Skip to content

ฝืนลิขิตฟ้า ข้าขอเป็นเซียน 958

Cover Renegade Immortal 1

958. เป็นที่จดจำ

เทียนหยุนสีหน้าจมดิ่งและกล่าวขึ้นมา “ตราบใดที่เขาไม่ทรยศสำนัก ก็ยังคงเป็นศิษย์ของข้า!”

“สำนักชะตาสวรรค์ของเจ้าต้องการปกป้องศิษย์ตัวเอง? หรือศิษย์สำนักกระบี่ต้าหลัวของข้าจะตายอย่างไร้ค่า!? เฉินหลงเป็นคนที่หนีรอดได้คนเดียวในสิบสองกระบี่ คนที่เหลือทั้งหมดโดนหวังหลินสังหาร! ข้าจะไม่กลั่นแกล้งคนอ่อนแอ ตราบใดที่หวังหลินสามารถต่อต้านปราณกระบี่ข้าได้สามครั้ง เรื่องนี้ถือว่าลืมกันไป! เทียนหยุนหากเจ้ากล้าหยุดข้า ข้าจะขอเสี่ยงทุกอย่างและทำสงครามกับเจ้า!” หลิงเทียนโฮวใบหน้าเต็มไปด้วยจิตสังหาร แม้เขากำลังพูดถึงเทียนหยุนแต่สายตาจับจ้องมองหวังหลิน

“ผู้อาวุโสคนนี้บอกว่าข้าไม่มีคุณสมบัติพอจะถือครองป้ายสิทธิ์ ข้าขอถามหน่อยว่าท่านกล้ารับปราณกระบี่ของเซียนกระบี่หลิงเทียนโฮวได้นานแค่ไหน?” หวังหลินมองชายชราผู้เป็นเหมือนภูเขาเนื้อ

ชายชราร่างภูเขาเนื้อสีหน้ามืดมนยิ่ง เขาพ่นลมหายใจและเงียบเสียลงแต่แววตากระพริบจิตสังหาร

หวังหลินยิ้มบาง ขณะเดียวกันสายตาก็จรดลงบนหลิงเทียนโฮวและเอ่ยท่าทีสงบนิ่ง “โปรดสั่งสอนข้าด้วย เซียนกระบี่!”

หลิงเทียนโฮวโบกแขนขวา กระบี่ดั้งเดิมหนึ่งในสี่เล่มด้านหลังลอยออกมา กระพริบไปมาระหว่างสีขาวและสีดำ วินาทีนั้นปราณกระบี่สายหนึ่งก็พุ่งออกไป

ปราณกระบี่ดุจสายรุ้ง!

ด้วยระดับบ่มเพาะของหลิงเทียนโฮว ปราณกระบี่ที่เขาทิ้งไว้กับเหล่าศิษย์ทั้งหมดที่เข้าไปในดินแดนวิญญาณปิศาจจึงทรงพลังอย่างมาก ดังนั้นคงไม่ต้องกล่าวถึงปราณกระบี่ที่ออกมาจากต้นกำเนิดมันนี้ ปราณกระบี่ก่อตัวเป็นมังกรและหวีดหวิวเข้าหาหวังหลิน

ท้องฟ้าส่งเสียงแตกร้าวราวกับไม่อาจทนต้านต่ออำนาจแห่งปราณกระบี่ได้

เหล่าเซียนสำนักกระบี่ต้าหลัวทั้งหมดพลันเฝ้าดูอย่างตื่นเต้น

ยามที่ปราณกระบี่เข้าใกล้และกำลังจะฉีกร่างเขาเป็นชิ้นๆ ดวงตาหวังหลินส่องสว่างขึ้น แขนขวากำหมัดและโยนกำปั้นออกไป

อากาศเบื้องหน้าหมัดหวังหลินเผยอาการแตกสลายพร้อมกับเสียงดังสนั่น ขณะที่ปราณกระบี่เข้าใกล้ กำปั้นหวังหลินชนเข้าพอดี

เสียงดังสนั่นสะเทือนสรวงสรรค์หลายเท่า หวังหลินถอยไปสองก้าวพลางมองหลิงเทียนโฮวอย่างสงบนิ่ง “สายแรก!”

