Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 85

Lord of the Mysteries 85

ตอนที่ 85 : เร่งด่วน

คลื่นพลังดังกล่าวกระเพื่อมวูบวาบพร้อมแฝงความรู้สึกประหลาด แต่ก็มีอายุขัยไม่นานนัก แค่อึดใจเดียว ความรู้สึกประหลาดจางหายไปในพริบตา

ชายหนุ่มถึงกับไม่มั่นใจว่า เมื่อครู่ตนคิดไปเองหรือไม่

หากไม่ใช่เพราะนักทำนายเป็นผู้วิเศษเส้นทางที่มีสัมผัสวิญญาณเฉียบแหลม ไคลน์คงไม่มีทางรับรู้แรงกระเพื่อมชั่วครู่ได้เลย

ชายหนุ่มขมวดคิ้วพลางกำไม้ค้ำในมือแน่น

น้องสาวของตนยังอยู่ข้างบน…มันเดินเบี่ยงจากห้องน้ำและรีบจ้ำเท้าขึ้นบันไดไปยังชั้นสอง

จากความรู้สึกเมื่อครู่ ทิศทางของพลังพิสดารจะต้องมาจากห้องนั่งเล่นที่ใกล้กับระเบียงแน่

ไคลน์ใช้ปลายนิ้วแตะหว่างคิ้วสองครั้ง

เป็นอย่างที่คิด…

แสงออร่าจากสิ่งมีชีวิตส่องทะลุผ่านประตูไม้บานใหญ่เข้าสู่ดวงตาไคลน์ เกือบทั้งหมดเป็นสีปรกติที่มีเค้าโครงร่างของมนุษย์พร่ามัว

ทว่า มีหนึ่งคนที่รอบตัวปรากฏแสงสีดำอมเขียวและมีลักษณะกระเพื่อม คล้ายกับถูกบางสิ่งกัดกร่อนจากภายใน

สถานการณ์เริ่มไม่ชอบมาพากล

ไคลน์สวมสีหน้าเคร่งขรึมโดยไม่รู้ตัว มันใช้มือขวาปลดโซ่เงินที่ข้อมือซ้ายและปล่อยให้จี้บุษราคัมห้อยลงตามแรงโน้มถ่วง

เมื่อโซ่หยุดหมุน มันเริ่มสร้างบอลแสงในห้วงจิตเพื่อเข้าฌาน ก่อนจะหลับตาลงและพึมพำประโยคบอกเล่าในใจเจ็ดครั้ง

“ห้องตรงหน้ามีอันตรายที่เกิดจากพลังลึกลับ”

ข้อเสียของลูกตุ้มวิญญาณคือ ถ้ามีข้อมูลไม่มากพอ มันจะทำนายได้เฉพาะตัวเองหรือสิ่งแวดล้อมใกล้เคียงรัศมีไม่กว้างมากนัก ตัวอย่างเช่นสถานการณ์ปัจจุบัน มันจำเป็นต้องระบุถึง ‘อันตราย’ ที่อาจเกิดขึ้นกับตัวเอง โดยมีห้องตรงหน้าเป็นเงื่อนไข

“ห้องตรงหน้ามีอันตรายที่เกิดจากพลังลึกลับ”

เมื่อลืมตาขึ้น ไคลน์เพ่งมองลักษณะการหมุนของลูกตุ้มวิญญาณอย่างตั้งใจ

จี้บุษราคัมรวมถึงโซ่เงินหมุนวนตามเข็มนาฬิกาด้วยความเร็วสูง หมายความว่า ไม่เพียงเป็นอันตรายที่เกิดจากพลังลึกลับ แต่ระดับของอันตรายก็สูงมากด้วย

เซเลน่าคลั่งไคล้ศาสตร์เร้นลับ…

ครอบครัวของเธอมีฐานะมากพอจะจัดหาวัตถุดิบแปลกประหลาดสำหรับประกอบพิธีกรรมได้ไม่ยาก

หรือนี่จะเกิดจากการรู้เท่าไม่ถึงการณ์?

