ตอนที่ 176 : เนื้อหอม
สวนสาธารณะบัวน้ำ อยู่ติดกับเขตหมิงเย่า
เมื่อย้อนกลับไป สวนสาธารณะแห่งนี้คือสถานที่ที่หลัวฮว๋าได้พบกับเสี่ยวหนาน สวนแห่งนี้เต็มไปด้วยอากาศอันบริสุทธิ์ มันยังคงเต็มไปด้วยผู้คนที่มาเดินออกกำลังกายและเดินเล่น และยังเป็นสถานที่หลักที่กระจายข้อมูล ข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวกับหลัวเฟิง ส่วนใหญ่แพร่กระจายจากที่นี่
ตำนานของหลัวเฟิง…
เรื่องแรกคือเครื่องบินเจ็ทรูปสามเหลี่ยมที่จอดในเขตหมิงเย่า มีผู้คน
หลายๆ คนได้เล่าว่า เครื่องบินเจ็ทเจ็ทลำนี้หลัวเฟิงเป็นผู้ซื้อมา คนที่คุ้นเคยกับเครื่องบินต่างให้ความเห็นว่า หากต้องการจะใช้บริการเครื่องบินโดยสารทั่วไป จะเสียค่าใช้จ่ายมากกว่า 1 หมื่นล้าน และมีเพียงเทพสงครามที่แข็งแกร่งเป็นพิเศษ ที่จะมีสิทธิ์สามารถซื้อเครื่องบินเจ็ทรูปแบบนี้ได้
ดังนั้นมันจึงมีราคาแพงมหาศาล!
ชาวเมืองที่อยู่ใกล้เคียงคิดถึงความหมายของเงินจำนวน 1 หมื่นล้านและพวกเขาทั้งหมดก็ต้องตกตะลึง
เรื่องที่สอง ปรากฏว่า หลัวเฟิงได้กลายเป็นผู้ตรวจสอบของสำนักขีดสุดประจำเมืองเจียงหนาน! ตำแหน่งนี้หมายถึงอะไร? นี่คือตำแหน่งที่
ยิ่งใหญ่กว่าประธาน! ไม่มีใครในเมืองเจียงหนานที่มีอำนาจมากกว่าเขา แม้นายกเทศมนตรีเมืองเจียงหนาน แม้กระทั่งพลเอกของกองทัพยังต้องทำตัวสุภาพเมื่อพบเขา แน่นอนว่าคุณต้องยกนิ้วของคุณ เมื่อพูดถึงคนดังกล่าว!
เรื่องที่สาม เป็นเรื่องเกี่ยวกับสองผู้พิการที่มีชื่อเสียงในเขตหมิงเย่า หนึ่งในนั้นคือน้องชายของนักสู้อัจฉริยะหลัวเฟิง ‘หลัวฮว๋า’ เพราะความสัมพันธ์ของเขา เขาเกือบจะฆ่าตัวตายในทะเลสาบ ที่ตั้งอยู่ในสวนสาธารณะบัวน้ำแห่งนี้… เรื่องนี้เคยถูกกล่าวถึงมานานแล้ว และในขณะนี้เขาได้รับการรักษาจนหายได้ เขามีขาทั้งสองข้างเหมือนคนทั่วไป!
สำหรับผู้พิการอีกคนหนึ่งคือจางเค่อ เขาเป็นนักสู้ระดับขุนศึกที่น่านับ
ถือ มีหลายๆ คนกล่าวว่าเขาเคยสูญเสียแขนในการต่อสู้กับสัตว์ประหลาดในพื้นที่รกร้างร่วมกับหลัวเฟิง และในขณะนี้ เขามีแขนทั้งสองข้างที่อยู่ในสภาพสมบูรณ์ หลังจากนั้นข่าวยังแพร่กระจายจากเขตหมิงเย่า เนื่องจากความสัมพันธ์ของพวกเขากับหลัวเฟิง คนพิการทั้งสอง คือ ‘หลัวฮว๋า’ และ ‘จางเค่อ’ ได้รับยาที่มีคุณค่าในการรักษาขา และแขนของพวกเขา
…..
