ตอนที่ 1055 ทายา
ใต้เท้าฟู่เดินเข้าไปหยิบตราประทับรัชทายาทไปที่หน้าประตูขอความช่วยเหลือจากรัชทายาทอย่างตื่นเต้นยินดี
ยามนี้เซียวหวงกำลังนั่งคุยกับฮองเฮาอยู่
ฮองเฮาสีพระพักตร์เคร่งขรึมมองบุตรสาว “หวงเอ๋อร์ เจ้าชอบฟู่หลินผู้นั้น คิดแต่งกับเขาหรือ”
เซียวหวงอึ้งไปทันที เงยหน้าขึ้นมองเสด็จแม่พลางยิ้มกล่าวว่า “เสด็จแม่ ท่านคิดอันใดอยู่ ข้าเพียงแต่เห็นฟู่หลินเป็นดังน้องชาย”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนได้ฟังก็กล่าวจริงจังว่า “หากเจ้าเห็นคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นี้เป็นน้องชายจริง วันหน้าก็ต้องรักษาระยะห่างกับเขาให้เหมาะสม วันนี้เสด็จแม่ได้ยินว่าพวกเจ้าจูงมือกันเดินเที่ยวรอบโรงบ้านหลวง หากเรื่องนี้แพร่ออกไป ผู้อื่นจะคิดเยี่ยงไร ย่อมคิดว่าเจ้าคิดเลือกฟู่หลินเป็นราชบุตรเขย หากเจ้าไม่คิดแต่งกับเขา ก็อย่าได้ทำให้ผู้อื่นคิดเช่นนี้ วันหน้าเจ้าจะมีราชบุตรเขย เขาจะคิดถึงความสัมพันธ์ระหว่างพวกเจ้าเยี่ยงไร จะเสียใจหรือไม่”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวจบก็กล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ก่อนหน้านี้เจ้าบอกเสด็จแม่ว่า คิดอยากมีคู่ครอง เสด็จแม่หวังว่าเจ้าจะไม่ทำให้คู่ครองเจ้าเสียใจ หากเสด็จพ่อทำกับผู้อื่นเช่นนี้ เจ้าว่าเสด็จแม่จะเสียใจหรือไม่”
พอซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเอ่ย เซียวหวงก็เริ่มมองเห็นปัญหานี้
จริง
เมื่อก่อนเพราะนางเก็บฟู่หลินได้ นางจึงชินกับการเริ่มก่อน ภพนี้ เสด็จแม่เสด็จพ่อไม่รู้เรื่องพวกนี้ คนนอกก็ไม่รู้ว่า พวกเขาสนิทสนมกัน ย่อมทำให้ผู้อื่นวิพากษ์วิจารณ์
เซียวหวงแสดงท่าทีว่า “เสด็จแม่วางใจ วันหน้าหม่อมฉันจะระวัง”
“อืม เสด็จแม่เชื่อว่าเจ้ารู้หนักเบา”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนกล่าวจบก็ถามเซียวหวงว่า “วันนี้ในบรรดาคุณชายตระกูลสูงศักดิ์เหล่านั้น เจ้าพึงพอใจผู้ใด ผู้ใดเหมาะสมเป็นคู่ครองของเจ้า”
เซียวหวงพอได้ฟังซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนถามก็รีบขมวดคิ้วไม่พอใจ กล่าวว่า “ข้าไม่ถูกใจคนพวกนั้นสักคน พวกเขาล้วนหวาดกลัวข้า คนเช่นนี้ข้าจะแต่งมาทำอันใด ข้าต้องการคนที่ไม่กลัวข้า ชอบข้า”
