Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1611

Cover Renegade Immortal 1

1611. สตรีงดงาม

เสียงของลี่มู่หวานปนความนุ่มนวลได้เข้าสู่โสตประสาทของหวังหลิน ทำให้หัวใจเขาเกิดความรู้สึกสงบนิ่ง ใบหน้าแก่ชราดูเหมือนจะอ่อนเยาว์ขึ้นมากมาย เขามอง ลี่มู่หวานและลืมเรื่องวันเวลาไปเสียสนิท

หวังหลินสลักคำพูดของลี่มู่หวานจากชีวิตในความฝัน เขาไม่มีวันลืมคำเหล่านั้น ชีวิตในความฝันดูเหมือนทับซ้อนกับปัจจุบัน หุบเขาที่ทั้งสองอาศัยอยู่ด้วยกันมา หลายปีจึงปรากฏตัวขึ้น

ดอกไม้ในภูเขาเบ่งบานและแห้งเหี่ยวไปตามวันเวลาที่ผ่านไป มีเพียงร่างทั้งสองดุจคงอยู่ไปชั่วกาลนาน เสียงพิณทำให้เบิกบานใจและทำให้เขาไม่อยากตื่นขึ้นมาเลย

หวังหลินไม่อยากตื่นเอาเสียเลย

ในหุบเขา เขาเฝ้ามองเส้นผมของลี่มู่หวานเปลี่ยนกลายเป็นสีขาว จากนั้นนาง ก็กลายเป็นเถ้ากระดูก ฉากอันโหดร้ายนั้นได้ฉีกหัวใจเขาเป็นชิ้นๆ และทำให้เขาประสบกับความเจ็บปวดและความเศร้า

เขาจำได้ว่าตนเองกอดลี่มู่หวานไว้แน่นแค่ไหนและส่งเสียงร่ำร้องโหยหวนใส่ท้องฟ้า

“แม้สวรรค์อยากให้เจ้าตาย ข้าก็จะพาเจ้ากลับมา!”

เสียงนั้นยังคงดังกึกก้องอยู่ในใจหวังหลิน มันมาจากความฝันและกลายเป็นแรงให้หวังหลิน

“ความฝันนี้ ให้ข้าอยู่กับเจ้าจวบจนวันสุดท้าย…” ลี่มู่หวานกอดหวังหลินแน่นราวกับนางกลัวว่าเขาจะจากไป หยาดน้ำตาไหลรินลงมาพร้อมกับนางกระซิบอีกครั้งและอีกครั้ง…

นางบอกไม่ได้ว่าพูดไปกี่ครั้ง…

มืออันแห้งเหี่ยวของหวังหลินยกขึ้นลูบเส้นผมของลี่มู่หวาน ใบหน้าท่าทางอ่อนโยนและพยักหน้า

สตรีคนนี้ แม้นางจะตายไปแล้วเป็นพันปี ร่างกายยังคงประทับอยู่ในใจของ หวังหลินจนนางกลายเป็นทุกสิ่งทุกอย่างของเขา

ไม่ว่าจะเป็นหลิวเหมยหรือหลี่เฉียนเหมย ความงดงามของคนอื่นๆ ทั้งหมดที่เขาพบเจอหลังจากนั้นมิอาจเทียบได้กับเงาของนาง ทั้งหมดทั้งมวลนั้นไม่อาจเดินเข้าไปในหัวใจของหวังหลินได้

หวังหลินรู้ว่าหัวใจของเขาตายด้านในวันนั้นไปแล้ว ตอนที่เขากุมร่างลี่มู่หวานและส่งเสียงร้องอย่างโศกเศร้า

ท้องฟ้าดูเหมือนจะขาดไปหนึ่งสี ข้าจะใช้ชีวิตเพื่อตามหานาง…

หวังหลินเงยหน้ามองไปบนท้องฟ้า วิหคสีขาวบินวนในท้องฟ้า เขาเอ่ยถามตัวเอง “เจ้ายอมตัดขาดมันหรือไม่…เจ้าตัดขาดมันได้หรือไม่…”

ในปีที่สามสิบเอ็ดหลังจากออกมาจากแคว้นจ้าว หวังหลินและลี่มู่หวานนั่งอยู่บนก้อนหินโดยมีเหล่าเซียนรายล้อมในระยะหลายพันลี้ หวังหลินกอดลี่มู่หวานด้วยรอยยิ้มที่เข้าใจโลกไปพร้อมกับนาง

