องเล่นไพ่ด้านหลัง”

‘เปล่าเลย ฉันไม่ได้จะโน้มน้าวมัน แค่วันนี้พกนกหวีดทองแดงมาด้วย จึงต้องอยู่ให้ห่างเข้าไว้ ซอมบี้จะได้ไม่อาละวาด’

ไคลน์ใช้มือสัมผัสนกหวีดในกระเป๋าเสื้อขณะครุ่นคิด

“เข้าใจแล้ว”

ชายหนุ่มรีบออกจากผับวีรบุรุษทันที เป้าหมายแรกคือหอพักหนึ่งเตียงในเขตตะวันออกเพื่อปลดเปลื้องสัมภาระไม่จำเป็น ก่อนจะเดินทางกลับถนนมินส์

ภายในห้องเล่นไพ่ มาริค ‘ออลอิน’ ด้วยสีหน้าสุดมั่นใจพร้อมกับหงายไพ่ มันได้ไพ่รวมเป็นตองคิงและคู่หก ส่วนซอมบี้ฝั่งตรงข้ามมีคู่หกกับแปดในมือ จึงฉวยโอกาสเปิดคู่หกสวนและประกาศชัยชนะด้วย ‘โฟร์การ์ด หก’

มาริคนั่งซึมด้วยสีหน้าหดหู่ จนกระทั่งมันเริ่มตระหนักว่าซอมบี้รอบตัวกำลังรุมจ้องมองด้วยสีหน้าเย็นชาผิดวิสัย

ไม่กี่นาทีให้หลัง มาริคโงนเงนเดินออกจากห้องเล่นไพ่ด้วยสภาพสุดอนาถ แข้งขาสั่นเทาจนพยุงตัวแทบไม่ไหว ซอมบี้ผู้ติดตามจำนวนมากภายในห้องล้วนนอนแน่นิ่งหมดสติบนพื้น

“ห้ามให้ใครเข้าไปจนกว่าจะรุ่งเช้า”

มาริคออกคำสั่งคาสปาสด้วยเสียงแหบพร่า ชายชราจมูกแดงทำได้เพียงยืนขมวดคิ้วอย่างประหลาดใจ มาริคหยิบผ้าเช็ดหน้าออกมาซับเลือดตรงมุมปาก ผ้าเปื้อนคราบสีน้ำเงินคล้ำอมแดงหลายจุดหลังจากถูกเช็ดเพียงไม่กี่หน

เมื่อออกคำสั่งคาสปาสเสร็จ มาริคเดินไปหาเก้าอี้นั่งหน้าบาร์เพื่อสั่งเบียร์นันวีลล์มาดื่มย้อมใจ สีหน้าแววตาเหม่อลอยเจือความหวาดผวาขณะกระดกแก้วซด

ณ บ้าน 15 ถนนมินส์ ไคลน์กลับถึงห้องและรีบทำกิจวัตรพื้นฐานอย่างการล้างหน้า จากนั้นก็ขึงผ้าม่านปิดห้องมิดชิด

ผ่านไปราวสิบนาที เมื่อชายหนุ่มไม่พบร่องรอยพลังวิญญาณแปลกปลอมภายในห้อง จึงตัดสินใจเริ่มพิธีกรรมอัญเชิญตัวเอง ตามด้วยการเข้าห้วงมิติเหนือหมอกเทาเพื่อตอบกลับ

ไคลน์นำกายจิตลงมายังโลกมนุษย์เพื่อหยิบกล่องไม้บรรจุใบหูสีดำกลับเข้าไปในมิติเหนือหมอกเทา ไม่มีดาวแดงดวงใดกระเพื่อมหรือยุบพองในเห็นในสายตา

ชายหนุ่มเอนหลังพิงเก้าอี้เดอะฟูลพร้อมกับบรรจงเปิดกล่องไม้อย่างระมัดระวัง คราวนี้ไคลน์มิได้ยินเสียงเพรียกแหบพร่าชวนให้ปวดจิตเหมือนรอบก่อน คล้ายกับสายหมอกเทาไร้ก้นบึ้งช่วยระงับเสียงรบกวนจากภายนอกทั้งหมด

ไคลน์ถอนหายใจผ่อนคลาย ความกังวลเกี่ยวกับการทดสอบเริ่มบรรเทาลง มันมั่นใจว่าตนจะไม่ได้รับอันตรายมากนักหากสัมผัสใบหูสีดำด้วยมือเปล่า

เมื่อครุ่นคิดถึงจุดนี้ ไคลน์ลองเสกให้ตัวเองไม่ได้ยินชั่วคราวพร้อมกับทดสอบผลลัพธ์

‘ได้ผล…!’

