777. ข้าชื่อซิ่วมู่
ลี่หยวนดวงตาส่องสว่างและก้าวถอยหลังกลับเข้าไปในหลุมดำ ฝ่ามือสร้างผนึกและชี้ระหว่างคิ้วตัวเอง เส้นสีดำลอยออกมาเปลี่ยนกลายเป็นกฏเกณฑ์หลายอย่างร่อนลงรอบๆตัว
ระดับบ่มเพาะของเขาไม่สูงพอที่จะช่วยได้ตรงๆ แต่ก็มีเวลาพอให้วางกฏเกณฑ์และมั่นใจได้ว่าไม่มีคนนอกเข้ามาภายในในช่วงเวลาสั้นๆได้
ทำให้เขาสามารถเปิดเส้นทางให้หวังหลินล่าถอยได้ด้วย
สายตาหวังหลินไม่เหมือนกับตอนที่เขามองเฉินกงฮู่เมื่อคราวนั้น ทว่าเป็นสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่นใจในระดับบ่มเพาะ การผนึกบรรพชนโลหิตและสังหารเซียนขั้นมายาหยินสองคน เป็นสายตาที่ดูเหมือนจะมีทุกสิ่งทุกอย่าง
ชายวัยกลางคนยิ้มเยาะ เมื่อหวังหลินมองเข้ามา ไม่เพียงแค่เขาไม่หยุดแต่กลับก้าวเท้าเข้ามาอีก การก้าวนี้ข้ามระยะหลายสิบฟุตและมุ่งตรงมาที่หวังหลิน
“เรื่องไร้สาระอะไรกัน มีคนในแดนสวรรค์อัสนีจริงๆหรือเนี่ยที่กล้าขู่คนด้วยพื้นที่ต้องห้ามหมื่นฟุต!” ทว่าขณะที่เขาเอ่ยขึ้นมานั้น เขาก็หยุดชะงักเพราะเห็นสายตาหวังหลิน
สายตานี้เต็มไปด้วยความเยือกเย็นสุดขีด ราวกับเป็นสายตาที่กำลังมองมาที่คนตาย
แต่อย่างไรมันก็ต่างกันมากสำหรับชายวัยกลางคน ร่างกายเขาหยุดชะงักทันทีราวกับทุกสิ่งทุกอย่างรอบตัวหายไปและมีแค่สายตานี้เท่านั้นที่เหลืออยู่
ในสายตานั้นไม่มีจิตสังหาร มีแต่เพียงความเงียบสงบ แต่ความเงียบสงบนิ่งทำให้ความคิดชายวัยกลางคนต้องสั่นเทา พลังดั้งเดิมทั้งหมดในร่างกายกระตุ้นขึ้นอย่างบ้าคลั่งราวกับเป็นทางเดียวในการตอบโต้สัมผัสวิกฤตที่กำลังออกมาจากสายตานั้น
เม็ดเหงื่อเย็นผุดมาจากหน้าผาก จังหวะที่สายตานั้นจ้องมองมา เขารู้สึกว่าถูกมองทะลุปรุโปร่ง ราวกับถูกเปลือยล่อนจ้อน
ความรู้สึกแบบนี้รุนแรงอย่างยิ่ง ราวกับผิวหนังได้หายไป อวัยวะภายในและวิญญาณดั้งเดิมถูกเผยออกมาเบื้องหน้าสายตานี้
นอกจากนี้ราวกับความรู้สึกรุนแรงขึ้นและรุนแรงขึ้น เขารู้สึกว่าวิญญาณดั้งเดิมกำลังผ่านการเปลี่ยนแปลงรุนแรง ราวกับวิญญาณกำลังถูกลบล้างออกไปกลายเป็นแค่ก้อนพลังดั้งเดิมเท่านั้น