คำพูดของหวังหลินน้อยลงเรื่อยๆ จากหนึ่งครั้งต่อปีไปเป็นหลายปีต่อครั้ง

“ต้นกำเนิดมาจากความว่างเปล่า นี่คือเวรกรรม หากเจ้าทั้งหมดเข้าใจก็จะสามารถสร้างเต๋าขึ้นมาได้…” ในฤดูหนาวปีที่สามสิบสอง หิมะตกลงจากท้องฟ้า หวังหลินยืนขึ้นแต่ร่างกายอ่อนแอมาก เขารู้ว่าชีวิตใกล้จะถึงจุดจบ แม้เขาไม่ยินยอม เขาก็กำลังจะตาย

นี่คือความฝันที่สมจริงมาก ในความฝันนี้เขาคือ คนธรรมดา

การตายคือจุดจบ จุดจบของความฝัน แต่ขณะเดียวกันมันก็เป็นจุดเริ่มต้นของทุกสิ่งทุกอย่าง

ลี่มู่หวานยังคงเยาว์วัย นางค่อยๆประคองหวังหลินและยืนอยู่กับเขาบนก้อนหิน

หลิวเหมยอยู่ไกลๆ นางมองหวังหลินและลี่มู่หวานอย่างเงียบเชียบจากระยะไกล แววตางุนงงของนางยิ่งรุนแรงขึ้นตลอดหลายปี ท้ายที่สุดมันก็กลายเป็นความเจ็บปวดที่มิอาจเอ่ยออกมาได้จนทำให้นางต้องก้มศีรษะ

หวังหลินเอ่ยเสียงที่แก่ชราขึ้นเบาๆ “เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าบ้านอยู่ที่ไหน…”

แววตาลี่มู่หวานมีคราบน้ำตาและนางพยักหน้า

“พาข้าไปที่นั่น” หวังหลินลูบเส้นผมของลี่มู่หวาน

ลี่มู่หวานกัดริมฝีปากเล็กน้อยและกอดหวังหลินพลางทะยานขึ้นไปในท้องฟ้า ทั้งสองทะยานออกไปไกลภายใต้สายตาของเซียนทั้งหมดรอบด้าน

พวกเขาหายวับไปเหนือเส้นขอบฟ้า หายไปจากสายตาทุกคน ราวกับทั้งสองไม่เคยอยู่ที่นี่ ไม่เคยมาที่นี่

สายลมพัดมาใส่หวังหลินทำให้เส้นผมสีขาวพลิ้วสะบัดเข้าใบหน้าของลี่มู่หวานและพัวพันเข้ากับเส้นผมสีดำของนาง การพัวพันของสีดำและสีขาวดูเหมือนพวกมันไม่อยากแยกจากกันไปไหน

ลี่มู่หวานมีสีหน้าอ่อนโยน นางมองหวังหลินด้วยความรักและความอบอุ่น

หวังหลินมองพื้นดินเบื้องหน้าที่แล่นผ่าน เขาเห็นภูเขาไฟหลายแห่ง ป่าไม้ พื้นที่ราบ เมืองใหญ่และคนธรรมดาที่ตอนนี้ดูเหมือนจุดสีดำ

ไม่รู้ว่าเวลาผ่านไปนานแค่ไหนก่อนที่พื้นดินเบื้องล่างได้เปลี่ยนไปเป็นสีเขียวและปรากฏเทือกเขาขึ้นมากมาย มีหมู่บ้านแห่งหนึ่งที่ซ่อนอยู่ในภูเขาเหล่านี้

หมู่บ้านนั้นคือบ้านหลังที่สองของเขานอกจากแคว้นจ้าวในความฝัน

นี่คือบ้านที่เขาอยู่กับนาง

ลำแสงร่อนลงบนพื้นทำให้ใบไม้ใบหญ้าและต้นไม้พัดพลิ้ว ไม่นานทั้งหมดก็สงบนิ่ง ลี่มู่หวานปรากฏตัวขึ้นพร้อมกับกอดหวังหลินเอาไว้ ไม่นานพวกเขาก็มาถึงหมู่บ้าน

หมู่บ้านแห่งนี้ว่างเปล่าและมีวัชพืชขึ้นทุกที่ มีดอกไม้ป่าบางส่วนที่ปล่อย กลิ่นหอมหวน

“บ้านของเรา…” หวังหลินมองหมู่บ้านพร้อมกับตกอยู่ในภวังค์ ความโหยหาและความเศร้าโผล่ออกมาจากดวงวิญญาณ ขณะที่เขามองไปรอบๆ จึงเกิดความรู้สึกเศร้า จากนั้นสายตาส่งไปที่ลี่มู่หวาน

ลี่มู่หวานมองไปรอบๆเช่นกัน จากนั้นสักพักจึงเผยรอยยิ้มมีความสุข

“หวังหลิน เราอย่าคิดว่าความฝันนี้เป็นเช่นไร เราอยู่ด้วยกันที่นี่ ตกลงหรือไม่?”

