Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 353

Cover Renegade Immortal 1

353. ธาตุพฤกษา

ต้นไม้บนหน้าผากหวังหลินเติบโตอย่างรวดเร็วและปกคลุมร่างกาย เส้นสีดำจำนวนมากยาวไปจนถึงหลังแขน

เส้นสีดำนี้สร้างเป็นรอยสักหลากหลายลวดลาย พวกมันดูเหมือนจะใช้รากเพื่อแทรกซึมเลือดเนื้อหวังหลินและกระจายอย่างช้าๆ

หวังหลินได้รับความเจ็บปวดมากขึ้นจนแสดงออกทางใบหน้า เขาลืมตาขึ้นทันทีพลางสร้างผนึกขึ้น หลังผ่านไปเวลาชั่วครู่ใหญ่แม้สายตายังคงเรืองแสงสีแดงแต่กลับมีความกระจ่างชัด

ทว่าภาพรอยสักหนึ่งปรากฎขึ้นอย่างลึกลับและหายไปในดวงตาของเขา

“รอยสักนี่ชั่วร้ายมาก” หวังหลินมองเส้นสีดำหลายเส้นบนหลังแขนอย่างหดหู่

รอยสักปกคลุมทั้งวิญญาณดั้งเดิมของเขาราวกับตาข่ายที่กักขังไว้ รอยสักที่ปรากฎบนผิวหนังเขาสะท้อนสิ่งที่กำลังเกิดขึ้นในวิญญาณดั้งเดิมของหวังหลิน

“รอยสักนี้ดูเหมือนจะมีชีวิต ข้าเพียงข่มมันไว้ได้ชั่วคราวเท่านั้น!” หวังหลินขบคิดและจัดการทำให้พลังปราณในร่างเสถียรขึ้น เขาสัมผัสราชรถสังหารเทพ มันเปลี่ยนกลับเป็นสร้อยข้อมือลงบนข้อแขนของเขา

หลังใช้หินวิญญาณระดับสูงไปหนึ่งก้อนเพื่อแก้ปัญหาการดูดพลังของสร้อยข้อมือ เขามองมิติว่างเบื้องหลังอย่างเยือกเย็น

หวังหลินสัมผัสได้ว่าผู้เฒ่าคนนั้นยังคงไล่ล่าเขาและเข้าใกล้ขึ้นและใกล้ขึ้นเรื่อยๆ

หากไม่เป็นเพราะความเร็วของเข็มทิศดวงดาวเกินกว่าจินตนาการของผู้เฒ่าคนนั้น เขาคงถูกจับได้ไปแล้ว

หวังหลินก่นด่า “เจ้าผีเฒ่าเอ๊ย ยังไม่เลิกอีก!” ตอนนี้หวังหลินหลบหนีมามากกว่าหนึ่งเดือน เขารู้สึกเหมือนกับตอนที่ถูกไล่ล่าในช่วงที่เขาเป็นขั้นพื้นฐานลมปราณ

หากไม่ใช่ว่าเขามีสิ่งของที่สามารถฟื้นฟูพลังปราณได้ หวังหลินคงเหนื่อยและถูกเขาจับไปแน่นอน

ถึงเช่นนั้นไม่ว่าเขาจะมีโอสถมากเท่าไหร่ ที่สุดก็ใช้หมดแน่นอน เมื่อสิ่งของที่ใช้เพิ่มพลังปราณในการบังคับเข็มทิศดวงดาวหมดไปนั่นคือความตายที่รอเขาอยู่

วิ่งหนี เขาทำได้แต่เพียงวิ่งหนีเท่านั้น สมบัติทั้งหมดของเขาไร้ประโยชน์ที่จะต่อต้านผู้เฒ่าคนนี้ แม้แต่ม้วนคัมภีร์เขายังไม่รู้จะใช้มันเช่นไร

