ตอนที่ 366 ข้าอยากร้องไห้ก็ร้องไห้
ลู่เจียวได้ฟังเซียอวิ๋นจีนก็เงยหน้ามองเขาทันที พัฒนาการนี้เร็วไปหน่อยไหม พวกเขาเพิ่งจะตัดสินใจให้โอกาสกันและกันเองนะ
เล่น”
ลู่เจียวตัดสินใจแสดงจุดยืนตนเองให้แน่ชัด อย่าได้วันทั้งวันเช้าจรดเย็นเอาแต่คิดเรื่องพวกนี้
เพียงแต่นางไม่ทันได้พูดอะไร เซี่ยอวิ๋นจีนก็หัวเราะขึ้นก่อน “เจียวเจียว ทําไมเจ้าดูเอาจริงเอาจังอย่างนี้ ข้าล้อเจ้า
กล่าวจบรอยยิ้มก็ยิ่งฉีกกว้าง ลู่เจียวแน่นเสียงเยียบเย็น ถลึงตาใส่เขาก่อนจะหันหลังเดินออกไปสั่งหลินตงว่า “ รีบไปเตรียมน้ําร้อนเข้ามา ข้าจะอาบน้ําให้คุณชายด้วยตนเอง”
ก็แค่อาบน้ําไหม ผู้ใดกลัวผู้ใดกันแน่
ในห้องเชียอวิ๋นจีนได้ยินลู่เจียวกล่าวเช่นนี้ก็อึดอัดขึ้นมาทันที ใบหน้าหล่อเหลารูปงามเห่อร้อนแดงไปหมด รอจน ลู่เจียวเข้ามา เขาก็แอบหลบตาไม่กล้ามองหน้าลู่เจียว
อาบนํ้าให้เขาด้วยตนเอง เขาคิดภาพแล้วก็ไม่กล้าคิดต่อ
ลู่เจียวสั่งการให้หลินดงเอาถังไม้ใบใหญ่เข้ามาในห้อง เทน้ําร้อนลงไปครึ่งถัง จากนั้นนางก็เดินไปข้างเตียงด้วย สีหน้าเป็นปกติ ก้มลงจะอุ้มเหี่ยอวิ๋นจิ้นไปนั่งถังอาบน้ํา
เซียอวิ๋นจีนโดนธนูยิงที่หัวไหล่ ขอเพียงไหล่ไม่โดนน้ําก็พอ ที่อื่นไม่เป็นไร เพียงแต่คิดถึงว่าลู่เจียวจะอาบน้ําให้เขาด้วยตนเอง เขาก็รู้สึกยอมแพ้ขึ้นมาทันที
“เจียวเจียว ย่าอาบเอง เจ้าออกไปเถอะ”
ลู่เจียวมองเขากลั้นยิ้มกล่าวว่า “ไม่ใช่ว่าหยอกล้อขาหรือ ผู้ใดหยอกล้อผู้ใดกัน” เชี่ยอวินจีนรีบรับผิด ล้วนเป็นข้าผิดเอง ไม่ควรหยอกล้อเจียวเจียว”
ลู่เจียวแค่นเสียง อย่างพึงพอใจ กล่าวว่า “เอาละ เจ้าอาบเองแล้วกัน ข้าก็จะไปอาบน้ําเหมือนกัน ไว้จะมาคุย เป็นเพื่อนเจ้า”
เชี่ยอวินจิ่นได้ฟังคําพูดนาง ก็รีบรับค่าด้วยสีหน้ายินดียิ่ง “ได้ ข้ารอเจ้า”
ลู่เจียวไม่สนใจเขา หันหลังออกไป ด้านนอกประตูหลินดงกําลังเฝ้าอยู่ ลู่เจียวให้หลินตงเข้าไปประคองเซี่ยอวิ๋น นลง งอาบนํ้า ก่อนจะหันหลังกลับไปเรือนด้านหลัง
เรือนด้านหลัง ลู่กุ้ยกําาลังกล่อมเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ให้นอน พอเห็นลู่เจียวกลับมา กุ้ยก็ร้องไห้ทันที ยื่นมือไปดึงมือ ลู่เจียวไว้
พี่เจียว พี่ทําข้าตกใจหมดเลย”
วันนี้เขาเอาแต่ดูแลเจ้าหนูน้อยทั้งสี่ จนลืมไปว่าตนเองก็กลัว ตอนนี้มาคิดให้ดี ในใจก็รู้สึกหวาดกลัวมาก
