537. ออกโรง
ชายชราชุดเทาครุ่นคิดอย่างเงียบๆ เขาไม่มีความคิดในการตามสหายในเผ่าไปเมืองปิศาจโบราณและได้ตำแหน่งที่นั่น
หลังจากนั้นไม่นานขณะที่กำลังจะเอ่ยปากขึ้น พื้นดินเริ่มสั่นสะเทือนราวกับมีมังกรยักษ์กำลังเคลื่อนตัวใต้พื้นดิน จากนั้นเสียงดังสนั่นออกมาจากพื้นที่ระยะห้าลี้ของเผ่า
ชายชราชุดขาวใบหน้าจมลงและจากนั้นเดินออกจากห้องไป
มีคนผู้หนึ่งลอยตัวกลางท้องฟ้า สวมชุดคลุมสีขาวพริ้วไสวกลางสายลม เส้นผมสีขาวพริ้วไปด้านหลังศีรษะจนเปล่งประกายมารร้ายออกมา
เขาคือหวังหลินที่กำลังโกรธ!
ณ ตอนนี้ดวงตาหวังหลินเผยความเย็นชา พลังปราณสวรรค์ในร่างกายพรั่งพรูขณะลอยตัวกลางอากาศ เขาก้าวเท้าออกไปและเกิดเสียงคลื่นกระแทกดังกึกก้องทั่วบริเวณ
พื้นที่กว้างห้าลี้ข้างใต้เขาเผยสัญญาณการล่มสลาย เสียงร้องตกใจและหวาดกลัวออกมาจากด้านล่าง
ทว่าขณะที่พื้นดินกำลังล่มสลาย ระลอกคลื่นสีเขียวพลันปรากฎจากพื้นที่กว้างห้าลี้แห่งนี้ พื้นดินเริ่มกลับคืนสู่ปกติและพลังรุนแรงสายหนึ่งพุ่งตรงมาที่หวังหลิน
หวังหลินพ่นลมหายใจเย็นขณะยกนิ้วโป้งขวาขึ้นและกดลงไป เขาเพิ่มพูนพลังดัชนีแห่งความตายขึ้นจุดสูงสุด
ดัชนีนี้ทำให้พื้นที่รอบๆปกคลุมด้วยกลิ่นอายแห่งความตาย แม้กระทั่งท้องฟ้าก็มืดมัวและเผยอาการพังทลาย
หวังหลินกดนิ้วโป้งลงไปต้านกับระลอกคลื่นกลางท้องฟ้า ระลอกคลื่นเริ่มโค้งทันทีและเคลื่อนตัวรอบหวังหลินราวเกิดทางแยกในแม่น้ำบังคับให้แบ่งออกเป็นสองข้าง
หวังหลินตะโกนขึ้นพร้อมดวงตาเปล่งประกาย “ทำลาย!”
เพียงหนึ่งคำ ลำแสงสีดำเจิดจ้าออกมาจากนิ้วหวังหลิน ระลอกคลื่นล่มสลายทันทีและกระจายอย่างรวดเร็วจนกระทั่งระลอกคลื่นทั้งหมดกระจัดกระจายหายไป
หวังหลินลอยตัวอยู่กลางท้องฟ้าและมองชนเผ่าเบื้องล่างอย่างเย็นชา ทุกคนภายในพื้นที่รัศมีห้าลี้ต่างเดินออกมาจากบ้านและเงยศีรษะขึ้นมองเขาด้วยความหวาดกลัว
หวังหลินไม่ใช่คนที่ฆ่าใครโดยไม่ไตร่ตรอง ท่ามกลางคนเหล่านี้มีสองคนที่เขาให้ความสนใจ
ทั้งสองคนต่างเป็นชายชรา หนึ่งในนั้นสวมชุดสีเทาและอีกคนสวมชุดสีขาว
ชั่วขณะนั้นจิตใจชายชราชุดเทารู้สึกขมขื่นอย่างมากและถอนหายใจด้วยความเศร้า ครั้งนี้พวกเขาก่อความยุ่งยากให้กับคนที่ไม่ควรยุ่งเกี่ยวด้วย สะท้อนกับความจริงที่ว่าเขาสามารถลบล้างการสะท้อนของค่ายกลด้วยนิ้วมือเดียวนั่นหมายความว่าระดับฝึกตนของเขาไม่อ่อนแอ
ส่วนชายชราชุดขาวตกอยู่ในอาการตื่นตะลึง เขามองหวังหลินด้วยความไม่เชื่อสายตาตนเอง
“ทำไมคนแข็งแกร่งถึงปรากฎตัวในแดนป่าเถื่อนแห่งนี้? ระดับบ่มเพาะของเขาเทียบเคียงกับผู้อาวุโสในคฤหาส์นท่านแม่ทัพ ข้ากลัวว่าข้าไม่อาจเปรียบได้…”
หวังหลินเผยสายตาเย็นชา “ใครที่ส่งสาส์นท้าทายมาให้ข้า? จงออกมาซะ!”