เมื่อผู้เฒ่าไม่สามารถไล่ตามทัน นี่คือสงครามการล้างผลาญที่จะรอดูว่าผู้ใดเหลือรอดเป็นคนสุดท้าย

ดวงตาหวังหลินสว่างวาบและเขาควบคุมเข็มทิศดวงดาวให้เหาะเหินต่อไปเรื่อยๆ

หลังตัดสินใจเลือกที่จะเข้าไปในสงครามการล้างผลาญเช่นนี้ หวังหลินเริ่มระมัดระวังกับการใช้เม็ดยาแต่ละเม็ด เขาไม่ต้องการให้พลังปราณในเม็ดยาสูญเปล่า

ผู้เฒ่าไล่ล่าต่อไป ยิ่งเขาตามมาก็ยิ่งตื่นตะลึงกับเด็กน้อยเบื้องหน้าเขาที่สามารถเหาะเหินด้วยความเร็วนี้เป็นเวลานานมาก แม้ว่าหวังหลินจะใช้สมบัติไปบ้างแต่สมบัติพวกนั้นยังต้องใช้พลังปราณ

เด็กน้อยที่สามารถควบคุมสมบัติเป็นเวลานานขนาดนี้พร้อมกับมีเชื้อรอยสักไปด้วยนับว่าหายากมาก

“คนผู้นี้ต้องเป็นศิษย์สำนักใหญ่ข้างบน อาจจะเป็นถึงศิษย์แห่งซูซาคุ! ข้าต้องหลอมปรับแต่งมันให้กลายเป็นหุ่นเชิดรอยสักของข้า เมื่อข้าส่งมันกลับไปจะเกิดผลกระทบมหาศาล!”

สำนักเซียนที่ถูกลืมไม่อาจอยู่เกินกว่าชั้นแรกได้เนื่องจากผนึกของซูซาคุ มีเพียงคนที่สามารถออกไปได้คือเหล่าหุ่นเชิดรอยสัก คนที่หวังหลินเจอข้างนอกก่อนหน้านี้คือหุ่นเชิดรอยสักที่เป็นเพียงระดับต่ำเท่านั้น

นี่จึงเป็นเหตุผลว่าทำไมสำนักเซียนที่ถูกลืมถึงใช้ซากศพของเซียน ไม่เช่นนั้นทะเลปิศาจและแคว้นรอบๆทั้งหมดคงถูกสำนักนี้กวาดล้างไปแล้ว รวมไปถึงสมาชิกของสำนักเซียนที่ถูกลืมนั้นไม่ต้องสู้กับพวกสัตว์อสูรด้วยกันอีกด้วย

แววตาผู้เฒ่าปลดปล่อยแสงอันลึกลับพร้อมกับไล่ล่าต่อไป

เขาพ่นลมหายใจออกมา “เด็กน้อยคนนี้ต้องมีเม็ดยาจำนวนมาก แต่ไม่ว่ามันจะมีมากเท่าไหร่จะต้องหมดลงสักวัน เมื่อถึงวันนั้นข้าจะปรับแต่งมันเป็นหุ่นเชิด!”

มิติว่างแห่งนี้กว้างใหญ่ไพศาล หวังหลินเหาะเหินเป็นเส้นตรงมามากกว่าหนึ่งเดือนแล้วและยังไม่เห็นจุดสิ้นสุด ตอนนี้ทุกสิ่งดูเหมือนกับที่เขาเข้ามาครั้งแรก

มันมืดมิด ไร้สิ่งมีชีวิตหรือสิ่งของใดๆ

ในวันนี้หวังหลินยังคงควบคุมหางเสือเข็มทิศดวงดาวเพื่อหลบหนี ทว่าต้นไม้บนหน้าผากเขาพลันเริ่มส่องสว่างและรอยสักทั้งหมดบนร่างพลันเคลื่อนไหว

