Skip to content
Home » Blog » Lord of the Mysteries 87

Lord of the Mysteries 87

ตอนที่ 87 : โน้มน้าว

“ถูกแก้ไขแล้วหรือคะ?”

อลิซาเบธยังคงมีสีหน้าเคลือบแคลง

ไคลน์ยิ้มพร้อมกับผงกศีรษะ

“แน่นอน…ไม่ได้ยากอย่างที่คิด”

ท่อนหลังไม่จริงนะ…ไคลน์ตัดพ้อ

บางที อาจเป็นเพราะไคลน์แสดงสีหน้าใจเย็นตลอดเวลา หรืออาจเป็นเพราะมันคือความหวังเดียวที่อลิซาเบธเหลืออยู่

ไม่ว่าจะอย่างไหน แต่เด็กสาวแก้มยุ้ยก็เชื่อคำพูดไคลน์โดยไม่เคลือบแคลง เธอถอนหายใจยาวด้วยสีหน้าผ่อนคลายสุดขีด

“ขอบคุณมากค่ะ…สมกับที่เป็นพี่ชายของเมลิสซ่า พึ่งพาได้อย่างที่คิด ส่วนฉันเอาแต่หวาดกลัวจนทำอะไรไม่ถูก แล้ว…อาการเซเลน่าเป็นอย่างไรบ้างคะ? เธอปลอดภัยไหม?”

“เธอคงหมดสติไปอีกหลายนาที และหลังจากตื่นขึ้น ร่างกายจะอ่อนเพลียไปอีกสองถึงสามวัน”

เมื่อกล่าวจบ ไคลน์แสดงสีหน้าดำมืด

“ว่าแต่ ใครเป็นคนสอนศาสตร์เร้นลับให้เซเลน่า? ทำไมถึงไม่ยอมกำชับข้อห้ามพื้นฐาน”

อลิซาเบธก้มหน้ารู้สึกผิด คล้ายกับเธอกำลังถูกครูดุในคาบเรียน

เด็กสาวครุ่นคิดสักพัก

“เซเลน่าเคยเล่าว่า ผู้ที่สอนศาสตร์เร้นลับให้เธอคือเฮเนส·วินเซนต์ เซเลน่าพบเขาโดยบังเอิญเมื่อราวหนึ่งปีก่อน ที่สโมสรพยากรณ์เมืองทิงเก็น”

เฮเนส·วินเซนต์…

เทคนิคทำนายด้วยกระจกวิเศษ ตอนที่อยู่สโมสรพยากรณ์ หมอนั่นสอนเพียงผิวเผินด้วยวิธีปลอดภัย แต่ความจริงกลับแอบสอนวิธีชั่วร้ายลับหลังให้เด็กสาวงั้นหรือ?

ไคลน์นึกเสียดาย ตนน่าจะรีบแจ้งให้หัวหน้าทราบตั้งแต่วันนั้น จะได้บุกรุกความฝันและตรวจสอบหาข้อเท็จจริงเบื้องหลัง

ขณะรู้สึกเจ็บใจ มันเงยหน้าถามอลิซาเบธ

“เฮเนสเป็นคนสอนเทคนิคทำนายกระจกวิเศษให้เซเลน่าด้วยใช่ไหม?”

ร่างกายไคลน์ยังไม่หยุดสั่น ภัยอันตรายในหนนี้คุกคามใกล้ชิดน้องสาวตนมาก ห่างเพียงแค่นิดเดียวเท่านั้น…

อลิซาเบธพยักหน้ายืนยัน

“ใช่ค่ะ เซเลน่าบอกด้วยว่า เธอเคยทดสอบทำนายด้วยกระจกวิเศษหลายหนแล้ว แต่ไม่มีครั้งไหนที่สำเร็จ จนกระทั่งเซเลน่าแอบดูอาจารย์ทำพิธี จึงจำบทคาถามาท่องตาม”

สรุปก็คือ…หล่อนเชี่ยวชาญด้านการรนหาที่ตายสินะ

ไคลน์บีบนวดขมับด้วยสีหน้าจนปัญญา ความอยากรู้อยากเห็นของเด็กสาวทำให้เมลิสซ่าเกือบได้รับอันตรายถึงชีวิต

“เธอจำคาถาที่เซเลน่าท่องได้ไหม?”

