ตอนที่ 251 : เก็บเกี่ยว
“สูตรโอสถเส้นทางนักทำนาย”
…
ไคลน์เอนหลังพิงเก้าอี้และพยายามสื่อสารกับวิญญาณโรซาโก้ผ่านนิมิตความฝัน
ท่ามกลางโลกมายาสีเทาไม่คมชัดและไม่เสมือนจริง ตะเกียงแก๊สภายในห้องปริศนาลุกโชนกะทันหัน มอบแสงสลัวให้กับพื้นหินและโต๊ะอ่านหนังสือไม้ใกล้เคียง บนโต๊ะมีกระดาษหนังสีน้ำตาลแผ่นหนึ่งวางอยู่
หลังจาก ‘ภาพ’ ของสูตร ‘นักทำนาย’ และ ‘ตัวตลก’ ฉายผ่านไป ฉากได้ขยายออกจนเผยให้เห็นโรซาโก้ในชุดขนสัตว์กำลังยืนก้มหน้ามองโต๊ะ พร้อมกันนั้นก็มีเสียงใครบางคนดังแว่ว
“ก่อนเลื่อนลำดับ ฉันขอเตือนว่านายไม่ควรพึ่งพาผลการทำนายมากเกินไป การทำนายจะมอบผลลัพธ์ แต่ไม่สามารถบอกกระบวนการระหว่างทางได้ ตัวอย่างเช่น นายอาจลงทุนในหุ้นรถรางจนหมดตัวเพียงเพราะผลการทำนายระบุว่า หุ้นรถรางจะทำกำไรให้นายมหาศาล แต่ความจริงแล้วคือ มันเป็นกำไรในระยะยาวมาก อาจจะนานถึงสามสิบปีข้างหน้า ก่อนจะไปถึงจุดนั้น หุ้นรถรางขาดทุนหลายต่อหลายหน…การควบคุมโชคชะตาไม่ใช่เรื่องง่าย ผลการทำนายมักขัดแย้งกับกระบวนการหลายครั้ง การพึ่งพาพลังทำนายเพียงอย่างเดียวไม่ใช่เรื่องฉลาด ยิ่งไปกว่านั้น ผลการทำนายสามารถถูกรบกวนหรือบิดเบือนได้ โลกนี้มีสิ่งมีชีวิตยากทำความเข้าใจหลายชนิด หากนายหวังใช้พลังทำนายเป็นแสงสว่างคอยนำทาง รับรองได้เลยว่าต้องตายเพราะมันในสักวัน ศาสตร์ทำนายคือการขอคำชี้นำจากโลกวิญญาณ ผู้ทำนายต้องอาศัยความระมัดระวังเป็นพิเศษ รวมถึงควบคุมตัวเองร่วมด้วย”
ผลการทำนายของโรซาโก้ไม่พบอันตรายเพราะว่า ยันต์ถ้อยคำกัดกร่อนของเราถูกสร้างในห้วงมิติเหนือสายหมอก และสิ่งนี้เป็นสาเหตุให้มันกล้าจู่โจมเราจนต้องจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถ ไม่อย่างนั้นแล้ว ผู้วิเศษทรงพลังอย่างโรซาโก้คงจัดการเราและมิสบอดี้การ์ดได้ไม่ยาก…เราต้องใช้ตัวอย่างของโรซาโก้คอยเตือนสติตัวเอง ถึงจะมีห้วงมิติเหนือหมอกเทาช่วยขจัดการรบกวน ก็ห้ามประมาทโดยเด็ดขาด ต้องคิดแผนสองเผื่อไว้เสมอ…หากประเมินจากบทสนทนา คล้ายกับพวกมันยังไม่ทราบถึงเทคนิคสวมบทบาทในเวลานั้น จึงต้องถ่ายทอดให้อีกฝ่าย ‘หวาดกลัว’ และ ‘เคารพ’ ต่อโชคชะตาแทน…ขณะสมองไคลน์กำลังโลดแล่น มันได้ยินโรซาโก้ตอบกลับอีกฝ่ายพลางใช้มือคลี่กระดาษหนัง