“โจมตีอีกครั้ง!” หวังหลินแบ่งสมาธิ หนึ่งความคิดตั้งไว้เพื่อควบคุมเข็มทิศต่อไปและอีกหนึ่งให้ข่มพลังอำนาจของรอยสัก

หลังผ่านไปครู่ใหญ่เขาลืมตาขึ้น รอยสักในดวงตายิ่งชัดเจนกว่าเมื่อก่อนและฝ่ามือปกคลุมอยู่ในรอยสักทั้งหมด หากเซียนคนใดเห็นหวังหลินตอนนี้พวกเขาคงคิดว่าเป็นสมาชิกของสำนักเซียนที่ถูกลืม

ใบหน้าหวังหลินมัวหมองขณะหายใจออก เขาสัมผัสได้ว่ารอยสักขุดลึกเข้าสู่วิญญาณดั้งเดิมของเขาและเริ่มกระจายตัว

เมื่อทั้งวิญญาณดั้งเดิมปกคลุมในรอยสัก เขาจะกลายเป็นสิ่งที่ผู้เฒ่าคนนั้นเรียกกันว่าหุ่นเชิดรอยสัก

หลังเข้ามาในสุสานโบราณ หวังหลินเห็นหุ่นเชิดรอยสักจำนวนน้อย แววตาพวกมันทั้งหมดแดงฉานและมีกลิ่นอายอึดอัดใจ พวกมันดูไม่เหมือนมนุษย์หรือภูตผี

หวังหลินรู้สึกเจ็บช้ำ เขารู้ว่าหากการไล่ล่าครั้งนี้ดำเนินต่อไป วิญญาณดั้งเดิมของเขาจะถูกรอยสักคลุมไว้หมดก่อนที่จะใช้โอสถทั้งหมดลง

เขาสัมผัสกระเป๋า ในกระเป๋ามีอีกกระเป๋าหนึ่งที่หัวหน้าผู้อาวุโสของสำนักซากศพให้มา ทว่าเขาไม่รู้ว่าคนผู้นั้นตอนนี้ไปอยู่ไหน ดังนั้นเขาจะเรียกว่าหัวหน้าผู้อาวุโสที่นี่ได้อย่างไร?

หวังหลินขบคิดชั่วครู่และแววตาเยือกเย็น ในการฝึกเซียนเป็นเวลาห้าร้อยปี หวังหลินผ่านสถานการณ์เฉียดเป็นเฉียดตายมามากนัก ประสบการณ์เหล่านี้ทำให้เขามุ่งมั่นที่จะรอดชีวิต ยิ่งมันอันตรายเท่าไหร่ก็ยิ่งต้องใจเย็นมากเท่านั้น

“สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือลบล้างรอยสัก!” หวังหลินสงบใจตัวเองลงและเริ่มศึกษามัน

หวังหลินขบคิด “รอยสักมาจากต้นไม้ที่อยู่ระหว่างคิ้วของข้า คนเถื่อนทั้งหมดต้องมีต้นไม้หนึ่งระหว่างคิ้วของตัวเองเช่นกัน…เมื่อมันเป็นต้นไม้ เช่นนั้นไม่ว่ารอยสักจะมีพลังรูปแบบไหนมันก็ต้องเป็นธาตุพฤกษา!”

หวังหลินเผชิญอันตรายเช่นนี้ตอนที่เขายังเป็นขั้นพื้นฐานลมปราณ เรื่องเช่นนี้ยังรวมถึงตอนที่เขาเจออสูรเดียวดายอัคคีตอนที่อยู่ในฮัวเฝินอีกด้วย

อสูรอัคคีกลืนกินเหล่าเซียนเพื่อช่วยให้ตนเองเติบโต ในจังหวะนั้นลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าปรากฎเพื่อดูดซับอสูรอัคคีและเติมเต็มความต้องการธาตุอัคคีจนสมบูรณ์

เมื่อคิดเช่นนี้หวังหลินตัดสินใจลองดู เขาสูดหายใจลึก ชี้ไปที่ค้วและเอ่ยขึ้นว่า “ฝืนลิขิตฟ้า!”

