ตอนที่ 1032 รัชทายาทหญิงร่วมว่าราชกิจ 4
ท้องพระโรง เซียวเหวินอวี๋เห็นบรรดาขุนนางในราชสำนักต่างลงคุกเข่าก็รู้ว่าพวกเขารู้ความคิดของเขาแล้ว แต่เห็นขุนนางทุกคนลงคุกเช่นนี้ พวกเขาคงจะคัดค้านการแต่งตั้งองค์หญิงสามเซียวหวงเป็นรัชทายาทหญิง
เซียวเหวินอวี๋ตัดสินใจจะแต่งตั้งเซียวหวงเป็นรัชทายาทหญิงนานแล้ว และรู้ว่าต้องเจอกับการคัดค้านเช่นนี้ แต่โบราณกาลมา ให้ค่าชายด้อยค่าหญิง หากผู้หญิงได้ขึ้นสู่ตำแหน่งรัชทายาทหญิง แคว้นต้าโจวย่อมถูกคนต่อต้าน แต่เซียวเหวินอวี๋เตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนหน้านี้แล้ว
ยามนี้เห็นขุนนางในท้องพระโรงลงคุกเข่า ก็คิดจะเอ่ยต่อ
องค์หญิงสามเซียวหวงข้างกายเขาปล่อยมือเขา ก้าวเดินไปที่กลางท้องพระโรง
เซียวเหวินอวี๋เห็นบุตรสาวเช่นนี้ ก็รู้ว่านางมีวาจาคิดเอ่ย จึงมิได้ห้าม
เขาหันหน้าไปมองบุตรสาวที่ตนเองบรรจงอบรมมาด้วยตนเอง นี่คือเรื่องจริง หวงเอ๋อร์เกิดมาเพื่อเป็นรัชทายาทหญิงแห่งแคว้นต้าโจว กิริยาท่าทางสง่าราศีไม่เพียงแต่สูงส่งตามแบบฉบับราชนิกุล แต่ยังมีบารมีน่าเกรงขามในแบบฉบับผู้ดำรงตำแหน่งปกครองสูงสุด
นางก้าวเดินจากบันไดลงมา เปล่งรัศมีที่มีเพียงผู้ปกครองสูงสุดแห่งแคว้นจะเปล่งประกายออกมาได้ ด้วยแววตานิ่งสุขุม
“ทุกท่านกำลังคัดค้านที่เสด็จพ่อจะแต่งตั้งข้าเป็นรัชทายาทหญิงหรือ”
องค์หญิงสามน้ำเสียงกระจ่างใสราวกับระฆังทอง ทำให้ผู้คนอดรู้สึกว่าถูกบารมีนางข่มทับไม่ได้ แต่ละคนต่างรู้สึกหวั่นในใจขึ้นมาด้วยสัญชาตญาณ แต่ไรมาพวกเขาล้วนรู้ว่าองค์หญิงสามฉลาดปราดเปรื่องและรูปงาม ทว่าแต่ไรมาไม่เคยสังเกตเห็นว่าว่าองค์หญิงสามมีบารมีน่าเกรงขามตามแบบฉบับผู้ปกครองสูงสุดเช่นนี้ แค่ได้ยินเสียงนางก็ทำเอาทุกคนต่างมีความรู้สึกอยากยอมสยบให้แก่นาง
เพียงแต่พอคิดถึงสถานะองค์หญิงสาม ขุนนางทุกคนก็พยายามระงับความแตกตื่นในใจ วังโส่วฝู่กำลังคิดเอ่ย ไม่คิดว่าองค์ชายรองในท้องพระโรงกลับตะโกนดังขึ้นก่อนอย่างไม่อาจระงับตนเองได้
“น้องสามเจ้าพูดอันใด”
องค์หญิงสามหันไปมององค์ชายรอง หรี่ตายิ้มเล็กน้อย งดงามดังเทพธิดาบนสรวงสวรรค์
แต่ในแววตานางกลับไร้ซึ่งความอบอุ่น ยังแฝงไปด้วยความดูแคลน กล่าวตามตรง ความจริงองค์หญิงสามก็อยากให้เสด็จพี่รองขึ้นสู่ตำแหน่งรัชทายาทแคว้นต้าโจว นางจะได้เป็นองค์หญิงที่มีความสุขไม่ดีกว่าหรือ
น่าเสียดายเสด็จพี่รองไม่อาจเชิดหน้าชูตาได้จริงๆ เรื่องที่ทำแต่ละเรื่องก็ไม่เอาไหน ช่างราวกับเศษสวะเสียจริง
