Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 757

Cover Renegade Immortal 1

757. กระดูกสัตว์

ลี่หยวนเผยแววตาชื่นชมและตกตะลึงกับความคิดกล้าหาญของหวังหลิน ความแตกต่างด้านระดับบ่มเพาะถือว่ากว้างใหญ่เกินไป หากเป็นคนอื่นแม้แต่ลี่หยวนเอง สิ่งแรกที่พวกเขาคิดคือการหลบหนี

แม้จะหมายถึงการหลบหนีไปสุดขอบโลกหรือซ่อนตัวอยูที่ไกลๆเป็นร้อยเป็นพันปี ตราบใดที่สามารถหลบหนีเซียนทรงพลังได้ มันก็คงคุ้มค่า

เขากระทั่งไม่คิดเรื่องวิธีการต่อต้าน เพราะความแตกต่างก็ใหญ่หลวงคับฟ้าแล้ว

ในมุมของลี่หยวน หวังหลินถือว่าใกล้เคียงกับความบ้าแต่ในเวลาเดียวกันก็ฉลาดคิด ถ้าเป็นไปตามแผน มันอาจจะสำเร็จจริงๆ

เมื่อคิดเช่นนี้ หัวใจลี่หยวนก็เต้นกระดอน เนื่องด้วยแรงกระตุ้นให้ล่อลวงเซียนมาฆ่าอย่างน้อยก็ขั้นชำระสวรรค์ได้ทำให้โลหิตเขาพุ่งพล่านและหัวใจเต้นเร็วดั่งกลอง

“พี่ซิ่ว…เรามาพยายามฆ่าเทพกันเถอะ!”

ตามที่ลี่หยวนพูด นี่แทบจะเท่ากับการพยายามฆ่าเทพสักตนหนึ่ง แม้บรรพชนโลหิตอาจจะเทียบไม่ได้กับแม่ทัพเทพ เขาก็ยังถือได้ว่าเป็นมหาอำนาจในแดนสวรรค์ก่อนที่มันจะพังทลาย

ไม่มีเซียนระดับต่ำคนใดกล้าต่อกรกับเขา!

หวังหลินเลียริมฝีปากและเอ่ยขึ้น “ข้ายังจำเป็นต้องให้น้องลี่ช่วยเรื่องนี้ หลังจากจบเรื่อง ข้าจะตอบแทนรางวัลน้องลี่แน่นอน”

ลี่หยวนขบคิดเล็กน้อย ความตื่นเต้นก่อนหน้านี้ทำให้ลำคอแห้งผาก ตอนนี้เขามองหวังหลินและเอ่ยขึ้น “พี่ซิ่วไม่จำเป็นต้องขอบคุณข้าหรอก สิ่งที่ท่านช่วยเอาไว้ไม่ใช่เพียงแค่ข้าแต่หมายถึงตระกูลลี่ทุกรุ่น นี่มันไม่ใช่แค่การสังหารเทพใช่ไหม? ข้าจะไม่ช่วยเหลือเรื่องน่าตื่นเต้นแบบนี้ได้อย่างไร!?”

ดวงตาหวังหลินเย็นเยียบ “บรรพชนโลหิตไม่ได้สังหารได้ง่ายๆ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องวางแผนให้รอบคอบ ก่อนที่เราจะลงมือ น้องลี่สามารถหนีไปได้ก่อน”

ลี่หยวนขบคิดและพูดขึ้นมา “เรื่องนี้ง่ายดาย แต่ว่าพี่ซิ่ว ก่อนที่จะถึงเรื่องนั้น เราควรจะค้นมิติเก็บของแห่งนี้เสียก่อนแล้วอย่าทิ้งสมบัติอะไรไว้เบื้องหลัง ข้าจะวางกฏเกณฑ์ที่จุดสำคัญไว้อีกหลายแห่งเพื่อทำให้แตกสลายไว้ด้วย!”

ทั้งสองยิ้มให้กัน มุ่งหน้าต่อไปไม่เสียเวลาพูดคุยกันอีก

ท้องฟ้าไม่ใช่สถานที่เดียวที่มีรอยร้าวอวกาศปรากฏขึ้น แม้กระทั่งบนพื้นก็ยังมี ทว่าด้วยความระมัดระวังของทั้งสองคนจึงเคลื่อนเข้าหาหุบเขาด้านหน้าได้อย่างปลอดภัย

ตัวหุบเขามีภูเขาที่มีต้นไม้มากมายเติบโต ขณะที่พวกเขาเดินผ่านมาหวังหลินหยุดมองภูเขาและคิดขึ้นมา แขนขวาวางต้านกับภูเขาแพร่กระจายและรับสัมผัสวิญญาณอย่างรวดเร็ว

