Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 272

Lord of the Mysteries 272

ตอนที่ 272 : ต่างฝ่ายต่างสังเกต

นักสืบ? พวกเดียวกันสินะ…แต่การได้รับความไว้วางใจจากกรมตำรวจ ให้ดูแลคดียากและซับซ้อนระดับนี้ หมายความว่าต้องเป็นนักสืบชื่อดังตัวจริงเสียงจริง อย่างน้อยก็ในสายตาซิลวารัสยาร์ด…แต่เดี๋ยวก่อน…คดีฆาตกรรมต่อเนื่องสิบเอ็ดศพ มีส่วนพัวพันกับพิธีกรรมบูชายัญปีศาจไม่ใช่หรือ? แล้วทำไมคดีถึงไม่ถูกส่งต่อไปยังเหยี่ยวราตรี ทูตพิพากษา หรือจิตแห่งจักรกล? ตามหลักปฏิบัติแล้ว กรมตำรวจแทบไม่ต้องออกแรงในคดีเหนือธรรมชาติเลยสักนิด งานจึงไม่ได้ล้นมือถึงขนาดต้องรบกวนนักสืบเอกชน

หืม…บางที การมีเหยื่อมากถึงสิบเอ็ดราย คงทำให้ประชาชนเสียขวัญไม่น้อย ซิลวารัสยาร์ดจึงถูกสังคมกดดัน และไม่ต้องการรอคอยหน่วยลับของโบสถ์อย่างไรจุดหมาย?

ไคลน์กำลังตรึกตรองเหตุผลมากมาย แต่ภายนอก มันเพียงเผยรอยยิ้มอ่อนโยน

“ตกลงครับ”

ชายหนุ่มก้าวเข้าไปในห้องรถสารรถม้าซึ่งถูกเช่าโดยไอเซนการ์ด·สแตนธอน จากนั้น มันได้พบเด็กหนุ่มผมสีน้ำตาล หน้าตาพึ่งพาได้

“ผู้ช่วยของผมเอง” ไอเซนการ์ดหน้าเรียวคางแหลม กล่าวแนะนำ “เชิญนั่งก่อน”

มันไม่ปิดประตูห้องโดยสาร และไม่ได้สั่งให้คนขับออกรถ เพื่อแสดงให้ไคลน์เห็นว่า ฝ่ายตนไม่มีเจตนามุ่งร้าย

ไคลน์นั่งลงด้วยสีหน้าจงใจกระวนกระวาย ตามด้วยการซักถามอย่างตื่นเกร็ง

“มิสเตอร์สแตนธอน คุณอยากคุยกับผมเรื่องไหน?”

ไอเซนการ์ดหยิบไปป์สีดำออกมามือ ตามด้วยการซักถาม “ผมต้องการทราบว่า คุณได้ยินสิ่งใดบ้าง จากการสะกดรอยตามมาดามโลเพสเข้าไป? พบเบาะแสอะไรบ้างไหม?”

“เรื่องนั้น…ผมเองก็เป็นนักสืบ คุณคงทราบดี พวกเรามีจรรยาบรรณต้องปกปิดความลับของลูกค้า” ไคลน์ตอบด้วยสีหน้าจนปัญญา

“ผมถามคุณในนามซิลวารัสยาร์ด จรรยาบรรณความลับใช้กับพวกเราไม่ได้” ไอเซนการ์ดนำปลายนิ้วลูบไปป์อย่างทะนุถนอม “หนึ่งปอนด์…ไม่สิ สักสองปอนด์เป็นไง?”

