Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 274

Lord of the Mysteries 274

ตอนที่ 274 : อาวุธวิเศษ

หญิงสาวสวมชุดคลุมหัว เธอกวาดสายตามองรอบตัวก่อนจะเปล่งเสียง

“อาวุธวิเศษสองชนิดคราวนี้ ง่ายต่อการพกพาติดตัวไปไหนมาไหน”

“ชิ้นแรกคือ ‘แส้เชื่องช้า’ เลียนแบบมาจากสมบัติวิเศษ พลังของมันคือการสร้างแรงกดดันล่องหนคอยตรึงศัตรูทีละนิด ลดความว่องไวอีกฝ่ายอย่างต่อเนื่อง หมายความว่ายิ่งการต่อสู้ยืดเยื้อ ประสิทธิภาพของแส้ก็ยิ่งสูง”

“ใช้งานได้สองปี ราคาสี่ร้อยห้าสิบปอนด์ หรือแลกเปลี่ยนกับสูตรโอสถ ‘คนเถื่อน’”

แส้หรือ…ฟังดูไม่เลว พลังคล้ายกับใยแมงมุมชนิดพิเศษของแม่มดสุขสม…แต่คงไม่เหมาะสักเท่าไร หากจะให้เด็กหนุ่มเดอะซันของเราใช้งานอาวุธประเภทแส้…ไคลน์ตัดสินใจซักถามเสียงแหบ “พลังพันธนาการล่องหนมีผลกับศัตรูประเภทวิญญาณไหม? อย่างเช่นวิญญาณอาฆาต”

หญิงสาวส่ายศีรษะ

“ไม่”

โดยไม่รอคำถามจากสมาชิกชุมนุมคนอื่น เธออธิบายคุณสมบัติอาวุธถัดไปทันที

“อีกหนึ่งชิ้นคือขวานเฮอริเคน จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวและความเร็วในการวิ่ง แถมยังมีโอกาสราวสิบห้าเปอร์เซ็นต์ ในการสร้างอาการ ‘ชา’ แก่ศัตรู รวมถึงโอกาสห้าเปอร์เซ็นต์ ในการสร้างสายฟ้าฟาดใส่เป้าหมาย หากใช้งานภายใต้สภาพอากาศพายุสายฟ้า โอกาสสร้างสายฟ้าฟาดจะเพิ่มเป็นห้าสิบเปอร์เซ็นต์”

“คุณสมบัติข้างต้นถูกพิสูจน์ผ่านการทดสอบและเก็บสถิติจำนวนมาก”

“อายุขัยเหลืออีกราวหนึ่งปี ราคา ห้าร้อยยี่สิบปอนด์หรือแลกสูตรโอสถคนเถื่อน”

ทรงพลังกว่าแส้เชื่องช้ามาก หากไม่เพราะพลังพิเศษของมันเหลืออายุขัยแค่ปีเดียว ราคาคงไม่ถูกขนาดนี้…หืม…เราเคยเห็นสภาพแวดล้อมเมืองเงินพิสุทธิ์มาก่อน ท้องฟ้าด้านบนมีฟ้าผ่าเป็นระยะ…ตอนกลางวันผ่าถี่ ตอนกลางคืนนานๆ ครั้งจะผ่าสักที สิ่งนี้อาจถูกนับเป็นสภาพแวดล้อมพายุฟ้าผ่า…

ถ้าแสดงผลได้ตามคำกล่าวอ้างจริง ขวานเฮอริเคนเล่มนี้จะเป็นอาวุธวิเศษเหมาะสำหรับเดอะซันอย่างมาก ลำพังโอกาสสร้างสายฟ้าฟาดห้าสิบเปอร์เซ็นต์ก็เหนือคำบรรยายแล้ว

ต่อให้ไม่ถึงห้าสิบเปอร์เซ็นต์แต่ถ้ามองจากคุณสมบัติพื้นฐานอย่างการช่วยเพิ่มความเร็ว เท่านี้ก็เพียงพอจะส่งเสริมฝีมือการต่อสู้ของเขา คงไม่มีอาวุธใดเหมาะสมกว่านี้แล้ว…ส่วนปัญหาเรื่องใช้ได้แค่ปีเดียว เรื่องนี้แก้ไขได้ไม่ยาก เพราะภายในหนึ่งปี ด้วยความเร็วในการย่อยโอสถของเดอะซัน รวมถึงความสมบูรณ์ด้านวัตถุดิบของเมืองเงินพิสุทธิ์ ถ้ามีสูตรโอสถไม่ขาดมือ เดอะซันคงพัฒนาตัวเองจนมีลำดับไม่ต่ำกว่าหกแน่ ถึงเวลานั้น เขาคงต้องการอาวุธชนิดใหม่ให้เหมาะสมกับความสามารถล่าสุด