ชายหนุ่มผงกศีรษะอย่างพึงพอใจพลางเหยียดแขนออกไปจับใบหูสีดำปนจุดเขียว

สัมผัสแรกคือความเย็นเฉียบและลื่นไหล แต่ไคลน์กลับไม่ได้ยิงเสียงของสุดยอดตัวตนลึกลับตามคำอธิบายของอสรพิษดำ

‘ปิดกั้นเสียงสมบูรณ์เกินไป…? คงทดสอบบนนี้ไม่ได้สินะ…’

ชายหนุ่มพึมพำพลางไตร่ตรองหาวิธีอื่นสำหรับกระตุ้นให้ใบหูสีดำแสดงผลโดยตัวเองไม่เป็นอันตราย

หลังจากลมหายใจถูกพ่นทิ้งนานหลายวินาที ไคลน์เสกปากกาหมึกซึมและกระดาษวางบนโต๊ะ เตรียมใช้เทคนิคทำนายแบบเดียวกับเมื่อครั้ง ‘แอบมอง’ เทพสุริยันเจิดจรัส

‘คราวก่อนเราจ้องมองเทพโดยตรงเพราะใช้โลหิตแห่งเทพเป็นสื่อกลาง แต่คราวนี้เป็นเพียงตะกอนพลังจากผู้สดับ ไม่น่าจะก่อให้เกิดอันตรายสักเท่าไร…’

ไคลน์เขียนประโยคทำนายโดยไม่รีรอ

“ต้นกำเนิดของวัตถุชิ้นนี้”

ชายหนุ่มสูดลมหายใจเต็มปอด แผ่นหลังเอนพิงพนักเก้าอี้ มือข้างหนึ่งถือใบหูสีดำ ส่วนอีกข้างถือกระดาษประโยคทำนาย

ปากพึมพำท่องจนครบเจ็ดหนพร้อมกับหลับตาลงเข้าฌานและสะกดจิตตัวเองให้หลับ

ท่ามกลางโลกสีเทาภาพไม่คมชัด ไคลน์มองเห็นบุรุษผู้หนึ่งนอนทุรนทุรายบนพื้น อีกฝ่ายกำลังเกลือกกลิ้ง แหกปากกรีดร้อง และถลึงตาจนปูดโปน จนกระทั่งร่างกายของมันเริ่มบวมพองคล้ายลูกโป่ง เส้นผมทั่วร่างเปลี่ยนเป็นสีดำสนิทและยืดยาว

ถัดมาไม่นาน สุ้มเสียงอันชั่วร้ายและกัดกร่อนจิตใจดังกังวานในสมองไคลน์ ปลุกชายหนุ่มให้ตื่นจากภวังค์ฝันทันใด

เสียงนี้ไม่เหมือนกับเสียงเพรียกแหบพร่าขณะจิตถูกส่งเข้ามิติเหนือสายหมอก ลักษณะของเสี่ยงเปี่ยมด้วยพลังทะลุทะลวง แฝงความหมายลึกซึ้งและความน่าหลงใหลอย่างเต็มเปี่ยม

ไคลน์พยายามอุดหูโดยหวังขจัดเสียงหลอกหลอนให้หมดไป แต่ก็ไม่เป็นผล เสียงยังคงก้องกังวานในสมองอยู่เช่นนั้น

ชายหนุ่มเหลือบเห็นเส้นเลือดตามร่างกายตนกำลังปูดโปนประหนึ่งอสรพิษเลื้อยคลานภายในร่างกาย

โผละ!

เส้นเลือดแดงเกิดระเบิดฉับพลัน หลอดเลือดดำหลุดออกจากร่างร่วงหล่นลงพื้น ลักษณะคล้ายหนวดสัตว์ประหลาดสลักลวดลายชั่วร้ายหลายจุด มิติเหนือสายหมอกเทาเริ่มสั่นคลอนจนพระราชวงศ์คนยักษ์เกิดอาการผุกร่อน

แต่ไม่เหมือนกับเมื่อครั้งเหตุการณ์เทพสุริยันเจิดจรัส ไคลน์ยังรักษาสติได้ครบถ้วนและไม่ลงไปเกลือกกลิ้งบนพื้น เพียงใช้มือจับราวพักแขนของเก้าอี้แน่นถนัดพลางกัดฟันอดทนต่อความเจ็บปวด

ไม่กี่วินาทีถัดมา ห้วงมิติหมอกเทากลับสู่ความสงบดังเดิม พร้อมกับการหายไปของเสียงชั่วร้ายในสมองไคลน์

‘หนวดสัตว์ประหลาด’ หลุดร่วงจากร่างชายหนุ่มเส้นแล้วเส้นเล่า อย่างไรก็ตาม บาดแผลตามลำตัวถูกสมานจบเรียบเนียนในระยะเวลาไม่กี่ลมหายใจ