ผู้คนไม่สามารถที่จะหยุดการพูดคุยเกี่ยวกับตำนานทั้งสามของเมืองหมิงเย่าได้
แน่นอนว่าหลายคนอิจฉาพ่อแม่ของ ‘เสี่ยวหนาน’ ตอนนั้นพ่อแม่ของ
เสี่ยวหนานกีดกันความสัมพันธ์ของลูกสาวของพวกเขา ทำให้หลัวฮว๋าเกือบจะต้องตาย… แต่ในตอนนี้พ่อแม่ของเสี่ยวหนานยินดีอ้าแขนต้อนรับหลัวฮว๋า
เนื่องเพราะหลัวฮว๋าได้ซื้อวิลล่าขนาดใหญ่ในย่านที่ครอบครัวของเสี่ยวหนานอาศัยอยู่
ส่วนที่น่าตื่นตาตื่นใจที่สุดก็คือพ่อแม่ของเสี่ยวหนาน เดิมเป็นคนทั่วไป(ฐานะปานกลาง ) ใครจะคิดว่าพวกเขาจะปีนขึ้นไปถึงจุดนี้ได้!
แต่พวกเขาทุกคนล้วนรู้ดีว่า…
ทั้งหมดนี้ต้องขอบคุณชายที่ชื่อ หลัวเฟิง! เขามีอายุเพียง 19 ปี และยังคงยืนอยู่ที่จุดสูงสุดของเมืองเจียงหนาน และแม้กระทั่งทั่วโลกเขาก็ยังคงมีอิทธิพล ผู้คนในเมืองจำนวนมากต่างให้ความสนใจ โดยเฉพาะหลังจากได้ยินว่า หลัวเฟิงยังโสด
การติดต่อกับน้องชายของหลัวเฟิง จะทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงหลัวเฟิงได้
ถ้าคุณได้แต่งงานกับหลัวเฟิง แล้วลูกของคุณจะมั่นคงจะมีความสุขด้วย
…………….
เขตหมิงเย่า ห้องฝึกอบรมในชั้นหนึ่งของสำนักขีดสุด
หลัวเฟิงนั่งอยู่บนกระสวยทะยานฟ้าที่ลอยอยู่ เขาสวมชุดฝึก ขณะที่กลางอากาศตรงหน้าเขามีมีด 12 ชิ้น กำลังลอยอยู่ มีดทั้ง 12 ชิ้นบินรอบๆ ตัวหลัวเฟิงเหมือนผึ้ง บางครั้งพวกมันก็เคลื่อนที่อย่างรวดเร็ว บางครั้งพวกมันก็เคลื่อนที่อย่างช้าๆ พวกมันพุ่งตัดผ่านกันอย่างรวดเร็ว บางทีความแตกต่างเพียงแค่ 0.01 วินาทีอาจทำให้เกิดการชนกันได้
“เอาล่ะ!” หลัวเฟิงยิ้มอย่างมีความสุขเมื่อใบมีดทั้ง 12 ชิ้นของเขาหยุดและลอยอยู่ในอากาศ
หลัวเฟิงก้มศีรษะลงและมองไปที่นาฬิกาสื่อสารทางยุทธวิธีที่กำลังทำ
หน้าที่เป็นนาฬิกาจับเวลา… “3.08”
“ผ่าน!”
“ภาพที่สองของ “แคตตาลอกเทพสวรรค์” เสร็จสมบูรณ์” หลัวเฟิงมี
ความสุขมาก “ต่อจากนั้นฉันจะเริ่มฝึกวาดภาพที่สามของ “แคตตาลอกเทพสวรรค์”
ความจริงแล้วพลังทางจิตของหลัวเฟิงแทบไม่เพียงพอที่จะทำ
ให้ภาพวาดที่สองเสร็จสมบูรณ์ได้ นั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมเขาถึงใช้เวลาหลายวันกว่าจะฝึกได้สำเร็จ
และภาพวาดที่สามนี้…คือการเริ่มต้นของการฝึกฝนที่แท้จริง
“ใยไหมสีทอง!”