ถึงเฮเนส·วินเซนต์จะไม่ได้ตั้งใจสอน แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่า ตัวมันพยายามประกอบพิธีกรรมต้องห้ามอันตราย หากปล่อยไว้ ไม่ช้าก็เร็วต้องมีบุคคลเดือดร้อนอีกแน่

“จำได้บางส่วนค่ะ…”

อลิซาเบธนึกทบทวน

“เธอท่องเป็นภาษาเฮอร์มิส คุณก็ทราบว่าฉันเพิ่งได้เรียนเฮอร์มิสได้ไม่นาน คำสำคัญที่จำได้มีแค่ ‘สั่นคลอน’ ‘ดวงวิญญาณสูงสง่า’ ‘พระผู้สร้าง’ และ ‘ความห่วงใย’”

พระผู้สร้าง? พระผู้สร้างต้นกำเนิด?

จากเอกสารของเหยี่ยวราตรี มีหลายองค์กรลับที่นับถือและบูชาในตัวเทพนอกรีตองค์นี้

แต่กระแสกลับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อราวหนึ่งพันปีก่อนเท่านั้น หรือช่วงต้นยุคสมัยที่ห้า นับว่าสั้นกว่าเทพเจ็ดองค์หลักค่อนข้างมาก

ไคลน์พยักหน้าเบาๆ

“หลังจากเธอตื่นแล้ว อย่าลืมหลอกถามคาถาเต็มที่เซเลน่าท่องด้วย และหาโอกาสแจ้งให้ฉันทราบ”

“ได้ค่ะ”

อลิซาเบธรับปากโดยไม่ลังเล

ก่อนที่เธอจะถามต่อด้วยสีหน้าเป็นกังวล

“มิสเตอร์โมเร็ตติ ทำไมคุณถึงไม่ถามเธอโดยตรงคะ?”

“เพราะไม่ต้องการให้เมลิสซ่าทราบ ว่าตัวฉันแอบหลงใหลในศาสตร์เร้นลับ รบกวนเธอช่วยปิดเป็นความลับทีนะ”

อลิซาเบธกัดริมฝีปากเบาๆ ดวงตาของเด็กสาวเริ่มส่องประกาย

“ไม่มีปัญหาค่ะ เมลิสซ่าหลงใหลกลไก ไม่ใช่ศาสตร์เร้นลับ เธอเชื่อในหลักเหตุผลมากกว่าสัญชาตญาณ”

ไคลน์นำหมวกมาวางบนหน้าอก พร้อมกับโค้งศีรษะคำนับเด็กสาว

“ขอบคุณที่เข้าใจ สำหรับเซเลน่า เธอเองก็น่าจะทราบใช่ไหม ว่าเซเลน่าเป็นคนเก็บความลับไม่เก่ง”

“พูดให้ถูกกว่านั้นคือ เซเลน่าชอบนำความลับมาแบ่งปันในหมู่เพื่อนฝูง”

อลิซาเบธเสริมไปในแนวทางเดียวกัน

ไคลน์สวมหมวกกลับ มันครุ่นคิดสักพักก่อนจะพูดต่อ

“หลังจากเซเลน่าตื่นแล้ว อย่าลืมอธิบายเธอไปว่า หล่อนหมดสติกะทันหันจนทำให้กระจกในมือหล่นแตก ส่วนเรื่องความทรงจำ ฉันคิดว่าเธอน่าจะจำเหตุการณ์นับตั้งแต่เริ่มพิธีกรรมทำนายกระจกวิเศษไม่ได้”

เมื่อเห็นอลิซาเบธพยักหน้าอย่างว่าง่าย มันกล่าวเสริมย้ำอีกหน

“จำเอาไว้ให้ดี…ทุกครั้งที่ประกอบพิธีกรรมเวทมนตร์ ห้ามท่องคาถาเอ่ยถึงบุคคลอื่นนอกจากเจ็ดเทพจารีตเด็ดขาด! นี่คือหลักสากลที่ห้ามละเมิดด้วยประการทั้งปวง และถ้ามีใครพยายามทำ เธอต้องอยู่ให้ไกลจากมันมากที่สุด ถ้าฉันไม่เอะใจเรื่องนี้…อีกภายในไม่ถึงสิบนาที เซเลน่าจะกลายเป็นสัตว์ประหลาดชั่วร้ายและฆ่าทุกคนภายในบ้าน แม้กระทั่งตัวฉันด้วย”

