248. ผลึกดาวเคราะห์เซียน
ชายหนุ่มปิศาจมองหวังหลินและเอ่ยอย่างช้าๆ “ทัณฑ์สวรรค์ ข้าไม่เชื่อว่าดาวเคราะห์ขยะเช่นนี้จะสามารถมีสมบัติวิเศษแบบนั้น”
หวังหลินจ้องคนผู้นั้น เมื่อเขามองทัณฑ์สวรรค์และเผยแววตาหวาดกลัว หวังหลินจึงผ่อนคลายเล็กน้อย
หากชายหนุ่มเมินเฉยต่อทัณฑ์สวรรค์ เช่นนั้นสิ่งเดียวที่เขาทำได้คือซ่อนตัวอยู่ในมิติลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า และนั่นไม่ใช่ความคิดที่ดีเลย
ชายหนุ่มปิศาจยังมีความรู้สึกผิดหวังมาก เขาไม่คิดว่าจะเจอพลังของทัณฑ์สวรรค์ที่นี่ หากเขามีพลังเต็มที่นับว่าไม่ใช่ปัญหาใหญ่ เขาจะมั่นใจว่าสามารถทำลายเศษเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์นี้ได้
แต่ตอนนี้เขาฟื้นฟูความแข็งแกร่งมาได้เพียงสามส่วนเท่านั้น เขาแค่เซียนขั้นเปลี่ยนวิญญาณระดับต้น เป็นผลให้แม้เขาจะสามารถต่อต้านทัณฑ์สวรรค์ได้ เขาคงได้รับบาดเจ็บอย่างแน่นอน หากระดับฝึกฝนของเขาต่ำกว่าขั้นเปลี่ยนวิญญาณ เขาคงไม่สามารถออกจากที่นี่ได้และจะต้องค้นหาสถานที่ใหม่เพื่อรักษาตัวอีกครั้ง
ทั้งหมดที่เขากำลังกังวลก็คือเพราะระดับขั้นต่ำในการใช้แผ่นดาราก็คือขั้นเปลี่ยนวิญญาณ
ถึงอย่างนั้นพวกนี้ไม่ใช่เหตุผลหลัก เหตุผลหลักก็คือภายในค่ายกลเคลื่อนย้ายนั้นเขารู้สึกถึงพลังอำนาจหนึ่งที่ทำให้ขนลุก พลังนี้เป็นสิ่งที่เขาคุ้นเคยมาก
ชายหนุ่มปิศาจปล่อยลมหายใจออก เขาไม่ได้มองไปที่ทัณฑ์สวรรค์อีกและมองตรงเข้าหาหวังหลิน “เจ้าหนู ส่งกระเป๋ามาและข้าจะปล่อยเรื่องนี้ไป”
“นี่คือสิ่งที่ผู้อาวุโสต้องการหรือ?” แววตาหวังหลินเคร่งเครียดขณะจ้องชายคนนั้นและนำกระเป๋าออกมา
ชายหนุ่มปิศาจเลื่อนสายตาไปที่กระเป๋าอย่างรวดเร็วและเอ่ยขึ้น “ถูกต้อง โยนมันมาที่นี่”
หวังหลินลังเลเล็กน้อย ชายหนุ่มนับว่าเร็วมากเกินไป แม้หวังหลินอยากจะบอกให้เขาอยู่ห่างๆหรือรอจนกว่าตนเองจะอยู่ไกลก่อนนับว่าไร้ประโยชน์สิ้นดี หากคนผู้นี้ต้องการสังหารเขาจริงๆนับว่าเป็นเรื่องง่ายมาก
หลังจากครุ่นคิดเล็กน้อย หวังหลินตัดสินใจโยนกระเป๋าออกไป
ชายหนุ่มปิศาจจับกระเป๋าไว้ หลังจากตรวจสอบมันด้วยสัมผัสวิญญาณ ใบหน้าจึงอ่อนโยนลง เขามองไปที่หวังหลิน ใบหน้าของเขาไม่แสดงอาการอะไรไม่ว่าจะโกรธหรือมีความสุข
หวังหลินจ้องไปที่ชายหนุ่ม เขาวางสายฟ้าทัณฑ์สวรรค์ไว้เบื้องหน้าและเอ่ยขึ้น “ผู้อาวุโส ผู้น้อยส่งกระเป๋าคืนแล้ว เช่นนั้นข้าขอตัวก่อน” สิ้นคำหวังหลินถอยกลับอย่างระมัดระวัง
ชายหนุ่มปิศาจมองหวังหลิน ดวงตาพลันเรืองแสงขึ้นทันที ลำแสงหลากสีสองเส้นพุ่งออกมาจากดวงตาตรงเข้าหาหวังหลินด้วยความเร็วเหนือจินตนาการ
หวังหลินระมัดระวังตลอดเวลาดังนั้นจึงเห็นการกระทำของชายหนุ่มได้ ขอบเขตจวี่ของเขาพุ่งออกไปโดยไม่ลังเลและปะทะเข้ากับลำแสงหลากสีนั้น หลังจากนั้นไม่นานหวังหลินกระอักเป็นโลหิตออกมาจากปากขณะที่สายฟ้าแดงแตกสลายภายใต้แสงหลากสีนั้น