ลำดับเจ็ด นักมายากล
วัตถุดิบหลัก :
– รากแก้วของมนุษย์ต้นไม้หมอกทึบ
– ไขกระดูกทั้งหมดของเสือดำลายมาร
วัตถุดิบรอง :
– น้ำบริสุทธิ์ หกสิบ มิลลิลิตร
– ยางมนุษย์ต้นไม้ สามสิบ มิลลิลิตร
– ผงอัญมณีหยดน้ำ สาม กรัม
– น้ำมันสกัดหญ้าหลอนประสาท สี่ หยด
“นักมายากล…” นี่ก็เป็นหนึ่งในอาชีพของคณะละครสัตว์ แบบเดียวกับนักทำนายและตัวตลก…ไคลน์รำพันติดตลก ก่อนจะหวนนึกถึง ‘ตัวตลกสวมสูท’ ในอดีต
จากประเมินจากความสามารถ ชายคนนั้นคงเป็นนักมายากล เพราะมีพลังในการยิงกระสุนลม กระโจนไฟ และเปลี่ยนกระดาษให้เป็นอาวุธ…ไม่เลว…ลำพังแค่ร่ายเวทมนตร์ได้เร็ว ก็ช่วยส่งเสริมพลังต่อสู้ของเรามากแล้ว
ขณะไคลน์กำลังตรึกตรอง ฉากตรงหน้าเริ่มมีการเปลี่ยนแปลง
คราวนี้เป็นห้องหรูหราโอ่อ่า รายล้อมด้วยรูปปั้นทองคำและเครื่องตกแต่งจำนวนมาก
เสียงเดิมดังแว่ว และยังคงอธิบายโรซาโก้เกี่ยวกับหลักปฏิบัติตัวเหมือนเดิม
จากประสบการณ์ของฉัน เมื่อนายดื่มโอสถ ‘ผู้ไร้หน้า’ เข้าไป ต้องจำใส่ใจให้ดีว่า นายสามารถปลอมตัวเป็นใครก็ได้ แต่แก่นแท้ยังต้องเป็นตัวเองเสมอ”
ผู้ไร้หน้า? ลำดับหก ของเส้นทางนักทำนายคือผู้ไร้หน้าเองหรือ? โรซาโก้คงใช้พลังชนิดนี้ปลอมตัวเป็นจ่าฟาซิน… ไม่ใช่แค่นั้น นักสืบเซอเรียลตัวปลอมในงานเลี้ยงก็คงเป็นมันด้วยเช่นกัน…
‘ยุบพองหิวโหย’ ช่วยให้คีลิงเกอร์ปลอมตัวเป็นใครก็ได้ สิ่งนี้สอดคล้องกับพลังของผู้ไร้หน้า หมายความว่าคีลิงเกอร์คงเคยฆ่าผู้ไร้หน้ามาแล้วหนึ่งคน…พลังดังกล่าวอาจไม่มีประโยชน์ในการต่อสู้มากนัก แต่หากใช้ในสถานการณ์ทั่วไป มันจะมีประโยชน์กว่าพลังพิเศษส่วนใหญ่ค่อนข้างมาก…ไม่แปลกใจว่าทำไมโรซาโก้ถึงกล้าลงมือสังหารเราโดยไม่เกรงกลัวกับดัก…เหนือสิ่งอื่นใด พลังชนิดนี้มีประโยชน์กับคนอย่างเรามาก!