เมื่อหวนนึกถึงภาพเซเลน่าชั่วร้ายภายในบานกระจก อลิซาเบธเชื่อคำพูดไคลน์หมดหัวใจ เธอถอนหายใจด้วยร่างกายที่ยังสั่น

“เข้าใจแล้วค่ะ ฉันจะจำใส่ใจไว้ และคอยจับตามองพฤติกรรมของเซเลน่า”

“ดีมาก…ฝากอยู่ดูแลเซเลน่าจนกว่าเธอจะฟื้นด้วยนะ”

ไคลน์กล่าว พร้อมกับถือไม้ค้ำเลี่ยมเงินเดินลงบันไดไป

ขณะเดิน สีหน้าของมันพลันดำมืด ไคลน์หยิบเหรียญเพนนีออกมาดีดขึ้นไปในอากาศ

“เซเลน่าปลอดภัยแล้ว”

“เซเลน่าปลอดภัยแล้ว”

เมื่อครบเจ็ดครั้ง มันใช้หลังมือรับเหรียญเพนนีที่ร่วงหล่น แล้วก็ได้เห็นใบหน้าของพระราชาจอร์จที่สามปรากฏ

ออกหัว…

เมื่อครู่ไม่ใช่การทำนายด้วยลูกตุ้มวิญญาณธรรมดา แต่เป็นเทคนิคชั้นสูงของการทำนายความฝัน

ในวินาทีที่เหรียญลอยขึ้นฟ้า ไคลน์เข้าฌานและบังคับให้ตัวเองหลับฝันชั่วขณะ พร้อมกับส่งพลังวิญญาณเข้าไปในเหรียญ

เหรียญเพนนีกลายเป็นสื่อกลางระหว่างโลกวิญญาณและไคลน์ ตัวตนภายในโลกวิญญาณคือผู้มอบคำตอบ โดยการบังคับให้เหรียญออกหัวหรือก้อย

หัวหมายถึงใช่ และก้อยหมายถึงไม่

ปัญหาทุกอย่างคงคลี่คลายแล้ว…

ไคลน์ใช้นิ้วควงเหรียญเล่นพลางอมยิ้ม

เทคนิคทำนายระดับนี้ มีเพียงนักทำนายตัวจริงเท่านั้นที่เข้าถึง ไม่ว่าผู้วิเศษเส้นทางอื่นจะแข็งแกร่งเพียงใด

อลิซาเบธเฝ้ามองไคลน์ไม่กะพริบตา เธอเห็นชายหนุ่มโยนเหรียญขึ้นฟ้าและใช้หลังมือรับไว้

เมื่อแผ่นหลังไคลน์ลับสายตาไป เด็กสาวรีบเข้าไปในห้องนอนเซเลน่า เธอได้เห็นเพื่อนสนิทกับกำลังฟุบอยู่บนพื้นโดยมีเศษกระจกแตกข้างลำตัว

อลิซาเบธเดินเขย่งปลายเท้าเข้าไปในห้องเพราะกลัวเศษกระจกบาด เธอกลั้นใจมองเข้าไปในบานกระจกที่แตกละเอียด

อลิซาเบธกังวลว่าตนจะได้พบเซเลน่าที่มีใบหน้าเย็นชาอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่ มีเพียงภาพสะท้อนของเพดาน

ฟู่ว…เด็กสาวพ่นลมหายใจผ่อนคลาย

หลังจากพยายามอุ้มเซเลน่าขึ้นเตียงหลายครั้ง อลิซาเบธพบว่าตนมีแรงไม่มากพอ จึงตัดสินใจใช้มือเขย่าตัวให้เซเลน่าตื่น

“อลิซาเบธเองหรือ…? เกิดอะไรขึ้นกับฉัน? นี่ฉันเมาหลับไป?”

