524. ฮวงหลง
น้ำเสียงโอวหยางฮัวเร่งรีบและเต็มไปด้วยความขมขื่น
หลังกล่าวจบก็มีคนหลายสิบคนเดินออกมาโดยมีโอวหยางฮัวเป็นหัวขบวน แม้ว่าพวกเขาจะมีช่วงอายุกว้างแต่ทั้งหมดเป็นบุรุษและมีของเหลวสีเขียวป้าบนร่างกาย
หลังจากโอวหยางฮัวเดินออกมา เขามองหวังหลินซึ่งอยู่ห่างออกไปสิบก้าวพร้อมกับดวงตาอันซับซ้อน โอวหยางฮัวถอนหายใจก่อนจะคำนับฝ่ามือให้หวังหลินอย่างเคารพพร้อมกับเสียงของคนที่ยอมแพ้ “ข้าโอวหยางฮัวไม่รู้ว่าท่านเป็นเทพสูงสุด ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นความผิดของข้าและข้าจะขอรับผิดชอบมันเอง ข้าขอให้ท่านมีศีลธรรมและไม่ทำลายค่ายกลเพราะมันจะเผยหมู่บ้านของข้าให้เหล่าวิญญาณปิศาจและกลายเป็นอาหารของพวกมัน”
ผู้คนด้านหลังโอวหยางฮัวมองหวังหลินด้วยสายตาหวาดกลัว
หวังหลินมองทุกคนก่อนจะยกฝ่ามือขึ้นและสร้างผนึก เขาชี้ไปที่กลางอากาศและระลอกคลื่นก่อนหน้านี้ค่อยๆเลือนหายไปทันที
เมื่อไร้ตัวตนของระลอกคลื่น ค่ายกลเริ่มฟื้นฟูทันที พลังปกป้องที่กำลังสลายค่อยๆชะลอตัวลงจนในที่สุดก็หยุด
โอวหยางฮัวถอนหายใจอย่างโล่งอก สายตาที่มองหวังหลินตอนนี้แฝงความเคารพพร้อมกับความรู้สึกอันซับซ้อน
โอวหยางฮัวรีบพูด “ท่านเทพสูงสุด เวลากำลังจะสายแล้วและค่ำคืนวิญญาณปิศาจกำลังใกล้เข้ามา เราเข้าไปคุยกันข้างในดีกว่า” จากนั้นเขากัดปลายนิ้วให้โลหิตหยดออกมาและกดลงต้านกับกำแพงทางขวา
ภูเขาเริ่มส่งเสียงดังราวกับมียักษ์กำลังตื่น เสียงนั้นทวีความดังมากขึ้น ด้านข้างของภูเขาเริ่มบิดเบี้ยวราวกับกระดาษถูกแบ่งครึ่งด้วยกรรไกร
อุโมงค์ตรงนำทางเข้าไปในหุบเขาด้วยกลุ่มของโอวหยางฮัวและตอนนี้หยุดลงเบื้องหน้าหวังหลิน
โอวหยางฮัวกล่าวอย่างเคารพ “ทางนี้ท่านเทพสูงสุด!”