ลูกทรงกลมสีเทาลอยออกมาจากหน้าผาก มีรูปภาพใบไม้ไม่กี่ใบบนลูกปัดแต่นอกเหนือจากนั้นไม่มีสิ่งใดบนลูกปัดที่ดูผิดปกติ

หลังเห็นใบไม้บนลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า หวังหลินร้องคำราม พลังปราณในร่างกายพรั่งพรูเพื่อทำให้เข็มทิศดวงดาวไปให้เร็วมากกว่าเดิม

หวังหลินถอนพลังปราณตัวเองออกมาทันที เขารู้ว่าตอนนี้เป็นเวลาที่เข็มทิศดวงดาวสามารถเดินทางได้ชั่วขณะโดยไม่ต้องพึ่งพลังปราณของเขา

แม้ว่าช่วงเวลานี้จะสั้นมากแต่มันเป็นเพียงทางเลือกเดียวของหวังหลิน

หลังถอนพลังปราณออกมา หวังหลินเพ่งสมาธิไปบนวิญญาณดั้งเดิมและบังคับรอยสักให้เข้าหาระหว่างคิ้วของเขา

ไม่ช้านักต้นพืชปิศาจปรากฎระหว่างคิ้ว ใบเล็กๆของมันกำลังเติบโตอย่างช้าๆ

ผู้เฒ่ารับรู้การชะลอตัวของหวังหลินได้ทันที เขาพ่นลมหายใจและไล่ล่าให้เร็วขึ้น

เส้นสีดำเคลื่อนไหวอย่างลี้ลับบนร่างกายหวังหลิน บางครั้งมันถอนกลับเข้าหาคิ้วของเขาและบางครั้งมันก็ขยายออกเพิ่มขึ้น ทุกครั้งที่รอยสักขยับ ร่างกายหวังหลินสั่นเทาและความเจ็บปวดบนใบหน้าเขาบาดลึกทวีความรุนแรง

ต้นพืชระหว่างคิ้วของเขายิ่งเด่นชัดกว่าเดิม

หนึ่งใบไม้เปิดขึ้นและใบที่สองกำลังจะเปิดเช่นกัน

หวังหลินลืมตาขึ้นทันทีและความกระจ่างชัดที่ถูกซ่อนในแววตาค่อยๆหายไป เขาร้องคำรามและจดจ้องลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า

ความกระจ่างชัดที่หายไปก่อนหน้านี้พลันกลับมาอีกครั้ง วัฎจักรเช่นนี้วนซ้ำและในไม่ช้าหวังหลินชุ่มไปด้วยเหงื่อ

เขากำลังจะพนันให้ต้นพืชที่สร้างจากพลังอำนาจของรอยสักให้มันบรรจุธาตุพฤกษาไว้ ตราบใดที่มีธาตุพฤกษา ลูกปัดสามารถดูดซับมันได้!

หากเขาแพ้เมื่อนั้นจะต้องใช้พลังทั้งหมดเพื่อข่มรอยสักเอาไว้

ผู้เฒ่าดูเหมือนจะรับรู้บางสิ่งได้และเยาะเย้ย เขามั่นใจว่าคนที่ไม่ได้เหนือเขาไปหนึ่งระดับจะไม่สามารถลบล้างเชื้อพันธุ์ได้

หวังหลินจ้องลูกปัดฝืนลิขิตฟ้า อาการต่อสู้ดิ้นรนเผยออกทางสีหน้า จากนั้นลูกปัดปลดปล่อยแสงสีเขียวทันที คราแรกมันเจือจางแต่ค่อยๆส่องสว่างขึ้น

หลังจากนั้นไม่นานใบไม้ที่พึ่งจะอ้าเปิดออกเกิดการสั่นและถูกดึงออกจากหวังหลินให้ลูกปัดดูดซับไป