มาถึงจุดนี้ ดวงตาไคลน์เบิกโพลงโดยไม่รู้ตัวขณะเห็นโรซาโก้หยิบกระดาษสีทองแผ่นบางขึ้นมาถือ เนื้อหาจำนวนมากถูกเขียนไว้ด้วยภาษาเฮอมิส
ลำดับหก ผู้ไร้หน้า
วัตถุดิบหลัก :
– ต่อมใต้สมองกลายพันธุ์ของนักล่าพันหน้า
– ตะกอนพลังของเงามืดหนังมนุษย์
วัตถุดิบรอง :
– โลหิตนักล่าพันหน้า แปดสิบ มิลลิลิตร
– ยางต้นลำโพงดำ ห้า หยด
– ผงหญ้าเขี้ยวมังกร สิบ กรัม
– เส้นผมของนากาทะเลลึก สาม เส้น
นักล่าพันหน้า? ถ้าจำไม่ผิดมันคือมังกรประเภทหนึ่ง แต่ไม่ได้ทรงพลังมากนัก…ไม่ใช่มังกรเวทมนตร์ตามตำนาน กระนั้นก็ยังพบตัวได้ยาก มีข่าวลือว่าใกล้สูญพันธ์…ชายหนุ่มนั่งทบทวนความจำเกี่ยวกับศาสตร์เร้นลับ
มาถึงจุดนี้ ฉากหลังของความฝันยังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่เครื่องแต่งกายและตำแหน่งยืนของโรซาโก้เปลี่ยนไป
มันสวมวิกผมสีขาว ทักซิโด้สีเข้ม และหนวดเคราดกดำ
การเลื่อนลำดับคราวนี้ไม่ง่ายเหมือนเดิมอีกแล้ว โอสถต้องถูกดื่มขณะประกอบพิธีกรรมพิเศษบางชนิด หากทำสำเร็จ เจ้าจะได้รับสุดยอดพลังเหนือจินตนาการ กล่าวกันว่าเป็นรองเพียงเหล่า ‘ครึ่งเทพ’ เท่านั้น” เจ้าของเสียงเปลี่ยนไป กลายเป็นเสียงแก่ชรากว่าคราวก่อนมาก
โรซาโก้ย้อนถามอย่างสนใจ
“พิธีกรรม?”
“จงท่องมหาสมุทร หานางเงือกให้พบ และดื่มโอสถขณะหล่อนกำลังร้องเพลง” ชายชรากล่าวขณะเปิดหนังสือเล่มโบราณ เนื้อหาเต็มไปด้วยอักขระปริศนาจำนวนมาก
ทันใดนั้น ปกหนังสือพลันส่องแสง พร้อมกับการฉายภาพอักษรภาษาเฮอมิสโบราณกลางอากาศ
“ลำดับห้า นักเชิดหุ่น”
เมื่อเห็นภาพดังกล่าว ไคลน์รู้สึกปวดศีรษะกะทันหัน สิ่งนี้คือสัญญาณบ่งบอกว่าพลังวิญญาณของตนใกล้จะหมดลง
ในการต่อสู้ก่อนหน้า ยันต์ถ้อยคำกัดกร่อนได้สูบพลังวิญญาณของไคลน์ไปเกินกว่าครึ่ง ยังไม่รวมถึงการใช้ยันต์ทำเองอีกสามครั้ง และพิธีกรรมสื่อวิญญาณเพื่อส่งกายจิตลงมายังโลกจริง สิ่งนี้แสดงให้เห็นว่าไคลน์มีพัฒนาการเพิ่มจากอดีตมากเพียงใด และโอสถตัวตลกถูกย่อยไปไกลแค่ไหน
ฉากโลกความฝันเริ่มกะพริบ คล้ายกับใกล้แตกสลายเต็มที ไคลน์กัดฟันอดทดจ้องมองฉากตรงหน้าเพื่อเก็บรายละเอียดสูตรโอสถลำดับห้า นักเชิดหุ่น
วัตถุดิบหลัก :
– ละอองวิญญาณอาฆาตโบราณ
– ผลึกแก่นกากอยล์หกปีก
วัตถุดิบรอง :
– น้ำจากบ่อน้ำพุทองโซเนียร์ แปดสิบ มิลลิลิตร
