Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 922

Cover Renegade Immortal 1

922. จี่เฉียนเทียน

“มุ่งไปข้างหน้าและทำลายแผ่นดินด้านล่างแดนสวรรค์พิรุณให้ย่อยยับ ข้าจะมอบร่างกายให้เจ้า! ช่วยเจ้าหลบหนี!” คือประโยคที่แสดงในรูปแบบของภาษาเทพโบราณ

อสรพิษที่สับสนถูกความกระจ่างชัดเข้ามาแทนที่ เสียงคำรามเบาลงช้าๆ มันพุ่งนำหน้าขอนไม้ยักษ์ไปตามจริง

ร่างยักษ์ของอสรพิษส่ายหนวดนับไม่ถ้วนของมันไปมาคล้ายกับหมู่มวลก้อนเมฆห่อหุ้มดวงดาว ใหญ่โตมโหฬารไม่น้อยไปกว่าไม้ยักษ์

ลี่หยุนจื่อมองหวังหลิน รู้สึกสงสัยขึ้นมาหลังจากเห็นหวังหลินสีหน้าเปลี่ยนไปเพราะเสียงนั้นดังออกมาจากหินหยก

หวังหลินบ่มเพาะมานานเป็นพันปีจึงเจ้าเล่ห์เป็นอย่างยิ่ง เขาไม่ยอมปล่อยสิ่งใดให้รอดพ้นไปได้จึงกล่าวด้วยรอยยิ้มบิดเบี้ยว “ข้าไม่คาดคิดว่าอสูรตัวนั้นจะเก็บงำความแค้นไว้เช่นนี้ ข้าแค่ยืมมันสังหารคนตระกูลเหยา มันยังจำข้าได้อีก”

ลี่หยุนจื่อพยักหน้า “หลังการรบนี้สิ้นสุด อย่าลืมมาหาข้าเพื่อไปดูม้วนคัมภีร์รบที่เหลือ!”

หวังหลินกล่าวด้วยท่าทางนอบน้อม “ผู้น้อยเข้าใจดี”

บรรพชนตระกูลเฉินกงที่ไม่ได้พูดมานานพลันเอ่ยขึ้นมา “ซิ่วมู่ นำเต๋าของเฉินกงฮู่ออกมาด้วย!”

หวังหลินขบคิดเงียบๆ วินาทีถัดมาจึงสัมผัสระหว่างคิ้วโดยไม่ลังเล เต๋าของเฉินกงฮู่ลอยออกมาทันที บรรพชนตระกูลเฉินกงคว้ามองมันก่อนจะเก็บกลับไป เขามองไปข้างหน้าโดยไม่ให้ความสนใจหวังหลินอีก

อสรพิษพิฆาตจันทร์เปิดเส้นทางด้วยความเร็วยิ่งยวด หนวดนับไม่ถ้วนแพร่กระจายออกมาห่อหุ้มเซียนฝ่ายพันธมิตรที่เผชิญหน้ากับมัน เหล่าเซียนที่โดนจับกรีดร้อง ร่ายกายแห้งเหี่ยวจนกลายเป็นมัมมี่ จากนั้นเหล่าเซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าจึงเข้าไปหาเซียนมัมมี่พวกนั้นเพื่อจัดการริบกระเป๋าและสมบัติ

ขอนไม้ยักษ์ติดตามด้านหลังอสรพิษพิฆาตจันทร์ไปทางเขตเหนือ!

อสรพิษและขอนไม้ยักษ์เร็วมากยิ่งกว่าสมบัติของเซียนเสียอีก ความเร็วของมันเทียบได้กับการเคลื่อนที่พริบตา ก่อเกิดเป็นคลื่นเสียงกระแทกหวีดหวิวผ่านอวกาศ

ณ ตอนนี้มหาสงครามอุบัติขึ้นแล้วในเขตเหนือ!

เดิมทีแล้วเหล่าเซียนฝ่ายพันธมิตรซึ่งมีเซียนมารอสูรทมิฬผู้เป็นหนึ่งในหัวเรือใหญ่ของสี่เซียนได้เกาะกุมความได้เปรียบเอาไว้ การทำลายดินแดนฝั่งตะวันตกไปเป็นการสังหารเหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าไปจำนวนมากและยังตัดทางหนีไปอีกด้วย ทำให้กองทัพฝ่ายทุกชั้นฟ้าต้องมุ่งหน้าไปทางเขตเหนือโดยไร้กองหนุน

เป็นผลให้ฝ่ายพันธมิตรเซียนมีโอกาสมากที่สุดในการชนะการรบใหญ่ครั้งแรกระหว่างสองดาราจักร

ทว่าการตอบโต้ของปรมาจารย์จงเฉินและลั่วฟู่ทั้งสิบแปดนั้นได้กอบกู้สถานการณ์ฝั่งเหนือทันที เซียนฝ่ายพันธมิตรถูกลั่วฟู่ขัดขวางเอาไว้ แต่นี่ก็ไม่ใช่ปัญหาใหญ่ที่สุด ปัญหาใหญ่ก็คือแผนการแยกเหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าออกไปนั้นถูกทำลายด้วยขอนไม้ยักษ์!