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนได้ฟังก็ไม่ได้ตำหนินาง กล่าวว่า “เช่นนั้นเสด็จแม่ก็จะเลือกให้ใหม่ อย่างไรก็ต้องเลือกคนที่ทำให้เจ้าพึงพอใจ”
เซียวหวงดีใจ “เพคะ”
นางเพิ่งกล่าวจบ นอกพระตำหนักนางข้าหลวงใหญ่ชิงฉางก็เดินเข้ามารายงาน “รัชทายาท องครักษ์หน้าประตูวังมารายงานว่า ใต้เท้าฟู่นำตราประทับรัชทายาทมาขอความช่วยเหลือหน้าประตูวัง คุณชายใหญ่ฟู่ถูกคนทำร้ายบาดเจ็บสาหัส ดูท่าจะไม่ค่อยไหวแล้ว ขอให้รัชทายาทส่งหมอหลวงไปตระกูลฟู่ตรวจอาการเพคะ”
เซียวหวงได้ยินก็หน้าถอดสี ไม่พูดไม่จาสักคำก็เดินออกไปทันที
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนเห็นแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ เช่นนี้ยังบอกว่าไม่ชอบเขา บุตรสาวนางช่างโง่งมจริง
แต่คุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นี้แท้จริงเหมาะสมกับการเป็นราชบุตรเขยหรือไม่
ซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยนไม่แน่ใจ ประการแรก สถานะตระกูลฟู่ต่ำต้อย ประการที่สอง คุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นี้ไม่มีความสามารถแม้แต่น้อย
นางอยากเลือกคนที่รักหวงเอ๋อร์และมีความสามารถปกป้องนางได้ วันหน้าอยู่เคียงข้างนาง ก็จะปกป้องนางได้
เห็นได้ชัดว่าคุณชายใหญ่ตระกูลฟู่ผู้นี้ทำไม่ได้ เขาเช่นนี้จะเป็นภาระของหวงเอ๋อร์
เซียวหวงไม่รู้ความคิดของซั่งกวนอวิ๋นเยี่ยน ยามนี้นำคนมาถึงนอกประตูวังหลวงอย่างร้อนใจ
ใต้เท้าฟู่เห็นรัชทายาทก็รีบถวายบังคมนอบน้อม “ถวายบังคมรัชทายาท”
เซียวหวงยกมือให้เขาลุกขึ้น ถามว่า “ฟู่หลินเป็นอย่างไรบ้าง”
แม้ว่าใต้เท้าฟู่เป็นเพียงขุนนางระดับห้า แต่ก็อยู่ในแวดวงขุนนางมาหลายปี พูดจาก็มีกลยุทธ์อยู่บ้าง เขาทูลอย่างนอบน้อมว่า “ตอนเขากลับออกมาจากโรงบ้านหลวง ถูกคนขวางทางรุมทำร้ายแล้วถูกส่งกลับมา ก็พบว่าบาดเจ็บสาหัสมาก กระหม่อมร้อนใจมาก เขาให้กระหม่อมนำตราประทับรัชทายาทมาขอให้รัชทายาทช่วยส่งหมอหลวงไปรักษาให้เขาสักหน่อย”