ไคลน์เคยได้รับบทเรียนจากคดีเมอซอลมาแล้ว ในบางครั้ง การปกปิดความลับมากเกินไปไม่ใช่เรื่องดี อาจนำพาความฉิบหายมาสู่ตัวเองได้ทุกเมื่อ จึงรีบตอบโดยไม่ลังเล

“ตกลงครับ”

“ดี” ไอเซนการ์ดยิ้ม ตามด้วยการหยิบธนบัตร หนึ่งปอนด์สองใบออกจากกระเป๋า

ไคลน์แสร้งทำเป็นนึก ก่อนจะเรียบเรียงคำพูดอธิบาย “พวกเราได้ยินแค่ประโยคเดียว เธอกำลังกำชับลูกน้องของตน ให้บอกกับคนชื่อคาพินว่า อย่าเพิ่งส่งใครมาเพิ่มในช่วงนี้”

“คาพิน?” ไอเซนการ์ด·สแตนธอนพยักหน้ารับ ก่อนจะกล่าว “…แบบนี้เองหรือ”

“คุณรู้จักคาพิน?” ไคลน์ไม่ปกปิดสีหน้าประหลาดใจ

ไอเซนการ์ดยื่นเงินสดสองปอนด์ให้ ตามด้วยการอธิบายพร้อมรอยยิ้ม

“เป็นผู้มีอิทธิพลของเขตเชอร์วู้ด สำหรับกรุงเบ็คลันด์ เด็กสาวไร้เดียงสามักหายตัวไปบ่อยครั้งในซอยเปลี่ยว โดยหลังจากนั้นสักพักใหญ่ พวกเธอจะถูกพบตามซ่องแบบถูกกฎหมายและผิดกฎหมาย มีข่าวลือหนาหูว่าเป็นฝีมือของคาพิน จิตใจชายคนนั้นอำมหิตคดเคี้ยว เป็นหัวหน้ากลุ่มอาชญากรโสมม แต่ทางการมีหลักฐานไม่เพียงพอ มันจึงลอยนวลจวบจนปัจจุบัน แถมยังสนิทกับคนใหญ่คนโตเป็นจำนวนมาก”

หากเป็นความจริง ไอ้ระยำนั่นสมควรตายสักพันหมื่นครั้ง… ไคลน์พยักหน้ารับพลางถอนหายใจ

“สมกับเป็นโลเอ็น…สมกับเป็นเบ็คลันด์… มิสเตอร์สแตนธอน ผมคงต้องขอตัวก่อน”

“ขอบคุณสำหรับความร่วมมือ” ไอเซนการ์ดกึ่งยืนกึ่งนั่งภายในรถม้า มันส่งภาษากายกล่าวอำลาไคลน์ตามมารยาท “อีกเรื่องหนึ่ง…คุณมีฝีมือต่อสู้ในระดับน่าทึ่ง บางที พวกเราอาจได้ร่วมงานกันในอนาคต ผมขอทราบชื่อสักหน่อยได้ไหม?”

“เชอร์ล็อก·โมเรียตี้” ไคลน์ตอบห้วน ตามด้วยการก้าวเท้าลงจากรถม้าทันที

เมื่อเห็นไคลน์เดินขึ้นรถม้าชนิดรางอีกคัน ไอเซนการ์ดสั่งให้ผู้ช่วยปิดประตูห้องโดยสาร ตามด้วยการบอกคนขับให้ตรงไปถนนฮิลสตัน

ขณะสายตาจ้องมองนอกหน้าต่าง ชายสูงวัยจอนสีขาวหงอกวางไปป์ลง มันหยิบเครื่องประดับสำริดจากกระเป๋าเสื้อออกมาถือ และใช้ปลายนิ้วลูบไล้อย่างทะนุถนอม

เครื่องประดับดังกล่าวคือสมุดจด ขนาดเท่ากระเป๋าเสื้อ กึ่งกลางหน้าปกมีสัญลักษณ์ดวงตาแนวตั้ง