ซึ่งทำให้เหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าไม่ได้โดดเดี่ยวอีกต่อไปแล้ว พวกเขาเพียงต้องรอให้กองหนุนมาถึง จากนั้นฝ่ายทุกชั้นฟ้าก็จะกุมความได้เปรียบอย่างแน่นอน!

เซียนมารอสูรทมิฬสีหน้ามืดมน เขาจะปล่อยให้ปรมาจารย์จงเฉินทำอย่างที่ต้องการได้อย่างไร? อย่างไรก็ตามเทพโลหิตก็เป็นคนที่มีระดับบ่มเพาะสูงมาก ขณะที่สองคนสู้ วิชาแต่ละคนปะทะกันทำให้พื้นดินสั่นไหวและเกิดเสียงกึกก้องไปทั่วดวงดารา

เกิดเป็นระลอกคลื่นจำนวนมาก เซียนคนใดที่โดนลูกหลงก็จะตายทันที!

“สหายเซียน อย่าคิดว่าข้าโง่ไปหน่อยเลย โจมตีเถอะ!” เซียนมารอสูรทมิฬยิ้มบิดเบี้ยว โบกแขนขวา สายลมเหม็นฉุยปรากฏขึ้นมาจำนวนมาก ท่อนแขนกวาดเป็นทาง สายลมกลิ่นคาวเปลี่ยนกลายเป็นวาฬยักษ์เบื้องหน้า มันอ้าปากและสูดหายใจเข้าอย่างรุนแรง

พลังดั้งเดิมในโลกถูกสูดเข้าไปในวาฬยักษ์และโจมตีใส่เทพโลหิต

ขณะเดียวกันเสาแสงสีม่วงหนึ่งท่อนตกลงมาจากเบื้องบน เสาต้นนี้ไม่มีด้านปลายและดูเหมือนมันปรากฏออกมาจากอากาศเบาบาง

คนผู้หนึ่งเดินออกมาจากเสาแสงพร้อมกับเสียงหัวเราะดัง! เขาเป็นชายวัยกลางคนสวมชุดคลุมสีเหลือง หน้าตาหล่อเหลา มังกรมายาหมุนวงกลมรอบตัวและร้องคำราม

“ปรมาจารย์จงเฉิน ข้ารู้จักเจ้ามานานแล้ว! ข้าคือหนึ่งในเซียนคนใหม่ของพันธมิตร เซียนปิศาจมังกรเมฆา!”

ปรมาจารย์จงเฉินดวงตาส่องสว่างแต่ไม่ได้โจมตี ทว่าเหล่าบรรพชนจากตระกูลเซียนยุคโบราณพลันเคลื่อนไหว มีสามคนพุ่งออกไปเข้าหาเซียนปิศาจมังกรเมฆา

‘สี่เซียนแห่งพันธมิตรเซียนต่างก็อยู่ในขั้นทลายสวรรค์ระดับกลาง ระดับของเทพโลหิตไม่อาจประเมินต่ำไปและเขายังสามารถสู้อีกฝ่ายได้หนึ่งต่อหนึ่ง สหายเซียนอีกสามคนเป็นแค่ขั้นทลายสวรรค์ระดับต้นเท่านั้น ดังนั้นพวกเขาต้องรวมกำลังกันเพื่อรั้งอีกฝ่ายไว้! อย่างไรเสียคนพวกนี้ไม่ใช่คนที่แข็งแกร่งที่สุดในการต่อสู้ครั้งนี้!’ ปรมาจารย์จงเฉินดวงตาส่องสว่างวาบแต่ไม่ได้มองดูเซียนปิศาจมังกรเมฆาชุดเหลือง เขาจ้องความอวกาศเบื้องหน้าแทนและเอ่ยสงบนิ่ง “สี่เซียนแห่งพันธมิตรไม่เคยมาตัวคนเดียว จี่เฉียนเทียนทำไมถึงยังซ่อนตัวเองเล่า?”

ปรมาจารย์จงเฉินเคลื่อนตัวไปข้างหน้าและปรากฏตัวข้างๆกับลั่วฟู่ จากนั้นสองดัชนีชี้ออกไปอย่างโหดเหี้ยม

เสียงหัวเราะแหลมระเบิดดังก้องไปทั่วดวงดาว จุดที่ปรมาจารย์จงเฉินชี้ใส่เกิดรอยแตกร้าวนับไม่ถ้วนพร้อมกับมีแขนสีขาวดุจหินหยกโผล่ออกมา ฝ่ามือแพรวพราวปะทะใส่เข้ากับดัชนีของปรมาจารย์จงเฉิน!