หวังหลินไม่รีรอเสียเวลาตั้งคำถาม เขายกเท้าและก้าวเดินเข้าไป
ข้างในหุบเขาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคืนที่มืดสนิทแต่ยังมีความหวัง สถานที่แห่งนี้เหมือนกับพื้นที่อยู่อาศัยของเหล่าเซียน ทว่ามีเพียงบ้านนับไม่ถ้วนเท่านั้นแต่กลับไม่มีเซียน หินหยกและสมบัติวิเศษ
สิ่งแวดล้อมข้างในหุบเขาเป็นสีเขียวและเต็มไปด้วยใบไม้ใบหญ้า แม้ว่าดวงอาทิตย์ตั้งตระหง่าน พื้นที่ก็ยังดูสีเขียว
สายตาหวังหลินจ้องผ่านในบ้านและเห็นผู้คนกำลังซ่อนตัวข้างใน
แทบทุกหลังจะมีคนซ่อนตัวและมีทั้งสตรีและเด็ก พวกเขาไม่ได้เปลือยท่อนบนเหมือนผู้ชายแต่มีร่างกายปิดด้วยเสื้อผ้าเอาไว้
ส่วนพวกเด็กๆ บางคนแอบมองออกมาจากหน้าต่างตอนที่บรรดาแม่ไม่สังเกตเห็น สายตาแต่ละคนสดใส คมชัดและเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
เมื่อหวังหลินเห็นสิ่งนี้ การก้าวของเขาก็หยุดทันที
ทุกสิ่งด้านหน้าเขาแตกต่างจากที่เขาเห็นก่อนหน้านี้ แม้ว่าหวังหลินจะไม่สนใจความดีหรือความชั่วร้ายและทำทุกอย่างตามใจตนเอง แต่กลับอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจอย่างละอาย
ด้วยระดับบ่มเพาะขั้นแปลงวิญญาณ เขาใช้ความพยายามอย่างมากมายเพื่อทำลายค่ายกล แต่กลับไม่คาดคิดว่าสถานที่แห่งนี้เป็นเพียงแค่หมู่บ้าน!
นอกจากโอวหยางฮัว ทุกคนเป็นคนธรรมดา…
สัมผัสวิญญาณของหวังหลินกวาดไปทั้งหมู่บ้าน
โอวหยางฮัวและผู้คนที่ติดตามเขามายังขมวดคิ้ว เมื่อสังเกตว่าหวังหลินหยุดจึงมีจิตใจสั่นเทา แม้กระทั่งคนในเผ่าบางคนก็ยังกัดริมฝีปากล่างและกำหมัดแน่น
ในมุมพวกเขา ที่นี่คือบ้าน และเพื่อบ้านของตัวเอง พวกเขายอมทุกสิ่งทุกอย่างแม้กระทั่งชีวิต!
โอวหยางฮัวรีบเข้าไปข้างหวังหลินและกล่าวอย่างขื่นขม “ท่านเทพสูงสุด…ท่าน?”
หวังหลินหันกลับมา สายตากวาดผ่านผู้คนด้านหลังโอวหยางฮัว ด้วยความคิดของหวังหลินจึงบอกได้ว่าพวกเขากำลังคิดอะไร
หวังหลินครุ่นคิดเล็กน้อยก่อนจะคำนับฝ่ามือให้กับคนเหล่านี้และเอ่ยขึ้น “ข้าได้รบกวนพวกท่านและข้าจะไม่เข้ามาหุบเขานี้อีก!” เช่นนั้นเขาครุ่นคิดและสัมผัสกระเป๋า ขวดหยกจำนวนสามขวดปรากฎขึ้น เขาโยนไปข้างหน้าและพวกมันลอยลงบนพื้น
“มีเม็ดยาไม่กี่สิบเม็ดข้างในขวดหยกนี้ พวกมันมีผลในการช่วยฟื้นฟูและทำให้พื้นฐานมั่นคง นี่ของขวัญของข้าสำหรับการบุกรุกที่นี่” หวังหลินถอนหายใจขณะส่ายศีรษะและเดินออกไปจากหุบเขา
ดวงตาโอวหยางฮัวส่องสว่างราวกับไม่เคยเป็นมาก่อน เขาจ้องขวดหยกขณะเดินเข้าไปคว้ามันไว้ หลังจากเปิดออกและสูดดมเข้าไปจึงอดไม่ได้ที่จะเปลี่ยนสีหน้าและเก็บพวกมันไว้
เขาหันกลับมาและเริ่มพูดคุยกับเผ่าของตนด้วยอีกภาษา ทั้งหมดพยักหน้า บางคนยิ้มให้หวังหลินด้วยความดีและคำนับฝ่ามือให้