“มิสเตอร์โมเรียตี้คนเมื่อครู่ เขามีการแต่งกายและรูปลักษณ์ไม่สอดคล้องกัน แว่นตาเลี่ยมทองเป็นแบบสมัยใหม่ แต่กลับจงใจไว้หนวดเครารุงรังรอบปาก ดูคล้ายกับคนเถื่อนชอบใช้กำลัง สองสิ่งนี้ขัดแย้งกันเองอย่างมาก เพราะตามปรกติแล้ว สุภาพบุรุษจะสวมแว่นตาเพื่อให้ตัวเองดูดี มีมาดของนักวิชาการทรงปัญญา…หมายความว่า ชายคนนั้นกำลังปกปิดบางสิ่ง หรือไม่ก็ อาจเป็นแค่สุภาพบุรุษรสนิยมแปลกประหลาดคนหนึ่ง…” ไอเซนการ์ดรำพัน แต่มีเจตนาของสั่งสอนผู้ช่วย

ขณะเดียวกัน ไคลน์กำลังเอนหลังพิงเบาะของรถม้าสาธารณะแบบราง ปากขยับส่งเสียงพึมพำกับตัวเอง

“นักสืบไอเซนการ์ดคนนั้นไม่ธรรมดา เนตรวิญญาณของเราบอกว่า ออร่าอารมณ์ของเขาเป็นสีฟ้าโดยไม่สั่นคลอน แสดงถึงความใจเย็นและเป็นเหตุเป็นผล รวมถึงสีม่วง บ่งบอกว่าเป็นคนเงียบขรึมเย็นชา ส่วนสีอื่นแทบไม่ปรากฏให้เห็นเลย สำหรับมนุษย์ทั่วไป นอกเสียจากจะเพ่งสมาธิจดจ่อกับบางสิ่งอย่างมาก ในยามปรกติ คนเราไม่มีทางคงอารมณ์เช่นนั้นได้นานแน่ สีของอารมณ์อื่นต้องปรากฏให้เห็นประปราย และจะแตกต่างกันเล็กน้อยตรง แต่ละคนมีสมาธิยาวนานไม่เท่ากัน หืม…เป็นไปได้ว่า นักสืบไอเซนการ์ดมีพรสวรรค์ทางด้านสังเกต หรือไม่ก็เป็นผู้วิเศษเส้นทางเกี่ยวกับการสังเกตโดยเฉพาะ”

รถม้าสาธารณะแบ่งออกเป็นสองชั้น คนขับต้องนำพาผู้โดยสารกว่า สี่สิบชีวิต ไปให้ถึงปลายทางสถานีเขตสะพานเบ็คลันด์ เมื่อไคลน์ได้สติกลับมา มันไตร่ตรองสิ่งแวดล้อมรอบตัวอย่างผ่อนคลาย สายตามองออกไปนอกหน้าต่าง ชื่นชมวิวทิวทัศน์อันงดงามด้านนอกพร้อมกับปล่อยเวลาให้ไหลผ่าน ส่วนใหญ่เป็นอาคารสูงสองสามชั้นสลับกันประปราย

ในบางครั้ง อาคารสีน้ำตาลสูงห้าชั้นจึงจะโผล่มาให้เห็น สิ่งนี้คือเทคโนโลยีการก่อสร้างสมัยใหม่ของอาณาจักร ถือเป็นช่วงปฏิวัติวงการสถาปนิกของโลเอ็นอย่างแท้จริง

เมื่อลงจากสถานี ไคลน์เช่ารถม้าต่อไปยังถนนประตูเหล็ก และลงหน้าผับวีรบุรุษโดยสวัสดิภาพ

ปัจจุบัน ยังไม่ถึงเวลาลูกค้าแน่นร้าน เมื่อเปิดประตูเข้าไป ไคลน์จึงเห็นคาสปาสกำลังนั่งหน้าบาร์

ชายชราจมูกโตสั่งเหล้าเลียลันสกี้เข้มข้นหนึ่งแก้ว หลังจากดื่มเข้าไป กลิ่นของมอลต์พลันคละคลุ้ง ระเบิดรวมกับความแสบและเผ็ดร้อน ส่งผลให้ดวงตาของมันเบิกโพลง

ไคลน์เดินเข้าไปหา ตามด้วยการใช้นิ้วเคาะบาร์อย่างนุ่มนวล และซักถาม

“มาริคอยู่ไหม?”