ปัง!

ทั่วทั้งแดนเหนือสั่นสะท้าน แววตาปรมาจารย์จงเฉินกระพริบจิตสังหาร เขารีบถอยไปหลายก้าว อีกร่างหนึ่งกระเด็นกลับออกมาจากรอยร้าวเช่นกัน ร่างนั้นดูเหมือนหญิงสาว ขณะที่ล่าถอยเขาก็กรีดร้องออกมาด้วย!

“ปรมาจารย์จงเฉิน เจ้ายังกล้ากลับมาอีก!!!”

น้ำเสียงแหลมคมและรุนแรงยิ่ง แฝงพลังดั้งเดิมผันผวนเหนือจินตนาการเข้าไปด้วย

ขณะที่เสียงนี้ดังออกมา เหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าทั้งหมดสั่นเทา บางส่วนกระอักโลหิต พลังดั้งเดิมหลุดออกจากร่างกายและตายทันที!

แม้กระทั่งลั่วฟู่หนึ่งก้อนพลันแตกสลายภายใต้เสียงกรีดร้องแหลมคมนี้!

พลังดั้งเดิมไม่มีที่สิ้นสุดจากเหล่าเซียนที่แตกดับและกระทั่งจากลั่วฟู่แตกสลาย ทั้งสองสายพลังต่างเข้าไปในร่างเหมือนหญิงสาวผู้นี้

“จี่เฉียนเทียน ข้าไม่เจอเจ้ามานานหลายปี เจ้ายังคล้ายผู้หญิงไม่มีเปลี่ยน!” ปรมาจารย์จงเฉินดวงตาสงบนิ่ง โบกสะบัดแขนขวา เปลวเพลิงปกคลุมพื้นที่และแพร่กระจายออกไปทันที เหล่าเซียนทุกชั้นฟ้าทั้งหมดถูกพันถอยออกไปห้าพันลี้

แม้จะไกลถึงห้าพันลี้มันก็ยังอยู่ภายในระยะลั่วฟู่ ดังนั้นเมื่อมหาสงครามอุบัติขึ้น เหล่าเซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าและฝ่ายพันธมิตรเซียนจึงเริ่มการต่อสู้แห่งความเป็นความตาย

นี่คือการต่อสู้อันวุ่นวาย หากประมาทเพียงเล็กน้อย ร่างกายคงดับสลาย วิญญาณดั้งเดิมคงดับสูญ! เดิมทีเหล่าเซียนฝ่ายทุกชั้นฟ้าเทียบไม่ได้กับเหล่าเซียนฝ่ายพันธมิตร อีกทั้งด้านหนึ่งกำลังฟื้นฟูอาการตกใจและอีกด้านหนึ่งเตรียมการไว้แล้ว ทว่าภายใต้ผลของลั่วฟู่ สถานการณ์จึงพอๆกัน

ยากยิ่งที่จะรู้ว่าใครเป็นคนชนะ ทว่าในสมรภูมิเล็กๆ ฝั่งพันธมิตรยังกุมความได้เปรียบเอาไว้!

สมบัติวิเศษระเบิดเต็มไปทั่วบริเวณ ในการรบนี้ทั้งสองฝ่ายต่างมีผู้บาดเจ็บล้มตาย ห่างออกไปไกลมีเซียนฝ่ายพันธมิตรคนหนึ่งกระอักโลหิตและล่าถอยออกมา แต่ก่อนจะถอยไปได้ร้อยฟุต หน้าอกถูกกระบี่เหินเล่มหนึ่งแทงเข้าใส่อย่างสุ่ม จากนั้นดวงวิญญาณลอยออกมาและโดนระลอกวิชาเข้าใส่ทันทีทำให้วิญญาณแตกสลาย

เซียนทุกชั้นฟ้าสามคนดวงตาแดงฉาน พลันกระตุ้นระดับบ่มเพาะของตนเองอย่างเต็มที่เพื่อควบคุมสมบัติวิเศษ ขณะที่พวกเขากำลังใช้วิชาอยู่นั้น ลำแสงหนึ่งสายแทงเข้าใส่พวกเขาและตายไปทีละคน

ลำแสงนั้นเปลี่ยนเป็นคนผู้หนึ่งสีหน้ามืดมัว หลังจากเลียริมฝีปากและกำลังจะไปต่ออยู่นั้น พลันเกิดแสงโลหิตกระพริบวาบ เขากรีดร้องออกมา ร่างกายเปลี่ยนกลายเป็นกองโลหิตเพราะถูกผลกระทบจากการต่อสู้ระหว่างเทพโลหิตและเซียนปิศาจอสูรทมิฬ

