Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1482

Cover Renegade Immortal 1

1482. ตระกูลเซี่ยงแห่งดาวตงหลิน

ปรมาจารย์ลั่วฟู่สูดลมหายใจลึก แววตาตกตะลึงยิ่งกว่าเดิม เขามีความคิดบางอย่างแล้วแต่ตอนนี้พอมาได้เห็นกับตาก็ยังตกตะลึงอยู่ดี!

อย่างไรก็ตามความตกตะลึงนี้หายไปอย่างรวดเร็ว ปรมาจารย์ลั่วฟู่ดวงตา ส่องสว่างขึ้น จากนั้นจึงค่อยๆเผยความเหยียดหยัน

‘โชคดีที่เขาไม่ได้บรรลุขั้นที่สาม! ตราบใดที่เขาไม่ได้บรรลุขั้นที่สาม ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะกล้าต่อสู้กับข้า!! มีสองแก่นแท้แล้วอย่างไร? ก็แค่มดแมลง หากไม่ล่วงเกินข้าก็คงไม่เป็นไร แต่ถ้าหากกล้าล่วงเกินข้าขึ้นมา ข้าจะสอนว่าตัวตนของเซียนขั้นที่สามในระดับสวรรค์ดับสูญชั้นต้นเป็นแบบไหน!’

ดาวเคราะห์ตงหลิน สถานที่ที่ลึกลับที่สุดในดาราจักรทุกชั้นฟ้า! หวังหลินได้ยินแต่คำร่ำลือถึงที่แห่งนี้ในอดีต

ดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่มีตำแหน่งที่แน่นอน แต่มันลอยอย่างช้าๆในพื้นที่ส่วนหนึ่งของฝั่งตะวันออก แม้จะเป็นเซียนขั้นทลายสวรรค์ก็ยังพบว่าการหาดาวเคราะห์ ตงหลินเป็นไปได้ยากยิ่ง

แม้จะใช้สัมผัสวิญญาณก็ยังไม่พบถึงโครงสร้างพิเศษของดาวดวงนี้ เหล่าเซียนส่วนใหญ่จึงพึ่งพาสายตาตนเองในการค้นหา

อย่างไรก็ตามนี่ไม่นับหวังหลินเข้าไปด้วย!

ตอนนี้ในพื้นที่ด้านตะวันออกของดาราจักรทุกชั้นฟ้าอันกว้างใหญ่ มีดาวเคราะห์เซียนกำลังลอยอยู่ช้าๆ มีหลุมมีบ่อให้เห็นบนทั่วดาวเคราะห์ ดาวเคราะห์นี้ยังเรืองแสง สีเหลืองเข้มและเปล่งแรงกดดันทรงพลัง

ดาวตงหลิน!

ดาวเคราะห์นี้ไม่มีแค่มันเอง มีดาวเคราะห์เล็กๆอีกหลายสิบดวงกำลังโคจรรอบมัน เคลื่อนไปตามดาวตงหลิน

แสงค่ายกลกะพริบวูบวาบเชื่อมต่อดาวเคราะห์เล็กๆกับดาวตงหลิน มองไกลๆราวกับตาข่ายขนาดยักษ์!

ตอนนี้ค่ายกลบนดาวตงหลินได้เปิดใช้งานอย่างสมบูรณ์ทำให้เกิดเสียงปะทุดังกึกก้องออกไปในดาราจักร

บนดาวเล็กๆหลายสิบดวงมีแสงกระบี่วูบวาบจนมองเห็นได้เลือนลาง มีเซียนหลายคนกำลังเติมค่ายกลเข้าใส่เพื่อเพิ่มพลังป้องกันให้แก่ดาวตงหลิน

บรรยากาศตึงเครียดสัมผัสได้ชัดเจนจากสีหน้าเหล่าเซียนหลายพันคนพวกนี้

ไม่มีเซียนคนใดพูดจา ทั้งหมดยุ่งอยู่กับการวางค่ายกล จากนั้นกระตุ้นทั้งหมดที่วางลงไปบนดาวเคราะห์หลายสิบดวง

ใจกลางค่ายกลข้างในดาวแต่ละดวงมีชายชราสามคนนั่งอยู่ พวกเขามีทั้งหมดเกือบร้อยคน แต่ละคนเปล่งกลิ่นอายเก่าแก่ซึ่งหมายความว่ามีชีวิตมานานมากและ คงไม่ออกมาง่ายๆ

อย่างไรก็ตามตอนนี้พวกเขาไม่มีทางเลือกจึงต้องออกมา! ตัวแทนตระกูลเซี่ยง เซี่ยงหยุนตงกลับมาพร้อมกับข่าวอันน่าสะพรึงกลัว!