ปราณกระบี่ของหลิงเทียนโฮวแตกสลายและแพร่กระจายดุจพายุ เทียนหยุนโบกแขนเสื้อ พลังทั้งหมดนั้นหายไปทันที เขามองหวังหลินและเผยรอยยิ้ม

หลิงเทียนโฮวแววตาเย็นเยียบ โบกแขนขวาอีกคราโดยไม่ลังเล คราวนี้กระบี่ดั้งเดิมพุ่งออกมาส่งเสียงหึ่งแหลมคมจนแทงทะลุสรวงสวรรค์ จากนั้นพุ่งตรงหาหวังหลินด้วยร่างดั้งเดิมของมัน

เมื่อเข้าไปใกล้ หวังหลินหัวเราะ แขนขวากำหมัด พลังอำนาจพรั่งพรูไหลระหว่างคิ้วและรวมกันในฝ่ามือ ละอองแสงปรากฏขึ้นรอบหมัด พุ่งออกไปพร้อมกับกำปั้น

ในเวลาเดียวกันแววตาหวังหลินเย็นยะเยือก ตั้งแต่ที่เขากลับมาที่ดาวเทียนหยุน เขาไม่ได้มีเจตนาเป็นคนต่ำต้อย ทางเดียวที่จะพูดออกมาได้คือใช้ความแข็งแกร่ง!

หากต้องการกลับไปที่ดินแดนวิญญาณปิศาจเพื่อมีคุณสมบัติพอจะถือครองป้ายสิทธิ์และได้รับการจดจำจากเซียนเฒ่าทั้งหมดบนดาวเทียนหยุน เมื่อนั้นขึ้นอยู่กับการต่อสู้ครั้งนี้!

ด้วยไหวพริบของหวังหลินจึงวิเคราะห์ทั้งหมดนี้ไว้แล้ว วินาทีนี้หลังจากโยนกำปั้นออกไป แขนซ้ายจับกระเป๋าและร้องตะโกน “เก้ากระบี่ สามชุด!”

สิ้นเสียงพูด ลำแสงสีเงินหลายเส้นลอยออกมาจากกระเป๋า ทุกลำแสงเรืองแสงสีเงินรุนแรง วิญญาณนับไม่ถ้วนลอยออกมาแต่ละเส้นสาย จากนั้นระเบิดกลายเป็นเสียงร้องคร่ำครวญเต็มไปทั่วโลก

ขณะกระบี่เหินทั้งยี่สิบเจ็ดเล่มลอยออกมา หวังหชินชี้นิ้วให้กระบี่ทั้งหมดเหินเข้าหาหลิงเทียนโฮวพร้อมกับปลดปล่อยเสียงร้องคร่ำครวญ!

แม้กระทั่งเทียนหยุนก็ยังตกใจ เขาคาดการณ์ผลลัพธ์เอาไว้แล้วแต่ไม่ทราบกระบวนการ ล่วงรู้ว่าระดับบ่มเพาะของหวังหลินเพิ่มพูนขึ้นมหาศาล วันที่แสงสีเขียวและม่วงปกคลุมท้องฟ้าจะเป็นวันกลับมาของเขา แต่ไม่รู้จริงๆว่าหวังหลินอยู่ในระดับบ่มเพาะอะไรกัน

เขาเห็นพลังอำนาจหลายสายอยู่ระหว่างคิ้วหวังหลิน ทั้งสามต่างก็เป็นสิ่งที่เขาหวั่นเกรง!

‘แม้ข้าจะคาดคำนวณได้ว่าเจ้าเด็กนี่จะกลับมา ข้าไม่อาจคำนวณถึงเหตุผลได้ เด็กนี่กล้ากลับมาดาวเทียนหยุนเพราะเขาต้องมีบางอย่างให้พึ่งพิง อักขระวิหคศักดิ์สิทธิ์เป็นหนึ่งในเบื้องหลังเสียด้วย!’