ในเวลาเดียวกัน ชายหนุ่มในมือข้างหนึ่งล้วงกระเป๋า ควานหานกหวีดทองแดงอะซิกมากำไว้ และแผ่พลังวิญญาณห่อหุ้ม เพื่อผนึกอำนาจปลุกซอมบี้อาละวาด

เสียงไคลน์ยังไม่ทันเจือจาง มันสัมผัสได้ทันทีว่าตนถูกดวงตาคู่หนึ่งจ้องมอง ราวกับอีกฝ่ายต้องการตรวจสอบทุกซอกมุม

ถัดมาไม่นาน ไคลน์ตระหนักว่าดวงตาไม่ได้เพ่งอยู่กับตนแล้ว แต่หันไปจดจ่อบนลำตัวคาสปาสแทน

ชายชราผู้มีแผลเป็นขนาดใหญ่ใต้ดวงตา คาสปาส มันหรี่ตาพลางหันมามองด้านข้าง และเมื่อพบว่าเจ้าของคำถามเป็นไคลน์ ชายชรากล่าวด้วยอารมณ์บูดบึ้ง

“วันนี้เขาไม่มา เมื่อวานก็ไม่มาเหมือนกัน”

ไม่อยู่สินะ…ไคลน์ถอนหายใจโล่งอก พร้อมกับยกเลิกผนึกนกหวีดด้วยพลังวิญญาณ

หืม…ขณะเราเอ่ยชื่อมาริคเมื่อครู่ ใครบางคนพลันจ้องมองทันที…และเมื่ออีกฝ่ายทราบว่าเรากำลังตามหามาริค สายตาคู่ดังกล่าวจึงหันไปมองคาสปาสแทน…หมายความว่ามันกำลังตามหามาริค…ขณะครุ่นคิด ไคลน์หักห้ามใจตัวเองไม่ให้หันหลังกลับไปมอง สมองเริ่มตระหนักถึงความผิดปรกติ

เมื่อผนวกกับข้อสันนิษฐานเดิม ไคลน์เริ่มได้พบคำตอบอย่างคร่าว

เราเคยสงสัยมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อนแล้วว่า เหตุใดลำดับห้า อย่างมิสบอดี้การ์ด ถึงยอมรับงานคุ้มกันเป็นเวลาสามวัน ด้วยค่าตอบแทนจำนวน หนึ่งพันปอนด์ แน่นอน ค่าจ้างอัตราดังกล่าวไม่ได้ถูก เพียงแต่ว่า บุคคลระดับเธอน่าจะมีวิธีหาเงินได้ดีกว่านี้ หากเทียบให้เห็นภาพ ยกตัวอย่างเป็นโบสถ์รัตติกาล ผู้วิเศษลำดับห้า จะมีตำแหน่งสูงถึงอาวุโส หรือไม่ก็บิชอปแห่งมุขมณฑล ยิ่งถ้าถือครอง ‘สมบัติศักดิ์สิทธิ์’ ไว้ในมือ การได้เป็นอาวุโสใหญ่ หรืออาร์คบิชอป จะไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดใจเลยสักนิด…

ขณะเดียวกัน ถ้าเป็นองค์กรลับ หรือหน่วยข่าวกรอง ผู้วิเศษลำดับห้า จะเป็นบุคคลสำคัญระดับเมืองใหญ่ อาจเป็นหัวหน้าทีม หรืออย่างเลวก็เป็นบุคคลลำดับสองถึงสามไม่เกินไปกว่านี้แน่ หรือถ้าไม่ได้สังกัดองค์กรใดเลย เป็นผู้วิเศษเร่ร่อนนอกกฎหมาย แต่ด้วยความเป็นลำดับห้า เธอย่อมแข็งแกร่งพอจะสร้างองค์กรขนาดเล็กเป็นของตัวเอง…