เมื่อโอวหยางฮัวกล่าวจบ ผู้คนหลายสิบคนกระจัดกระจายและกลับเข้าบ้านของตนเอง หลังจากนั้นไม่นานมีเสียงรื่นเริงออกมาจากบ้าน
ข้างในหุบเขามีเด็กวิ่งออกมาจากบ้านเพื่อเล่นกันและเหล่าสตรีทั้งหมดเดินออกมา
ความเงียบสงัดและว่างเปล่าก่อนหน้านี้หายไปแทบในทันทีและตอนนี้เต็มไปด้วยชีวิตชีวา
“ท่านเทพสูงสุด รอเดี๋ยว!” โอวหยางฮัวกล่าวอย่างเร่งรีบ ท่าทางของเขาจริงใจมาก
หวังหลินก้าวเดินต่อไปขณะกำลังจะออกจากหุบเขาโดยไม่ได้กล่าวอะไร เขาตัดสินใจไปทางทิศตะวันออกเพื่อดูว่าสถานที่แห่งนี้มีความลึกลับอะไร เขาทั้งอยากเห็นจริงๆว่าเมืองปิศาจโบราณห่างออกไปสิบห้าล้านลี้นั้นเป็นแบบไหน
ส่วนคำถามของผู้คนเหล่านี้ หวังหลินหมดความสนใจไปแล้ว แววตาไร้เดียงสาของเด็กๆและสายตาความหวาดกลัวของคนเป็นแม่ทำให้หวังหลินจดจำขึ้นใจ
โอวหยางฮัวไม่กล้าเข้าใกล้เกินไปและกล่าวเสียงดัง “ท่านเทพสูงสุด คืนนี้เป็นคืนวิญญาณปิศาจ ไม่ว่าท่านจะแข็งแกร่งแค่ไหนท่านก็ไม่พลังเพยีงพอจะต่อต้านวิญญาณปิศาจจำนวนมากมายนั้นได้ ท่านพักที่นี่สักหน่อยจะเป็นไร? หากท่านยังจากไปพรุ่งนี้ก็ยังไม่สาย!”
เป็นครั้งที่สองแล้วที่หวังหลินได้ยินคำว่า ‘ค่ำคืนวิญญาณปิศาจ’ จากโอวหยางฮัว หวังหลินหยุดลงและหันกลับมาเผชิญหน้ากับเขา
“คืนวิญญาณปิศาจคืออะไร?”
โอวหยางฮัวรีบพูด “ท่านเทพสูงสุด ข้าจะเล่ารายละเอียดให้ เราไปที่บ้านข้าก่อนแล้วค่อยคุยดีไหม?”
หวังหลินครุ่นคิดและพยักหน้า
บ้านของโอวหยางฮัวอยู่มุมเหนือสุดของหมู่บ้าน ที่นี่ไม่มีบ้านสักหลังข้างๆบ้านของเขาทำให้ดูผิดปกติอย่างมาก
บ้านของเขาเป็นวงกลมและมีบางส่วนถูกฝังไว้ใต้ดิน สีหลักของบ้านเป็นสีฟ้าคราม
บ้านมีขนาดพอเหมาะกับเตียงไม้ โต๊ะไม้และเก้าอี้ไม้อย่างละหนึ่ง ส่วนอื่นๆกระจัดกระจายในห้อง มีเครื่องประดับบนผนังและในมุมที่ไม่สะดุดตากลับมีภาพวาดอยู่รูปหนึ่ง
เมื่อยืนอยู่ในห้อง สายตาหวังหลินจับจ้องภาพวาดบนผนังและขบคิดเงียบๆ
ภาพวาดนี้เปลี่ยนเป็นสีเหลืองแล้วและอีกมุมหนึ่งได้รับความเสียหาย ทั้งภาพถูกย่นขึ้นชัดเจนว่าผ่านกาลเวลามานานมากแล้ว
คนในภาพเป็นชายหนุ่มอายุราวสี่สิบ เขามองออกไปไกลราวกับกำลังครุ่นคิดบางสิ่ง ฝ่ามือวางอยู่บนหน้าอกคล้ายกำลังสร้างผนึกประหลาด
ทิศทางสายตาของชายคนนั้นมีท้องฟ้า มีเมฆสีดำในอากาศและมีภาพมายาคล้ายจะปรากฎจากตรงนั้น
อย่างไรก็ตามภาพชิ้นนี้เก่าแก่เกินไปจนไม่อาจเห็นได้ว่าข้างในเมฆสีดำคืออะไรกันแน่
โอวหยางฮัวยืนด้านข้างหวังหลินด้วยความชื่นชมเขา เมื่อเห็นสายตาหวังหลินที่มองภาพวาดและอาการชื่นชมโดยไม่รู้ตัว
หลังจากนั้นไม่นานขณะที่สายตาหวังหลินยังคงจับจ้องอยู่บนภาพ เขาค่อยๆถามออกมา “ค่ายกลรอบหุบเขาคงอยู่มานานเท่าไหร่แล้ว?”