พอใต้เท้าฟู่เอ่ยว่าตอนฟู่หลินออกจากโรงบ้านหลวงก็ถูกคนรุมทำร้ายอย่างหนัก เซียวหวงก็พอเดาออกว่าคนที่ลงมือกับฟู่หลินน่าจะเป็นพวกคุณชายตระกูลสูงศักดิ์เหล่านั้น เซียวหวงอดโมโหไม่ได้ พวกเขาเห็นนางก็หวาดกลัวราวกับกุ้งขดตัว ไม่กล้าแม้แต่จะเข้าใกล้ คล้ายว่านางจะเอาชีวิตพวกเขาอย่างนั้น
ปรากฏนางไปเดินเล่นรอบโรงบ้านหลวงกับฟู่หลิน พวกเขาก็โมโห แต่กลับไปลงที่ฟู่หลิน
ยามนี้เซียวหวงไม่ได้คิดสงสัยแม้สักนิดว่าฟู่หลินจงใจทำเช่นนี้ เพราะแม้ว่าภพก่อนฟู่หลินร้ายกาจ แต่ชาติภพนี้เพิ่งจะฟื้นขึ้นมา จะไปมีความสามารถอันใดได้
เซียวหวงคิดไปก็สั่งการชิงฉาง “ไปตามหมอหลวงมาท่านหนึ่ง ตามเราไปตระกูลฟู่ เราไปตระกูลฟู่ก่อน”โนเวลพีดีเอฟ
“เพคะ รัชทายาท”
ชิงฉางไปตามหมอหลวง เซียวหวงนำคนเดินทางไปตระกูลฟู่ แววตาใต้เท้าฟู่ส่องประกาย รัชทายาทคล้ายว่าให้ความสำคัญกับบุตรชายตระกูลพวกเขาจริง ตระกูลพวกเขาจะมีคนได้เป็นราชบุตรเขยกับเขาแล้ว วันหน้ายังอาจได้ดำรงตำแหน่งพระสวามีฮ่องเต้หญิง
ตระกูลฟู่
เซียวหวงเห็นฟู่หลินเช่นนี้ก็เปล่งรัศมีรอบกายดังเปลวไฟลุกโชน แทบจะรีบส่งคนไปสืบว่าเป็นฝีมือผู้ใดทำกับฟู่หลินเช่นนี้ นางต้องจัดการคนพวกนั้นให้หนัก
แต่ฟู่หลินดึงมือนางมาปลอบใจว่า “รัชทายาท กระหม่อมไม่เป็นอันใด อย่าได้ทรงเป็นห่วง”
เพราะมีคนตระกูลฟู่อยู่ด้วย ดังนั้นฟู่หลินไม่ได้เรียกเซียวหวงว่าอาหวงเหมือนยามอยู่กันลำพัง แต่เรียกนางว่ารัชทายาท
เซียวหวงรู้สึกอึดอัดกับคำเรียกขานนี้ แต่ก็มิได้ห้ามเขา พวกเขาตอนนี้ไม่ใช่พี่น้องในสำนักเซียวเหยาภพก่อนแล้ว
เซียวหวงคิดไปก็เอ่ยอย่างเย็นเยียบไปว่า “เราจะต้องสืบให้กระจ่างว่าผู้ใดส่งคนมาทำร้ายเจ้า เราจะต้องแก้แค้นให้เจ้า เจ้าอย่าได้เป็นห่วงไป”
ฟู่หลินสีหน้าซีดพยักหน้า “ขอบพระทัยรัชทายาท”
วาจาน้ำเสียงสลด เซียวหวงไม่ทันได้พูดอะไรต่อ นอกประตู ชิงฉางก็พาหมอหลวงมาถึง
“รัชทายาท หมอหลวงมาถึงแล้วเพคะ”
ผู้ที่มาก็คือหมอหลวงฉี หัวหน้าหมอหลวงในวัง หมอหลวงฉีถวายบังคมเซียวหวงก่อน จากนั้นจึงค่อยตรวจดูอาการฟู่หลิน
หลังจากตรวจแล้วก็พบว่าตามตัวฟู่หลินเป็นเพียงอาการบาดเจ็บภายนอก แต่เพราะเดิมสุขภาพเขาอ่อนแอ พื้นฐานเดิมไม่ค่อยดี ตอนนี้ถูกคนรุมทำร้ายอีก จึงต้องบำรุงให้ดี
