Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 266

Lord of the Mysteries 266

ตอนที่ 266 : เดอะเวิร์ลค้าขาย

ลำดับ ศูนย์?

ยังมีลำดับ ศูนย์ เหนือลำดับ หนึ่ง อีกหรือ…

ลำดับ ศูนย์ คือเทพ?

มีลำดับ ศูนย์ ได้แค่คนเดียวในแต่ละเส้นทาง? ความหมายแท้จริงของวลี ‘ยี่สิบสองเส้นทางสู่การเป็นเทพ’ คือแบบนี้เองหรือ?

เพียงดื่มโอสถ ประกอบพิธีกรรมให้ถูกต้อง และสวมบทบาทอย่างชำนาญเพื่อย่อยโอสถของตัวเองให้สมบูรณ์ คนธรรมดาเดินดินก็สามารถกลายเป็นเทพได้หากมีวาสนาพอ?

เย้ยหยันเทพของแท้…

จะง่ายขนาดนั้นเชียว? หรือวัตถุดิบหลักต้องเป็นของหายากอย่างตะกอนพลังเทพ โลหิต และกายาของสุริยันเจิดจรัส?

ไดอารีหน้าสุดท้ายอัดแน่นด้วยความรู้มูลค่ามหาศาล ไคลน์กำลังตกตะลึงสถานหนัก ถึงขั้นเกือบขยับร่างกายออกท่าทางลนลาน

ยี่สิบสองเส้นทางแห่งเทพย่อมหมายถึงการมีลำดับ ศูนย์ จำนวน ยี่สิบสอง ตน…ลำดับ ศูนย์ สุริยัน แค่ฟังจากชื่อก็ทรงพลังแล้ว…บางทีอาจมีลำดับ ศูนย์ มรณา? ชักอยากรู้ว่าเทพธิดาและเทพวายุสลาตันจะใช้ชื่อลำดับ ศูนย์ ว่าอย่างไร…จากคำอธิบายของจักรพรรดิโรซายล์ ไพ่เย้ยเทพของมัน สร้างจากการล้อเลียนไพ่ทาโรต์สำรับหลัก แต่มีบางใบแตกต่างออกไปเพื่อให้สอดคล้องกับชื่อโอสถ…แปลว่าไพ่เย้ยเทพแต่ละใบจะมีชื่อไม่ตรงกับโอสถเสียทีเดียว

หรือสาเหตุทำให้โรซายล์นึกเสียดายว่าตนไม่ได้เลือกเส้นทางนักทำนาย ผู้ฝึกหัด และนักจารกรรม เพราะเส้นทางเหล่านี้ยังไม่มีเทพลำดับศูนย์ปรากฏตัว?

แล้วเหตุใด ในกรณีของมวลความรู้มหาศาลอย่าง ‘ปราชญ์เร้นลับ’ ถึงเพิ่งกลายเป็นตัวบุคคลขึ้นมาในตอนหลัง?

โรซายล์กำลังวางแผนอะไรไว้? ราวกับเขากลายเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกไปแล้ว โดยจุดยึดเหนี่ยวสุดท้ายเหลือแค่องค์กรลับโบราณ…

แม่มดบรรพกาลคือชื่อของลำดับศูนย์ เส้นทางแม่มด?

ไคลน์เริ่มรวบรวมสมาธิ พยายามระงับความสับสนปั่นป่วนภายในสมอง

มันกำลังตระหนักเป็นอย่างดีว่า ตนไม่ควรตั้งคำถามไร้คำตอบมากไปกว่านี้ ต้องรีบคืนสภาพปรกติโดยเร็ว มิฉะนั้น จัสติสและแฮงแมนจะเริ่มเอะใจว่า

มิสเตอร์ฟูลอ่านไดอารีนานเกินไปแล้ว!