หลังจากไตร่ตรองถี่ถ้วน ไคลน์ตัดสินใจหนักแน่นว่าจะซื้อขวานเฮอริเคนเล่มดังกล่าว

ทันใดนั้น นักปรุงยาร่างท้วมพึมพำ

“อาวุธประเภทขวานเนี่ยนะ จะพกพาไปไหนมาไหนได้สะดวก? เล่นมุกตลกอยู่หรือ? ทำไมถึงไม่สร้างอาวุธจำพวกประแจ? แล้วทำไมถึงไม่สร้างปืนลูกโม่ให้แฝงพลังพิเศษ?”

“วันหลังจะพยายามรวบรวมของแบบนั้นมาขายก็แล้วกัน” หญิงสาวเน้นหนักคำว่า ‘รวบรวม’ เป็นพิเศษ “เอาล่ะ สหายท่านใดต้องการซื้ออาวุธสองชนิดนี้ ได้โปรดเสนอราคามาเลย”

ก่อนไคลน์จะเปิดปาก มันได้ยินเสียงสุภาพบุรุษดังจากทางโซฟายาว

“ขวานเฮอริเคน ห้าร้อยยี่สิบปอนด์”

หญิงสาวผู้ขายหยุดรอสองวินาที ก่อนจะส่งเสียงซักถามเพิ่มเติม

“มีใครต้องการเพิ่มราคาไหม”

“ห้าร้อยสามสิบปอนด์” ไคลน์เพิ่มสิบปอนด์

บุรุษคนเดิมตอบกลับทันควัน

“ห้าร้อยห้าสิบปอนด์”

…นี่มัน…เดอะซันน้อยของพวกเรา หากอีกฝ่ายเพิ่มราคาสูงกว่า หกร้อยปอนด์ ฉันคงซื้อให้นายไม่ไหว…และถ้าเป็นแบบนั้น นายคงต้องใช้แส้แก้ขัดไปก่อน…เมื่อวางแผนในหัว ไคลน์ตอบกลับอย่างใจเย็น

“ห้าร้อยหกสิบปอนด์”

มันพยายามทำให้อีกฝ่ายเชื่อว่า ไม่ว่าจะประกาศราคาใดออกมา ตนก็จะเพิ่มสิบปอนด์จากเดิมเสมอ

และเงินจำนวนหกร้อยปอนด์ปึกใหญ่ในมือไคลน์ ได้สร้างแรงกดดันให้อีกฝ่ายหนักหน่วง

เมื่อได้ยินราคาล่าสุด บุรุษลึกลับเงียบงันหลายวินาที ก่อนจะยักไหล่

“ก็ได้…ขวานเล่มนั้นเป็นของคุณ”

ฟู่ว…! ไคลน์ถอนหายใจโล่งอก

“ยังมีใครต้องการเสนอราคาขวานเฮอริเคนเพิ่มไหม?” หญิงสาวคนขายส่งเสียงซักถาม แต่ก็ไม่มีใครกล่าวสิ่งใด

“ปิดการขาย!” เธอไม่รีรอ รีบยกกล่องอาวุธข้างฝ่าเท้าให้กับผู้ช่วยเนตรแห่งปัญญา

และเช่นเดิม ผู้ช่วยเดินนำกล่องอาวุธไปให้เนตรแห่งปัญญาพิสูจน์เป็นลำดับแรก ก่อนจะนำกลับมาให้ไคลน์ แลกกับปึกเงินก้อนใหญ่

หลังจากเก็บเงิน สี่สิบปอนด์เข้ากระเป๋าเสื้อคนงาน ไคลน์เปิดกล่องอาวุธและได้พบขวานขนาดไม่ใหญ่นัก สามารถสะพายหลังหรือห้อยไว้ตรงเอว

ตัวขวานสร้างจากเหล็กสีดำทั้งเล่ม ลักษณะค่อนข้างหนา แข็ง และคมกริบ สามารถฆ่าคนได้โดยไม่ต้องพึ่งพาพลังพิเศษ หลังจากส่องด้วยเนตรวิญญาณ ไคลน์ตรวจพบว่า ผู้สร้างได้ใช้วัตถุดิบวิญญาณจำนวนมากเป็นส่วนประกอบ