– เปลือกไม้มังกร สิบ กรัม
– เศษเสี้ยวของวิญญาณอาฆาตโบราณ
– ดวงตาของกากอยล์หกปีก หนึ่ง คู่
“พิธีกรรมเลื่อนลำดับ : ดื่มโอสถขณะนางเงือกกำลังร้องเพลง”
เพล้ง! ไคลน์ไม่ฝืนทัศนาความฝันต่อ มันปล่อยให้ภาพตรงหน้าแตกละเอียดประหนึ่งเศษกระจกและเลือนหายไป
ชายหนุ่มใช้นิ้วกดหน้าผากด้วยสีหน้าเจ็บแปลบ สติเลือนรางใกล้ดับวูบเต็มที ขณะเดียวกัน เศษดวงวิญญาณโรซาโก้ปนเปื้อนความบ้าคลั่งเริ่มเลือนหาย ไคลน์ถูกพลังลึกลับกระชากให้กลับสู่โลกจริงกะทันหัน
พื้นห้อง คราบเลือด คราบสมอง และเศษชิ้นส่วนมนุษย์ปรากฏในสายชายหนุ่ม มันงอตัวเล็กน้อยพร้อมกับขย้อนบางสิ่งออกทางปากเพื่อให้สมองโล่ง
ถ้าพลังวิญญาณหมด เราจะถูกบังคับส่งออกจากห้วงมิติเหนือหมอกเทา…ไคลน์กวาดสายตามองรอบตัวและได้พบมิสบอดี้การ์ดกำลังหลับสนิท
มันรีบดับเทียนและเก็บข้าวของเกี่ยวกับพิธีกรรมทั้งหมด จากนั้นก็ส่งเสียงหอบด้วยสีหน้าอ่อนแรง ค้างอยู่ในท่าเช่นนี้สักพักจนกระทั่งพลังวิญญาณเริ่มพื้นฟูกลับมา
ในวินาทีนี้เอง ไคลน์รู้สึกว่ามีสายลมเย็นเฉียบกำลังไหลเวียนรอบลำคอ ทำเอาร่างกายสั่นเทาด้วยท่าทางหวาดผวา
มันรีบหันหลังกลับไปมองมุขหน้าต่างข้างบานประตูตามสัญชาตญาณ และพบว่าคนคุ้มกันสาวสวยตื่นขึ้นมาแล้ว เธอกำลังลอยตัวกลางอากาศพลางจ้องมองมาทางตน
เส้นผมสีทองอ่อนและผิวพรรณขาวซีด เจือจางลงจากตอนแรกค่อนข้างมาก ผิวหนังมีลักษณะโปร่งแสงจนคล้ายกับร่างมายา
ไคลน์รีบอธิบายด้วยข้ออ้างในหัว สิ่งนี้ถูกเตรียมไว้ล่วงหน้านานแล้ว
“หลังจากทำลายศีรษะของมัน ผมเห็นศพยังคงชักกระตุกไม่หยุด ด้วยความกลัวว่ามันจะฟื้นคืนชีพ จึงลนลานใช้ยันต์ทั้งหมดในตัวโดยไม่ได้คำนึงถึงคุณ ต้องขอโทษด้วยครับ”
น่ากลัวชะมัด…บางทีเธออาจเป็น ‘อันตราย’ แท้จริงตามคำทำนาย…ถ้าหล่อนไม่พึงพอใจคำอธิบายและคิดว่าเราพยายามโจมตี ผลลัพธ์คงออกมาเลวร้าย…ไคลน์กำลังปากสั่นจากอาการประหม่า
แน่นอน ยิ่งเปิดเผยอารมณ์แท้จริงออกไปมากเท่าไร การแสร้งทำตัวอ่อนแอก็ยิ่งสมจริงมากเท่านั้น
มิสบอดี้การ์ดก้มหน้ามองร่างกายตัวเองพลางซักถามด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ยันต์อันแรกคืออะไรกันแน่”