สตรีสุดสวยวัยกลางคนก็ตกตะลึงเช่นเดียวกัน แววตาเต็มไปด้วยความประหลาดใจและรู้ได้ทันทีว่ากระบี่ยี่สิบเจ็ดเล่มนั้นอัศจรรย์แค่ไหน

นางคือปรมาจารย์แห่งการหลอม และคิดขึ้นมา ‘วัตถุดิบของกระบี่ยี่สิบเจ็ดเล่มนี้ต่างก็ล้ำค่าทั้งยังแฝงจิตสังหารทรงพลังด้วย มันถูกหลอมอยู่ในสถานที่ที่มีจิตสังหารเข้มข้นมานานนับแต่อดีตแน่นอน แค่เล่มเดียวก็เป็นอาวุธไร้เทียมทานได้แล้ว! ตอนนี้มียี่สิบเจ็ดเล่มจึงสร้างเป็นค่ายกลกระบี่ พลังอำนาจของแต่ละ…’ สตรีวัยกลางคนอ้าปากค้าง

ชายชราผู้นั่งอยู่บนน้ำเต้าพลันยืนขึ้นทันที เขาจ้องหวังหลินและเกิดคลื่นยักษ์ก่อตัวขึ้นมาในใจ!

‘เขาไม่ได้เป็นเซียนขั้นส่องสวรรค์ระดับต้นแน่นอน!’

ส่วนชายชราภูเขาเนื้อ ความคิดพลันสั่นเทา จ้องมองกระบี่ยี่สิบเจ็ดเล่มนั้นและไม่สนใจหวังหลิน เหงื่อเย็นเฉียบไหลออกมาจากหน้าผาก

‘ข้าประเมินเขาต่ำไป!’

หลิงเทียนโฮวมีนามว่า “เซียนกระบี่” ประสบความสำเร็จอย่างลึกซึ้งเกี่ยวข้องกับกระบี่ เมื่อเห็นกระบี่ยี่สิบเจ็ดเล่มนี้ดวงตาจึงส่องประกายเจิดจ้า

“กระบี่เหินเช่นนี้กลายเป็นค่ายกลกระบี่ หวังหลินเจ้ามีคุณสมบัติจะต่อสู้กับข้า!” หลิงเทียนโฮวโบกสะบัดแขน กระบี่ดั้งเดิมที่เหลืออีกสามเล่มลอยออกมาหมุนวนล้อมกับเล่มก่อนหน้า ปราณกระบี่หลายเส้นพุ่งออกไปเป็นตาข่ายปราณกระบี่

กระบี่เหินยี่สิบเจ็ดเล่มตามทันแรงกระทบกำปั้นหวังหลิน พวกมันผสานรวมเข้าด้วกยันก่อเกิดเป็นพายุโดยมีกระบี่เป็นแกนกลาง ทั้งยังมีเจตจำนงกระบี่แฝงอยู่ภายใน พวกมันปะทะเข้ากับกระบี่ดั้งเดิมสี่เล่มของหลิงเทียนโฮวไปด้วย

ตึงตัง ตึงตัง ตึงตัง!

เสียงดังสนั่นต่อเนื่อง กระบี่ยี่สิบเจ็ดเล่มทั้งหมดโดนผลักไสออกทีละเล่ม ทว่าการรัวเป็นชุดทำให้กระบี่ดั้งเดิมของหลิงเทียนโฮวต้องล่าถอย!

ทุกครั้งที่กระบี่เหินถูกกระแทกกลับ มันจะกลับมาหาหวังหลิน วินาทีต่อมากระบี่ยี่สิบเจ็ดเล่มทั้งหมดก็หมุนวนรอบหวังหลิน พลังอำนาจของกำปั้นเทพโบราณระเบิดออกมา

ภายใต้พลังอำนาจของกำปั้น กระบี่ดั้งเดิมสี่เล่มของหลิงเทียนโฮวถุกผลักดันกลับไปทั้งหมด!

ฉากเหตุการณ์นี้ทำให้ทุกคนตื่นตะลึงเป็นอย่างยิ่ง!

อย่างไรก็ตามหวังหลินรู้ว่าหลิงเทียนโฮวไม่ได้ใช้วิชาอันใดและโจมตีด้วยปราณกระบี่ล้วนๆ นี่ไม่ใช่ว่าหลิงเทียนโฮวกำลังแสดงควาเมมตตา กระนั้นแม้หวังหลินจะเป็นขั้นชำระสวรรค์ระดับต้นก็ไม่เพียงพอจะเป็นภัยคุกคามเซียนกระบี่ที่ใช้วิชาได้!