เซเลน่าประกอบพิธีกรรมเล่นๆ แล้วดันไปกระตุ้นบุคคลอันตรายเข้าอย่างนั้นหรือ?

เราควรทำอย่างไรดี…

ไคลน์นวดคลึงหว่างคิ้วด้วยมือข้างหนึ่ง ส่วนมืออีกข้างใช้เคาะประตูห้อง

ก๊อก ก๊อก ก๊อก

มันเคาะจังหวะสามครั้ง พร้อมกับสวมรอยยิ้มเป็นมิตรเพื่อไม่ให้บุคคลด้านในตื่นตระหนก

บานประตูเปิดออกพร้อมเสียงไม้ลั่นดังเอี๊ยดอ๊าด บุคคลที่ปรากฏตัวคือเมลิสซ่าในชุดเดรสตัวใหม่

“ไคลน์? มีอะไรหรือ?”

เด็กสาวไม่คาดคิดว่าจะเป็นพี่ชายของตน เมลิสซ่าแสดงสีหน้าประหลาดใจ

ไคลน์ยิ้ม มันพยายามไม่ทำตัวมีพิรุธ

“ฉันแค่สงสัยว่าพวกเธอกำลังเล่นอะไรอยู่ เสียงดังท่าทางน่าสนุกดี”

“ขอโทษที่เสียงดังรบกวน”

เมลิสซ่าก้มศีรษะสำนึกผิด บนใบหน้าเจือปนความเขินอาย

“พวกเรากำลังเล่นทำนายกระจกวิเศษ เซเลน่าเชี่ยวชาญมันมาก ค่อนข้างสนุกทีเดียว”

ทำนายกระจกวิเศษ…

น้องสาว ทำไมพวกเธอถึงไม่เล่นอะไรง่ายๆ ที่ปลอดภัยอย่างผีถ้วยแก้ว?

ไคลน์ส่ายศีรษะ มันรู้สึกทั้งโกรธและขบขัน

ขณะเดียวกัน ชายหนุ่มกวาดสายตามองเข้าไปด้านในห้องด้วยเนตรวิญญาณ มันได้พบเซเลน่าที่กำลังนั่งยิ้มอย่างมีความสุขร่วมกับกลุ่มเพื่อนฝูง เผยให้เห็นร่องลักยิ้มบุ๋มลึก

ทว่า แสงออร่ารอบตัวเด็กสาวผมไวน์แดงกลับมีสีดำอมเขียวน่าหวาดหวั่นปกคลุม…

สมองไคลน์พลันปั่นป่วน มันรีบเรียบเรียงประโยคในหัวก่อนจะกระซิบกับเมลิสซ่า

“ฮะฮะ…เชิญเล่นเกมกันต่อได้เลย ว่าแต่ อลิซาเบธอยู่ด้วยหรือเปล่า? ก่อนหน้านี้มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอเกี่ยวกับไวยากรณ์ภาษาฟุซัค เห็นว่ามีข้อสงสัยอยากถามฉัน”

“อลิซาเบธ?”

เมลิสซ่าจ้องมองพี่ชายคนกลางของตนตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“เธอเพิ่ง สิบหก เองนะ”

จินตนาการไปถึงไหนแล้วนั่น…

ไคลน์รีบอธิบาย

“เป็นเพียงการพูดคุยธรรมดาทางวิชาการ อลิซาเบธสนใจด้านประวัติศาสตร์และภาษาศาสตร์มาก”

เมลิสซ่ามองเข้าไปในแววตาไคลน์ครู่หนึ่ง

“เธออยู่ข้างใน เดี๋ยวฉันไปบอกให้”

“ขอบใจ”

ไคลน์ก้าวถอยหลังออกห่างจากบานประตู

เมื่อเห็นน้องสาวหันหลังกลับ ชายหนุ่มถอนหายใจยาวอย่างโล่งอก ถึงผลลัพธ์จะไม่ใช่เรื่องน่ายินดี แต่อย่างน้อย บุคคลที่ได้รับอันตรายก็ไม่ใช่น้องสาวของตน

ไคลน์ยืนรอด้านนอกราวสิบวินาที ก่อนที่เด็กสาวแก้มยุ้ยน่ารัก อลิซาเบธ จะเดินออกมาพร้อมกับพึมพำ