ตอนที่ลี่หยวนลอยขึ้นไปบนท้องฟ้าก่อนหน้านี้ เขาเห็นภูเขาสองลูกและหุบเขาสามแห่ง ตอนนี้หวังหลินมองดูภูเขาและรู้สึกถึงกลิ่นอายคุ้นเคยต่อภูเขาเทพในกระเป๋า

เพียงแค่คิดหวังหลินก็ถอนแขนขวาออกมา หลังจากนั้นไม่นานหุบเขาแรกก็ปรากฏขึ้นเบื้องหน้าทั้งสองคน

ทางเข้าหุบเขาใหญ่มาก กว้างหลายสิบฟุต ชำเลืองสายตากลับไม่พบอะไรอยู่ข้างใน แต่มีม่านหรือหมอกอยู่หนึ่งชั้นที่ปลดปล่อยความรู้สึกภาพมายาออกมา

ณ ทางเข้าหุบเขา หวังหลินและลี่หยวนหยุดลงสังเกตการณ์อย่างละเอียด

“มีกฏเกณฑ์ง่ายๆอยู่ที่นี่ ทำลายได้ไม่ยาก!” ลี่หยวนใช้ฝ่ามือสร้างผนึกขึ้นและก่อเกิดกฎเกณฑ์อีกหลายอย่าง กฏเกณฑ์เหล่านี้เปล่งแสงเข้าไปในหมอกที่อยู่ในหุบเขา

เกิดเสียงแตกร้าวขึ้นมาและหมอกก็เลือนหายไปอย่างไร้ร่องรอย ลี่หยวนยิ้มและกำลังจะก้าวไปข้างหน้า

แต่ชั่วขณะนั้นดวงตาหวังหลินส่องสว่างขึ้นและคว้าลี่หยวนเอาไว้ “น้องลี่ เดี๋ยวก่อน!”

ลี่หยวนมองหวังหลินอย่างตกตะลึง

หวังหลินใช้องครักษ์เทพด้านหลังพุ่งออกไปโดยไม่ลังเล ทว่าขณะที่องครักษ์เทพย่างเข้าไป หมอกก็พลันปรากฏขึ้นมาอีกครั้งกลายเป็นลูกธนูและพุ่งเข้าหาองครักษ์เทพ

เสียงระเบิดดังสนั่นหลายครั้ง แม้ร่างกายองครักษ์เทพจะทรงพลังก็ยังถูกลูกธนูผลักกลับมาได้ จนเมื่อองครักษ์เทพถูกผลักออกมานอกหุบเขา สายหมอกนั้นก็กลับมาเหมือนเดิมอีกครั้ง

ลี่หยวนรู้สึกอับอาย เขาไม่ใช่คนผลีผลามเพียงแค่มั่นใจในกฏเกณฑ์ของตัวเองเกินไป เขายิ้มบิดเบี้ยวและเอ่ยขึ้นมา “เจ้าของมิติเก็บของแห่งนี้ฉลาดมาก เห็นได้ชัดว่ากฏเกณฑ์ที่ตั้งเอาไว้นี้ต้องฆ่าคนที่มั่นใจในกฏเกณฑ์ตัวเองแบบข้าได้”

เพียงแค่คิดหวังหลินก็ให้องครักษ์เทพพุ่งตัวออกไปอีกครั้ง คราวนี้ร่างกายมันเรืองแสงสีทองก้าวเข้าไปในหุบเขาพร้อมกับโยนกำปั้นออกไป กำปั้นทรงพลังได้สร้างวังวนขนาดใหญ่กระตุ้นลูกศรสายหมอกทั้งหมดให้ลอยขึ้นไป

หวังหลินก้าวเข้าไปในหุบเขาทันทีโดยไม่ลังและมีลี่หยวนตามไปด้วย หลังจากเข้ามาแล้วลี่หยวนก็สร้างกฏเกณฑ์มากมายวางไว้ภายในหุบเขา

จากนั้นลี่หยวนก็เริ่มสรุปพร้อมกับมองไปรอบๆ เขาสรุปตำแหน่งและวางกฏเกณฑ์เอาไว้หลายจุด

หวังหลินไม่ได้มองลี่หยวน หลังจากเข้ามาในหุบเขาแล้วจึงโบกแขนขวา สายฟ้าในวิญญาณดั้งเดิมพุ่งออกมาก่อตัวเป็นทรงกลมสายฟ้าในมือ มันพุ่งเข้าหาวังวนที่องครักษ์เทพสร้างไว้ก่อนหน้านี้