โอวหยางฮัวขบคิดและเอ่ยออกมา “ค่ายกลที่นี่คงอยู่มานานมากแล้วจนไม่มีใครจำได้ว่ามันตั้งขึ้นเมื่อไหร่ จากที่ข้าจำได้ ข้ารู้ว่าเมื่อนานมาแล้วมีคนชื่อฮวงหลงพาเหล่าบรรพชนของข้าเข้ามาและตั้งรกรากกันที่นี่…เล่าลือกันว่าเมื่อตอนนั้นค่ายกลคงอยู่ก่อนแล้ว”
“เป็นเขาหรือ?” สายตาหวังหลินยังคงจับอยู่บนคนในภาพ
“ใช่ เขาคือท่านเทพสูงสุด ฮวงหลง!” ในสายตาโอวหยางฮัวกลายเกิดเป็นความชื่นชมยิ่งขึ้น
“ฮวงหลง…เขาคือฮวงหลงจริงๆ…” ดวงตาหวังหลินเผยประกายแสงลึกลับ หลังจากนั้นสักพักก็ถอนหายใจเบาๆค่อยๆลูบพื้นที่ระหว่างคิ้วตัวเอง
“ฮวงหลง…เกิดเรื่องอะไรขึ้น…” ดูเหมือนหวังหลินจะลืมเลือนตัวตนของโอวหยางฮัวและสายตายังจับจ้องไปบนภาพ
ชายในภาพหน้าตาหล่อหลาและเต็มไปด้วยรัศมีแห่งเทพ หากใครพูดว่าเขาเป็นเทพ ผู้คนก็คงเชื่อ
“ฮวงหลง…” ดวงตาหวังหลินเผยความงุนงงสับสน สายตาเช่นนี้หายากมาก!
จิตใจหวังหลินมักจะแข็งแกร่งเสมอแต่ขณะที่เขาเข้ามาในห้องและเห็นภาพ วิญญาณดั้งเดิมกลับสั่นสะท้าน!
หวังหลินขบคิดเป็นเวลานานก่อนจะเอ่ยถามออกมา “ท่านรู้ได้ยังไงว่าเขาชื่อว่าฮวงหลง?”
โอวหยางฮัวงุนงงกับคำถามนี้ หลังจากลังเลเล็กน้อยจึงถามขึ้น “ท่าน…ท่านรู้จักท่านเทพสูงสุดฮวงหลงหรือ?”
หวังหลินขมวดคิ้ว
โอวหยางฮัวรีบพูด “ทุกสิ่งทุกอย่างที่ข้ารู้มาจากบรรพชนผู้ก่อตั้ง นั่นเป็นจุดที่ข้าได้ยินชื่อของฮวงหลง”
หวังหลินขบคิดขณะเลื่อนสายตาและเผยการหวนรำลึก ในจิตใจของเขาดูคล้ายทะลุผ่านทะลวิญญาณมารตะวันออก ผ่านอวกาศ ผ่านท้องฟ้าและกลับสู่บ้านบนดาวซูซาคุ
จิตใจของเขากลับไปเมื่อหลายร้อยปีก่อน ตอนที่ชายหนุ่มพึ่งออกจากหมู่บ้าน ไม่ได้ถูกเหล่าเซียนยอมรับและถูกทุกคนในหมู่บ้านหัวเราะเยาะ
หลังโชคชะตาเปลี่ยนแปลงและบิดเบี้ยวหลายครั้ง ชายหนุ่มคนนี้ถูกรับเข้าไปในสำนักแห่งหนึ่ง สำนักนี้ถูกเรียกขานกันว่าสำนักเหิงยั่ว…