เราอยากได้ไพ่เย้ยเทพของโรซายล์ ต้องรู้ให้ได้ว่าวัตถุดิบหลักของโอสถแห่งเทพประกอบด้วยสิ่งใดบ้าง รวมถึงพิธีกรรมและความลับด้านอื่น…ไคลน์พยายามระงับอาการตกตะลึงและความค้างคาใจ ก่อนจะเสกแผ่นไดอารีจักรพรรดิโรซายล์ให้หายไปจากฝ่ามือ

ชายหนุ่มใช้มือเคาะลงบนโตะสำริดยาว มองไปทางด้านข้างและเปล่งเสียงกล่าว

“มิสจัสติส เจ้าทำได้ดีมาก เบเคอร์ลันถูกกำจัดภายในไม่ถึงหนึ่งสัปดาห์ จากข้อตกลงของพวกเรา เจ้าต้องการรางวัลเป็นสิ่งใด?”

เบเคอร์ลันตายแล้ว? เร็วขนาดนี้เชียว? แฮงแมน·อัลเจอร์เพิ่งล่องเรือถึงเกาะได้ไม่กี่วัน จึงยังมีข้อมูลของทวีปเหนือไม่มากนัก ขณะมันกำลังประหลาดใจ จัสติส·ออเดรย์ ผู้แอบสำรวจอากัปกิริยาอีกฝ่ายอย่างลับๆ เกิดความรู้สึกเหนือกว่าอย่างบอกไม่ถูก

ต่อให้อัลเจอร์อยู่ในเมืองหลวงของหมู่เกาะรอสต์ ‘เมืองแห่งการให้’ บายัม ก็ไม่มีทางได้รับข่าวสารทันเวลา เพราะโทรเลขสามารถส่งข้อความได้แบบจำกัดตัวอักษร ถ้าไม่ใช่ข่าวเร่งด่วนอย่างแท้จริง ต้องรอนานราวสองถึงสามวันกว่าข่าวจะถูกลำเลียงมาถึง และในบางกรณี ต้องใช้เวลานานนับเดือนกว่าเมืองรองในหมู่เกาะรอสต์จะได้ทราบข่าวปัจจุบันของทวีปเหนือ

หลังจากระงับอาการตกใจ แฮงแมนรีบหันไปมองเดอะฟูลผู้รายล้อมด้วยหมอกหนาทึบ ก่อนจะกล่าวอย่างนอบน้อม

“ต้องขออภัยเป็นอย่างสูง ผมเพิ่งมีโอกาสได้ติดต่อกับผู้คนเมื่อไม่กี่วันก่อน มิอาจเป็นกำลังให้ท่านได้”

“ภารกิจนี้เป็นงาน ไม่ใช่การขอร้อง อย่าได้กังวลเกินไป” ไคลน์แสยะยิ้มพลางหันไปมองจัสติส รอว่าเธอจะกล่าวสิ่งใด

ท่านเทพธิดา ได้โปรดช่วยข้าด้วย! อย่าให้คำขอร้องของมิสจัสติสยุ่งยากเกินไป เอาเป็นข้อมูลจากไดอารีโรซายล์ยิ่งดี…อย่างน้อยเราก็มีข้อมูลในมือค่อนข้างมาก…ไคลน์สวดภาวนาต่อเทพธิดารัตติกาลภายในใจ

แน่นอน มันมั่นใจมาก ด้วยพลังกีดขวางของมิติสายหมอก เทพธิดาไม่มีทางได้ยินคำสวดภาวนาของตน

ออเดรย์ก้มหน้าลง ตรึกตรองหลายวินาที

ซื่อสัตย์ ไม่โลภ ออเดรย์ เธอต้องหนักแน่นในอุดมการณ์ของตัวเอง! เด็กสาวเผยรอยยิ้มสดใสให้เดอะฟูล

“ไม่ต้องค่ะ ดิฉันยังติดค้างท่านอยู่ เอ่อ หมายถึงผู้รับใช้ของท่าน”

“เงินค่าหัวของพลเรือโทวายุ·คีลิงเกอร์มีมูลค่าทั้งหมด สามหมื่นปอนด์ ดิฉันต้องมอบให้ผู้รับใช้ของท่าน หนึ่งหมื่นห้าพันปอนด์ เมื่อหัก หนึ่งหมื่นปอนด์จากค่าจ้างลอบสังหารราชทูตเบเคอร์ลัน ดิฉันยังต้องจ่ายเพิ่มอีก ห้าพันปอนด์ ทว่า เนื่องจากใช้เงินจ้างฆ่าไปเป็นจำนวนมากในคราวเดียว สภาพคล่องทางการเงินในปัจจุบันจึงขัดสน จำเป็นต้องผ่อนจ่ายหลายงวด ท่านมิสเตอร์ฟูลติดขัดหรือไม่คะ?”