แต่ขณะที่หวังหลินถอยร่น เขานำธงกฎเกณฑ์ออกมา กฎเกณฑ์อันสุดท้ายปรากฎในฝ่ามือและกำลังจะวางในธง
ใบหน้าชายหนุ่มปิศาจเปลี่ยนไปอย่างมากและร้องตะโกนขึ้น “หยุด! สหายน้อยอย่าใจร้อน!” เช่นนั้นเขาถอยกลับและจ้องธงกฎเกณฑ์ด้วยความหวาดกลัว
เขายิ้มอย่างขื่นขม เศษเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์มีระดับต่ำกว่าเขา ไม่สามารถฆ่าเขาได้ อย่างมากมันคงทำให้เขาต้องปิดด่านฝึกตนเป็นเวลาหลายร้อยปีเท่านั้น
แต่หลังจากเห็นธงกฎเกณฑ์ เขาจึงเข้าใจว่าทำไมหนุ่มน้อยคนนี้ถึงมีเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์ได้ แม้จะไม่รู้ว่าธงกฎเกณฑ์คือสิ่งใด แต่เขาบอกได้ทันทีว่ามันคือสมบัติวิเศษที่ทำให้นำทัณฑ์สวรรค์ออกมาได้
เขามีอาวุธพวกนี้ไม่กี่ชิ้นจึงรู้จักพลังของมัน หากปล่อยให้เด็กคนนี้ทำต่อไปคงไม่ใช่แค่เรื่องที่เขาต้องใช้เวลาฟื้นฟูมากขึ้น เขาอาจจะสูญเสียโอกาสในการฟื้นฟูระดับฝึกตนตลอดไป
หวังหลินยังมีโลหิตบางส่วนอยู่ที่มุมปากขณะที่มองชายหนุ่มปิศาจไปด้วย ตอนนี้มีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา กฎเกณฑ์สุดท้ายที่วางบนธงกฎเกณฑ์ หากเขายกธงขึ้นและจากนั้นใช้เศษเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์เป็นตัวนำทาง เขามั่นใจว่าจะสามารถใช้พลังของทัณฑ์สวรรค์ตรงเข้าสู่ชายหนุ่มปิศาจได้
หวังหลินจ้องไปที่ชายหนุ่มและเอ่ยขึ้น “ข้าได้ส่งกระเป๋าคืนไปแล้วและไม่ได้แตะต้องมันเลย ทำไมผู้อาวุโสถึงคืนคำตัวเองเล่า?”
ชายหนุ่มปิศาจครุ่นคิดชั่วขณะจากนั้นถามขึ้น “สายฟ้าแดงที่เจ้าพึ่งใช้ไปคือขอบเขตจวี่หรือ?” น้ำเสียงของเขาดูคลุมเครือ
ใบหน้าหวังหลินปกติดังเดิมแต่จิตใจตกอยู่ในความโกลาหลขณะจ้องชายหนุ่มอย่างเงียบๆ
ชายหนุ่มปิศาจจ้องหวังหลินและเอ่ยออกมา “ข้าควรจะถูกต้อง สิ่งที่เจ้าพึ่งใช้คือขอบเขตจวี่!” ตอนนี้ความรู้สึกของชายหนุ่มพลันยุ่งยากมาก หวังหลินพาให้เขาประหลาดใจแล้วประหลาดใจเล่า
ณ ที่ดวงดาวเกือบไร้ประโยชน์แห่งนี้ ไม่เพียงแต่เด็กคนนี้จะมีทัณฑ์สวรรค์และสมบัติที่เรียกทัณฑ์สวรรค์ออกมาได้ เขายังมีขอบเขตจวี่อีกด้วย
สิ่งนี้มันคือขอบเขตจวี่ซึ่งทำให้จิตสังหารของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง
ชายหนุ่มปิศาจสูดหายใจลึกและเผยใบหน้าประหลาดใจ
ใบหน้าหวังหลินสงบนิ่ง หลังเกิดความเงียบจึงเอ่ยขึ้นมา “หากผู้อาวุโสไม่มีสิ่งใดอีก เช่นนั้นผู้น้อยจะขอตัวก่อน” สิ้นคำเขาถอยกลับอย่างระมัดระวัง
หากชายหนุ่มเคลื่อนไหว เขาคงกระตุ้นทัณฑ์สวรรค์โดยไม่ลังเลอีกเลย
ชายหนุ่มปิศาจลังเลชั่วครู่และถามขึ้น “เจ้าไม่ต้องการให้ขอบเขตจวี่ของเจ้าทะลวงคอขวดหรือ?”