เกิดเสียงดังตูม ทรงกลมสายฟ้าเข้าไปในวังวนและมีสายฟ้าเต็มไปทั่วอยู่ภายใน วังวนดูเหมือนถูกแช่แข็งเอาไว้และเริ่มดูดซับหมอกรอบๆทั้งหมด

“พี่ซิ่ว ข้าได้ทำเครื่องหมายดวงตากฏเกณฑ์เอาไว้ในมุมทิศใต้และตะวันออก เมื่อพวกมันพังทลาย กฏเกณฑ์ในหุบเขาจะพังไปด้วย!” ลี่หยวนอ้าแขนพลันมีกฏเกณฑ์ปรากฏขึ้นมาสองข้างพุ่งเข้าหาหน้าผาทิศใต้และตะวันออก

หวังหลินสั่งการให้องครักษ์เทพพุ่งไปทางทิศใต้เข้าหาตำแหน่งที่ลี่หยวนกล่าวเรื่องดวงตากฏเกณฑ์เอาไว้ แต่ก่อนที่กฏเกณฑ์ของลี่หยวนจะร่อนลงไปถึง กำปั้นองครักษ์เทพกระทบลงหน้าผาก่อน

ในเวลาเดียวกันสายฟ้าในมือขวาหวังหลินก็ควบแน่นพุ่งออกไปเข้าหากฏเกณฑ์ที่ลี่หยวนทำเครื่องหมายเอาไว้ทางทิศตะวันออก สายฟ้าร่อนลงบนดวงตากฏเกณฑ์อย่างแม่นยำก่อนกฏเกณฑ์ของลี่หยวน

ระเบิดสองลูกดังสนั่น กฏเกณฑ์ที่ลี่หยวนวางเอาไว้พลันระเบิดขึ้นในคราเดียว วังวนสายลมขนาดใหญ่ก่อตัวขึ้นมาภายในหุบเขาและกวาดหมอกทั้งหมดให้ออกไป วินาทีต่อมาวังวนสายลมก็เลือนหายและหุบเขากลับมาเป็นปกติ เผยสิ่งที่ไม่อาจเห็นก่อนหน้านี้

กระบี่สั้นสีดำถูกแทงเข้าไปในพื้น รอบด้านเป็นกะโหลกสัตว์อสูรดุร้ายถึงแปดชิ้น หมอกจางๆกำลังออกมาจากกะโหลกทั้งแปดก่อตัวเป็นวงกลมรอบกระบี่สั้น

ลี่หยวนมองกระบี่สั้นและเอ่ยขึ้นมา “เป็นไปได้ว่านี่คือสมบัติที่เก็บเอาไว้ในหุบเขาแรก พี่ซิ่ว ท่านต้องการกระบี่สั้นหรือกะโหลกอสูรแปดชิ้น?”

หวังหลินชำเลืองมองก็บอกได้ว่ากระบี่สั้นเล่มนี้ไม่ธรรมดา ทว่าลี่หยวนช่วยเขาไว้มากมายและเขาไม่ต้องการเอาของที่อีกฝ่ายชื่นชอบนักหรอก หวังหลินหัวเราะและกล่าวว่า “กระบี่สั้นเล่มนี้อาจจะไม่ธรรมดาและการทำลายกฏเกณฑ์ต้องขอบคุณน้องลี่เป็นอย่างมาก ข้าแค่ช่วยเล็กน้อยเท่านั้น ขอรับกะโหลกแปดชิ้นไว้ก็แล้วกัน!” สิ้นคำพูด หวังหลินพลันโบกแขนเสื้อ กะโหลกแปดชิ้นลอยเข้าไปในมือ เขาตรวจสอบด้วยสัมผัสวิญญาณและตกตะลึงทันที

แต่บนใบหน้า หวังหลินเก็บพวกมันกลับไปท่าทีสงบนิ่ง

ลี่หยวนยิ้มพร้อมกับคว้ากระบี่สั้นเอาไว้ เขามองหวังหลินและหัวเราะ “ขอบคุณมากพี่ซิ่ว!”