หลัวเฟิงมองไปที่ตาข่ายสีทองของเขา หลัวเฟิงขว้างมันออกไป และมันขยายตัวอย่างรวดเร็ว ก้อนตาข่ายที่ขดตัวขนาดเล็ก มันดูเหมือนจะเล็กมาก แต่มันก็สามารถขยายตัวได้อย่างน่าแปลกใจ ขนาดของมันหลังจากที่ขยายตัวภายในห้องฝึกฝน มันยาว 8.3 เมตรและมีความกว้าง 6.1 เมตร
ในขณะที่มันมีความหนาประมาณ 5 ม.ม.
“ปกคลุม!” หลัวเฟิงคิดกับตัวเอง
ใยตาข่ายสีทองที่ลอยอยู่คลุมลงที่พื้นด้านล่าง เหมือนกับพรมวิเศษสี
ทอง
“จับ!” ใยตาข่ายสีทองพุ่งไปปกคลุมเครื่องทดสอบแรงหมัดที่อยู่ห่าง
ออกไป
“สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อใช้ใยตาข่ายสีทองก็คือความเร็ว” หลัวเฟิงคิดกับ
ตัวเอง “ถ้าฉันอยากจะจับกุมหลีเย่าด้วยใยตาข่ายสีทอง ฉันจะต้องฝึกควบคุมมันได้อย่างรวดเร็ว คล่องแคล่ว!”
เห็นได้ชัดว่า ความเร็วที่เขาควบคุมใยตาข่ายสีทองยังไม่สามารถจะเปรียบเทียบความเร็วที่เขาควบคุมมีดบิน หรือใบมีดของกระสวยทะยานฟ้า ได้ เนื่องจากเมื่อเทียบกับสองสิ่งนี้แล้ว พื้นที่ผิวของมันใหญ่เกินไป ทำให้เกิดความต้านทานอากาศที่มากขึ้น
…..
ตลอดเช้า หลัวเฟิงอยู่ที่ชั้นหนึ่งของสำนักขีดสุด ในขณะที่เขาฝึกซ้อมในห้องฝึกส่วนตัวของเขา
สำนักขีดสุด มีขนาดกว้างขวางมากและมีนักสู้ไม่มากนักที่นั่น ดังนั้น
ประธานโจว และหัวหน้าทั้งสามจึงได้ริเริ่มสร้างห้องฝึกซ้อมแห่งใหม่
ขึ้นในชั้นหนึ่งของสำนัก พวกเขายังส่งอุปกรณ์ที่ใช้ในห้องฝึกมาจำนวนมาก เพื่อให้มันเป็นห้องฝึกที่เหมาะสำหรับการฝึกซ้อม
ห้องฝึกนี้กลายเป็นห้องฝึกส่วนตัวของหลัวเฟิง
“เฮ้ แม่ อาหารพร้อมหรือยัง?” หลัวเฟิงยิ้มขณะที่เขาผลักประตูเปิดเข้าบ้านของเขา
“เกือบแล้ว เกือบแล้วจ้า” เสียงแม่ดังมาจากในห้องครัว แม่กำลัง
ทำอาหาร โดยมีแม่บ้านคอยช่วยเธอเสมอ ในตอนนี้แม่ของเขาไม่มีงานต้องทำมากมาย เธอจึงใช้เวลาส่วนใหญ่ทำอาหาร ในขณะที่เธอว่าง เธอมักจะเล่นไพ่นกกระจอกกับแม่บ้านคนอื่นๆ ในเขตนี้ เธอค่อนข้างสบายใจ
หลัวเฟิงมองไปที่ห้องนั่งเล่น พ่อเขากำลังนั่งดูข่าวในทีวีอยู่บนโซฟา
“พี่กลับมาแล้ว” ชายหนุ่มและหญิงสาวคู่หนึ่งเดินออกมาจากห้อง