ร่างหวังหลินหยุดเคลื่อนไหวและจ้องชายหนุ่ม
ชายหนุ่มปิศาจลังเลซ้ำสอง พลันถอนหายใจ “ช่างเถอะ เด็กน้อยเจ้าฟังให้ดี ขอบเขตจวี่คือพลังอำนาจที่รุนแรงมากอย่างหนึ่ง ทะลวงผ่านคอขวดเป็นเรื่องยากมาก แต่ไม่ใช่ว่าเป็นไปไม่ได้”
ใบหน้าหวังหลินยังไม่รู้สึกประทบใจขณะมองชายหนุ่มอย่างเงียบกริบ
ชายหนุ่มปิศาจมีใบหน้าชื่นชมและแววตาเรืองแสงขึ้นขณะแสงหลากสีปรากฎออกมาอย่างช้าๆ ลำแสงกลายเป็นบอลแสงลูกหนึ่งและลอยอยู่ในฝ่ามือเขา
การระมัดระวังของหวังหลินพุ่งขึ้นจุดสูงสุดขณะจ้องแสงหลากสีนั้น
ชายหนุ่มปิศาจมองแสงหลากสีด้วยใบหน้าซับซ้อน หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่ เขาถอนหายใจ “ตรวจสอบแสงด้วยสัมผัสวิญญาณของเจ้า”
หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะตรวจสอบแสงด้วยสัมผัสวิญญาณ ใบหน้าเขาเปลี่ยนเป็นประหลาดใจทันที เขาหยุดกึกและถามขึ้น “นี่คือ….” ข้างในแสงหลากสี เขาตรวจพบเศษเสี้ยวขอบเขตจวี่ การค้นพบนี้ทำให้จิตใจเขาสั่นไหว
ชายหนุ่มปิศาจสูดหายใจลึกและเอ่ยอย่างช้าๆ “เจ้าพบมันหรือ? แสงหลากสีบนดาวเคราะห์บ้านเกิดของข้าเรียกกันว่าขอบเขตจวี่ห้าสี เดิมทีมันไม่ใช่ของข้า มันเป็นของขวัญจากเพื่อนคนหนึ่งของข้าตอนที่เขากำลังจะตาย”
หวังหลินสูดหายใจลึก ดวงตาสั่นไหวขณะมองไปที่แสงหลากสีนั้น
ชายหนุ่มปิศาจกวาดแขนและแสงหลากสีหายไป เขามองหวังหลินและเอ่ยขึ้นว่า “ขอบเขตจวี่แบ่งเป็นหลายรูปแบบแตกต่างกันอย่างมาก มีมากเท่าไหร่ไม่มีใครรู้ เหล่าเซียนที่มีขอบเขตจวี่ถือเป็นของหายากในสมาพันธ์เซียน ดังนั้นข้าจึงไม่สามารถเห็นคุณสมบัติขอบเขตจวี่ที่เจ้ามีคืออะไร แต่ข้ารู้ว่าไม่ว่ามันจะเป็นขอบเขตจวี่รูปแบบไหน ทั้งหมดต่างมีคอขวดและคอขวดเหล่านั้นยากมหาศาลเกินจะทะลวงผ่าน”
“ข้ารู้จักวิธีหนึ่งที่สามารถทำให้ทะลวงผ่านคอขวดขอบเขตจวี่ได้เรียกกันว่า ผลึกดาวเคราะห์เซียน ผลึกนี้ทุกแคว้นอันดับหกจะได้รับเมื่อผ่านการอนุมัติจากสมาพันธ์เซียน สัตว์ประหลาดเฒ่าของสมาพันธ์เซียนใช้พลังฝืนสวรรค์นี้เพื่อสร้างผลึกขึ้นมา มันเป็นสมบัติประจำแคว้นเซียนอันดับหก
หากเซียนขอบเขตจวี่คนหนึ่งได้รับและปรับแต่งมันได้ จะมีโอกาสทะลวงผ่านคอขวดขอบเขตจวี่ได้”
ใบหน้าหวังหลินมีความร้ายกาจ สมบัติประจำแคว้นอันดับหกไม่ใช่สิ่งที่เขาสามารถรับมาได้
ชายหนุ่มปิศาจมองหวังหลินจากนั้นตบกระเป๋าและนำแผ่นจานสีดำออกมา เขาตบแผ่นจานอย่างลวกๆด้วยมือขวาและแผ่นจานขยายขนาดใหญ่ขึ้นพร้อมกับปลดปล่อยแสงอันอ่อนโยนทันที