แรกเริ่มน้ำเสียงสงยนิ่ง แต่เมื่อมันตกมาลงบนพื้นดินมันดังคำรามราวกับสายฟ้าแห่งสวรรค์ในพื้นที่รัศมีห้าลี้แห่งนี้ ชายชราชุดเทาใบหน้าซีดเผือดโดยสิ้นเชิง ร่างกายโอนเอนและก้าวถอยหลัง จากนั้นโลหิตซึมออกมาจากมุมปาก ดวงตาตกใจถึงที่สุด
ชายชราชุดขาวเกือบทนยืนอยู่ได้ เขากัดฟันแน่นและตะโกน “เจ้าเป็นใคร!? ข้าเป็นผู้ช่วยของท่านแม่ทัพปีกซ้ายในเมืองปิศาจโบราณ!”
หวังหลินจรดสายตาไปที่เขาและกล่าวอย่างเย็นชา “มันควรเป็นเจ้า ข้าสามารถสัมผัสกลิ่นอายของธงวิญญาณบนตัวเจ้าได้ จงตายซะ!”
ชายชราชุดขาวจิตใจสั่นเทาขณะกัดฟันแน่นและเอ่ยออกมา “ใช่แล้ว ข้าเป็นคนที่นำธงเล็กนั่นมา! หากเจ้ามีความสามารถก็จงทำลายค่ายกลและมาเอามันไป!”
หวังหลินมองเขาอย่างเฉยชา “เจ้าคิดว่าค่ายกลนี้จะหยุดข้าได้อย่างนั้นหรือ?!” หวังหลินสัมผัสกระเป๋าและขวานแยกสวรรค์ขนาดยักษ์เรืองแสงสีดำปรากฎตัวกลางอากาศ
ขณะที่ขวานยักษ์นี้ปรากฎออกมา เสียงคำรามดังสนั่นออกมาจากฟากฟ้าและลูกแก้วสายฟ้าโผล่ล้อมรอบขวานเล่มนี้
รูม่านตาชายชราชุดขาวหรี่แคบลงและชายชุดเทาอุทานขึ้น “คนต่างถิ่น!!!”