ผิวโลหะมีสัญลักษณ์พิเศษและอักขระเวทมนตร์สลักหลายจุด คมขวานมีลวดลายสายฟ้าและพายุเฮอริเคน เมื่อชายหนุ่มลองเลื่อนมือไปจับ มันสัมผัสถึงอาการชาเล็ก ๆ

ไคลน์พยักหน้าพึงพอใจพร้อมกับวางกล่องเหล็กลงบนตัก

สิ่งนี้จะถูกนำไปแลกเปลี่ยนกับรากแก้วและยางไม้ของต้นไม้มนุษย์หมอกทึบ ถ้าผ่านไปด้วยดี โอสถนักมายากลของเราก็จะเหลือแค่ไขสันหลังของเสือดำลายมาร…งานนักสืบในช่วงหลังทำเงินให้เราได้ไม่น้อย เมื่อนำไปรวมกับเงินออมเดิมของเรา จำนวนเงินล่าสุดในมือจะเหลือสองร้อยเก้าปอนด์ ห้าซูล ห้าเพนนี…วัตถุดิบหลักของโอสถลำดับเจ็ด มีมูลค่าราว ห้าร้อยถึง เจ็ดร้อยปอนด์…เฮ่อ…ยังต้องหากินกับสูตรผลิตโอสถหรือไม่ก็ค่าความรู้สินะ…จริงสิ เราต้องแวะไปหาเลพเพิร์ดเพื่อตรวจสอบว่า งานจักรยานคืบหน้าไปถึงไหนแล้ว…ไคลน์เลิกสนใจการซื้อขาย กลายเป็นแค่ผู้ชมไม่มีปากเสียงคนหนึ่ง

หลังจากนั้น ใครบางคนซื้อแส้เชื่องช้าไปในราคา สี่ร้อยแปดสิบปอนด์ ส่วนวัตถุดิบวิเศษชื่อ ‘หัวใจมนุษย์นก’ ไม่ถูกปิดการขาย เนื่องจากมีราคาสูงถึง หนึ่งพันหกร้อยปอนด์ และไม่มีใครต้องการมันอย่างจริงจัง

จากประสบการณ์ด้านโลกผู้วิเศษ ไคลน์ทราบทันทีว่า หัวใจมนุษย์นกต้องเป็นวัตถุดิบหลักของโอสถลำดับหก สักเส้นทางแน่นอน

การค้าขายในช่วงถัดมา มีความล้มเหลวเกิดขึ้นบ่อยกว่าความสำเร็จ แต่ก็ไม่ใช่เรื่องเกินความคาดหมายไปนัก เพราะสมาชิกร่วมชุนนุมแต่ละคนจะมีธงในใจมาตั้งแต่แรก ไม่มีใครอยากใช้จ่ายเงินอย่างฟุ่มเฟือยนอกจุดประสงค์ กรณีแบบไคลน์ค่อนข้างหายาก เนื่องจากชายหนุ่มต้องการเพียงอาวุธวิเศษเข้าเงื่อนไขกว้าง ไม่มีจุดประสงค์เจาะจงชัดเจนแต่แรก

“ต้องการขายสูตรโอสถลำดับเก้า ผู้เก็บซากศพ ราคา สองร้อยสามสิบปอนด์” บุรุษบนโซฟาบริเวณมุมห้องกล่าวด้วยเสียงทุ้มลึก

ผู้เก็บซากศพ? ได้ยินมาว่า สูตรโอสถชนิดดังกล่าวมีเฉพาะหน่วยลับของโบสถ์รัตติกาล โบสถ์เทพสงคราม และนิกายวิญญาณ…หมายความว่า หนึ่งในสมาชิกชุมนุมคือเหยี่ยวราตรีแฝงตัวมา? หรือจะเป็นสมาชิกของนิกายวิญญาณ ผู้ต้องการคืนชีพให้เทพมรณา? แต่จะว่าไป สูตรโอสถลำดับต่ำก็ไม่ได้เป็นความลับขนาดนั้น สามารถพบเห็นได้ทั่วไป…ถ้าจำไม่ผิด ลุงนีลล์เคยพูดว่า วัตถุดิบหลักของโอสถผู้เก็บซากศพ มีส่วนประกอบของกบตากแห้งจุดดำ…ไคลน์ฝืนบังคับกล้ามเนื้อใบหน้าให้ไม่เผยรอยยิ้ม ก่อนจะพบว่า สูตรโอสถผู้เก็บซากศพถูกปิดการขายอย่างรวดเร็ว