เซเลน่าลืมตาตื่นด้วยสภาพอ่อนเพลีย ประกายแววตามัวหมองลงเล็กน้อย แต่บนใบหน้าเจือความฉงนชัดเจน

อลิซาเบธครุ่นคิดสักพัก ก่อนตัดสินใจเล่าความจริง

“เธอไม่ได้เมา แต่การทำนายกระจกวิเศษเกิดปัญหาร้ายแรงขึ้น มันเชื่อมต่อกับดวงวิญญาณชั่วร้าย”

“งั้นหรอกหรือ…”

เซเลน่าเดินไปที่เตียงโดยมีอลิซาเบธช่วยพยุง เด็กสาวผมไวน์แดงใช้นิ้วบีบนวดขมับเพื่อบรรเทาความปวด

“ฉันจำอะไรไม่ได้เลย นับตั้งแต่เริ่มทำพิธีกรรมกระจกวิเศษ”

อลิซาเบธเล่าต่อ แต่ด้วยความจริงเพียงครึ่งเดียว

“เธอกลายเป็นคนละคนหลังจากทำพิธี แถมกระจกยังสะท้อนภาพตัวเธอที่ไม่เหมือนกับเธอเลยสักนิด…ฉันกลัวมาก จึงหาข้ออ้างชวนเธอมาที่ห้องนอน ก่อนจะฉวยโอกาสแย่งกระจกและขว้างลงพื้นให้มันแตก จากนั้น…เธอก็สลบไปทันที เซเลน่า เธอเป็นปรกติหรือยัง?”

“ฉ…ฉันจำอะไรไม่ได้เลย”

เซเลน่าพึมพำด้วยสีหน้าขาวซีด

ยิ่งพยายามนึกเค้นความทรงจำ เธอก็ยิ่งค้นพบความว่างเปล่า และนั่นทำให้เซเลน่ารู้สึกหวาดผวา

ทันใดนั้น สายตาเด็กสาวผมไวน์แดงพลันเหลือบมองไปยังกล่องวัตถุดิบบนโต๊ะ และพบว่ามีบางจุดขยับเขยื้อนผิดปรกติ

เกิดอะไรขึ้นกันแน่…

เซเลน่าฝืนนึกให้ออก จนกระทั่งเธอมองเห็นภาพเลือนรางของบุรุษใส่สูทดำและสวมหมวก ร่างกายมิได้สูงใหญ่หรือกำยำ แต่แผ่นหลังของเขามอบความรู้สึกอบอุ่น

“เซเลน่า”

อลิซาเบธกล่าวด้วยสีหน้าขึงขัง

“ฉันได้ยินมาจากผู้เชี่ยวชาญศาสตร์เร้นลับที่ตลาดมืดค้าของวิเศษ เขาระบุว่า ห้ามประกอบพิธีกรรมโดยเอ่ยถึงบุคคลอื่นนอกจากเจ็ดเทพจารีตด้วยประการทั้งปวง ไม่อย่างนั้น ภัยอันตรายจะมาเยือนแบบไม่รู้ตัว สัญญากับฉัน…ว่าเธอจะไม่ทำแบบนี้อีก หากมีคราวหน้า ฉันอาจช่วยไว้ไม่สำเร็จ และพวกเราจะต้องตายกันหมด”

เซเลน่าเริ่มหวาดกลัว เธอรีบพยักหน้าอย่างไม่มีทางเลือก

“ไม่เอาอีกแล้ว…เรื่องอันตรายแบบนี้”

“แล้วเธอยังจำคาถาได้ไหม? ถ้าฉันมีโอกาสได้พบผู้เชี่ยวชาญคนนั้น จะได้นำไปปรึกษากับเขา เผื่ออาจเกิดปัญหาตามมาในภายหลัง”

เซเลน่าพึมพำพลางใช้มือนวดขมับ

“ดวงวิญญาณสูงสง่าที่สามารถสั่นคลอนโลกา พระผู้สร้างที่มีแต่ความห่วงใย พระเนตรที่สามารถมองทะลุโชคชะตา”

แปะ แปะ แปะ

ไคลน์รีดรอยยับเสื้อผ้าพร้อมกับใช้มือปัดฝุ่นออก ก่อนจะเดินลงไปชั้นล่างราวกับไม่มีสิ่งใดเกิดขึ้น

มันถอดหมวกออกหลังจากเดินถึงโต๊ะทานอาหารยาวที่ถูกใช้เป็นสถานที่เล่นไพ่

“คุณไปไหนมาหรือ? สิบนาทีเห็นจะได้”

พี่ชายของเซเลน่า คริส ถามพลางกอดอก

ไคลน์ยิ้ม

“ไปเข้าห้องน้ำ จากนั้นก็เดินขึ้นไปชั้นบนเพื่อทำความรู้จักกับเหล่าสุภาพสตรี”