หวังหลินคว้าขวานแยกสวรรค์ไว้ในมือและตวัดลงด้วยความเร็วปานสายฟ้า
ปราณขวานยาวกว่าร้อยฟุตตกลงใส่ค่ายกลพร้อมกับลูกแก้วสายฟ้าหลายลูก
พลันเกิดเสียงสนั่นหวั่นไหวจนผู้คนในหุบเขายังได้ยินเสียงนี้ชัดเจน
หวังหลินไม่ได้หยุดลงเพียงแค่ตวัดครั้งเดียว เขากวัดแกว่งขวานลงต่อเนื่องบนค่ายกลราวกับเทพแห่งสงคราม
ใบหน้าชายชราชุดขาวซีดเผือดโดยสิ้นเชิงและความเศร้าในใจเพิ่มขึ้นถึงจุดสูงสุด
แสงสีเขียวกระพริบถี่รอบพื้นที่ห้าลี้ ทุกครั้งที่ขวานตกลงไป แสงสีเขียวจะลบล้างพลังของขวานและกระทั่งดูดซับบางส่วนเพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งของค่ายกล
เป็นผลให้มันเพิ่มการโคจรอย่างไร้สิ้นสุด ค่ายกลนี้ไม่ได้แข็งแกร่งไปกว่าค่ายกลที่ล้อมรอบหุบเขา
หลังอดทนอยู่หลายลมหายใจ ในที่สุดชายชราชุดขาวก็ถอนหายใจอย่างโล่งอก ท่าทางเขากลับมาดังเดิมขณะจ้องมองหวังหลินที่กำลังกวัดแกว่งขวานและเยาะเย้ย “ค่ายกลที่นี่จะแตกเพียงเพราะเจ้าพูดว่าจะทำลายได้อย่างไร?!”
ชายชุดเทาข้างๆกันก็ถอนหายใจอย่างโล่งอกเช่นกัน เขารู้สึกถึงพลังของค่ายกลอย่างชัดเจนและตอนนี้ดูเหมือนว่าคนต่างถิ่นจะไม่มีพลังพอทำลายมัน
ท่าทางหวังหลินยังคงเฉยชา พลังของค่ายกลนี้เกินความคาดคิดของเขา หวังหลินถอยกลับไปและจ้องไปที่ค่ายกล
“ข้าไม่สามารถทำลายค่ายกลนี้ด้วยกำลังในเวลาอันสั้นได้ และแม้ข้าจะใช้กฎเกณฑ์ก็คงใช้เวลานานเพื่อศึกษามัน”
ชายชราชุดขาวหัวเราะราวกับเขาเห็นความกังวลของหวังหลิน “แม้เจ้าจะมีวิชาสวรรค์ ค่ายกลนี้ก็ไม่ใช่สิ่งที่เจ้าสามารถทำลายได้ ข้าแนะนำว่าเจ้าควรจะออกไปก่อนที่จะฉีกหน้าตัวเองมากกว่านี้!”
หวังหลินมองเขาด้วยสายตาเย็นชาแฝงอาการดูถูก “จริงหรือ?”
เช่นนั้นเขาโยนขวานออกไป คราวนี้เป้าหมายไม่ใช่ค่ายกลแต่เป็นปลายขอบของพื้นที่รัศมีห้าลี้ที่ค่ายกลครอบคลุม
ขวานเคลื่อนไหวราวกับสายฟ้าและร่อนลงที่ปลายขอบค่ายกลทันทีจนเกิดเสียงดังสนั่น เพราะมันอยู่นอกค่ายกล ขวานจึงสร้างหุบเขาลึกบนพื้นราวกับตัดผ่านเต้าหู้
หวังหลินขกมือขวาขึ้นชี้ไปที่พื้นและวาดเป็นวงกลม
ขวานยักษ์เคลื่อนไหวอยู่ใต้ดินอย่างรวดเร็วจนเกิดเสียงดังสนั่นภายใต้คำสั่งของหวังหลิน มันเคลื่อนไหวรอบค่ายกลและขุดเป็นวงกลมขนาดใหญ่รอบๆ
ชายชราชุดขาวตกตะลึงราวกับไม่มั่นใจว่าคนต่างถิ่นกำลังทำอะไร
หวังหลินสูดหายใจลึกสายตาเยือกเย็น พลันยกมือขึ้นและตะโกน “ยกขึ้น!”