หวังหลิน ผู้ที่บรรพชนขโมยพลังชีวิตไปได้กลับมาพร้อมพลังอำนาจที่มากพอจะทำให้ปรมาจารย์ลั่วฟู่กังวล!

ข่าวนี้สั่นสะเทือนทั้งตระกูลเซี่ยง หลังจากขบคิดอยู่ชั่วขณะ หัวหน้าตระกูล คนปัจจุบันและหัวหน้าผู้อาวุโสจึงประกาศคำสั่งโลหิตตงหลินในทันที!

ตระกูลเซี่ยงคือผู้ปกครองดาวตงหลินอย่างลับๆ แต่มีไม่บ่อยนักที่จะเผยใบหน้าตนเอง แม้กระทั่งเหล่าเซียนในดาราจักรทุกชั้นฟ้าก็ไม่รู้เรื่องนี้ พวกเขารู้เพียงแค่ว่ามี สามตระกูลใหญ่อยู่บนดาวตงหลิน!

ตระกูลซิ่ว ตระกูลลั่ว ตระกูลหลิว!

ตระกูลซิ่วสร้างเทพสังหารขึ้นมาจำนวนมากและมีชื่อเสียงโด่งดัง แค่กล่าวถึงชื่อก็ทำให้คนตัวสั่นได้แล้ว!

ด้านตระกูลลั่วแม้จะไม่โด่งดังเท่าตระกูลซิ่วแต่ก็ถือว่าเชี่ยวชาญด้านเขตอาคม อย่างไรก็ตามพวกเขาไม่ได้สืบทอดหนึ่งในสี่สุดยอดเขตอาคมโบราณเหมือนตระกูลของลี่หยวน แต่พวกเขามีอัจฉริยะมากมายที่เชี่ยวชาญด้านเขตอาคม!

ค่ายกลทั้งหมดบนดาวตงหลินจึงถูกวางด้วยตระกูลลั่ว!

ตระกูลสุดท้ายคือตระกูลหลิวที่มีชื่อเสียงมาจากการพัฒนาสมบัติศักดิ์สิทธิ์ วิชาหุ่นเชิดเก้าโลหิตเป็นการผสานวิชาและสมบัติวิเศษอันน่าตกตะลึง ลือกันว่าตั้งแต่ที่มันถูกสร้างขึ้น มันใช้เพียงครั้งเดียวเท่านั้น

อย่างไรก็ตามครั้งที่ถูกใช้ขึ้นมาแทบทำให้ทุกชีวิตในเขตทิศตะวันออกของดาราจักรต้องสูญสิ้นราวกับจุดจบวันสิ้นโลกมาเยือน!

สามตระกูลใหญ่ต่อสู้กันเองอย่างต่อเนื่อง ใช้วิธีอันโหดเหี้ยมเพื่อประคองชีวิตของตระกูลเอาไว้! อย่างไรก็ตามมีเซียนเฒ่าน้อยนิดที่จะรู้ความจริงว่า ตระกูลซิ่วและหลิวนั้นเป็นแค่สาขาของตระกูลเซี่ยง!

ตระกูลเซี่ยงคือตระกูลที่แข็งแกร่งที่สุดในดาราจักรทุกชั้นฟ้า! พวกเขาสามารถเทียบได้กับอารามเทพอัสนี และอารามเทพอัสนีก็ยังคงเสียเปรียบ! แน่นอนว่านี่ยังไม่นับรวมปรมาจารย์ลั่วฟู่เข้าไปด้วย

ตระกูลเซี่ยงเป็นเสมือนยักษ์ที่กำลังหลับใหล วินาทีที่ตื่นขึ้นคงจะทำให้ทั้ง ดาราจักรทุกชั้นฟ้าต้องสั่นสะเทือน!

นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเซี่ยงหยุนตงผู้เป็นตัวแทนของตระกูลเซี่ยงถึงได้เป็นหนึ่งในสี่คนที่เรียนรู้วิชาเต๋าจากปรมาจารย์ลั่วฟู่ถึงแม้จะเห็นได้ชัดว่าเขาขาดระดับบ่มเพาะ!