“ตกลง”

กาลเวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า หญ้ารกในหมู่บ้านทั้งหมดหายไปและมีบ้านไม้เรียบง่ายหลังหนึ่งปรากฏขึ้นมาแทน วันแล้ววันเล่ามีเสียงพิณไพเราะดังกึกก้องในหุบเขา

หวังหลินยืนด้วยไม้ค้ำยันในมือ รูปลักษณ์ของเขาแก่ชรามากขึ้นและมีริ้วรอยเหี่ยวย่นบนใบหน้ามากมาย รวมถึงจุดด่างดำบนทั่วผิวหนัง

แต่ละจุดเสมือนวงปีของต้นไม้ พวกมันประทับขึ้นตามกาลเวลา

เขายังสวมชุดสีขาวและฟังเสียงพิณของลี่มู่หวานด้วยรอยยิ้ม เขามองสตรีที่ ใช้สองแขนเล่นพิณให้เขาฟัง

ใบหน้าของนางไม่ได้เยาว์วัยเหมือนตอนครั้งแรกที่เจอกัน ก็เหมือนกับเขา นางเองก็กลายเป็นหญิงชราไปด้วย

ลี่มู่หวานใช้วิชาทำให้ตัวเองดูแก่ขึ้น นางไม่ต้องการให้หวังหลินกลายเป็นคนแก่ขณะที่นางยังดูเยาว์วัย นางต้องการเป็นเหมือนเขา เหมือนคนธรรมดา ทั้งสองอยากนับเส้นผมสีขาวของอีกฝ่ายขณะที่ใช้เวลาที่เหลือในชีวิตอยู่ด้วยกันต่อไป

หวังหลินจะไม่รู้เจตนาของนางได้อย่างไร? เขาไม่ได้หยุดนาง เพียงแค่มองภรรยาของตัวเองอย่างอ่อนโยน

ภรรยาของเขา

ผู้ไม่สนเรื่องอายุหรือรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย สิ่งที่ห่วงใยคือวิญญาณในสายตาของทั้งคู่

ผู้ไม่สนเรื่องกาลเวลาหรือม่านกั้นหยินและหยาง ที่ทั้งสองห่วงใยคือช่วงเวลาในยามนี้

เป็นวิธีที่ทั้งสองรู้สึก ขณะที่ดวงอาทิตย์ตกลงในหมู่บ้าน เสียงพิณดังกังวาล ทั้งสองมองหน้ากันอย่างเงียบๆ รอยยิ้มของชายชราคือรอยยิ้มของหญิงชรา

เขามองนางเล่นพิณ ราวกับไม่มีสิ่งใดในโลกนี้นอกจากทั้งสองคน ลืมเลือนโลก ลืมเลือนดวงอาทิตย์และดวงจันทร์ที่กำลังหมุนเปลี่ยน ลืมเลือนท้องฟ้าที่กำลัง เปลี่ยนสี สำหรับคนรักทั้งสองคน สิ่งเหล่านั้นล้วนไม่สำคัญ

แต่ละปีผ่านไป

วิหคสีขาวตัวนั้นไม่เคยปรากฏขึ้นอีกเลย ราวกับมันจากความฝันไป

ภายใต้สายตาของทั้งสองและเสียงพิณ หวังหลินและลี่มู่หวานรับรู้การฟื้นคืนชีวิตของต้นไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ใบไม้แห้งพัดปลิวบนท้องฟ้าในฤดูร้อน และใบไม้หมุนผ่านในฤดูใบไม้ร่วง

ทั้งสองเฝ้าดูสายฝนและหิมะไปด้วยกัน ฤดูหนาวจึงไม่หนาวเพราะมีอีกคนอยู่ด้วย

ปีนี้นับเป็นปีที่สามสิบห้าตั้งแต่ที่หวังหลินออกมาจากแคว้นจ้าว

ปีนี้หวังหลินรู้สึกถึงเสียงเรียกแห่งความตาย เขาเข้าใจว่าสักวันหนึ่ง ตอนที่เขาหลับตา เขาอาจจะไม่ได้ลืมมันขึ้นเลยอีกครั้ง เขาคงจะออกไปจากโลกแห่งความฝันนี้ไป วันนั้นกำลังใกล้เข้ามามากขึ้นเรื่อยๆ