“พี่เจียว พวกเรากลับบ้านกันเถอะ ที่ น่ากลัวมาก”
ลู่เจียวไร้วาจาจะกล่าว มุมปากกระตุกมองน้องชายที่ตกใจจนมีสภาพเช่นนี้
“ได้ วันหน้าไม่เสี่ยงภัยแล้ว เอาละ อีกอย่าง เจ้าน่ะเป็นผู้ชาย อย่าเอะอะก็ร้องไห้ ใช้ได้ที่ไหน อายุใกล้จะแต่ง ภรรยาแล้วนะ”
ลู่กุ้ยปาดน้ําตากล่าวอย่างไม่พอใจว่า “ข้าแต่งภรรยากับข้าร้องไห้เกี่ยวอะไรกัน หรือว่าแต่งภรรยาก็ห้ามร้องไห้ ข้าอยากร้องบ้าก็ร้อง”
“ได้ได้ เจ้าร้อง เจ้าร้อง”
ลู่เจียวพูดกับเขาอีกสองสามคําก่อนจะให้เขากลับไปนอน กุ้ยหันหลังจะกลับไปเรือนด้านหน้า อู่เจียวจู่ๆ ก็เรียก เขาไว้ ยิ้มมองเขากล่าวว่า “กุ้ย ข้าไม่เป็นไรหรอก อย่าได้เป็นห่วง”
“อืม จ่าไว้ว่า รับปากข้าแล้ว วันหน้าไม่เสี่ยงภัยแล้ว หากพี่เป็นอะไรไป เกรงว่าท่านแม่คงทนรับไม่ไหว”
ลู่เจียวพยักหน้ามองส่งลู่กุ้ยไปเรือนด้านหน้า
ลู่กุ้ยไปแล้ว เฝิงจือกับหลิวอันหลิ่วสองคนก็วิ่งเข้ามาร้องไห้ ลู่เจียวปลอบใจอย่างอดทน อย่างไรทุกคนก็คิดถึง นาง คงไม่อาจโมโหใส่ได้กระมัง
ลู่เจียวอาบน้ําเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วก็สดชื่น นางไปเรือนด้านหน้าคุยเป็นเพื่อนเซียอวิ๋นจิ้น “คืนนี้ข้าจะเฝ้าดูอาการบาดแผลธนูบนตัวเจ้าเอง เผื่อว่าเจ้าจะมีไข้ตอนเที่ยงคืน”
ลู่เจียวกล่าวจบก็เตรียมจะนอนบนเก้าอี้นอนในห้องเซี่ยอวิ๋นจิ้นเหมือนก่อนหน้านี้
เพียงแต่นางยังไม่ทันได้เอนตัวลงนอน เซียอวนจีนบนเตียงก็เอ่ยว่า “เจ้านอนบนเก้าอี้นอนไม่สบาย มานอนบนเตียงเถอะ
เตียง
เชียอวินจิ่นกล่าวจบก็จ้องมองลู่เจียว
ลู่เจียวไม่สนใจเขา ยังคงคิดจะนอนบนเก้าอี้นอน ไม่คิดว่าเซียอวนจิ้นบนเตียงจะพยายามคิดลงจากเตียง
ลู่เจียวรีบเดินเข้าไปถามเขา เจ้าจะหาอะไร”
“ในเมื่อเจ้าไม่ยอมนอนกับข้า งั้นข้าก็ไปนอนเก้าอี้นอน เจ้านอนเตียงเถอะ”
ลู่เจียวไหนเลยจะเห็นด้วย ยืนยันปฏิเสธหนักแน่น กล่าวว่า “มีอย่างที่ไหนให้ผู้ป่วยนอนเก้าอี้นอน ให้ข้านอน
“แต่ข้าทนไม่ได้ที่ข้าจะนอนเตียงแล้วให้คนที่ขาชอบนอนเก้าอี้นอนนี่”
เซี่ยอวิ๋นจิ่นบนเตียงจดจ้องลู่เจียวด้วยดวงตาดําวาวราวกับดวงดาว อย่างมากเจ้าก็นอนเดียง ไม่ก็นอนเตียงกัน
ทั้งสองคน
ลู่เจียวไม่อยากดึงดันกับเขาด้วยเรื่องเช่นนี้ พยักหน้าเห็นด้วยว่าจะนอนเตียงด้วยกันทั้งสองคน แต่ก่อนขึ้นเตียงก็
ไม่ลืมกล่าวเตือนเหี่ยอวิ่นจีนว่า “เราสองคนต่างคนต่างนอนคนละข้าง เจ้าห้ามนอนเลยมาทางข้า”