ก่อนหน้านี้นางเคยชี้แนะเขาหลายครั้ง ให้เขาศึกษาเล่าเรียนให้ดี ปรากฏว่าเจ้าหมอนี้รู้จักแต่หลับนอนกับสตรี ไม่สนใจวาจานางแม้แต่น้อย ทำตนเช่นนี้ยังคิดเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว ฝันไปเถอะ แม้เสด็จพ่อกับพวกนางเห็นด้วย ขุนนางในราชสำนักก็คงไม่เห็นด้วยที่จะแต่งตั้งเขาเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว
ขุนนางในราชสำนักไม่เห็นด้วยที่จะแต่งตั้งองค์ชายรองเป็นรัชทายาท เสด็จแม่นางก็มิได้มีบุตรชาย เช่นนั้นตามความคิดของขุนนางในราชสำนัก จึงต้องการให้เสด็จพ่อแต่งตั้งพระสนม นางมองออกว่าเสด็จพ่อรักเสด็จแม่มาก ไม่มีทางยอมให้ผู้ใดทำร้ายจิตใจเสด็จแม่ได้อย่างเด็ดขาด ดังนั้นนางจึงขอแบกรับภาระนี้ไว้เอง
องค์หญิงสามมององค์ชายรองด้วยแววตาใสกระจ่าง องค์ชายรองเห็นรูปโฉมน้องสาวงดงามเช่นนี้ พลันมองอย่างตื่นตะลึง องค์หญิงสามมองแววตาเขาก็รู้ความคิด นึกรังเกียจขึ้นมาทันที เอ่ยว่า “เสด็จพี่รองคิดว่าข้าเทียบกับเสด็จพี่รองแล้วเป็นอย่างไร”
องค์ชายรองพลันได้สติ เขาจะโง่เง่าเพียงใดก็ย่อมรู้ว่าตนเองเทียบกับน้องสาวผู้นี้ไม่ได้ น้องสาวได้รับการอบรมจากเสด็จพ่อ ฮองเฮา และคนเลวที่เมืองหนิงโจวพวกนั้น
มิผิด ในใจองค์ชายรอง เซี่ยอวิ๋นจิ่นกับลู่เจียวเมืองหนิงโจวล้วนเป็นคนเลว เพราะพวกเขา เสด็จแม่จึงได้ถูกเสด็จพ่อพระราชทานสุราพิษ หากไม่ใช่พวกเขา เสด็จแม่ก็คงดำรงพระชนม์ชีพอยู่ ได้ยินว่าเสด็จแม่รักเขามาก หากนางยังอยู่ เขาคงได้รับการแต่งตั้งเป็นรัชทายาทไปนานแล้ว
ยามนี้องค์ชายรองลืมเสด็จพี่ใหญ่ตนเองไปหมดสิ้น
องค์ชายรองคิดพลางมององค์หญิงสาม เอ่ยเตือนว่า “น้องสาม เจ้าว่าอันใด เจ้าเป็นหญิง จะเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจวได้อย่างไร ผู้หญิงก็ควรอยู่แต่ในบ้านปรนนิบัติติดตามสามี เจ้าอย่าได้คิดเรื่องเหลวไหลเลอะเทอะ”
องค์หญิงสามยิ้มละไม ค่อยๆ กล่าวว่า “เสด็จพี่รองหมายความว่า แม้เสด็จพี่เป็นดังเศษสวะ แต่เพราะทรงเป็นองค์ชาย ก็ควรได้ขึ้นดำรงตำแหน่งรัชทายาทแคว้นต้าโจว แม้วันหน้าแคว้นต้าโจวถูกเสด็จพี่ทำลายหมดสิ้นก็ได้อย่างนั้นหรือ”
เซียวหวงกล่าวจบก็หันไปมองขุนนางในราชสำนักที่คุกเข่ากันอยู่เต็มท้องพระโรง เอ่ยขึ้นว่า “หรือพวกท่านต่างคิดว่า แม้เป็นเศษสวะ แต่ขอเพียงเขาเป็นองค์ชาย ก็เป็นรัชทายาทได้ แม้วันหน้าเขาทำลายแคว้นต้าโจวย่อยยับ พวกท่านก็จะยังคงยืนยันให้เขาขึ้นสู่ตำแหน่งรัชทายาทหรือ”
กล่าวจบ ใต้เท้าวังโส่วฝู่กับใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่ในท้องพระโรงรีบพากันออกมาทูลว่า “องค์หญิงสามกล่าวเช่นนี้เกินไปสักหน่อย กระหม่อมไม่เห็นด้วยกับการที่องค์ชายรองจะเป็นรัชทายาทแห่งแคว้นต้าโจว องค์ชายรองไร้ความสามารถ ไม่คู่ควรเป็นรัชทายาทแห่งแคว้นต้าโจว”