“หากเจ้าได้รับผลึกดาวเคราะห์เซียนและมีคุณสมบัติพอที่จะออกจากดาวขยะนี้ เจ้ามาหาข้าได้ที่ดาวเบญจธาตุ ชื่อของข้าคือ หน่าตัว” สิ้นคำเขาขึ้นไปบนอากาศและหายเข้าไปในแผ่นจานที่กำลังบิน หลังจากนั้นไม่นานแผ่นจานเริ่มหมุนคว้างอย่างรวดเร็วจนเกิดรูปรากฎในอากาศ มองผ่านรูนั้นไปหวังหลินสามารถเห็นดวงดาวระยิบระยับอันไร้ที่สิ้นสุดในนั้น
แผ่นจานเคลื่อนไหวเข้าไปในรู หลังจากนั้นรูหดลงอย่างรวดเร็วและหายไปอย่างไร้ร่องรอย
หวังหลินรู้สึกว่าตนเองโชคดีมากที่เขาไม่เอาเรื่องกระเป๋ามาคิด ไม่ว่าจะเป็นธงกฎเกณฑ์หรือเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์ ทั้งคู่ต่างเป็นยอดศาสตราวุธ โดยเฉพาะเศษเสี้ยวทัณฑ์สวรรค์ ของพวกนี้เขาไม่ต้องการใช้มันหากไม่จำเป็น
หวังหลินมองตำแหน่งที่รูนั้นหายไปและแรงกระตุ้นแข็งแกร่งปรากฎในใจเขา เมื่อตอนยังหนุ่ม ความฝันของเขาคือเหาะเหินไปในท้องฟ้าแต่ตอนนี้เขาหวังจะบินในหมู่ดวงดาวเหล่านั้น
หวังหลินสูดหายใจลึกและหันกลับเพื่อจากไป
ผลึกดาวเคราะห์เซียนของแคว้นเซียนอันดับหกไม่ใช่สิ่งที่เขาจะได้มาเพียงชั่ววข้ามคืน ไม่ว่าสิ่งที่ชายหนุ่มปิศาจจะพูดความจริงหรือไม่ มันยังมีเบาะแสอยู่ หากเขามีระดับฝึกฝนสูงเพียงพอให้ได้มันมาก็คงไม่ต้องคิดมากอยู่แล้ว
สิ่งเดียวที่เขาต้องกังวลในตอนนี้ก็คือจะบรรลุขั้นตดวิญญาณได้อย่างไร
ความต้องการของแคว้นเซียนอันดับสามในการขึ้นไปถึงอันดับสี่ก็คือการมีเซียนขั้นตัดวิญญาณหนึ่งคน กล่าวได้ว่าทั้งดาวเคราะห์แห่งนี้มีแคว้นอันดับสามนับไม่ถ้วน แต่มีแคว้นอันดับสี่น้อยกว่ายี่สิบแคว้นเท่านั้น
ข้อมูลชุดนี้บ่งบอกได้ชัดเจนถึงการบรรลุขั้นตัดวิญญาณที่ยากเย็นแสนเข็ญ
หากเขาต้องการบรรลุขั้นตัดวิญญาณ พลังปราณและสิ่งแวดล้อมของแคว้นอันดับสามนับว่าไม่เพียงพอ เป้าหมายของหวังหลินคือค้นหาแคว้นอันดับสี่และบรรลุขั้นตัดวิญญาณที่นั่น
เขากางแผนที่ออกมา หลังมองหาอยู่ชั่วขณะจึงเพ่งสายตาไปบนสมาพันธ์ห้าสำนัก ซึ่งเป็นแคว้นอันดับสี่ที่อยู่ใกล้เขาที่สุดในตำแหน่งปัจจุบัน
ครึ่งเดือนต่อมา ชายแดนของสมาพันธ์ห้าสำนักปรากฎเบื้องหน้าหวังหลิน ที่ชายแดนมีม่านแสงป้องกันเส้นทางไว้ สิ่งนี้เป็นความแตกต่างระหว่างแคว้นอันดับสามและแคว้นอันดับสี่ ม่านแสงนี้ป้องกันคนภายนอกไม่ให้เข้าไป
หววังหลินมาถึงข้างหน้าม่านแสง หลังจากมองมันเล็กน้อยจึส่งกฎเกณฑ์เข้าไป กฎเกณฑ์ได้วางลงบนม่านแสงและเกิดรูปรากฎขึ้น
โดยไม่จำเป็นต้องพูด หวังหลินเดินเข้าไป