แววตาหลิงเทียนโฮวเผยแสงประหลาดแต่ในไม่นานก็หายไป เขาหัวเราะและลืมเรื่องสัญญาสามกระบวนท่าไปเสียสนิท ฝ่ามือสร้างผนึกและโบกสะบัด เส้นผมพริ้วไหวโดยไร้แรงลม ดวงตาส่องสว่างและร้องตะโกน “เจ้ามีคุณสมบัติพอให้ข้าใช้วิชาเซียน ข้ารู้แต่เพียงสามวิชาเท่านั้น! สังเวย ทะลวง ทำลาย! สังเวยกระบี่ส่วนแรก เรียกกระบี่ด้วยโลหิต!”

หลังจากนั้นเซียนรอบด้านทั้งหมดตกตะลึง ชื่อเสียงของหลิงเทียนโฮวนั้นโด่งดังและเขาเป็นปรมาจารย์ที่ใช้วิชาสั่นสะเทือนสรวงสวรรค์ เซียนทุกคนรู้ว่าหลิงเทียนโฮวมีศัตรูคู่อาฆาตอยู่หนึ่งคน และนั่นคือเทียนหยุน!

นานๆครั้งถึงจะใช้วิชาของตนเองและแทบทุกครั้งที่ใช้มันคือการต่อสู้กับเทียนหยุน

อย่างไรก็ตามหลิงเทียนโฮวไม่คาดคิดว่าจะใช้วิชานี้ในการต่อสู้กับหวังหลิน ถึงแม้ผลลัพธ์หวังหลินจะพ่ายแพ้ เขาก็จะกลายมีชื่อเสียงโด่งดัง

หลิงเทียนโฮวร้องตะโกนชี้ไปข้างหน้า กระบี่ดั้งเดิมสี่เล่มหลอมรวมเป็นหนึ่งกลายเป็นกระบี่ไร้ตัวตนปลดปลอ่ยพลังร้อนระเบิดออกมา จากนั้นมันก็เปลี่ยนไปคล้ายกับของเหลวมีสีสันส่องกระทบกับแสงอาทิตย์ พุ่งตรงเข้าใส่หวังหลิน

หวังหลินสีหน้าสงบนิ่ง ก้าวถอยไปสองสามก้าว ตบกระเป๋าและร้องตะโกน “ค่ายกลเก้ากระบี่ ห้าชุด!”

พริบตานั้นลำแสงสีเงินหลายเส้นลอยออกมาจากกระบี่และผสานเข้ากับกระบี่ยี่สิบเจ็ดเล่มก่อนหน้า ทั้งหมดหมุนวนอย่างบ้าคลั่งสี่สิบห้าเล่มก่อเกิดวังวน เรือนผมหวังหลินพริ้วไหว ฝ่ามือประกบกันและแทงไปข้างหน้าอย่างรุนแรง!

“ตัดสวรรค์!”

พลังดั้งเดิมหมุนด้วยอัตราเร่งสูงสุด ตัดสวรรค์นับไม่ถ้วนลอยออกมาผสานเข้ากับวังวนเบื้องหน้า ทั้งวังวนสั่นเทาและควบแน่นพุ่งออกไป

หวังหลินหลอมกระบี่สี่สิบห้าเล่มจากดินแดนสังหารไปแล้วและเปลี่ยนรูปลักษณ์พวกมัน คนที่สามารถจดจำพวกมันได้ตอนนี้คือคนจากดินแดนสวรรค์เท่านั้น

วังวนกระบี่ตอนนี้บรรจุพลังอำนาจของตัดสวรรค์มากมายเข้าปะทะกับวิชาของหลิงเทียนโฮว โลกพลันเปลี่ยนสีและกลับตาลปัตร

การปะทะกันดังสนั่นกึกก้องไปทั่วดาว เสียงพังทลายอย่างต่อเนื่องแทนที่เสียงทั้งหมดในโลก

หากไม่ใช่ว่าเทียนหยุนขัดขวางแรงกระแทกนี้เอาไว้ อาจทำให้พื้นที่ส่วนใหญ่บนดาวเทียนหยุนพังทลาย ภายหลังแรงกระแทก ร่างหวังหลินโดนผลักกลับไป กระบี่สี่สิบห้าเล่มไม่ได้รับความเสียหายแต่พวกมันหมุนเป็นวงกลมรอบหวังหลินอย่างเลือนลาง