ด้านข้าง แม้ใบหน้าของชายหนุ่มจะดูซีดและเขาก็ดูผอมมาก อย่างไรก็ตามเขาก็ยังดูหล่อเหลาด้วยรูปร่างที่สูงของเขา หญิงสาวที่จับมือของเขาก้มศีรษะและยิ้มเล็กน้อย ขณะที่หยุดยืนด้านหน้าหลัวเฟิง ทั้งสองคนนี้คือน้องชายของเขาหลัวฮว๋าและเสี่ยวหนาน
“เสี่ยวหนานก็อยู่ด้วย” หลัวเฟิงยิ้มขณะที่เขาพยักหน้า “ฮว๋า น้องน่าจะพาเธอออกไปเที่ยวบ้างในช่วงบ่ายนี้”
“ตกลงพี่” หลัวฮว๋ายิ้มและพยักหน้า “โอ้ ใช่ พี่ ผมมีรูปถ่ายสาวๆ อยู่ที่นี่นิดหน่อย พวกเขาฝากเสี่ยวหนานให้นามาให้พี่ พี่น่าจะลองดู มีสาวสวยๆ มากมาย”
หลัวเฟิงรู้สึกตกใจ
“โอ้” แม่รีบร้องตะโกนดังออกมาจากห้องครัว “เมื่อตอนแม่ไปออก
กำลังกายที่สวนสาธารณะเช้านี้ มีคนหลายคนเข้ามาคุยกับแม่ด้วย แม่ก็มีรูปภาพของสาวๆ สวยๆ ซึ่งแม่เห็นว่าบางคนสวยและดูดีมาก”
หลัวเฟิงได้แต่เกาศีรษะ
นับตั้งแต่ที่เขากลับมา เรื่องแบบนี้เกิดขึ้นเสมอ
“แม่ ผมบอกแล้วว่า เราจะไม่พูดถึงเรื่องนี้อีก” หลัวเฟิงส่ายหน้าด้วย
ใบหน้าขมขื่น
“พี่ ไม่เป็นเป็นอะไรเลย พี่เพียงแค่ทำความรู้จักพวกเธอ พวกเธอดู
ฉลาด น่ารัก สดใส ถ้าพวกเธอไม่ดีพอ พวกเธอคงไม่กล้าที่จะส่งรูปมาให้แน่นอน” หลัวฮว๋ายักคิ้วขึ้น
หลัวเฟิงยังคงส่ายหัวกับข้อเสนอของน้องชายเขา
“พ่อ แม่” หลัวเฟิงรีบเปลี่ยนเรื่อง “ผมไม่ได้อยู่กินมื้อเย็นที่บ้าน ผมมี
บางอย่างที่จะทำในช่วงบ่าย”
………….
เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันเดียวกัน หลัวเฟิงนั่งเครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติของเขาและมุ่งหน้าไปยังเขตเมืองหลักจากเมืองหยางโจว
หลังจากที่เครื่องบินเจ็ทอัตโนมัติลงจอดบนหลังคาของสำนักงานสำนักขีดสุด หลัวเฟิงนั่งรถของสำนักขีดสุด ไปยังสนามบิน
ณ สนามบิน หลัวเฟิงสวมกางเกงยีนส์และเสื้อยืดสีดำ อย่างไรก็ตามภายในเสื้อยืดเป็นชุดเกราะสีดำ ซึ่งสร้างมาจากชุด ‘เกราะเทพทมิฬ ‘ และภายในชุดเกราะสีดำนี้มีใบมีด 365 ชิ้น ที่แยกตัวออกมาจากกระสวยทะยานฟ้า มันแพร่กระจายไปทั่วเกราะ
เมื่อสวมเกราะนี้ เทียบกับหลัวเฟิงพกอาวุธที่ทรงพลังที่สุดของเขา กระสวยทะยานฟ้า ประการที่สองมันปลอดภัย! ในเรื่องพลังป้องกันของชุดเกราะเทพทมิฬ อาจจะมีประสิทธิภาพมาก แต่ตามคู่มือ… วัสดุที่ใช้สร้างกระสวยทะยานฟ้า มีความทนทานกว่าชุดเกราะเทพทมิฬมากนัก!
