Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 1750

Cover Renegade Immortal 1

1750. เปิดถ้ำ

สายหมอกหลั่งไหลท่วมทั้งดาราจักรโบราณจนเกิดเสียงดังสนั่นหวั่นไหว สายหมอกปั่นป่วนราวกับมีอสูรดุร้ายนับไม่ถ้วนอยู่ข้างใน ทุกตารางนิ้วของดินแดนชั้นนอกถูกห่อหุ้มอยู่ในสายหมอก แรงกดดันทรงพลังโผล่ออกมาจากสถานที่ห่างไกลดินแดนชั้นในและครอบคลุมทั่วไปทั้งถ้ำ

ด้วยแรงกดดันนี้ เหล่าเซียนดาราจักรโบราณทั้งหมดจึงสั่นสะท้านอย่างรุนแรง หลายคนสงสัยว่าเกิดอะไรขึ้น ทว่าเสียงคำรามที่ออกมาจากท้องฟ้าเสมือนวันสิ้นโลก ก่อเกิดแรงกดดันทรงพลังใส่ผู้คนและทำให้เกิดความรู้สึกอึดอัด

เหล่าอสูรมากมายต่างก็เป็นแบบนี้เช่นกัน ไม่ว่าพวกมันจะแข็งแกร่งแค่ไหน ทั้งหมดต่างก็สั่นสะท้าน แม้แต่สิ่งที่พวกมันสืบทอดกันมายังสูญสลาย ความทรงจำที่ฝังลึกภายในวิญญาณค่อยๆ โผล่ออกมา

ความทรงจำพวกนี้คือความหวาดกลัวต่อสรวงสวรรค์ที่เหล่าบรรพชนของพวกมันได้ทิ้งเอาไว้ เดิมทีมันไม่มีวันเกิดขึ้นแต่ตอนนี้พวกมันไม่มีทางเลือก!

ขณะที่ทั้งดาราจักรกำลังเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ สายหมอกจึงเริ่มหนาแน่นขึ้น ไม่นานจึงปิดบังทุกสิ่งทุกอย่างและคลุมไปทั่วทั้งดาราจักร

สายหมอกนี้โผล่ขึ้นมารวดเร็วเกินไปจนไม่มีเวลาให้ตั้งตัว

ชั่ววินาทีนี้ พื้นที่แห่งหนึ่งในดาราจักรโบราณ อวกาศสั่นสะเทือน ก้อนหินจำนวนมากปรากฏออกมาจากอากาศว่างเปล่า พวกมันเหมือนก้อนหินและควบแน่นเป็นแผ่น รูปร่างของมันไม่เป็นรูปทรง ราวกับเป็นส่วนหนึ่งที่พังทลายมาก่อน มันผุดขึ้นมาจากความว่างเปล่าและถูกสร้างจากฝุ่นผง แผ่นกระดานขนาดใหญ่แห่งนี้เปล่งกลิ่นอายเก่าแก่ หลังจากก่อตัวขึ้นมาจึงทะยานเข้าหาดินแดนชั้นใน!

ตอนนี้ในดินแดนชั้นใน ราชันย์พลันลืมตาขึ้นมาด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วย ความหวาดกลัว เขารีบลุกขึ้นและก้าวทะยานออกไป ปรากฏตัวในดาราจักรที่เต็มไปด้วยสายหมอก

สายตามองออกไปไกล ความหวาดกลัวค่อยๆ ถูกแทนที่ด้วยความตกตะลึง!

‘วิญญาณดวงที่สามตื่นขึ้นแล้ว!! แกนกลางของถ้ำได้เปิดขึ้นอีกครั้ง!!’ ราชันย์ใบหน้าซีดแต่ก็พุ่งเข้าหาดินแดนชั้นในโดยไม่ลังเล

ขณะเดียวกันในพื้นที่อันกว้างใหญ่ของดินแดนชั้นนอก เหล่านางสนมที่รอดชีวิต รวมถึงคนที่หวังหลินพบเจอในสุสานโบราณ ทั้งหมดตื่นขึ้นจากการบ่มเพาะ มองไปยังดวงดาวด้วยสีหน้าแตกต่างกัน เป็นความตื่นเต้น ซับซ้อนและหวาดกลัว

‘แกนกลางของถ้ำเปิดออกแล้ว’ ชั่วขณะต่อมา เหล่านางสนมจึงได้ทะยานออกมาจากที่พักของตัวเองเพื่อเข้าสู่ดินแดนชั้นใน!