“ผมชอบความซื่อตรง”

คริสยิ้ม

ชายคนนี้ได้รับพันธุกรรมครอบครัวมาครบถ้วน ผมสีไวน์แดง ร่างเล็กสันทัด บนใบหน้าสวมแว่นตากรอบทอง ส่งเสริมบุคลิกได้ไม่เลว

เป็นธรรมดาของทนายความ

คริส…นายต้องไม่เชื่อแน่ ว่าฉันเพิ่งซัดน้องสาวนายสลบไปเมื่อครู่

ไคลน์กล่าวติดตลกในใจ

“ผมแค่พูดคุยด้านวิชาการเล็กน้อย”

วิชาศาสตร์เร้นลับ…

เมื่อนั่งลงบนเก้าอี้ตัวเดิม ไคลน์นำหมวกมาวางไว้บนตักและเอนหลังพิงด้วยท่าทีผ่อนคลาย

หลังจากเกมโป๊กเกอร์เท็กซัสรอบใหม่วนมาถึง มันรับไพ่สองใบเพื่อเล่นต่อ

ไคลน์แอบพลิกมุมไพ่สำรวจ มันเหลือบเห็นคิงโพธิ์ดำและเอซข้าวหลามตัด

ดวงดีขึ้นทันตาเห็น…

ผลตอบแทนจากการทำความดีงั้นหรือ?

ไคลน์อมยิ้ม พร้อมกับหยิบเหรียญเพื่อเตรียมเพิ่มวงเงินเดิมพันในรอบนี้

ในเมื่อเฮเนส·วินเซนต์ไม่ได้มีเจตนาสอนพิธีกรรมชั่วร้ายให้เซเลน่า ตนไม่มีความจำเป็นต้องรีบร้อนกลับไปแจ้งให้หัวหน้าทราบ

ในรอบถัดๆ ไป ไคลน์ยังคงรักษารูปแบบการเล่นที่ไม่ประมาท หากไพ่ออกมาแย่ มันจะไม่เสี่ยงบลัฟเด็ดขาด

อาจชนะไม่บ่อย แต่หักลบกับเงินที่เสียไปก็ช่วยให้ไม่ขาดทุน

หลังจากเล่นไพ่โป๊กเกอร์จบในเวลาสี่ทุ่มครึ่ง ไคลน์ได้กำไรทั้งหมดหกเพนนี

“ฉันได้สองซูล หกเพนนี”

เบ็นสันอวดธนบัตรในมือ

“ไม่เคยรู้มาก่อนว่านายเป็นผู้เชี่ยวชาญโป๊กเกอร์เท็กซัส”

ไคลน์ชมด้วยรอยยิ้ม

“ฉันเล่นไม่บ่อย แต่จับหลักการของมันได้ ไพ่โป๊กเกอร์คล้ายคลึงกับการเจรจาต่อรอง ห้ามให้อีกฝ่ายรู้ว่าเรามีอะไร พยายามเดาใจอีกฝ่ายให้ถูก จากนั้นก็ใช้วาทะอันคมคายบีบให้ทางนั้นหวาดกลัว…”

ยังไม่ทันที่เบ็นสันจะโม้จบ มันเหลือบเห็นเมลิสซ่าและเด็กสาวที่เหลือเดินลงมาจากชั้นสอง

“ถึงเวลากลับบ้านแล้วสินะ”

ไคลน์พูดขณะยืนมองน้องสาวและเพื่อนของเธอเกาะราวบันไดเดินลง มันยังคงใช้ฝ่ามือนวดคลึงอาการปวดบริเวณขมับที่เหลือตกค้าง

จากนั้น ไคลน์มองตาอลิซาเบธและพูดกับเมลิสซ่าเสียงดังเป็นเชิงส่งสัญญาณว่าตนขอเข้าห้องน้ำก่อนกลับ

เมื่อคนทั้งสองเดินสวนกัน อลิซาเบธรีบบอกใบ้คาถาบทเต็มให้ไคลน์

หลังจากกลับมาหาสองพี่น้อง มันแสร้งทำเป็นฉุกคิดบางสิ่งได้

“จริงด้วย…ฉันมีธุระที่สำนักงาน ก่อนกลับบ้าน พวกเราแวะถนนซุตแลนสักครู่ได้ไหม? สัญญาว่าใช้เวลาไม่นาน”

……………………

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!