เขาไม่เคยเจอความรู้สึกเช่นนี้มาก่อนนับตั้งแต่กลายเป็นเซียน ราวกับร่างกายและวิญญาณกำลังหายไปทีละชิ้น ท้ายที่สุดเขาก็เจอภาพมายาที่ไม่สามารถสัมผัสถึงการคงอยู่ของตัวเองได้
โลหิตพุ่งขึ้นมาบนหน้าอก ใบหน้าแดงซีดและกระอักโลหิตคำโตออกมาทันที ซึ่งทำให้ดวงตากลับมากระจ่างชัดแต่ก็เกิดความหวาดกลัวภายในดวงตาคู่นั้น
ตั้งแต่หวังหลินมองเข้ามาและชายวัยกลางคนกระอักโลหิตเป็นเพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆเท่านั้น เหตุการณ์เกิดขึ้นรวดเร็วจนไม่มีใครเห็นว่าเกิดอะไรขึ้นจริงๆ
จังหวะที่ชายวัยกลางคนกระอักโลหิต หวังหลินเคลื่อนไหว ก้าวเท้าอย่างเงียบเชียบเยือกเย็นแต่สีหน้าชายวัยกลางคนเปลี่ยนไปและเริ่มก้าวถอยโดยไม่ลังเล
เขาไม่รู้ว่าทำไม แต่รู้สึกว่าก้าวของหวังหลินได้เหยียบลงบนวิญญาณดั้งเดิมเขา ความรู้สึกเช่นนี้สั่นสะเทือนความคิดมหาศาล เขากล้าก้าวเท้ามาข้างหน้าเพราะมีพวกเขาสี่คนและถังหยานเฟิงอยู่ที่นี่จึงไม่กลัวอะไร ทว่าตอนนี้เขารู้สึกว่ากำลังเผชิญหน้ากับเซียนขั้นรูปธรรมหยางด้วยตัวเองคนเดียว
เขาคงตายโดยไม่ต้องสงสัยถ้าเขาไม่ล่าถอย
หลังหวังหลินก้าวมาหนึ่งครั้งเขาก็ยกเท้าและขยับมาอีกสิบเก้าวเข้าหาชายวัยกลางคน สีหน้าอีกฝ่ายซีดเผือด รู้สึกว่าทุกก้าวเหมือนสายฟ้าดังกึกก้องและทำให้ความคิดเขากำลังพังทลาย
เขาเกือบจะควบคุมตัวเองไม่ได้ ก้าวถอยไม่หยุดโดยไม่รู้ตัว
รู้สึกได้ว่าหัวใจเต้นเร็วขึ้นและหนาแน่นทุกครั้งที่หวังหลินเหยียบย่ำลงมา ทั้งยังรู้สึกว่าหัวใจเต็มไปด้วยรอยร้าวไปแล้ว
หลังผ่านไปสิบก้าวหวังหลินก็หยุด ยกเท้าและเหยียบลงมาโดยที่สายตายังมองชายวัยกลางคนอย่างเยือกเย็น เมื่อเท้านั้นก้าวลงไป ชายวัยกลางคนกระอักโลหิตอีกครั้ง รีบถอยตัวราวกับบ้าไปแล้ว
ทั้งยังไม่รู้ตัวว่าได้ก้าวออกนอกพื้นที่ต้องห้ามหมื่นฟุตไป เมื่อหวังหลินเหยียบเท้าสุดท้ายลง หัวใจก็เต้นถึงขีดจำกัด
ตึกตัก ตึกตัก ตึกตัก ปัง…
หัวใจแตกสลาย พลังดั้งเดิมในร่างกายหลุดออกจากการควบคุมและฉีกกระชากดวงวิญญาณเป็นชิ้นๆ
รอบด้านเงียบกริบ สายตาเถิงหยานเฟิงกลายเป็นเคร่งเครียดยิ่ง ตั้งแต่ที่เขาเริ่มฝึกฝนเซียนมา มีน้อยคนนักที่ทำให้เขาต้องระวังตัว