“มิสเตอร์โมเร็ตติ มีอะไรหรือคะ? ฉันไม่เคยบอกว่าชอบภาษาหรือประวัติศาสตร์…”

อลิซาเบธพลันชะงักคำพูดเมื่อได้เห็นสีหน้าเคร่งขรึมของไคลน์ เธอสัมผัสได้ว่า มีบางสิ่งกำลังไม่ชอบมาพากล

ไคลน์เดินเฉียงพร้อมกับส่งสัญญาณให้อลิซาเบธออกมายืนที่มุมอับสายตา

“อย่างที่เธอรู้ ฉันหลงใหลศาสตร์เร้นลับ”

ชายหนุ่มชะงักฝีเท้า มันหมุนตัวกลับ

อลิซาเบธผงกศีรษะ

“ค่ะ ฉันทราบว่าคุณเชี่ยวชาญศาสตร์เร้นลับมาก”

“ไม่ได้เชี่ยวชาญ แค่หลงใหล แต่ก็มีความรู้มากพอจะบอกได้ว่า การเล่นทำนายกระจกวิเศษของพวกเธอได้ก่อปัญหาขึ้นแล้ว”

เสียงของไคลน์ขึงขังหนักแน่น

“ปัญหา?”

อลิซาเบธเกือบหลุดโพล่งเสียงดัง เธอรีบใช้มือสองข้างปิดปาก

ไคลน์เรียบเรียงคำพูด

“แค่คำพูดคงไม่เห็นภาพ ไว้เธอกลับเข้าไปใหม่ จากนั้นลองหาโอกาสที่เซเลน่าเผลอ แอบมองเข้าไปในบานกระจกที่เซเลน่าพยายามเก็บซ่อนไว้จากทุกคน”

“คุณรู้ด้วยหรือคะ? ว่าเซเลน่าพยายามซ่อนบานกระจกไม่ให้ใครเห็น”

อลิซาเบธกล่าวด้วยสีหน้าสุดทึ่ง

จากข้อมูลของเหยี่ยวราตรี กว่าเก้าในสิบของพิธีกรรมทำนายกระจกวิเศษจะนำพาไปสู่การติดต่อกับตัวตนลึกลับชั่วร้าย…

ไคลน์ยิ้ม

“ความรู้พื้นฐาน”

เมื่ออลิซาเบธเดินกลับเข้าห้อง รอยยิ้มอบอุ่นและเยือกเย็นของไคลน์พลันจางหาย แทนที่ด้วยสีหน้าวิตกกังวล

ถึงเราจะอยู่ที่เขตเหนือ แต่ระยะทางจากถนนฟาเนียไปถึงถนนซุตแลนก็ใช้เวลาอย่างต่ำสิบห้านาที ต่อให้หัวหน้าอยู่ที่สำนักงาน แต่การไปกลับก็ใช้เวลานานเกินไป คงช่วยเหลือเซเลน่าไม่ทันการแน่

ชิ…!

ถ้าเบ็นสันกับเมลิสซ่าไม่อยู่ที่นี่ด้วยล่ะก็

แต่เราจะทำอะไรกับตัวตนลึกลับนั่นได้?

มีวิธีผนึกหรือเปล่า…คิดเข้าสิ

จริงด้วย…เซเลน่าเป็นผู้คลั่งไคล้ศาสตร์เร้นลับ ห้องของเธอต้องมีสารสกัด น้ำมันสกัด สมุนไพร และวัตถุดิบวิเศษอีกหลายชนิดแน่

ขณะไคลน์กำลังคิดหาวิธีรับมือ อลิซาเบธกำลังเดินไปนั่งลงบนเก้าอี้ข้างเซเลน่า โดยใช้ข้ออ้างว่ามีบางสิ่งต้องการปรึกษา

ในเวลาเดียวกัน เด็กสาวที่นั่งฝั่งตรงข้ามเธอเริ่มจิบไวน์แดงเข้าไปหนึ่งอึกจนแก้มแดงระเรื่อ ภายใต้สายตาคาดหวังจากทุกคน เด็กสาวคนดังกล่าวรวบรวมความกล้าและถามออกไป

“ฉันจะได้พบกับสุภาพบุรุษหล่อเหลาและโรแมนติกตอนไหน?”