ใต้เท้าฟางรองโส่วฝู่รีบสำทับต่อว่า “แม้ว่ากระหม่อมไม่เห็นด้วยกับการแต่งตั้งองค์หญิงสามเป็นรัชทายาทหญิงแห่งแคว้นต้าโจว แต่เทียบกับองค์ชายรองแล้ว องค์หญิงสามก็ไม่เลว เพียงแต่แคว้นต้าโจวไม่เคยมีรัชทายาทหญิงมาก่อน และสตรีควรอยู่แต่ในเรือนปรนนิบัติติดตามสามีจึงจะถูกต้องตามคำสอนของปราชญ์เมธี หากแคว้นต้าโจวเราแต่งตั้งองค์หญิงสามเป็นรัชทายาทหญิง ย่อมต้องถูกแคว้นอื่นหัวเราะเยาะว่าแคว้นต้าโจวเราไร้สามารถ การให้สตรีเป็นฮ่องเต้ แสดงให้เห็นว่าแม่ไก่อาสาขันแทนพ่อไก่ ไม่ถูกต้องตามหลักการฟ้าดิน”
โส่วฝู่และรองโส่วฝู่กล่าวจบ ขุนนางในราชสำนักต่างพากันออกมาแสดงความไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ ถึงกับมีคนกล่าวว่าผิดหลักการฟ้าดิน อาจก่อให้เกิดเภทภัยหายนะได้
องค์ชายรองเห็นองค์หญิงสามถูกขุนนางเอ่ยเยาะเสียดสีเช่นนี้ ในใจเขาก็ดีใจมาก เพียงแค่พอคิดถึงว่าคนเหล่านี้ไม่ยอมรับเขาเช่นกัน เขาก็โมโหอย่างมาก
เห็นอยู่ว่าแคว้นต้าโจวมีเขาเป็นองค์ชายเพียงหนึ่งเดียว ถือสิทธิ์อันใดไม่ให้เขาขึ้นดำรงตำแหน่งรัชทายาท
องค์ชายรองเชื่อมั่นในตนเองอย่างไม่ลืมหูลืมตา รู้สึกว่าสุดท้ายตนเองจะยังคงได้ขึ้นดำรงตำแหน่งรัชทายาทแห่งแคว้นต้าโจว ดังนั้นตาแก่ที่คัดค้านเขาเหล่านี้ สุดท้ายเขาจะไม่ปล่อยไปแม้แต่คนเดียว
องค์ชายรองครุ่นคิดอย่างเจ็บแค้น
องค์หญิงสามไม่ได้โมโหเพราะถูกขุนนางในราชสำนักคัดค้าน ในทางกลับกันนางยังดำรงท่าทีนิ่งสุขุมอมยิ้มเอ่ยว่า “ทุกท่านไม่เห็นด้วยที่จะแต่งตั้งข้าเป็นรัชทายาทหญิง แต่เสด็จแม่ข้าก็ไม่อาจให้กำเนิดองค์ชาย เช่นนั้นตามความเห็นใต้เท้าทุกท่าน เสด็จพ่อข้าจำต้องรับพระสนมให้กำเนิดองค์ชาย ข้าขอลองคาดเดา ทุกท่านคิดให้บุตรีตนเองเข้าวังมาเป็นพระสนม จากนั้นก็ให้กำเนิดองค์ชายสายโลหิตตระกูลพวกท่าน เช่นนี้พวกท่านก็นับได้ว่าถือครองตำแหน่งฮ่องเต้แคว้นต้าโจวไปด้วยใช่หรือไม่ คิดจะเข้าแทนที่ราชวงศ์หรือ”
วาจานี้เอ่ยออกมาทำเอาทุกคนในท้องพระโรงสีหน้าแปรเปลี่ยน แม้ว่าทุกคนต่างมีความคิดเช่นนี้ แต่พอถูกองค์หญิงสามเอ่ยออกมาอย่างเปิดเผยเช่นนี้ นับเป็นการจี้ใจดำทุกคนอย่างแท้จริง
แต่องค์ชายรองได้ฟังองค์หญิงสาม กลับคล้ายจับจุดอ่อนบรรดาขุนนางได้ ตะโกนดังขึ้นว่า “เยี่ยม มิน่าพวกท่านเอาแต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้ข้าเป็นรัชทายาทแคว้นต้าโจว ที่แท้คิดวางแผนเช่นนี้ แผ่นดินตระกูลเซียวข้า พวกเจ้าท่านก็คิดหมายปองหรือ ชั่วร้ายจริง”
“ข้าก็ว่า เห็นอยู่ว่าแคว้นต้าโจวมีข้าเป็นองค์ชายหนึ่งเดียว พวกท่านกลับไม่เห็นด้วยที่จะให้แต่งตั้งข้าเป็นรัชทายาท ที่แท้กำลังรออยู่นี่เอง”
สีหน้าขุนนางในราชสำนักพลันดำคล้ำ เจ้าโง่เง่านี้พูดจาอันใดกัน