ไม่ใช่เพียงแค่ระมัดระวังเท่านั้นแต่ยังตกใจมากด้วย แม้จะคิดว่าการที่ตัวเองจะสังหารชายวัยกลางคนได้ง่าย แต่การทำเพียงแค่ชำเลืองมองและก้าวเท้าสิบก้าวนับว่ายากยิ่ง วิชานี้ทำให้เขาต้องสูดลมหายใจเหน็บเข้าปอด
ในความเข้าใจของเขา เห็นได้ว่าความตายของชายวัยกลางคนนั้นเกี่ยวข้องกับพลังดั้งเดิม การควบคุมพลังดั้งเดิมของอีกฝ่ายนับว่าแยบยล เขาใช้พลังดั้งเดิมรอบด้านบีบรัด สร้างแรงกดดันและในที่สุดก็บดขยี้หัวใจของชายกลางคน
สตรีด้านข้างเขามีสีหน้ามืดมนไปด้วย พื้นที่ต้องห้ามหมื่นฟุตอยู่ตรงหน้านาง แต่นางไม่กล้าก้าวเข้าไปข้างหน้า
ราวกับว่าพื้นที่แห่งนี้เป็นดินแดนแห่งความตายของจริง!
หวังหลินถอนสายตาจากชายวัยกลางคนและเปลี่ยนมาที่ชายหนุ่มที่เข้าตามหลังมา
ใบหน้าชายหนุ่มซีดเผือด เขาอ่อนแอกว่าชายวัยกลางคนเนื่องจากพึ่งเข้าสู่ขั้นมายาหยินและระดับบ่มเพาะยังไม่เสถียร เมื่อเห็นสายตาของหวังหลินจึงรีบล่าถอยออกไปนอกเขตโดยไม่ลังเลและเอ่ยออกมา “ผู้อาวุโสโปรดอย่าดุด่าข้าเลย ผู้น้อยรู้ตัวว่าผิดไปแล้ว ตั้งแต่วันนี้ต่อไปผู้น้อยจะไม่ย่างเข้าไปในพื้นที่แม้เพียงครึ่งก้าว หากข้าผิดสัญญา ขอให้ลงโทษข้าเหมือนชายคนก่อนได้เลย!!”
ขณะที่พูดขึ้นมา พลันยกแขนซ้าขึ้นและกระตุ้นพลังดั้งเดิม นิ้วก้อยระเบิดออกกลายเป็นหมอกโลหิตทันที
หวังหลินมองชายหนุ่มและถอนสายตา
ชายหนุ่มถอนหายใจอย่างโล่งอก หัวใจเต้นกระดอน เทียบกับนิ้วก้อยแล้ว ชีวิตเขาสำคัญกว่า ความตื่นเต้นจากการบรรลุขั้นมายาหยินทั้งหมดหายไป ในใจเขาตอนนี้จำไว้ว่าตัวเองจะต้องระมัดระวังในอนาคต!
หวังหลินไม่ได้มองคนที่เหลือนอกเขตต้องห้าม เขาหันกลับมาและเดินเข้าหาหลุมดำที่มีลี่หยวนอยู่ข้างใน
ขณะนั้นถังหยานเฟิงพลันเอ่ยขึ้น “สหายเซียน โปรดเอ่ยชื่อเสียงเรียงนามด้วย!”
“ซิ่วมู่!” เสียงหวังหลินดังออกมาจากข้างในหลุมดำ จากนั้นแสงก็โผล่ออกมาจากค่ายกลและปิดผนึกทางเข้าอย่างสมบูรณ์
“ซิ่วมู่…ข้าจะจดจำชื่อนี้ไว้!” ถังหยานเฟิงต้องการโจมตี แต่ท้ายที่สุดก็อดทนเอาไว้เพราะเขายังไม่รู้สึกว่าตัวเองจะชนะ…