สี่คนที่ปรมาจารย์ลั่วฟู่เลือกมาทั้งหมดล้วนมีความหมายอย่างลึกล้ำ ไม่ว่าจะเป็นเทพโลหิต ลี่หยุนจื่อ หรือปรมาจารย์จงเฉิน!

มีข่าวลือกันว่าท่ามกลางเหล่าเซียนเฒ่า เป็นข่าวลือที่เกี่ยวข้องกับตระกูลเซี่ยงซึ่งไม่มีใครรู้ว่าจริงหรือเท็จ บางทีคงมีแค่ปรมาจารย์ลั่วฟู่ที่สามารถยืนยันข่าวลือนี้ได้!

เริ่มต้นด้วยตระกูลที่มีความลึกลับที่สุดซึ่งสืบทอดมาจากยุคโบราณ ตระกูลนั้นติดต่อกับตระกูลเซี่ยง ความหมายของข่าวลือนี้คือตระกูลเซี่ยงคือสาขาของตระกูลลึกลับที่แม้แต่ผู้คนก็ยังไม่รู้ชื่อ!

ตระกูลเซี่ยงมีตัวตนอยู่มาถึงตอนนี้ก็เพื่อพิทักษ์ประตูสู่ตระกูลอันลึกลับยิ่งเท่านั้น!

ตระกูลเซียนโบราณนั้นอยู่มาตั้งแต่ก่อนที่แดนสวรรค์จะล่มสลาย พลังอำนาจที่พวกเขามีนับว่าเหนือจินตนาการ!

พวกเขาเองถือว่าลึกลับยิ่งและคนจากตระกูลนั้นนับว่าปรากฏตัวได้ยากในอดีตหลายหมื่นปี แม้หวังหลินจะอยู่ในดาราจักรทุกชั้นฟ้าตอนที่ปรมาจารย์ลั่วฟู่เริ่มสงคราม ตระกูลลึกลับแห่งนี้เพียงแค่ส่งออกมาคนเดียวและหนึ่งคำสั่งเท่านั้น

คำสั่งนี้คือการประทานตำแหน่งเทพ และคนที่ส่งออกมาคือชายชราผู้พยายามผนึกอสรพิษพิฆาตจันทร์ ปรมาจารย์เย่มู่

สามตระกูลบนดาวตงหลินถูกระดมพลภายใต้คำสั่งโลหิตจากตระกูลเซี่ยง ตอนนี้ทั้งดาวเคราะห์เตรียมพร้อมสำหรับการรบแล้ว

พื้นดินสีแดงก่ำราวกับถูกชะโลมด้วยโลหิตตั้งแต่ยุคโบราณ กลิ่นคาวโลหิตคละคลุ้งมานานแล้ว

บางทีเพราะกลิ่นคาวโลหิตรุนแรงเกินไป ทั้งแผ่นดินจึงปลดปล่อยกลิ่นอายกดขี่น่าสะพรึงกลัว

ด้านทิศตะวันออกของดาวเคราะห์มีเศษดินเศษหินมากมาย แขนขามากมาย กระดูกสีขาวและซากเนื้อเน่าเปื่อยบนกระดูกทำให้เหล่านกแร้งสนใจ พวกมันบินวนเวียนในท้องฟ้า บางส่วนใช้จะงอยปากทิ่มแทงเลือดเนื้อเน่าเปื่อย

พื้นที่แถบตะวันออกเต็มไปด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย กลิ่นอายนี้เกิดเป็นวังวนขนาดใหญ่ที่มองไม่เห็นจนทำให้จิตใจเซียนต้องสั่นเทา

เสียงร้องคร่ำครวญมากมายเล็ดลอดออกมาด้วยความแค้น

หวังหลินเคยมาที่นี่ครั้งหนึ่งแล้ว ที่นี่เป็นจุดที่บรรพชนผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวของตระกูลเซี่ยงปิดด่านบ่มเพาะ!