ปีนี้ใบไม้สีเหลืองพัดผ่านท้องฟ้าในฤดูใบไม้ร่วง พวกมันหมุนไปตามพื้นอย่างช้าๆ แต่มีหนึ่งใบถูกร่างหวังหลินขัดขวาง

หวังหลินก้มลงและพยายามคว้าใบไม้ด้วยมือที่มีแต่รอยด่างดำ

“ใบไม้ร่วงกลับคืนสู่ราก…หวานเอ๋อร์ ข้าต้องไปแล้ว…โปรดส่งข้าให้เดินทางครั้งสุดท้าย ไปกับข้าที่แคว้นจ้าวกับต้าฝู เราจะไปเมืองซูและทำสิ่งสุดท้ายให้สำเร็จในความฝัน พบเจอกับตัวเองครั้งสุดท้าย”

“ตอนนั้นเขาไม่มา ครั้งนี้เขาจะมาแน่นอน”

ลี่มู่หวานผู้มีเรือนผมสีขาวพลางช่วยเหลือหวังหลินออกมาจากบ้านด้วยแววตา ไม่เต็มใจ ทั้งสองทะยานออกไปไกลตามลำแสงข้ามผ่านท้องทะเลที่มีแคว้นจ้าว

ที่แห่งนี้คือความฝันแต่ก็ไม่ใช่ความฝันเช่นกัน มันถูกสร้างขึ้นมาจากวิชาเต๋าของหวังหลินด้วยการใช้ผลไม้เต๋าช่วยเหลือ กาลเวลาข้างในความฝันนี้จึงเหมือนกับเวลาข้างนอก

ข้างนอกความฝันคือพันธมิตรเซียน สี่ดาราจักรแห่งดินแดนชั้นใน การต่อสู้สุดท้ายระหว่างดินแดนชั้นในและดินแดนชั้นนอก!

ช่วงระยะเวลาหลายสิบปีที่ผ่านมา ดินแดนชั้นในและดินแดนชั้นนอกต่างก็สู้กันเสมือนน้ำกับไฟ ดินแดนชั้นนอกกระจายข่าวว่าจ้าวแห่งดินแดนปิดผนึกตายไปแล้วและใช้พลังเต็มที่เพื่อบุกรุกดินแดนชั้นใน

ม่านพลังที่ฉิงหลินสร้างขึ้นมาด้วยการหยิบยืมพลังของแดนสวรรค์โบราณได้พังทลายไปมากกว่าสามสิบปีที่แล้ว เหล่าเซียนดินแดนชั้นนอกนับไม่ถ้วนต่างก็พุ่งเข้ามาต่อสู้ห้ำหั่นกันครั้งแล้วครั้งเล่า สองฝ่ายได้รับความเสียหายอย่างหนัก โลหิตเต็มไปทั่วท้องฟ้า กลิ่นคาวโลหิตหนาแน่น สี่ดาราจักรต่างก็กลายเป็นนรก

ขณะที่ชีวิตพานพบกับความโหดเหี้ยมมากยิ่งขึ้น เหล่าเซียนขั้นที่สามของดาราจักรอัญเชิญนทีและทะเลเมฆาได้ยอมแพ้ พวกเขารวมกำลังกันตีฝ่าเข้าไปในดาราจักรทุกชั้นฟ้าและฟ้ากระจ่างเพื่อดิ้นรนต่อสู้ครั้งสุดท้าย

ขณะที่สถานการณ์เริ่มสิ้นหวังขึ้นเรื่อยๆ ข่าวลือที่ว่าจ้าวดินแดนปิดผนึกที่ตายไปแล้วก็ผุดขึ้นมา แม้ฉิงชุ่ยที่เปลี่ยนกลายเป็นหวังหลิน เขาก็ยังถูกปรมาจารย์ซูเฉินทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัสและเกือบตายเมื่อสิบปีก่อน

เป็นผลให้ข่าวเรื่องจ้าวดินแดนปิดผนึกไม่อาจหยุดยั้งได้อีกแล้ว ทำให้เหล่าเซียนดินแดนชั้นในไม่สามารถฟื้นคืนจิตใจได้อีกแล้ว

หนึ่งเดือนก่อน ดาราจักรฟ้ากระจ่างเผชิญกับตัวเลือกที่ยากเย็นแสนเข็ญ พวกเขาควรจะยอมแพ้และมุ่งหน้าไปที่ดาราจักรทุกชั้นฟ้าเพื่อต่อสู้เป็นครั้งสุดท้าย หรือพักอยู่ที่บ้านเกิดของจ้าวดินแดนปิดผนึกดี? พักอยู่ที่ดาวซูซาคุและต่อสู้จน ตัวตาย?

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version