จังหวะที่ใบไม้หายไป ความกระจ่างชัดในสายตาหวังหลินกลับคืนมา หวังหลินตื่นเต้นเขารีบชี้ลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าเพื่อทำให้มันหายไปและจากนั้นหันความสนใจทั้งหมดเพื่อควบคุมเข็มทิศให้หลบหนี

เขารู้ว่าใจความสำคัญในตอนนี้ก็คือเวลา ดังนั้นจึงไม่ให้เวลาลูกปัดดูดซับมากขึ้น ซึ่งหวังหลินรู้ได้ว่าลูกปัดสามารถดูดซับรอยสักได้ เขาจึงไม่เร่งรีบจะกำจัดมันและเพ่งสมาธิไปที่การหลบหนี

ผู้เฒ่าปรากฎตัวหลังจากที่หวังหลินหายวับไป ใบหน้ามืดมนขณะจ้องออกห่างไปไกลและคิ้วขมวดเข้าด้วยกัน

“ทำไมเจ้าหนูคนนี้ถึงมีสมบัติแตกต่างกันมากมายเช่นนี้? มันถึงกับมีสิ่งของที่สามารถลบเมล็ดพันธุ์รอยสักออกไปได้!”

เมื่อใบไม้ถูกลูกปัดฝืนลิขิตฟ้าดูดซับไป ผู้เฒ่าสามารถตรวจจับได้และตื่นตะลึงในทันที

“ข้าต้องปรับแต่งมันกลายเป็นหุ่นเชิดรอยสักของข้า!” แววตาเขาเยือกเย็นอีกครั้งและไล่ตามต่อไป

หวังหลินมีความสุขมาก เขานั่งบนเข็มทิศ สัมผัสหน้าผากและพึมพำกับตัวเอง “ข้าไม่คาดคิดจะพบโชคดีในความโชคร้าย ธาตุปฐพี อัคคีและวารีของลูกปัดฝืนลิขิตฟ้านั้นสมบูรณ์แล้ว ธาตุโลหะไม่มีเลยและธาตุพฤกษาเสร็จเพียงครึ่งเดียว ข้าสงสัยว่าธาตุพฤกษาจะสมบูรณ์หลังการดูดซับรอยสักในร่างกายข้าได้หรือไม่”

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า สัมผัสเรื่องเวลาของหวังหลินหายไปแล้ว เขาใช้ทุกช่วงเวลาเพื่อเพ่งสมาธิไปบนการควบคุมเข็มทิศให้หลบหนี

หวังหลินใช้โอสถไปแล้วมากกว่าครึ่ง มีหลงเหลือเพียงไม่มีขวดเท่านั้นแต่อันตรายเบื้องหลังเขายังไม่หายไปไหน

ทว่าสิ่งที่ทำให้หวังหลินรู้สึกปลื้อมก็คือผู้เฒ่าที่กำลังไล่ล่าเขาค่อยๆช้าลง หากเป็นเช่นนี้ต่อไปคงไม่นานนักที่หวังหลินจะหนีรอดเขาได้อย่างสมบูรณ์

“นอกจากเม็ดยาจะหมดลง ข้ายังมีหินวิญญาณระดับสูง ด้วยของพวกนี้ข้าสามารถอยู่เป็นคนสุดท้ายจนกว่าเจ้ากระดูกผุจะเหนื่อยอ่อน” หวังหลินมองกลับหลังด้วยสายตาเยาะเย้ย

“ข้าต้องขอบคุณเจ้ากระดูกผุ หากไม่ใช่เขาข้าคงไม่รู้ว่าเข็มทิศดวงดาวมีวิชาเคลื่อนไหวอยู่ข้างในนี้” หวังหลินสัมผัสเข็มทิศดวงดาว เขาเทอดทูนสมบัติชิ้นนี้จริงๆ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!
Exit mobile version