ขณะเดียวกันในดินแดนชั้นนอก ณ ดาราจักรฟ้ากระจ่าง พื้นที่บริเวณรอบดาวซูซาคุเกิดการสั่นเทา สายหมอกปั่นป่วนและมิติด้านนอกอวกาศได้ถูกฉีกเปิดอย่างเงียบงัน!

กลิ่นอายของสนามรบต่างแดนได้รั่วไหลออกมาจากรอยแยก เศษชิ้นส่วนปลิวออกมาอย่างรวดเร็ว พวกมันรวมตัวกันเป็นแผ่นกระดานหินอีกแผ่น!

แผ่นกระดานนี้เสมือนแผ่นดินเล็กๆ หลังจากก่อตัวขึ้นมาจึงทะยานเข้าหา ดาราจักรทุกชั้นฟ้า!

นี่ไม่ใช่เพียงแค่ที่เดียว กระดานแบบเดียวกันก่อตัวขึ้นในอีกสามดาราจักรด้วย จากทั่วทั้งถ้ำไม่รู้ว่ามีพวกมันมากเท่าใดที่กำลังพุ่งเข้าหาดาราจักรทุกชั้นฟ้า!

เซียนเต๋าสีรุ้งที่กำลังค้นหาอยู่ในดาราจักรทุกชั้นฟ้าถึงกับมีสีหน้าเปลี่ยนไปมหาศาล ร่างกายสั่นไหวพลางพุ่งทะยานตรงไปด้วยหัวใจเต้นรุนแรง!

‘วิญญาณดวงที่สามถูกค้นพบแล้ว!!! แกนกลางของถ้ำเปิดออก! ใครกัน? ใครเป็นคนพบวิญญาณดวงที่สามเป็นคนแรก!?’ เซียนเต๋าสีรุ้งพุ่งต่อไปราวกับบ้าคลั่ง

ทางด้านสี่ขุนพลที่อยู่ในดาราจักรทุกชั้นฟ้าเช่นกัน อสูรหมอกตัวยักษ์เบื้องหน้าพวกเขาถึงกับสะอื้นและตัวสั่น ไม่กล้าขยับเยื้อนไปไหน ดาราจักรดวงดาวส่งเสียงดังกึกก้องและมีสายหมอกโผล่ขึ้นทันที กลิ่นอายของแกนกลางที่กำลังเปิดได้กระจายไปทั่วทุกส่วนของโลกถ้ำ!

สี่ขุนพลมีท่าทีเปลี่ยนไปอย่างยิ่ง พวกเขาไม่อยากจะเชื่อ และคิดว่าตัวเองเร็วที่สุดแต่ก็ต้องตกตะลึงที่รู้ว่ามีคนพบวิญญาณดวงที่สามก่อนพวกเขา!

“ถ้ำเปิดออกแล้ว!”

“ใครเป็นคนพบวิญญาณดวงที่สาม? หรือจะเป็นเซียนเต๋าสีรุ้ง!?” ทั้งสี่คนพุ่งเข้าหาจุดที่กลิ่นอายโผล่ออกมาโดยไม่ลังเล!

มีอีกร่างหนึ่งที่รวดเร็วกว่าทั้งสี่คน ขณะที่พวกเขาท่องทะยาน ร่างนี้กะพริบวาบผ่านพวกเขาไป

เขาคือผีเฒ่าจาง ตอนนี้สีหน้าท่าทางมืดมนและมีความหวาดกลัวซ่อนอยู่ หากเขาไม่เจอวิญญาณดวงที่สามก่อนและเซียนเต๋าสีรุ้งเจอเป็นคนแรก สิ่งที่รอเขาอยู่คือ ความเจ็บปวดจากการถูกกลืนกินและความตายเท่านั้น

น่าเสียดายที่โลกถ้ำตกอยู่ในความโกลาหล ดังนั้นถึงแม้เขาจะแพร่กระจายสัมผัสวิญญาณออกไปได้แต่ก็ไม่สามารถออกไปได้ไกลนัก จะเป็นหวังหลินหรือเซียนเต๋าสีรุ้ง เขาก็ไม่รู้แน่ชัด!