เมื่อกล่าวจบ ออเดรย์ถอนหายใจกับตัวเอง เธอรู้สึกเหมือนกับยกหินก้อนใหญ่ออกจากอก

แม้การเอ่ยถึงเงินทองต่อหน้ามิสเตอร์ฟูลจะเป็นเรื่องเสียมารยาท แต่เราก็ควรเปิดเผยเงินส่วนแบ่งของผู้รับใช้ให้ชัดเจน…ออเดรย์ไตร่ตรองการกระทำตัวเอง

ส่วนเรื่องเขตเกษตรกรรมมูลค่ากว่า แปดพันปอนด์นั้นไม่นับ เพราะถือเป็นของขวัญส่วนตัวจากดยุคนีแกน รางวัลนอกรอบ ไม่ใช่เงินรางวัลค่าหัวคีลิงเกอร์

ห้าพันปอนด์? เรายังได้อีกห้าพันปอนด์? ค่าหัวคีลิงเกอร์สูงถึงสามหมื่นปอนด์เลยหรือ? ไคลน์ผงะเงียบงันหลายอึดใจ

ทันใดนั้น มันเริ่มเกิดความขัดแย้งในสมอง เป็นความรู้สึกผิดและละอายใจ

ว่ากันตามศีลธรรมพื้นฐาน เราควรแบ่งเงินให้มิสเตอร์อะซิกด้วย แต่ปัญหาคือ การติดต่อเขาจะทำให้เกิดอันตราย…จะไม่รับเงินก็ไม่ได้ แบบนั้นไม่เกิดประโยชน์…ควรนำเงินไปใช้ไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง เช่นการพัฒนาตัวเอง จากนั้นค่อยตอบแทนมิสเตอร์อะซิกในด้านความช่วยเหลือ…ไคลน์นั่งใคร่ครวญราวสามวินาที ตามด้วยการผงกศีรษะให้จัสติส

“ไม่มีปัญหา”

เมื่อได้ยินคำตอบจากเดอะฟูล ออเดรย์ยังคงนั่งในท่าสง่างามเช่นเดิมไม่เปลี่ยน แต่ภายในใจกำลังผ่อนคลายสุดขีด

ขณะเดียวกัน ไคลน์เอนหลังพิงเก้าอี้พร้อมกับแอบบังคับไอดีเด็กให้เปล่งเสียง

เดอะเวิร์ลกระแอมในลำคอก่อนกล่าว

“ผมพูดได้หรือยัง?”

จัสติส·ออเดรย์มองหามิสเตอร์ฟูล เมื่อเห็นว่าประธานไม่มีท่าทีคัดค้าน เธอผงกศีรษะรับ

“เชิญค่ะ”

ขณะเดียวกัน เด็กสาวฉวยโอกาสอ่านอารมณ์ของอีกฝ่าย เพื่อประเมินนิสัยใจคอสมาชิกใหม่ เดอะเวิร์ล

แม้จะได้ยินว่าเราเพิ่งทำภารกิจลอบสังหารราชทูตเบเคอร์ลันสำเร็จ แต่ชายคนนี้กลับไม่แสดงท่าทีประหลาดใจเลยสักนิด…อาจเพราะเขาไม่ทราบระดับความสำคัญของเหตุการณ์ ไม่ทราบว่าเบเคอร์ลันเป็นใคร หรือไม่ก็คงเป็นคนสุขุมเยือกเย็น ชำนาญการปกปิดอารมณ์ภายนอกอย่างมาก…ปากของเขาขยับไม่ตรงเสียงพูด หมายความว่ามิสเตอร์ฟูลช่วยแปลภาษาตลอดเวลา ทำให้ไม่ได้ยินเสียงเดิม…เดาไม่ออกเลยว่ากำลังพูดภาษาใด…ขณะความคิดฟุ้งซ่านโลดแล่นในสมองออเดรย์ เดอะเวิร์ลเปล่งเสียงแหบพร่า