กะแล้วเชียว สูตรโอสถของผู้วิเศษลำดับเก้า ทุกเส้นทางล้วนขายคล่อง…ก่อนหน้านี้ มีคนพยายามขายสูตรลำดับแปด ผู้ระเบิดโทสะ ของเส้นทางลูกเรือ แต่ไม่เคยขายออกเลยสักครั้ง แต่ในกรณีของเรา ลำดับแปด ผู้ภาวนาแห่งแสงถูกขายร่วมกับลำดับเก้า นักขับขาน จึงช่วยให้ปิดการขายได้เร็ว

คงเป็นเพราะว่า ผู้วิเศษส่วนใหญ่ หากมีเงินเหลือใช้ พวกมันจะรวบรวมโอสถลำดับเก้า ให้มากเข้าไว้ เนื่องจากสามารถนำไปมอบให้ทายาทหรือศิษย์ เป็นการกำหนดเส้นทางได้ตามต้องการ…ด้วยหลักการดังกล่าว หากโอสถลำดับแปด ไม่ขายร่วมกับลำดับเก้า คนขายต้องรอให้มีลำดับเก้า เส้นทางดังกล่าวมาหาซื้อด้วยตัวเอง บางทีอาจต้องรอนานหนึ่งถึงสองปีกว่าจะบังเอิญพบเข้าสักคน…ในเบ็คลันด์มีชุมนุมผู้วิเศษกระจัดกระจาย และผู้วิเศษนอกกฎหมายส่วนใหญ่มักไม่ทราบเทคนิคสวมบทบาท กว่าจะย่อยโอสถเสร็จคงต้องรอไม่ต่ำกว่าสามปี…

และแน่นอน พวกมันย่อมไม่ทราบกฎการอนุรักษ์พลังพิเศษในเส้นทางใกล้เคียง และกฎความถาวรของพลังพิเศษ…

ไคลน์รำพันเงียบงันกับตัวเอง

ผ่านไปราวสิบห้านาที เมื่อเห็นว่าการชุมนุมใกล้จบลง มันลองถามหยั่งเชิง

“มีใครต้องการขายไขสันหลังของเสือดำลายมารไหม?”

ห้องพลันเงียบสนิท ไม่มีใครส่งเสียงท่ามกลางบรรยากาศมืดสลัว

ไคลน์ไตร่ตรองเล็กน้อย ก่อนจะเสริม

“ฉันยินดีจ่ายด้วยสิ่งของล้ำค่า ชนิดไม่มีผู้วิเศษคนใดกล้าปฏิเสธ”

ตัวอย่างเช่น ความรู้ด้านกฎการอนุรักษ์พลังพิเศษในเส้นทางใกล้เคียง และกฎความถาวรของพลังพิเศษ น่าเสียดาย เราสาบานกับเทพธิดารัตติกาลไว้ว่า จะไม่แพร่งพรายเทคนิคสวมบทบาทให้กับคนยังไม่ทราบ…เดี๋ยวก่อนสิ…แต่เราตายไปแล้วครั้งหนึ่งนี่นา? บางทีคำสาบานอาจถูกยกเลิก…ชายหนุ่มพยายามรวบรวมสมาธิตั้งใจฟัง ไม่ให้ปล่อยความคิดตัวเองฟุ้งซ่าน แต่ก็ไม่ได้ยินเสียงตอบรับจากผู้ใดเช่นเคย

“ถ้าไม่มี เชิญคนอื่นต่อเลย” ไคลน์ยักไหล่อย่างจนปัญญา

นักปรุงยาร่างท้วมกระแอมในลำคอ

“ฉันมียาวิเศษมาขาย ทั้งหมดทำขึ้นเอง ขอรับประกันว่าราคาไม่แพง เริ่มจากไม่กี่ซูลไปจนถึงไม่กี่ปอนด์”

เมื่อหญิงสาวผู้ขายอาวุธวิเศษได้ยิน เธอรีบซักถามอย่างสงสัย

“ฉันอยากทราบว่า สัตว์ป่าอันตรายในทางระบายน้ำถูกกำจัดหมดแล้วหรือยัง?”

นักปรุงยาอ้วนพ่นลมหายใจ

“เธอถามถูกคนแล้ว!”