คำพูดนี้ราวกับสายฟ้าคำรามเมื่อออกมาจากปากหวังหลิน พลังลึกลับสายหนึ่งพลันล้อมรอบพื้นที่ที่ปกคลุมด้วยค่ายกลและเริ่มสั่นไหวรุนแรง
หวังหลินตะโกนขึ้นอีก “ลอยขึ้นให้ข้า!” หวังหลินยกแขนขึ้นพร้อมกับเส้นเลือดบนแขนโป่งพองออกมา
เสียงดังคำรามสนั่นออกมาจากใต้พื้นดินราวกับไม่เคยมีมาก่อน ชั่วขณะนี้เหตุการณ์ตื่นตะลึงก็อุบัติขึ้น!
พื้นที่ล้อมรอบค่ายกลถูกขุดออกมาจากพื้นด้วยพลังล่องหนและยกลอยขึ้นเข้าไปในอากาศ
คลื่นฝุ่นผงตละคลุ้งไปทั่วจนพื้นที่เต็มไปด้วยคราบฝุ่นควัน
เมื่อตอนที่ฝุ่นผงดูเหมือนสงบลงแล้วจะเห็นได้ว่าดินแดนกว้างห้าลี้ถูกลอยขึ้นจากพื้นไปหลายฟุตและเกิดฝุ่นดินจำนวนมากตกลงมา
แอ่งหลุมขนาดยักษ์พลันปรากฎบนพื้น!
ก่อนหน้านี้หวังหลินควบคุมขวานให้ขุดลงไปใต้พิ้นที่รัศมีห้าลี้แห่งนี้ ซึ่งทำให้เขายกดินแดนนี้ลอยขึ้นกลางอากาศด้วยวิชาเซียน
คนที่อาศัยอยู่ในหมู่บ้านทั้งหมดต่างหวาดกลัว พวกเขาไม่เคยเห็นบางสิ่งเช่นนี้มาก่อนในชีวิตและมันเหนือจินตนาการไปไกล
ร่างชายชุดเทาอ่อนยวบและหล่นลงพื้น ใบหน้าซีดขาวและแววตาหวาดกลัวกลับมาอีกครั้ง
“เขาเป็นคนบ้า…คนต่างถิ่นทั้งหมดเป็นคนบ้า…เขา…เขาขุดพื้นที่ที่ค่ายกลปกป้องออกไปจากพื้นดิน…”
ร่างชายชราชุดขาวกำลังสั่น เขาไม่เคยคิดว่าคนต่างถิ่นคนนี้จะคิดได้แบบนี้
สายตาเย็นชาในตัวหวังหลินรุนแรง เขาไม่ได้ทำลายค่ายกลอย่างเร่งรีบแต่เขาสามารถหล่อหลอมมันได้!
หวังหลินยกดินแดนขึ้นด้วยฝ่ามือก่อนจะส่งเสียงคำรามและโยนมันขึ้นไปกลางอากาศ ดินแดนที่กำลังลอยตัวพลันเหินสูงขึ้นด้วยความรวดเร็ว
คลื่นเสียงร้องด้วยความหวาดกลัวดังกึกก้องขึ้นอีก
หวังหลินเคลื่อนร่างราวกับสายฟ้าและปรากฎตัวใต้พื้นดิน เขายกดินแดนรัศมีห้าลี้ขึ้นไปราวกับยักษ์และเริ่มเดินตรงไป
หากใครก็ตามอยู่แถวนี้พวกเขาจะเห็นฉากเหตุการณ์อันลึกลับที่จะไม่มีวันลืมเลือนไปตลอดชีวิต
พวกเขาจะเห็นชายหนุ่มชุดขาวกำลังถือดินแดนรัศมีห้าลี้เดินออกไปอย่างรวดเร็ว
เขาใช้ความเร็วมากมาย หลังผ่านไปหลายชั่วโมงพลันเห็นหุบเขาจากระยะสายตา
ผู้คนของหุบเขาออกมาอย่างรวดเร็วโดยมีโอวหยางฮัวนำทางเพื่อคำนับหวังหลิน ทว่าพวกเขาทั้งหมดตื่นตกใจจนอ้าปากค้างเมื่อเห็นพื้นที่ที่หวังหลินถือและมีแสงสีเขียวของค่ายกลล้อมรอบมัน