อย่างไรก็ตามเพราะความไม่รู้นี้ถึงทำให้ความหวาดกลัวของเขารุนแรงขึ้น เขาพุ่งทะยานเข้าหาอย่างบ้าคลั่ง เวลานี้เขาไม่สามารถเลือกหลบหนีได้ แม้เซียนเต๋าสีรุ้งจะเป็นคนค้นพบวิญญาณดวงที่สาม เขาก็จะเป็นคนชิงมันคืนมาขณะที่อีกฝ่ายกำลัง กลืนกินวิญญาณดวงที่สามอยู่!

ขณะที่ผีเฒ่าจางท่องทะยานออกไป เงาขนาดยักษ์ปรากฏขึ้นทับตัวเขา ร่างเงานี้สวมผ้าคลุมที่สร้างขึ้นจากหมอกเข้าปกคลุมใบหน้าจนเผยแต่ดวงตาน่ากลัว เรือนผมสะบัด ร่างกายใหญ่ยักษ์ปกคลุมเกือบทั่วท้องฟ้า

ร่างเงาล้อมรอบผีเฒ่าจาง นี่คือ หนึ่งในสามวิญญาณ เป็นวิญญาณที่มีเต๋าแห่งการรู้แจ้งทั้งหมด!

ด้วยเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นในโลกถ้ำจึงทำให้เกิดความวุ่นวายที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทุกชีวิตในโลกถ้ำเริ่มตื่นตระหนก!

ขณะเดียวกันพลังที่ว่านี้ได้เปิดแดนสวรรค์โบราณในดินแดนชั้นนอกที่หวังหลินได้ปิดผนึกเอาไว้ด้วย แม้ส่วนใหญ่พังทลายไปแล้ว แต่ยังมีศิษย์สำนักเจ็ดเต๋าบางส่วนที่ยังเหลือรอดอยู่ด้วย

เมื่อผนึกฉีกขาด พวกเขาจึงพุ่งออกมาด้วยความตกตะลึง จากนั้นพุ่งเข้าหา ดาราจักรทุกชั้นฟ้าโดยไม่ลังเล!

ยังมีสตรีอีกคนที่ไม่ได้เข้าแดนสวรรค์และพักอยู่บนดาวเคราะห์ในดาราจักรอัญเชิญนที นางมีชื่อว่าซื่อเจียและเป็นหนึ่งในนางสนม นางกำลังขบคิดอย่างเงียบๆ ก่อนจะกัดฟันและก้าวออกไป

ขณะที่โลกถ้ำเกิดการเปลี่ยนแปลง แผ่นกระดานขนาดใหญ่เริ่มพุ่งเข้าหา ดาราจักรทุกชั้นฟ้า ในดาราจักรฟ้ากระจ่างบนดาวเคราะห์เบญจธาตุที่กำลังซ่อน ตัวอยู่ เซียนกลุ่มหนึ่งมีชายชราชื่อหม่าเป็นผู้นำกำลังเกิดความลังเลเล็กน้อย จากนั้นถอนหายใจและพุ่งเข้าหาดาราจักรทุกชั้นฟ้า!

หยุนยี่เฟิงติดตามผู้นำและมองไปยังดาราจักรทุกชั้นฟ้า สายตาเปล่งประกายเป็นแสงประหลาด

‘หวังหลิน การต่อสู้ครั้งล่าสุดของเรายังไม่ได้ข้อสรุป บางทีเราอาจหาผู้ชนะได้ในแกนกลางของถ้ำ!’

โลกถ้ำสั่นสะเทือนรุนแรง สายหมอกเคลื่อนที่ดุจทะเล หากมองจากเบื้องบนคงเป็นได้ว่าทั่วทั้งโลกถ้ำได้เปลี่ยนกลายเป็นทะเลหมอก มีเพียงดาราจักรทุกชั้นฟ้าเท่านั้นที่มีหวังหลินปรากฏอยู่ได้ชัดเจน มันกลายเป็นแสงส่องประกายในความมืด!