“มาแล้ว” หลัวเฟิงมองขึ้นไป
บนท้องฟ้า แสงสีน้ำเงินเข้มพุ่งทะลุท้องฟ้าขณะที่มันมาถึง จากนั้นก็
ลอยไปตามท้องฟ้าข้างบน นี่เป็นเครื่องบินพาณิชย์ขนาดใหญ่ มันค่อยๆ ลดระดับลง จากนั้นมันก็หยุด
ติ่ง–
ประตูเปิดออกและบันไดยื่นออกมาโดยอัตโนมัติ
นอกจากหลัวเฟิงแล้ว มีคนอีกหกคนที่มาต้อนรับผู้ที่กำลังมาถึง เพื่อให้สามารถเข้ามาถึงพื้นที่จอดเครื่องบินได้ พวกเขาต้องเป็นผู้มีอำนาจรวมทั้งหลัวเฟิง
“สวีซิน” หลัวเฟิงเงยหน้าขึ้นมองไป
ผู้โดยสารจำนวนมากเดินลงบันได หนึ่งในนั้นคือหญิงสาวสวมเสื้อเชิ้ตและผ้าคลุมสีเขียวอ่อน สวมกางเกงยีนส์ ซึ่งเธอดึงดูดสายตาของหลัวเฟิง
ในช่วงฤดูร้อนที่ผ่านมาร่างกายของสวีซินเปลี่ยนแปลงไปอย่างมาก เธอสวยแล้วมีเสน่ห์ขึ้น ทำให้ตัวเธอยิ่งดูน่าสนใจมากยิ่งขึ้น
“ในโรงเรียนมัธยม สวีซินเป็นเหมือนเพื่อนบ้าน เมื่อเธอเป็นผู้จัดการที่บาร์ของพันธมิตร HR ตัวเธอให้ความรู้สึกของคนทำงานที่เป็นมืออาชีพ…” หลัวเฟิง ยอมรับว่าเขาเริ่มสนใจสวีซิน ตั้งแต่ปีแรกที่เขาเข้าเรียนมัธยม
สวีซินมองลงมาจากบันได เธอยิ้มขณะที่เธอเห็นหลัวเฟิงยืนรอที่ด้านล่าง
ผู้โดยสารยังคงเดินลงไป
เมื่อสวีซินเดินลงจากบันได เธอมุ่งหน้าตรงไปยังหลัวเฟิง เธอมีรอยยิ้มสดใส
“ฉันคิดว่าคุณจะมาไม่ได้”
“ผมไม่เคยผิดคำพูดกับคุณ” หลัวเฟิงหัวเราะ
“สวีซิน” เสียงเรียกจากด้านหลัง
หลัวเฟิงมองข้ามกลับไป เขาเห็นชายวัยรุ่นที่มีอายุประมาณ 20 ปี เดินเข้ามา เสื้อผ้าและรองเท้าของเขามีราคาแพงมาก และนาฬิกาข้อมือของเขา… ดูเหมือนจะเป็นแบรนด์ที่มีชื่อเสียง รอยยิ้มของเขาทำให้รู้สึกว่าเขาเป็นคนชั้นสูง หลัวเฟิงหันไปถามสวีซิน “ครอบครัวของคุณ?”
“ไม่ใช่” สวีซิน ตอบเบาๆ
ชายวัยรุ่นเงยหน้าขึ้นมองหลัวเฟิง เครื่องแต่งกายของหลัวเฟิงเป็นแบบทั่วไป เหมือนพวกนักศึกษาวิทยาลัยที่ใส่เดินข้างถนน ชายหนุ่มยื่นมือออกมาอย่างนุ่มนวลขณะที่เขายิ้ม ” สวัสดีครับผมชื่อซันโจว ผมไม่ทราบว่าคุณคือ…สวีซิน”
“อา หลัวเฟิง!” เสียงเรียกดังขึ้น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความดีใจ
หลัวเฟิงหันศีรษะของเขาและเห็นพี่ชายของสวีซิน สวีกังในชุดสูท ขณะที่เขาวิ่งเข้ามา และยิ้มอย่างมีความสุข หลังจากที่ได้เห็นชายหนุ่มข้างๆ เขา เขาก็ยิ้ม “ใครจะคิดว่าผมจะได้พบกับหลัวเฟิงเมื่อฉันกลับมา ฮ่าๆ นี่โชคดีมาก ซันโจว ผมจะแนะนำให้รู้จัก นี่คือแฟนของน้องสาวของผม หลัวเฟิง”