และถ้าเป็นเช่นนั้น มิสบอดี้การ์ดสามารถเสพสุขบนความมั่งคั่งโดยไม่ต้องทำสิ่งใด คอยชี้นิ้วให้ลูกน้องคอยจัดการเรื่องราวทั้งหมด…

ย้อนกลับไปในตอนนั้น เราแค่ต้องการจ้างคนคุ้มกันลำดับหก ผู้มีฝีมือพอจะยื้อเวลาการต่อสู้ออกไป เราจะได้ฉวยโอกาสใช้ยันต์ถ้อยคำกัดกร่อนจัดการลูกน้องเบเคอร์ลัน แต่ใครจะไปคิดว่า เราบังเอิญถูกหวย ได้รับการคุ้มกันจากสัตว์ประหลาดสุดแกร่งโดยตรง

เมื่อประเมินจากปัจจัยข้างต้น ทั้งมิสบอดี้การ์ดและมาริค อาจตกอยู่ในสถานการณ์ไม่ต่างจากเรานัก คือไม่สามารถเปิดเผยตัวตนแท้จริงได้ ต้องคอยใช้ชีวิตอย่างหลบซ่อน…ไม่สิ อาจแย่กว่าเราเสียอีก ทุกวินาทีต้องคอยกังวลว่าจะถูกตามล่า…เฮ่อ…ถ้าอีกฝ่ายมีพลังพอจะล่ามิสบอดี้การ์ด องค์กรดังกล่าวคงทรงแข็งแกร่งพอตัว ถึงจะไม่มีผู้วิเศษระดับครึ่งเทพเลย แต่อย่างน้อยก็คงมีลำดับห้า จำนวนมาก รวมถึงสมบัติศักดิ์สิทธิ์ หรือไม่ก็สมบัติวิเศษปิดผนึก…

อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดเป็นเพียงการคาดคะเนของเรา บางที มาริคอาจพลาดท่า ถูกเปิดโปงสถานะผู้วิเศษนอกกฎหมาย ส่งผลให้ถูกหน่วยจิตแห่งจักรกลตามล่าตัว…

หลังจากเรียบเรียงความคิด ไคลน์แสร้งปั้นสีหน้าเสียดาย

“อา…ผมอยากเล่นไพ่กับเขาสักหน่อย”

เมื่อได้ยินไคลน์ใช้คำพูดแตกต่างไปจากทุกที คาสปาสพลันตระหนักถึงสิ่งไม่ชอบมาพากล แต่มันก็ไม่กล้าหันหลังกลับไปมองอย่างโฉ่งฉ่าง ทำเพียงกล่าวพลางอมยิ้ม

“ในคืนนี้ ฉันคิดจะรวบคนมาเล่นไพ่อยู่พอดี เท็กซัสโป๊กเกอร์ สนใจร่วมวงด้วยไหม?”

“ไม่ครับ ผมวางแผนเล่นไพ่ถึงแค่ก่อนช่วงอาหารค่ำ เฮ่อ…คงต้องกลับบ้านเลยสินะ” ชายหนุ่มแสร้งถอนหายใจผิดหวัง ก่อนจะเดินออกจากผับวีรบุรุษโดยไม่สั่งเครื่องดื่มใดเลย

ความจริงแล้ว แผนเดิมของไคลน์คือ ซักถามคาสปาสว่ารู้จักชุมนุมผู้วิเศษอื่นอีกไหม แต่เมื่อพบความไม่ปรกติ จึงจำใจต้องล้มเลิกอย่างมิอาจเลี่ยง

ว่ากันตามตรง มันสามารถเดินเข้าไปในห้องไพ่ว่างๆ สักห้อง และคุยกับคาสปาสเป็นการส่วนตัว แต่เหตุการณ์เบเคอร์ลันได้สร้างมาตรฐานความปลอดภัยใหม่ให้ไคลน์ ชายหนุ่มจึงไม่คิดเสี่ยงอันตรายโดยไม่จำเป็น แม้เพียงเศษเสี้ยวก็ไม่เด็ดขาด