“ผมซื้อใบหูสีดำมาจากชุมนุมในราคา สี่ร้อยปอนด์ คนขายเล่าว่า จะช่วยให้จะได้ยินเสียงของตัวตนยิ่งใหญ่ หากผมโชคดีจะได้รับผลประโยชน์ตอบแทน แต่ถ้าโชคร้ายผมจะตายทันที…ตอนนั้นผมยังหาคนคุ้มกันไม่ได้ จึงลองเสี่ยงดวงซื้อกลับมา และพบว่าสวรรค์ยังเข้าข้างอยู่บ้าง” ไคลน์เล่าทุกสิ่งตามความจริง “หลังจากได้ยินเสียงตัวตนอันยิ่งใหญ่ ใบหูสีดำพลันแตกละเอียดและเปลี่ยนรูปร่างเป็นยันต์โลหะสีดำ”
มิสบอดี้การ์ดใช้ดวงตาสีฟ้าจ้องไคลน์หัวจรดเท้า บรรยากาศภายในห้องถูกปกคลุมด้วยความเงียบงันครู่ใหญ่ ราวกับกาลเวลาแช่แข็งตัวเองชั่วคราว
จนกระทั่ง สตรีในเดรสสีดำหรูหราผงกศีรษะแผ่วเบา
“คุณควรไปพบนักจิตบำบัด”
เธอกำลังหมายความว่า เรามีโอกาสกลายเป็นคนเสียสติ? ไม่ผิดแน่ เธอย่อมเดาได้ว่าใบหูสีดำเกี่ยวข้องกับเส้นทางผู้สดับ และเชื่อว่าวิญญาณโรซาโก้ถูกปนเปื้อนด้วยพลังของพระผู้สร้างแท้จริง…แถมยังรู้ด้วยว่า เราจงใจทำให้เธอหลับเพื่อจะได้สื่อวิญญาณ…และด้วยหลักการเดียวกัน เธอเข้าใจว่าเราได้รับความชื่นชอบจากพระผู้สร้าง จึงได้สติก่อนใครภายในห้อง…มุมปากไคลน์เริ่มกระตุก
“รีบเก็บกวาดก่อนเถอะ MI9 อาจส่งคนมาตรวจสอบได้ทุกเมื่อ” ชายหนุ่มรีบชี้ไปทางร่างไร้ศีรษะของโรซาโก้
ขณะกล่าว ไคลน์หยิบถุงมือออกมาสวมพร้อมกับนั่งยองหน้าศพ เพื่อสำรวจว่าโรซาโก้เหลือสมบัติใดทิ้งไว้บ้าง
มันพบเงินสดมากกว่าสิบปอนด์ น้ำมันสกัดและผงสมุนไพรหลายชนิด กระดาษถูกตัดเป็นโครงร่างคนอย่างหยาบสองแผ่น รวมถึงแผ่นกระดาษแปลกประหลาด
แผ่นกระดาษดังกล่าวมีสีส้ม ด้านบนสลักสัญลักษณ์เกี่ยวกับสุริยันไว้มากมาย อักขระถูกเขียนเรียงติดกันเป็นทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้ากลวง ลำพังแค่ถือเอาไว้ ไคลน์เกิดความรู้สึกอบอุ่นและมั่นคงอย่างบอกไม่ถูก
“สิ่งนี้คือ?” ชายหนุ่มไม่เก็บซ่อนความฉงน
ในเวลาเดียวกัน มิสบอดี้การ์ดลอยมาด้านหลังไคลน์โดยไม่ให้สุ้มเสียง เธอเปิดปากอธิบายอย่างสั้นห้วน
“วัตถุวิเศษเกี่ยวกับผู้รับรอง”
“ผู้รับรอง?” ไคลน์ประหลาดใจในตอนต้น แต่ก็นึกออกทันทีว่าโรซาโก้คือหนึ่งในสายลับของสาธารณรัฐอินทิส ประเทศดังกล่าวนับถือเทพจักรกลไอน้ำและเทพสุริยันเจิดจรัส โดยเฉพาะอย่างหลัง สุริยันเจิดจรัสยังมีอีกชื่อหนึ่งว่าเทพแห่งพันธสัญญา
เป็นชื่อของโอสถลำดับหก หรือ ห้า บนเส้นทางนักขับขานงั้นหรือ?