ทุกครั้งที่มีคนตาย โลหิตจะถูกลั่วฟู่ทั้งสิบเจ็ดดูดออกไปทันที บางครั้งก็ดูดดวงวิญญาณดั้งเดิมเข้าไปได้เพราะพวกเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสเกินไป

เหล่าเซียนกำลังตายทุกชั่วขณะ ทั้งสองด้านมีเซียนหลายพันคนรวมกันที่นี่ การรบครั้งนี้อธิบายได้ว่าเป็นการสั่นสะเทือนปฐพี โลหิตจำนวนมากถูกลั่วฟู่ดูดซับ!

สมบัติวิเศษมากมายกระพริบแสงแพรวพราว เสียงคำรามควบคู่กับเสียงพึมพำเต็มไปทั่วบริเวณ กลายเป็นดินแดนแห่งความตาย!

วิญญาณและโลหิตจำนวนมากถูกลั่วฟู่ดูดซับทำให้พวกมันชั่วร้ายขึ้นไปอีก ขณะที่การต่อสู้รุนแรงขึ้น เสียงดังสนั่นกึกก้องและรอยแตกร้าวมากมายปรากฏขึ้นมา แม้กระทั่งสายลมเย็นจากรอยร้าวยังไม่สามารถพัดพาสงครามอันร้อนระอุออกไปได้ มันกลับทำให้การต่อสู้อันโกลาหลครั้งนี้เข้มข้นขึ้นไปอีก

ณ ใจกลางสนามรบ เปลวเพลิงของปมาจารย์จงเฉินนั้นมหาศาลยิ่ง มองไกลๆมันคล้ายกับเป็นแสงสว่างลุกโชนขึ้นใจกลางพื้นที่ ตรงข้ามกับเขาคือจี่เฉียนเทียนปลดปล่อยความหนาวเย็นสุดขั้วก่อเกิดเสียงแตกร้าว มันไม่ดังมากแต่ทุกคนในสนามรบกลับได้ยินอย่างชัดเจน

ธารน้ำแข็งนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมาพร้อมกับเสียงแตกร้าวมากมาย พวกมันใหญ่โตและพุ่งตรงขึ้นสูง จี่เฉียนเทียนถูกธารน้ำแข็งห่อหุ้มเอาไว้เหมือนหนามแหลมคมทิ่มแทงท้องฟ้าและเผชิญหน้ากับปรมาจารย์จงเฉิน

“ปรมาจารย์จงเฉิน เราปล่อยเจ้าหนีไปในการต่อสู้เมื่อหมื่นปีก่อน วันนี้พอไม่มีจงกวนซื่อ ข้าจะสังหารเจ้าที่นี่และตอนนี้ด้วย!” จี่เฉียนเทียนเอ่ยน้ำเสียงดุจคมมีด เต็มไปด้วยความเย็นเยียบและจิตสังหาร

จี่เฉียนเทียนผู้นี้ดูเหมือนสตรีเจ้าเสน่ห์ ทว่าหากมองไกลๆจะเห็นได้ว่าหน้าอกเรียบแบน และมีลูกกระเดือกอยู่ตรงนั้น! เขาคือบุรุษแน่นอน!

ปรมาจารย์จงเฉินพลันยกแขนขวาขึ้นมาแววตาสงบนิ่ง ยื่นเข้าหาอวกาศ พลังดั้งเดิมในโลกรวมกันอย่างบ้าคลั่งก่อเกิดเป็นก้อนเพลิงสีขาวในมือ เขามองจี่เฉียนเทียนและเอ่ยขึ้นช้าๆ “ตอนที่ข้าจากไป ข้าพูดว่าหากวันหนึ่งข้ากลับมา ข้าจะทำลายล้างพันธมิตรเซียนให้มอดดับ ใครจะสนกันเล่าถ้าข้าตายไปแล้วโลหิตหลั่งไหลเต็มท้องฟ้า!?”

วินาทีนั้นในดินแดนตะวันตก อสรพิษพิฆาตจันทร์อยู่ตรงหน้า ขอนไม้ยักษ์อยู่ด้านหลัง พวกเขากำลังเข้าใกล้ในเขตเหนือ…

หวังหลินมองไปข้างหน้าอยู่บนขอนไม้ยักษ์ ในแววตากระพริบวูบวาบอย่างลังเล โดยเฉพาะตอนที่เขามองไปยังเจ้าอสรพิษพิฆาตจันทร์

‘เทพโบราณร่างเด็ก…’ ในสายตาหวังหลินกระพริบแสงเย็นเยียบจนแทบสังเกตไม่เห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!