เซเลน่ากระแอมสองหน ก่อนจะรีบใช้มือลูบหลังบานกระจกที่คว่ำอยู่และพึมพำ

“กระจกวิเศษเอ๋ย จงบอกข้าเถิด สุภาพบุรุษผู้กุมหัวใจยูนีน่าจะปรากฏตัวเมื่อใด”

เมื่อกล่าวครบสามครั้ง เซเลน่าหยิบกระจกที่คว่ำอยู่ขึ้นมาแอบส่องคนเดียวอย่างลับๆ

ฉวยโอกาสดังกล่าว อลิซาเบธที่นั่งด้านข้างรีบใช้หางตามองเข้าไปในบานกระจก

สิ่งที่เธอคาดหวังว่าจะได้พบ คือใบหน้าของเซเลน่าตามปรกติ

ทว่า สิ่งที่ปรากฏบนบานกระจก คือ

เซเลน่า…เซเลน่าตั้งแต่หัวจรดเท้า!

บานกระจกมีพื้นหลังสีดำสนิท ไม่ใช่ภาพสะท้อนของห้องนั่งเล่นอย่างที่ควร กึ่งกลางกระจกคือเซเลน่าผู้มีใบหน้าเย็นชาและแววตาชั่วร้าย

อลิซาเบธหวาดผวาสุดขีด เด็กสาวแก้มยุ้ยสะดุ้งจนหลังกระแทกติดพนักพิงเก้าอี้ ร่างกายพลันสั่นระริกอย่างหยุดไม่อยู่

เธอถึงกับลืมหายใจไปชั่วขณะ

อลิซาเบธไม่กล้าอยู่ต่อแม้แต่วินาทีเดียว เธอรีบลุกขึ้นโดยไม่บอกกล่าวกับใคร เดินโงนเงนไปที่ประตูด้วยสีหน้าตื่นตระหนก ไม่กล้าแม้แต่จะเหลือบมองเซเลน่าตัวจริง

เสียงด้านหลังดังแว่ว

“สุภาพบุรุษของยูนีน่าจะปรากฏตัวในวันอาทิตย์สัปดาห์ที่สองของเดือน หลังจากนี้อีกหนึ่งปีครึ่งพอดิบพอดี…”

ท่ามกลางเสียงฮือฮาของกลุ่มเด็กสาว อลิซาเบธใช้มือผลักบานประตูอย่างไร้เรี่ยวแรง ก่อนจะหันไปเห็นไคลน์ที่สวมทักซิโด้สีดำกำลังยืนรอใต้โคมไฟผนัง

“มิสเตอร์โมเร็ตติ…ฉ…ฉัน”

เธอแทบจะไร้เรี่ยวแรงพยุงร่างยืน

ไคลน์เผยรอยยิ้มอบอุ่น

“มาคุยกันตรงนี้ดีกว่า พวกเราไม่ควรรบกวนสุภาพสตรีด้านใน”

เมื่อได้ยินเสียงอ่อนโยนจากไคลน์ ความหวาดกลัวของอลิซาเบธเริ่มบรรเทา เธอเอื้อมมือปิดประตูและเดินไปหาไคลน์ใต้โคมไฟ

“ฉ…ฉันเห็น ในกระจก…ฉันเห็นเซเลน่าร่างชั่วร้าย…”

อลิซาเบธกล่าวด้วยเสียงแหบพร่า

กะแล้วเชียว…

สีหน้าของไคลน์พลันดำมืด

“ห้องนอนของเซเลน่าอยู่ไหน? หรือไม่ก็ห้องที่ใช้เก็บวัตถุดิบวิเศษ”

“เธอเก็บวัตถุดิบวิเศษไว้ที่นั่น”