“ผมต้องการรากแก้วของต้นไม้มนุษย์หมอกทึบและยางไม้ หกสิบมิลลิลิตร ผลึกแก่นน้ำพุเอลฟ์ และไขสันหลังทั้งหมดของเสือดำลายมาร”

“มีใครหาได้บ้าง? แค่เบาะแสก็ยังดี”

“แจ้งด้วยว่าต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยน”

ไคลน์จงใจเสริมวัตถุดิบหลักของนักปรุงยาจากอีกชุมนุม เพื่อไม่ให้สมาชิกชุมนุมทาโรต์เดาออกว่า เดอะเวิร์ลต้องการปรุงโอสถใด

ก่อนจัสติสและแฮงแมนจะได้ขยับปาก เดอะซันผู้เงียบงันมานานชิงกล่าว

“ผมทราบว่าต้นไม้มนุษย์หมอกทึบอยู่ไหน และสามารถนำวัตถุดิบหลักมาให้ได้ ทว่า ต้องรอจนกว่าผมจะเลื่อนลำดับสำเร็จ ผ่านเกณฑ์คัดเลือก และเข้าร่วมทีมสำรวจเสียก่อน”

เด็กหนุ่มสะสมคะแนนคุณประโยชน์ได้ค่อนข้างมากในภารกิจลาดตระเวน ตอนนี้จึงกำลังรวบรวมวัตถุดิบจากสภาเมือง ตลาดมืดค้าของวิเศษ เพื่อปรุงเป็นโอสถผู้ภาวนาแห่งแสง แต่ปัจจุบันยังขาดอีกพอสมควร

มีสัตว์ประหลาดหลากหลายสายพันธุ์สินะ สมกับเป็นเมืองเงินพิสุทธิ์แสนอันตราย…ชายหนุ่มชื่นชมในใจ พลางบังคับเดอะเวิร์ลถาม

“แล้วต้องการสิ่งใดแลกเปลี่ยน”

เดอะซัน·เดอร์ริคตอบฉะฉานโดยไม่ลังเล

“สิ่งจำเป็นสำหรับผม อาวุธสำหรับเพิ่มประสิทธิภาพการต่อสู้กับสัตว์ประหลาด”

มันไม่เลือกวัตถุดิบโอสถผู้ภาวนาแห่งแสง เนื่องจากเงินพิสุทธิ์มีครบครันทุกสิ่ง สามารถครอบครองได้ทุกเมื่อหากขยันมากพอ

เมื่อได้ยินข้อต่อรอง ไคลน์พลันนึกถึงดาบยาวลงอักขระ ใครบางคนเคยประกาศขายในการชุมนุมของเนตรแห่งปัญญา

ความคมพอเหมาะ มีพลังแฝงช่วยชำระล้างและปัดเป่าวิญญาณ ใช้ได้นานถึงสามปี มูลค่าห้าร้อยปอนด์ ตรงตามความต้องการของเดอะซันทุกประการ

ทำไมถึงไม่บอกให้เร็วกว่านี้…ดาบเล่มนั้นถูกขายให้ใครบางคนไปแล้ว…ไคลน์กวาดสายตามองสมาชิกรอบตัว ขณะเดียวกันก็บังคับเดอะเวิร์ลพยักหน้า

“ตกลง ผมจะรีบหาอาวุธตรงความต้องการของคุณโดยเร็ว รบกวนท่านมิสเตอร์ฟูลเป็นสักขีพยานในการแลกเปลี่ยนครั้งนี้”

ไคลน์พยักหน้า เป็นสัญญาณว่ารับทราบ

ทันใดนั้น จัสติส·ออเดรย์ชำเลืองสายตาไปทางเดอะซัน ก่อนจะกล่าวย้ำเตือน

“นอกเหนือจากยางไม้มนุษย์หมอกทึบ วัตถุดิบของเดอะเวิร์ลชิ้นอื่นล้วนใช้สำหรับปรุงโอสถลำดับเจ็ดทั้งสิ้น มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า ห้าร้อยปอนด์แน่นอน”

เธอเชื่อว่าเด็กหนุ่มเดอะซันใสซื่อ กังวลว่าจะถูกมิสเตอร์เวิร์ลหลอกแลกเปลี่ยนกับอาวุธคุณภาพต่ำ