‘การติดต่อกับตัวตนระดับเทพไม่เคยเป็นเรื่องปลอดภัย ไม่ว่าจะใช้วิธีการใดก็ตาม…โชคดีว่าคราวนี้ไม่ใช่การเผชิญหน้ากับพระผู้สร้างแท้จริงโดยตรง ไม่อย่างนั้น กายจิตของเราคงซึมซับความบ้าคลั่งเข้าไปเต็มเปี่ยมจนส่งผลกระทบไปถึงโลกความจริง’

ไคลน์รำพันเงียบงัน แผ่นหลังถูกเอนพิงพนักเก้าอี้ด้วยใบหน้าผ่อนคลายสุดขีด

เหตุการณ์ดำเนิดไปและจบลงภายใต้การคำนวณของตน ไม่มีส่วนใดเลยเถิดนอกเหนือจินตนาการ

‘เรื่องน่าประหลาดใจคือ ดูเหมือนพระผู้สร้างแท้จริงจะทรงพลังยิ่งกว่าเทพสุริยันเจิดจรัสเสียอีก’

ขณะความคิดกำลังล่องลอย ไคลน์ชำเลืองเห็นใบหูสีดำในมือแตกละเอียดกลายเป็นประกายแสงสีดำระยิบระยับ

‘กลายเป็นตะกอนพลังบริสุทธิ์? ’

ระหว่างกำลังขมวดคิ้วสับสน ไคลน์ก้มมองหนวดสัตว์ประหลาดสลักลวดลายชั่วร้ายจำนวนหนึ่งกำลังบิดงอไปมาบนพื้นห้อง พวกมันคือสัญลักษณ์ตัวแทนความเสียสติและคลุ้มคลั่ง แต่ปัจจุบันถูกนำออกจากร่างไคลน์เรียบร้อย

เพียงไม่กี่ลมหายใจ หนวดสัตว์ประหลาดเริ่มมีลักษณะโปร่งแสงคล้ายกับใกล้เลือนหาย

เมื่อเห็นแสงสีดำระยิบระยับในมือเริ่มส่องสว่างแยงสายตา ไคลน์ตัดสินใจโยนตะกอนพลังใส่หนวดสัตว์ประหลาดลื่นไหลเหล่านั้น

เกิดเป็นหมอกมายาสีดำหนาแน่นพวยพุ่งขึ้นด้านบน พวกมันจับกลุ่มรวมตัวกันคล้ายเมฆสีดำและสร้างสายฟ้าพาดผ่าลงมาด้านล่างหลายเส้นต่อเนื่อง ฉากหลังค่อนข้างขุ่นมัวและหม่นหมอง

ภาพเหตุการณ์ทั้งหมดจางหายไปจากดวงตาไคลน์อย่างรวดเร็ว

บนพื้นปรากฏ ‘แผ่นยันต์โลหะ’ สีดำเต็มไปด้วยสัญลักษณ์ อักขระเวทมนตร์ ลวดลายชั่วร้าย และเลขมงคลลักษณะบิดเบี้ยว

ไคลน์ก้มลงไปหยิบมาสำรวจ เพียงสัมผัสด้วยปลายนิ้วก็ทราบทันทีว่าด้านในถูกบรรจุไว้ด้วยมวลพลังอันบ้าคลั่งโหยหวน

ด้วยความช่วยเหลือจากเทคนิคทำนาย ชายหนุ่มสามารถถอดรหัสแบบย้อนกลับ อาศัยยันต์ชิ้นนี้เป็นสื่อกลางเพื่อทำนายหาคุณสมบัติแท้จริง ไคลน์ทราบในเวลาต่อมาว่าพลังของยันต์คือการทำให้เป้าหมายได้ยินเสียงคำรามสุดสยดสยอง หากเป้าหมายจิตอ่อนจะเกิดอาการเสียสติฉับพลัน หรือในอีกความหมายหนึ่งก็คือ ประสิทธิภาพของยันต์ขึ้นอยู่กับพลังทางใจเหยื่อ ถ้าอีกฝ่ายแข็งแกร่งมากก็จะได้รับพลังและความชื่นชอบจากพระผู้สร้างแท้จริง ส่งผลให้ทรงพลังกว่าเดิมหลายเท่าตัวจนกลายเป็นหายนะ แต่ต้องแลกมากับการถูกเปลี่ยนให้เป็นสาวกของพระผู้สร้างแท้จริงไปตลอดกาล หรือถ้าอีกฝ่ายอ่อนอ่อนแอ เหยื่อจะล้มลงฉับพลันและส่งเสียงร้องโหยหวนจนกว่าจะสิ้นลม

“ฉะนั้นขอเรียกมันว่า…ถ้อยคำกัดกร่อน”

ไคลน์พึมพำเสียงค่อยขณะตั้งคาถาสำหรับเปิดใช้งานยันต์ใหม่

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!