ยิ่งลึกลงไปใต้ดินพื้นดินมีสีดำยิ่งกว่าเดิม ไม่มีชีวิตใดสามารถรอดไปได้ แม้กระทั่งสมาชิกตระกูลเซี่ยงก็คงไม่มาที่นี่ง่ายๆเว้นแต่จะมีเรื่องสำคัญต้องทำ

ทุกครั้งที่พวกเขามา พลังชีวิตจะถูกพื้นดินดูดซับ จากนั้นก็จะอ่อนแอลงและจำเป็นต้องบ่มเพาะทันที

ตอนนี้มีชายชราชุดดำสองคนค่อยๆก้าวเข้ามาด้วยท่าทีมืดมน พวกเขาก้าวเดินเข้าไปในพื้นที่ส่วนลึกของที่นี่

ชายชราหนึ่งในนั้นคำนับฝ่ามือให้แก่พื้นดินอย่างเคารพและเอ่ยขึ้น “ท่านบรรพชน ทุกอย่างจัดวางไว้ตามที่ท่านสั่งการ เราเพียงแค่ต้องรอหวังหลินมาถึงเท่านั้น”

เสียงชายชราทะลุพื้นดินและดึงกึกก้องอยู่ภายใน ท้ายที่สุดมันก็ดังสะท้อนลงไปถึงพื้นที่ใต้พื้นดิน

พื้นที่ใต้ดินเป็นเสมือนหลุมกลวง มีศีรษะนับไม่ถ้วน! กลิ่นอายแห่งความตายที่นี่มีมากกว่าด้านนอกหลายเท่า

ใจกลางทะเลศีรษะมนุษย์แห่งนี้มีหอคอยศีรษะตั้งตระหง่านอยู่หนึ่งแห่ง บนยอดหอคอยมีโลงศพสีเหลืองอำพัน บางส่วนของโลงศพมีหนอนยั้วเยี้ยและมีน้ำสีเหลืองไหลเจิ่งนองลงมา หยดน้ำไหลไปบนศีรษะมนุษย์จนเกิดเสียงซี่ๆ

เมื่อเสียงของชายชราชุดดำเข้ามาที่นี่ มันจึงเบาลงมาจนกระทบใส่กลิ่นอายแห่งความตาย น้ำเสียงเข้าไปในโลงศพ ผ่านความเงียบไปชั่วจังหวะ เสียงแหบพร่าค่อยๆเอ่ยขึ้น

“พลังชีวิตของเด็กนั่นดีเยี่ยมทีเดียว…ข้าไม่ได้ลิ้มรสมานาน…มันโชคดีที่สูญเสียพลังชีวิตไปแต่ไม่ตาย…”

“พวกเจ้าทั้งหมดถอยไป ปรมาจารย์ลั่วฟู่ก็พูดเกินจริง เด็กนั่นไม่ได้บรรลุระดับนั้น ปรมาจารย์ลั่วฟู่กล่าวว่าต้องการหวังหลินมาทดสอบสิ่งที่คาดเดาในใจ…เรื่องนี้ไม่ใช่ปัญหา!”

พื้นดินสั่นเทา เสียงของคนในโลงศพดังกึกก้อง หลังจากได้ยินคำพูดของบรรพชน พวกเขาจึงรู้สึกโล่งใจ ตอนที่ได้ยินข่าวที่เซี่ยงหยุนตงนำมา พวกเขาตกตะลึงเกินไป แต่ท่านบรรพชนคือผู้ปกครองที่พวกเขาสบายใจ

ในเมื่อท่านบรรพชนบอกว่าไม่มีปัญหา เช่นนั้นไม่มีอะไรผิดพลาดไปได้!

อย่างไรก็ตาม ไม่มีใครรับรู้ว่ามีร่างชุดขาวผู้หนึ่งปรากฏตัวขึ้นมาในพื้นที่แถบนี้และกำลังมุ่งตรงมาที่ดาวตงหลิน แม้แต่บรรพชนตระกูลเซี่ยงก็ไม่รู้ตัว!

หวังหลินมาถึงแล้ว!

หวังหลินมองที่ดาวตงหลินซึ่งเต็มไปด้วยค่ายกล ดาวเคราะห์เซียนดวงเล็กๆหลายสิบดวงกำลังโคจรรอบๆ เขานึกย้อนไปถึงตอนที่เขามาที่นี่กับฉิงชุ่ยและเซี่ยงหยุนตง เป็นความหวังทั้งหมดที่เขามีเมื่อตอนนั้น

ดวงตาหวังหลินค่อยๆเปลี่ยนเป็นเย็นชาที่สุด!

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!