ยามนี้ในแดนสวรรค์แห่งใหม่ ฉิงชุ่ยยืนอยู่นอกบ้านและมองดูท้องฟ้าขุ่นมัว เขารู้สึกถึงเสียงเรียกในหัวและสิ่งนี้ทำให้เขาเกิดความรู้สึกขุ่นเคืองยิ่ง

ด้านซือถูหนานเองก็ตื่นจากการบ่มเพาะ เขามองไปข้างหน้าอย่างมืดมนแต่ไม่รู้ว่ากำลังคิดสิ่งใดอยู่

นาทีนี้เสียงทรงอำนาจดังกึกก้องในจิตใจของซือถูหนานและฉิงชุ่ย เสียงนี้เป็นของปรมาจารย์เต๋าความฝัน!

“ข้าสัญญากับหวังหลินว่าจะช่วยเขา…สถานที่ประหลาดนั่นเปิดขึ้นแล้ว แต่ข้าไม่มีสายโลหิตเทพ ดังนั้นจึงเข้าไปไม่ได้ ข้าจำเป็นต้องยืมวิญญาณพวกเจ้าสองคน… พวกเจ้าตกลงหรือไม่?”

สายหมอกพุ่งเข้าไปจากทุกทิศทางและรวมตัวกันในท้องฟ้า!

ตอนนี้หวังหลินกำลังยืนอยู่ในหุบเขาบนดาวเคราะห์หนึ่งในดาราจักรทุกชั้นฟ้า ดวงตาเต็มไปด้วยความโศกเศร้าและความโกรธเกรี้ยวยามที่เขาได้เห็นเซี่ยฉิงเรียกเขาว่า “อาจารย์” เป็นครั้งสุดท้ายและตายไปพร้อมรอยยิ้ม!

เขาโกรธเกรี้ยวเพราะสรวงสวรรค์เข้ามายุ่งวุ่นวาย!

หากสวรรค์ไม่เคารพข้า ข้าก็จะทำลายสวรรค์! หวังหลินมองท้องฟ้าสีดำมืดพร้อมกับวิญญาณดวงที่สามในมือ!

เมื่อวิญญาณดวงที่สามปรากฏขึ้นมา หวังหลินจึงสร้างการเชื่อมต่อเอาไว้ เขาจึงรู้ว่าแกนกลางของถ้ำได้เปิดขึ้นแล้ว!

ทั้งยังรู้ว่าทุกคนกำลังมุ่งมาที่นี่ เป้าหมายคือวิญญาณดวงที่สามในมือเขา! อย่างไรก็ตามตอนนี้วิญญาณดวงที่สามสำหรับหวังหลินนั้นไม่ใช่ราชันย์เทพสีรุ้งอีกแล้ว แต่มันคือ เซี่ยฉิงศิษย์ของเขา!

‘นั่นจะไม่ใช่ครั้งสุดท้ายที่เจ้าเรียกข้าว่า ‘อาจารย์’ แน่นอน ข้าไม่ยอม!’ แววตาหวังหลินกะพริบเย็นเยียบพลางมองไปยังท้องฟ้า เขาเริ่มหัวเราะและเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยวทันที!

‘วันหนึ่งเมื่อเจ้าสามารถสร้างวิญญาณตัวเองขึ้นมาใหม่และฟื้นคืนความทรงจำได้ เมื่อเจ้าตื่นขึ้น เจ้าจะยังเป็นศิษย์ของข้า!’ หวังหลินหลับตา และเมื่อลืมตาขึ้นมา อีกครั้ง วิญญาณดวงที่สามได้ผสานเข้ากับร่างเขา

เพียงเสี้ยววินาทีนั้น ท้องฟ้าสีดำมืดเกิดเสียงดังสนั่น สายหมอกในท้องฟ้าพรั่งพรูอย่างบ้าคลั่งและเริ่มหนาแน่น หวังหลินเห็นแผ่นหินขนาดยักษ์เท่าแผ่นดินปรากฏขึ้นในท้องฟ้า!

ขณะเดียวกัน แผ่นหินชิ้นที่สองโผล่ออกมาจากอีกทิศทางหนึ่งในทะเลหมอก!

แผ่นที่สาม!

แผ่นที่สี่!

แผ่นที่ห้า…

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version