หลังจากเดินทางผ่านหุยเขาแรกไม่ไกล พวกเขาก็เห็นทางเข้าหุบเขาที่สอง ทางเข้าเล็กกว่าหุบเขาแรกมากนัก

ยิ่งพวกเขาเข้าใกล้หุบเขาที่สองก็ยิ่งมีรอยร้าวปรากฏถี่ขึ้นซึ่งทำให้ต้องระมัดระวังการเดินทางเพิ่มอีก อย่างไรเสียเมื่อพวกเขาอยู่ห่างจากหุบเขาที่สองเพียงห้าลี้ มันไม่มีถนนหนทางเหลืออยู่แล้ว

มีรอยร้าวมากเกินไปในระยะห้าลี้ พวกมันเกิดขึ้นไปทั่วถนนทั้งหมด ขัดขวางเส้นทางและทำให้ข้ามผ่านไปไม่ได้

ลี่หยวนขมวดคิ้ว หากมีกฏเกณฑ์ เขาสามารถทำลายมันได้ แต่พวกนี้ไม่ได้เป็นกฏเกณฑ์เลย หลังขบคิดเล็กน้อยจึงกล่าวขึ้นมา “พี่ซิ่ว นี่อาจจะมีปัญหาเล็กน้อย…เราไม่สามารถเคลื่อนที่พริบตาในมิติเก็บของได้เลย…”

หวังหลินมองทางเข้าหุบเขาที่อยู่ห่างออกไป “น้องลี่ รอที่นี่สักครู่ ข้ามีหนทางที่จะเข้าไปได้”

หวัหงลินสูดหายใจลึกและนั่งสมาธิลง สองนิ้วชี้ไปหลายจุดบนร่างกาย ทุกครั้งที่ชี้ไปหนึ่งจุด ใบหน้าจะขึ้นสีแดงเล็กน้อย

จนในที่สุดเมื่อหวังหลินชี้ไปครั้งที่เก้า ใบหน้าเขาก็แดงเข้ม หวังหลินยืนขึ้นช้าๆและสูดหายใจเข้า ใบหน้าแดงเข้มพลันหายไปทันที

ในเสี้ยววินาทีนี้เขาตบกระเป๋านำม่านพลังขุนเขาและสายน้ำออกมา ภาพวาดยืดออกไปมากกว่าพันฟุต รอยร้าวทั้งหมดก่อนหน้านี้หายไปแล้วราวกับได้รับการแก้ไข

ขณะที่ภาพวาดขุนเขาและแม่น้ำปรากฏขึ้นมา องครักษ์เทพคว้าหวังหลินและโยนเขาไปข้างหน้าอย่างรุนแรง

การโยนครั้งนี้ใช้ความแข็งแกร่งขององครักษ์เทพเกือบทั้งหมด ดังนั้นความเร็วของหวังหลินจึงบรรลุระดับน่าหวาดกลัว พริบตาเดียวเขาก็พุ่งตัวมาได้ระยะทางมากกว่าครึ่ง

ทว่ามันมีรอยร้าวมากเกินไป ขณะที่ภาพวาดขุนเขาและแม่น้ำปรากฏขึ้นมานั้น พลันเกิดรอยร้าวนับไม่ถ้วนบนภาพวาดดุจปากขนาดใหญ่ต้องการจะกลืนกินหวังหลิน

หวังหลินสามารถมาได้ไกลขนาดนี้เนื่องจากการหยิบยืมพลังขององครักษ์เทพ ก่อนที่พลังนั้นจะหมดสิ้นไป หวังหลินเรืองแสงโลหิต วิชาที่เขาบันทึกไว้ในร่างกายระเบิดออกมาทำให้ความเร็วพุ่งเกินขีดจำกัดอีกครั้ง

ร่างหวังหลินกระพริบสีแดงโลหิตและความเร็วเพิ่มขึ้น จากนั้นกระพริบอีกครั้ง ความเร็วเพิ่มขึ้นไปอีก พริบตาเดียวร่างกายก็กระพริบสีแดงโลหิตถึงเก้าครั้ง ความเร็วหวังหลินเทียบเท่ากับการเคลื่อนที่พริบตาเลยทีเดียว

วิชาหลบหนีที่ใช้แสงโลหิตนี้คือวิชาที่เร็วที่สุดที่เขาศึกษามาจากชายชราในดินแดนวิญญาณปิศาจ อย่างไรก็ตามวิชานี้จะใช้ไม่ได้เลยถ้าระดับเขาไม่ได้อยู่ขั้นเทวะระดับปลายสูงสุด ไม่เช่นนั้นร่างกายจะระเบิด

พริบตาเดียวร่างหวังหลินก็ปรากฏที่ทางเข้าของหุบเขาแห่งที่สอง ใบหน้าซีดเผือดและเกือบสลบเหมือด หวังหลินโบกแขนขวา ม่านขุนเขาและสายน้ำกลับเข้าสู่มือ

มองกลับไป เขาเห็นร่างลี่หยวนอยู่ห่างถึงห้าลี้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!