อลิซาเบธกล่าวพลางชี้นิ้วไปยังห้องฝั่งตรงข้ามที่อยู่เยื้องกันเล็กน้อย

ชายหนุ่มถือไม้ค้ำและรีบเดินไปหยุดยืนหน้าห้องดังกล่าว เมื่อสำรวจว่าประตูไม่ได้ล็อก มันจึงบิดเปิดเข้าไป

ห้องค่อนข้างมืด มีเพียงแสงจากโคมไฟถนนด้านนอกและจันทร์สีแดง ไคลน์เปิดวาล์วแก๊สพร้อมกับเปิดโคมไฟภายในห้องเพื่อเพิ่มความสว่าง

แสงสีเหลืองนวลช่วยให้ชายหนุ่มมองเห็นอุปกรณ์และสิ่งของที่วางเรียงรายได้ชัดเจน มีทั้งขวดสารสกัด น้ำมันสกัดดอกไม้ กล่องผงบุปผาบด เทียนไขชนิดต่างๆ รวมถึงเครื่องรางอีกหลายชนิด

สิ่งของทุกชนิดถูกวางเป็นระเบียบเรียบร้อยภายในภาชนะบรรจุ แถมยังมีป้ายชื่อกำกับอย่างละเอียด

หลังจากมองหาวัตถุดิบที่ต้องการ ไคลน์กล่าวกับอลิซาเบธที่เดินตามมาด้านหลัง

“เธออยากช่วยเซเลน่าไหม?”

“ค่ะ”

อลิซาเบธพยักหน้า ก่อนจะถามต่อ

“อันตรายไหมคะ?”

“ค่อนข้าง…เพราะฉันเป็นเพียงคนที่หลงใหลในศาสตร์เร้นลับ”

ไคลน์ตอบไม่อ้อมค้อม

“ค่อนข้างอันตราย…”

อลิซาเบธกัดริมฝีปาก

“ฉันจะช่วยอะไรได้บ้างคะ?”

ไคลน์อมยิ้มอ่อนโยน มันกล่าวปลอบประโลมเด็กสาวที่กำลังสั่นกลัว

“ไม่ต้องกังวลขนาดนั้น สิ่งที่เธอต้องทำมีเพียง เดินกลับไปที่ห้องและทำตัวตามปรกติเหมือนกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้น ห้านาทีถัดมา ขอย้ำว่าห้านาทีตรง ห้ามขาดห้ามเกินเด็ดขาด พาตัวเซเลน่ามาหาฉันที่ห้องนี้โดยบอกเหตุผลว่า เธอมีบางสิ่งจะเซอร์ไพรส์ เมื่อมาถึงให้เคาะประตูยาวหนึ่งครั้ง และเคาะสั้นสองครั้ง ที่เหลือไว้เป็นหน้าที่ฉันเอง”

อลิซาเบธครุ่นคิด

“เข้าใจแล้วค่ะ”

เมื่อเห็นเด็กสาวเดินกลับไป ไคลน์เปิดนาฬิกาพกสำรวจเวลา ก่อนจะรีบหยิบวัตถุดิบที่ต้องการออกมาวางบนเก้าอี้ จากนั้นก็เคลียร์สิ่งของบนโต๊ะออกจนหมด

ถัดมา ชายหนุ่มวางเทียนหอมสองเล่มไว้ที่มุมโต๊ะ แยกซ้ายขวาคนละฝั่ง นี่คือสัญลักษณ์ของสุภาพสตรีสีชาดและจักรพรรดินีแห่งหายนะ

มันหวังหยิบยืมพลังจากเทพธิดาช่วยปัดเป่าสิ่งชั่วร้ายออกจากร่างกายเซเลน่า

ในฐานะที่เป็นแค่ผู้วิเศษลำดับเก้า พลังวิญญาณของมันไม่รุนแรงพอจะประกอบพิธีกรรมระยะไกล จำเป็นต้องให้อลิซาเบธช่วยนำตัวเซเลน่ามายังใจกลางแท่นบูชา

และมันยังไม่ลืมว่า มีโอกาสสูงที่เซเลน่าชั่วร้ายจะพยายามขัดขืนหรือหลบหนี ไคลน์จึงเตรียมประกอบพิธีกรรมที่สามารถ ‘หยุดกลางคัน’

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!