แม้มิสเตอร์ฟูลจะยึดหลักการแลกเปลี่ยนอย่างเท่าเทียม แต่ถ้าทั้งสองฝ่ายเห็นพ้อง ก็ไม่มีเหตุผลให้ต้องเข้าไปแทรกแซง เพราะในบางกรณี หากผู้ซื้อรีบร้อนใช้สินค้า ราคาแลกเปลี่ยนย่อมสูงขึ้นเป็นปรกติ…ออเดรย์ทบทวนความคิดในใจ

“สูตรผลิตโอสถลำดับเจ็ด จะมีมูลค่าราว แปดร้อยปอนด์” แฮงแมน·อัลเจอร์กล่าวเสริม

ตามสัญชาตญาณปรกติ มันไม่ชอบหน้าสมาชิกใหม่สักเท่าไร

ไคลน์พยายามแปลข้อความให้เดอะซันฟังอย่างยากลำบาก เพราะไม่ทราบว่าเมืองเงินพิสุทธิ์ใช้สกุลเงินประเภทใด จึงต้องเปรียบเทียบราคากับสูตรโอสถลำดับเก้าแทน

“เข้าใจแล้วครับ” เดอะซัน·เดอร์ริคผงกศีรษะรับ ตามด้วยการเสริม “…ขอบคุณทุกคนมากครับ”

เดอะเวิร์ลยังคงทำตัวอึมครึมเหมือนเคย ไม่กล่าวสิ่งใดกับเหตุการณ์เมื่อครู่ เพียงหันไปมองทางจัสติสและแฮงแมน รอคำตอบจากปากเขาและเธอ

ออเดรย์ใช้ความคิดราวสองวินาที

“ขอแลกเปลี่ยนด้วยสูตรโอสถนักจิตบำบัด รวมถึงวัตถุดิบหลัก เอ่อ…เป็นโอสถลำดับเจ็ดของเส้นทางผู้ชม”

“คุณสามารถรวบรวมข้อมูลไว้ก่อนได้ แต่ยังไม่ต้องรีบหาซื้อมาเก็บไว้ รอให้ดิฉันมีเบาะแสของไขกระดูกเสือดำลายมารและผลึกแก่นบ่อน้ำพุเอลฟ์เสียก่อน พวกเราค่อยมาตกลงรายละเอียดกันอีกครั้ง แต่ว่า…ถ้าคุณยินดีรับทองปอนด์เป็นสิ่งแลกเปลี่ยน ดิฉันก็พร้อมซื้อทุกเวลา”

แม้ว่าช่วงนี้เราจะมีสภาพคล่องทางการเงินไม่ดีนัก แต่ถ้าเป็นเรื่องด่วน ก็สามารถควักมาใช้เป็นการฉุกเฉินได้…ออเดรย์ปลอบใจตัวเอง

แฮงแมน·อัลเจอร์ตอบ

“ของผมเอาเป็น…สูตรโอสถลำดับหก ของเส้นทางลูกเรือ ‘ผู้รับใช้วายุ’ สิ่งนี้มีราคาสูงกว่าวัตถุดิบหลักของคุณทั้งหมดรวมกัน”

“ถ้าหามาได้จริง ผมยินดีจ่ายเงินเพิ่มให้เหมาะสมกับราคา”

“แต่ผมไม่มั่นใจว่าจะหาวัตถุดิบตามความต้องการของคุณได้ ไม่เลยสักชิ้นเดียว ฉะนั้นไม่จำเป็นต้องซื้อสูตรโอสถรอล่วงหน้า”

หือ? แฮงแมนเป็นคนของโบสถ์วายุสลาตันไม่ใช่หรือ ถ้าไม่ใช่ก็ใกล้เคียง เขาควรเบิกสูตรโอสถลำดับหกจากโบสถ์ได้ไม่ยาก…หรือต้องการปกปิดเบื้องบนว่า ตนทราบเทคนิคสวมบทบาทและย่อยโอสถนักเดินเรือได้ภายในเวลาอันสั้น? ไคลน์ก้มหน้าไตร่ตรอง

“ตกลง” เดอะเวิร์ลตอบเสียงทุ้ม พร้อมกับหันไปมองทุกคน

“ผมยังมีอีกหนึ่งภารกิจ”

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!