“หากผ่านการรับรอง ผู้ใช้งานวัตถุวิเศษชิ้นนี้จะได้รับพลังพิเศษเพิ่มขึ้นเล็กน้อย แต่ถ้าไม่ใช่ พลังพิเศษจะกระจัดกระจายทันที” คนคุ้มกันสาวสวยอธิบายวิธีใช้งานและต้นกำเนิดอย่างคร่าว
ขณะไคลน์กำลังจะกล่าวบางสิ่ง มุมสายตาเหลือบเห็นแสงระยิบระยับจากร่างไร้สมองของโรซาโก้ แสงหลายจุดเริ่มไหลมารวมกันจนตกผลึกเป็น ‘เนตรไร้ดวงตา’ สีดำสนิท ปราศจากตาขาวโดยสิ้นเชิง
“แล้วนี่คือ…?” ไคลน์ถามแกล้งโง่
“ขยะ” มิสบอดี้การ์ดยังคงตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาเหมือนกับทุกครั้ง
“ขยะ?” ไคลน์ขมวดคิ้วชนกัน
ในความเป็นจริง มันเข้าใจคำพูดของคนคุ้มกันสาวสวยเป็นอย่างดี หากโรซาโก้เกิดคลุ้มคลั่งก่อนเสียชีวิต ตะกอนพลังของมันอาจกลายเป็นสมบัติวิเศษปิดผนึก แต่ถ้าไม่คลุ้มคลั่ง ตะกอนพลังโรซาโก้จะมีมูลค่าเทียบเท่าวัตถุดิบหลักของโอสถลำดับห้า นักเชิดหุ่น สรุปโดยสั้น ตะกอนพลังของโรซาโก้สมควรต้องมีมูลค่าสูง
อย่างไรก็ตาม ปัญหาใหญ่คือ โรซาโก้มิได้คลุ้มคลั่ง แต่มันถูกพลังของพระผู้สร้างแท้จริงปนเปื้อนรุนแรง ส่งผลให้ตะกอนพลังกลายเป็นสิ่งโสมม ถ้านำไปปรุงเป็นโอสถนักเชิดหุ่นโดยตรง การดื่มเข้าไปมีค่าเท่ากับดื่มยาพิษ
มิสบอดี้การ์ดจ้องมอง ‘ดวงตาดำล้วน’ พลางกล่าวด้วยเสียงล่องลอย
“มันถูกพลังของเทพนอกรีตปนเปื้อน ไม่มีคุณค่าอันใดแม้แต่น้อย”
แหงสิ…ถ้ามันมีมูลค่าจริง คุณคงเชือดผมทิ้งและนำไปขายแล้ว…ไคลน์รำพัน ก่อนจะชี้ไปทางซากศพโรซาโก้และเปล่งเสียง
“รางวัลแห่งชัยชนะของพวกเรา ผลัดกันเลือกคนละชิ้น เชิญคุณก่อน”
มิสบอดี้การ์ดชำเลืองไคลน์เล็กน้อย จากนั้นก็ลอยตัวไปหยุดเหนือ ‘บัตรรับรอง’
เป็นไปตามคาด…เราคงต้องศึกษาศาสตร์เร้นลับให้ลึกซึ้งกว่านี้ เผื่อได้พบวิธีขจัดการปนเปื้อนของพลังเทพนอกรีต…ไคลน์หยิบกล่องโลหะใส่บุหรี่ออกมา และโน้มตัวบรรจงหยิบดวงตาดำล้วนใส่กล่องอย่างระมัดระวัง
………………….