กระบี่ที่หลิงเทียนโฮวสร้างขึ้นพังทลายและเปลี่ยนกลับไปเป็นกระบี่สี่เล่มดังเดิม หลิงเทียนโฮวไม่ได้ถูกดันถอยกลับ ดวงตาส่องสว่างขึ้นและหัวเราะ “หวังหลิน ความบาดหมางระหว่างเจ้าและสำนักกระบี่ต้าหลัวถือว่าหมดสิ้น ข้าจะไม่เอาป้ายสิทธิ์มาจากเจ้า เมื่อเจ้าสามารถเป็นคนที่รับมันได้ ก็ถือว่ามีตำแหน่งในการเข้าถ้ำเทพ!”

หลิงเทียนโฮวหันกลับและก้าวออกไป เหล่าศิษย์สำนักกระบี่ต้าหลัวทั้งหมดยังคงมึนงงแต่ก็ติดตามไปทันที ปราณกระบี่หลายเส้นพุ่งออกไปไกลอย่างรวดเร็ว

‘การกระทำของหลิงเทียนโฮวล้ำลึกมาก…’ หวังหลินจ้องมองร่างหลิงเทียนโฮวและครุ่นคิด

รอบด้านเงียบสนิท ไม่ว่าจะเป็นศิษย์สำนักชะตาสวรรค์หรือศิษย์ที่เหล่าเซียนเฒ่าพามา ทั้งหมดต่างตื่นตะลึง

‘ใครจะคิดว่าหวังหลินมีพลังอำนาจพอจะต่อกรหลิงเทียนโฮว!?’ ในแววตาป๋ายเว่ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น แม้แต่ตอนนี้ยังไม่เชื่อสิ่งที่เห็น

จ้าวฉิงชาใบหน้าซีดขาว สายตามองหวังหลินด้วยความหวาดกลัว เขาไม่กล้ามีเจตนาชั่วร้ายอันใดอีก

ยังมีศิษย์พี่สี่ผู้เศร้าซึมตลอดเวลา แววตางุนงงหายไปและมองหวังหลินด้วยสายตาลี้ลับ

‘หากเขาสามารถช่วยข้าได้…’ นางกัดริมฝีปากและตัดสินใจ

ไม่ใช่เพียงแค่พวกเขาเท่านั้น เกือบทุกคนที่รู้จักหวังหลินต่างก็ตกอยู่ในอาการตกตะลึง ในสายตาแต่ละคน ร่างหวังหลินจากเมื่อตอนนั้นค่อยๆผสานเข้ากับร่างชุดสีขาวที่พวกเขากำลังมองอยู่ตอนนี้

หวังหลินไม่ได้เก็บกระบี่สี่สิบห้าเล่มกลับไป สายตากวาดผ่านไปก่อนจะร่อนลงชายชราร่างภูเขาเนื้อ “ผู้อาวุโส ข้ามีคุณสมบัติใช่ไหม?”

ชายชราขบคิดเงียบๆก่อนจะพ่นลมหายใจและเอ่ยกับเทียนหยุน “สหายเซียนเทียนหยุน ข้ายังมีเม็ดยาให้หล่อหลอม ดังนั้นข้าจะไม่รบกวนท่านอีกแล้วกัน”

จากนั้นเขาตะโกนใส่ศิษย์สี่คนที่พามาด้วย “กลับสำนัก!”

ศิษย์สี่คนพยักหน้าอย่างรวดเร็ว จากนั้นพวกเขาก็เหินร่างขึ้นหายตัวออกไปไกล

ชายชราผู้ยืนอยู่บนน้ำเต้าพลางมองหวังหลินอย่างใส่ใจและหัวเราะ “สหายเซียนหวังซ่อนตัวเองได้ดีเยี่ยม ข้าถูกขนานนามว่า ฝันประหลาด หากเจ้ามีเวลาพอ ข้าขอเรียนเชิญที่ดาวความฝันของข้า” สิ้นคำพูดเขาก็คำนับฝ่ามือให้หวังหลินและจากไป

คนที่จากไปพร้อมกับเขาคือชายชราร่างผอม ตั้งแต่ต้นจนจบเขามีสีหน้าไม่ใส่ใจอันใด แม้แต่ตอนที่จากไปยังไม่กล่าวอำลาต่อเทียนหยุนสักคำ