“ทูลรัชทายาท คุณชายฟู่ไม่มีอันตรายถึงแก่ชีวิต แต่สุขภาพเดิมเขาไม่ค่อยดี ตอนนี้ได้รับบาดเจ็บอีก ดังนั้นจึงรู้สึกอ่อนแรง ต้องบำรุงดูแลให้ดี”
เซียวหวงกล่าวน้ำเสียงหนักแน่นว่า “ท่านหมอฉีรักษาให้เขาด้วย ไม่ว่าสมุนไพรล้ำค่าอันใดล้วนนำมาใช้ได้ทั้งหมด”
“พ่ะย่ะค่ะ”
หมอหลวงฉีหยิบยาทาแผลชั้นดีออกมาส่งให้คนตระกูลฟู่ จากนั้นก็เดินออกไปเขียนใบสั่งยา
ใต้เท้าฟู่ถือยาทาภายนอกไว้แล้วก็มองรัชทายาทและมองไปยังฟู่หลินบนเตียง
สุดท้ายเขาคิดตามบ่าวรับใช้เขามาทายาให้ฟู่หลิน แต่กลับถูกเซียวหวงยื่นมือรับมา “ข้าทายาให้เขาเอง”
ใต้เท้าฟู่กับฮูหยินฟู่รีบให้ทุกคนในห้องออกไป สุดท้ายแม้แต่นางข้าหลวงใหญ่ทั้งสี่ของเซียวหวงก็ต้องถอยออกไป ความจริงพวกชิงฉางไม่คิดออกไป เพราะพวกนางได้ยินฮองเฮาบอกว่า รัชทายาทไม่คิดแต่งกับคุณชายฟู่ เช่นนั้นก็ต้องรักษาระยะห่างจากคุณชายฟู่
แต่เห็นสีหน้ารัชทายาท พวกนางก็ไม่กล้าคัดค้านได้แต่ถอยออกไป
ในห้องฟู่หลินเอ่ยขึ้นว่า “อาหวง ข้าทายาเอง”
เขาพยายามเอ่ยอย่างอ่อนแรง เซียวหวงแค่นเสียงฮึเยียบเย็นไม่พอใจทันที สั่งว่า “เอาละ นอนลง ข้าจะทายาให้เจ้า”
ฟู่หลินรีบเขยิบตัวเข้าหาเซียวหวงอย่างว่านอนสอนง่ายทันที ให้นางทายาให้เขา ตอนทาหน้ายังดี แต่ตอนทาตัว ฟู่หลินก็ไม่ยินยอม เพราะเขานึกได้ว่าร่างกายเขาผอมแห้งมาก ไม่ได้งดงามแม้สักนิด เขาเช่นนี้จะให้อาหวงเห็นได้อย่างไร
“บนตัวข้าไว้ให้บ่าวทาให้ก็ได้”
เซียวหวงกลับไม่สนใจเขา กล่าวว่า “เอาละ ข้าทายาให้เจ้าเอง บ่าวรับใช้ไม่รู้หนักเบา”ดฯฌซ,ฑ๊โฌฮฤ
เซียวหวงประคองฟู่หลินขึ้นมา ถอดเสื้อผ้าตัวนอกให้เขาอย่างระมัดระวัง เผยให้เห็นร่างผอมบาง ไม่มีเนื้อหนังสักเท่าไร ฟู่หลินรู้สึกเขินอายมาก แก้มแดงเถือกไปหมด แต่เพราะบาดแผลบนใบหน้าเขา ดังนั้นเซียวหวงจึงมองไม่ออก
ยามนี้เพราะฟู่หลินบาดเจ็บ นางจึงโมโหมาก ไม่ทันได้สังเกตอันใด
“ฟู่หลิน เจ้าวางใจ พี่สาวจะสืบให้ได้ว่าผู้ใดรุมทำร้ายเจ้า พี่จะจัดการพวกเขาเอง”
ฟู่หลินรับคำเบาๆ พลางครางเบาๆ น้ำเสียงครางทั้งล่อลวงและสะกิดหัวใจ
เริ่มแรกเซียวหวงไม่ทันได้สนใจ แต่ฟู่หลินครู่หนึ่งก็คราง ครู่หนึ่งก็ส่งเสียงเบาๆ สุดท้ายนางจึงได้พบว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“เจ็บ เบาหน่อย”
“โอ๊ย เจ็บ”