ความจริงนางเองอย่างไรก็รู้สึกตื่นเต้นอยู่ไม่น้อย ก่อนหน้านี้เพียงแค่บอกว่าจะให้โอกาสเขา ทําไมพัฒนาถึงขั้น
กลายเป็นสองคนนอนเตียงเดียวกันไปได้
แต่ก่อนหน้านี้ทนทรมานกันมาทั้งคืนกับอีกหนึ่งวัน นางเหนื่อยมากจริงๆ ไม่คิดจะทรมานตนเองอีก
นับประสาอันใดกับเหี่ยอวิ๋นจิ่นบาดเจ็บ แม้ทั้งสองคนนอนเตียง แต่เขาจะทําอะไรได้ และลู่เจียวก็เชื่อในคุณธรรม
เยอวินจิ่นรับรับปากอย่างว่าง่าย “วางใจ ข้านอนฝั่งข้า ไม่นอนไปทางฝั่งเจ้าอย่างเด็ดขาด”
เชี่ยอวินจิ่นกล่าวจบก็เขยิบตัวเข้าด้านในเองจนขยับชิดขอบเตียงด้านใน
ลู่เจียวเห็นเช่นนี้ก็ไม่พูดอะไรต่ออีก ขึ้นเตียงก็นอนทันที
เซียอวิ๋นจีนด้านในเตียงมีสีหน้าดีใจ มองมุ่งเหนือศีรษะ ดีใจอย่างบอกไม่ถูก
แม้ว่าเขาเงียบไป แต่ลู่เจียวที่หลับตาอยู่ก็รับรู้ได้ว่าเขายังไม่นอน และนางรู้ว่าเขาดีใจมาก ส่วนนางเพราะเขาดีใจ ก็เหมือนส่งผลถึงนางไปด้วย นางรู้ลึกผ่อนคลายลงมาก
“รีบนอนเถอะ”
เชียอวินจิ่นด้านในเตียงแอบหันไปมองลู่เจียว จากนั้นก็เขาก็ค่อยๆ ยื่นมือคืบคลานไปหามือของลู่เจียว ลู่เจียวก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะนางเหนื่อยมาก หลับตาลงก็ตั้งใจว่าจะนอนแล้ว ไม่คิดว่าคนข้างกายพลันยื่นมือมากุมมือนางไว้แน่น
ลู่เจียวคิดสะบัดออกด้วยสัญชาตญาณ แต่เดี๋ยวขึ้นจิ้นกุมไว้แน่น เขากุมมือลู่เจียวไว้พลางจงใจแสดงอาการ เหนื่อยล้า “เหนื่อยเหลือเกิน รีบนอนเถอะ”
ลู่เจียวถลึงตาใส่เขาอย่างไม่พอใจ แต่เขาหลับตาอยู่ สุดท้ายเห็นว่าเขาแค่กุมมือนางไว้ไม่ได้ทําอย่างอื่น นางก็
ปล่อยเขา ทั้งสองคนหลับตานอน
ตอนเที่ยงคืน เซี่ยอวิ๋นจีนมีไข้ ลู่เจียวรีบลุกขึ้นมาป้อนยาลดไข้ให้เขา และสั่งให้หลินดงไปยกน้ําร้อนมาให้นาง
เช็ดตัวให้เขาสักหน่อย
ชายหนุ่มสะลึมสะลือส่งเสียงพึมพําาเป็นบางครั้ง แม้ลู่เจียวฟังไม่ชัด แต่ยังคงได้ยินเสียงเขาเรียกนาง
“เจียวเจียว เจียวเจียว……..
เริ่มแรกลู่เจียวคิดว่ามีอะไรเรียกนาง ต่อมาจึงได้เข้าใจว่าเขาแค่เพ้อเรียกชื่อนาง
แม้ว่าเขาเป็นไข้ไม่ค่อยได้สติ แต่เจียวก็ยังรู้สึกได้ว่าเขาเรียกชื่อนี้ด้วยความดีใจอย่างมาก
ดังนั้นเขาคงชอบมากนางจริงๆ สินะ เจียวคิดถึงเรื่องนี้แล้วก็อดดีใจไม่ได้ แววตาอ่อนโยนส่องประกาย รอยยิ้ม
มุมปากค่อยๆ ปรากฏขึ้น
การเคลื่อนไหวของนางก็ยิ่งอ่อนโยนละมุนละไม