ไคลน์ไม่รีบร้อนกลับถนนมินส์ มันเลือกแวะหอพักหนึ่งเตียงนอนในเขตเหนือ เพื่อทำนายหาคำตอบว่า มีใครแอบสะกดรอยตามมาหรือไม่

เมื่อพบว่าไม่ถูกคุกคาม ไคลน์เริ่มผ่อนคลาย มันเดินทางกลับถึงบ้านบนถนนมินส์ก่อนฟ้ามืด และพบว่า กล่องจดหมายอัดแน่นไปด้วยหนังสือพิมพ์หลายฉบับ

วันนี้เรารีบออกจากบ้านตั้งแต่เช้า จึงไม่มีเวลาอ่านเลยสักเล่ม เวลาส่วนใหญ่หมดไปกับสโมสรครักซ์ ได้กินอาหารเลิศรส ได้ซ้อมยิงปืนจนเต็มอิ่ม ได้งีบช่วงบ่าย และถูกทาลิมชักชวนไปตีเทนนิสหลายเกม อา…เราไม่มีพื้นฐานของเทนนิสเลย แต่สามารถใช้พลังทางกายภาพชดเชย ช่วยกลบเกลื่อนให้ออกมาไม่น่าเกลียด…ไคลน์พึมพำกับตัวเอง ตามด้วยการบิดกลอนประตูบ้าน และเปิดมิเตอร์แก๊ส

แต่ก่อนจะเข้าบ้าน มันคว้าหนังสือพิมพ์ปึกใหญ่ติดมือ ตามด้วยการเดินไปนั่งผ่อนคลายบนโซฟาในห้องนั่งเล่น หลังจากทิ้งตัวลง ชายหนุ่มเลื่อนมือไปเปิดโคมไฟผนัง และก้มหน้าอ่านหนังสือพิมพ์อย่างตั้งใจ

ไคลน์อ่านหนังสือพิมพ์เบ็คลันด์โพสเป็นอันดับแรก โดยไม่อ่านพาดหัว แต่เลือกเปิดไปยังโฆษณาหน้าห้าทันที และพบว่าบริษัทเอินส์ได้ลงโฆษณาเกี่ยวกับความต้องการซื้อสินค้า!

ราคาประกอบด้วย แป้งมันปอนด์ละ เจ็ดเพนนี เนยสดปอนด์ละ หนึ่งซูล มันหมูปอนด์ละ หกเพนนี ครีมประกอบอาหารปอนด์ละ หนึ่งซูล สามเพนนี และชาดำมาร์ควิสปอนด์ละ แปดซูล…

สรุปได้ว่า วันพรุ่งนี้เวลาเดิม จะมีการชุมนุมในบ้านหลังเดิมตอนสองทุ่มตรง โดยใช้รหัสเคาะประตูตามนี้ เคาะหนัก เจ็ดครั้ง เคาะเบา หนึ่งครั้ง เว้นวรรคยาว หกครั้ง และเว้นสั้น หนึ่งครั้ง…ส่วนสามกับแปด ไม่มีความหมาย…ชายหนุ่มนั่งตีความรหัส แผ่นหลังเอนพิงเบาะโซฟาด้วยสีหน้าพึงพอใจ คาดหวังให้การชุมนุมวันพรุ่งนี้มาถึงโดยเร็ว

ไคลน์มีแผนจะขายสูตรโอสถสักชนิดเพื่อหาเงินทุนเริ่มต้น และหากโชคดี อาจมีวัตถุดิบหลักน่าสนใจหลุดมาขาย รวมถึงอาวุธวิเศษทรงพลัง ควรค่าแก่การเสียเงินจับจ่าย

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!