เมื่อกล่าวจบ มันผายมือสองข้าง

“ฉันเองก็ไม่ทราบเหมือนกัน”

“หลังจากสั่งให้ใครบางคนไปแจ้งตำรวจแทน ฉันยังไม่ได้ลงไปตรวจสอบสถานการณ์ด้านล่างเลยสักครั้ง”

พี่ชาย ปากของนายวอนถูกกระทืบไม่เปลี่ยนไปเลยจริงๆ …คนแบบนี้ไม่มีทางแก่ตายแน่นอน…ดูเหมือนว่าเส้นทางปรุงยาจะเป็นตัวเลือกเหมาะสมกับสันดานวอนเจ็บตัวมาก…ไคลน์รำพันเป็นภาษาจีน

หญิงสาวสูดลมหายใจ ก่อนจะพ่นออกมาอย่างเชื่องช้าโดยไม่กล่าวสิ่งใด

หลังจากยาประหลาดของนักปรุงยาถูกทยอยขายจนหมด เนตรแห่งปัญญาประกาศยุติการชุมนุม

มันจัดแจงให้ไคลน์ออกเป็นลำดับห้า ผ่านทางช่องลับภายในห้องใต้ดิน

ประเมินจากบรรยากาศ เนตรแห่งปัญญาก็จำเราไม่ได้เช่นกัน…ไคลน์ถอดชุดคลุมด้วยสีหน้าพึงพอใจพร้อมกับโยนไปทางผู้ช่วย จากนั้น มันเดินออกจากบ้านและจงใจเดินวกวนสักพักด้วยความชำนาญ

เมื่อแน่ใจว่าไม่มีใครแอบสะกดรอยตาม ชายหนุ่มถอนหน้ากากเหล็ก เดินออกจากซอยเปลี่ยวพร้อมกับกล่องขวานเฮอริเคน ปิดท้ายด้วยการเดินเข้าเขตตะวันออก

สองฝั่งถนนต้นปาล์มของเขตตะวันออกไม่มีเสาตะเกียงแก๊สคอยมอบแสงสว่าง เมื่อเข้าสู่ยามค่ำคืน ย่านแห่งนี้จึงมีสภาพมืดมิดไม่ต่างจากหุบเหวลึก

ภายในหอพักสักแห่ง ไคลน์ผนึกห้องนอนด้วยกำแพงวิญญาณ จากนั้นก็ประกอบพิธีกรรมอัญเชิญตัวเอง ตอบรับเอง และนำกายจิตมาหยิบกล่องขวานเฮอริเคนเข้าไปในมิติเหนือสายหมอกเทา

ถ้าหนักกว่านี้อีกสักนิด…เราคงไม่สามารถใช้กายจิตถือไหว ถึงจะกำนกหวีดทองแดงไว้ก็ตาม หากเป็นเช่นนั้น ทางเลือกเดียวคือพิธีกรรมสังเวย…ไคลน์พึมพำ ก่อนจะส่งจิตนึกคิดของตนไปยังดาวแดงตัวแทนเดอะซัน

“เดอะเวิร์ลสังเวยอาวุธให้เราแล้ว เจ้าจงเตรียมตัวประกอบพิธีกรรมรับมอบ”

เมืองเงินพิสุทธิ์

หมอกสีเทาผุดขึ้นบดบังทัศนวิสัยของเดอร์ริคพร้อมกับถ้อยคำของเดอะฟูลดังกังวาน เด็กหนุ่มรีบพยุงตัวนั่งบนเตียงและจัดเตรียมแท่นบูชาสำหรับพิธีกรรม

ก่อนเริ่มพิธี เดอร์ริคเดินไปหยิบดาบอัศวินของตนโดยไม่กล่าวสิ่งใด ตามด้วยการทดสอบฟันลมเพื่อเพิ่มความคาดหวังให้ตัวเอง

จะเป็นอาวุธประเภทใดกัน? ดาบยาว? ดาบใหญ่? หรือเรเพีย? เดอร์ริคยืนนิ่งพลางครุ่นคิด มันหยุดความคาดหวังไม่ได้เลย สมองกำลังจินตนาการภาพตัวเองกวัดแกว่งสุดยอดอาวุธทรงพลังและสง่างามขณะปราบปีศาจ

ในเวลาถัดมา หลังจบพิธีกรรม มันได้เห็นเต็มสองตา ว่าสิ่งใดปรากฏขึ้นบนแท่นบูชาตรงหน้า

สันขวาน…

………………….

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!