คนสุดท้ายที่จะจากไปคือสตรีสาววัยกลางคนสุดสวย นางมองหวังหลินด้วยรอยยิ้ม “กระบี่เหินของสหายเซียนหวังเต็มไปด้วยจิตสังหาร อย่างไรเสียมันก็มีมากเกินไปจนยากจะควบคุม หากเจ้ามีเวลาพอ ข้าขอเรียนเชิญมาที่ดาวจื่อเซีย” จากนั้นนางโค้งคำนับให้แก่เทียนหยุนและจากไปพร้อมกับสตรีสาวสี่คนด้านหลัง

ตอนที่พวกนางกำลังจากไป แววตาสตรีชุดชมพูส่องประกาย นางมองหวังหลินและยิ้มออกมา “อาจารย์ข้ามีชื่อด้านการหลอม แต่ค่าใช้จ่ายไม่แพง”

“เจ้าเด็กน้อย!” สตรีคนสวยหัวเราะ อีกสามคนก็หัวเราะตามไปด้วย มีเพียงไม่กี่คนที่สังเกตได้ว่าสตรีชุดเขียวมองหวังหลินด้วยสายตาแตกต่าง

‘บางทีเขาคงลืมชื่อข้าไปแล้ว…อีกทั้งสำหรับเขามันคงเป็นเรื่องเล็กน้อยมาก แต่สำหรับข้า เขาช่วยชีวิตข้าเอาไว้…’ นางถอนหายใจ

สตรีชุดชมพูเอ่ยถามขึ้น “ศิษย์พี่เฉียนฉิน[1] มีอะไรหรือ?”

เฉียนฉินส่ายศีรษะไม่เอ่ยอันใด

ภายใต้คำสั่งของเทียนหยุน สมาชิกสำนักชะตาสวรรค์ทั้งหมดจึงกระจายตัว ในจัตุรัสไม่มีใครเลยนอกจากหวังหลินและเทียนหยุน หลังจากทุกคนจากไป หวังหลินจึงมองเทียนหยุนอย่างใจเย็น

อาจารย์และศิษย์เผชิญหน้ากันอีกครั้งหลังจากผ่านไปหลายร้อยปี

ทั้งสองคนขบคิดอยู่สักพัก เทียนหยุนจึงค่อยๆเอ่ยถาม “เจ้ามีแผนจะทำอะไร?”

“ศิษย์ต้องการเข้าไปในดินแดนวิญญาณปิศาจ” หวังหลินท่าทางเคารพ

เทียนหยุนไพล่มือไปด้านหลังพลางเอ่ยขึ้น “เจ้ามีคุณสมบัติเพียงพอ ไม่ว่าจะเป็นเทพสายฟ้าแห่งฝ่าทุกชั้นฟ้า หรือจะเป็นหนึ่งในวิหคศักดิ์สิทธิ์ของสำนักจตุรศักดิ์สิทธิ์ ตามที่ข้ารู้มา วิหคศักดิ์สิทธิ์รุ่นนี้มีเพียงแค่สามคนเท่านั้นรวมถึงเจ้าด้วย!”

หวังหลินครุ่นคิดเงียบๆ เขาไม่รู้เรื่องรุ่นของวิหคศักดิ์สิทธิ์มากนัก หลังจากได้ยินมันตอนนี้ แม้จะสั่นไหวแต่ไม่ได้เผยสีหน้าอันใดออกมา

1. เฉียนฉินถูกหวังหลินช่วยเหลือไว้ตอนที่ออกไปฝึกฝนก่อนจะเข้าไปดินแดนวิญญาณปิศาจ เขาเผชิญหน้ากับกลุ่มที่พบผลทะยานสวรรค์ สำนักของนางเป็นคนค้นพบแต่ว่าตัวเองอ่อนแอเกินไป นางจึงขอความช่วยเหลือจากสำนักกระบี่ต้าหลั ท้ายที่สุดพวกเขาก็ริบเอาไว้เองและใช้สมาชิกสำนักนางเป็นเหยื่อล่อ หวังหลินฆ่าทุกคนยกเว้นนางและยังให้ผลทะยานสวรรค์บางส่วนเอาไว้ด้วย

คงเหลือตอนพิเศษ 10 ตอน

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

error: Content is protected !!